บทที่ 16 ลงมือป้อนยาเขาด้วยตัวเอง

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 16 ลงมือป้อนยาเขาด้วยตัวเอง

“ซื่อจื่อ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?” หยุนถิงร้องเสียงดัง รีบเข้าไปพยุงจวินหย่วนโยวไว้ และจับชีพจรให้เขาทันที

“จวินหย่วนโยว เขาไม่อาจใช้กำลังภายในได้” หลิงเฟิงที่อยู่นอกรถม้าพลันเปิดปาก เป็นกังวลอย่างมาก

หยุนถิงคิดถึงเมื่อกี้ที่จวินหย่วนโยวโจมตีม้าของโม่ฉือหาน สีหน้าพลันเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดพลางว่า “ซื่อจื่อ ข้าขอโทษ ข้าทำร้ายท่าน เมื่อครู่ท่านไม่ควรออกหน้าให้ข้าเลย”

“บัดนี้เจ้าเป็นคนของข้า ข้าไม่มีทางยอมให้เจ้าถูกผู้อื่นรังแกแน่” จวินหย่วนโยวพูดอย่างอ่อนแรง จากนั้นก็สลบไปเลย

หยุนถิงซาบซึ้งใจมาก จนสองตาแดงเรื่อ

เขารู้ทั้งรู้ว่าร่างกายอ่อนแอ จะใช้กำลังภายในไม่ได้ แต่พอเห็นโม่ฉือหานเหยียดหยามตน ก็ยังคงลงมือปกป้องตน จวินหย่วนโยวไม่สนใจชีวิตตัวเองแบบนี้ทำให้หยุนถิงประหลาดใจ ตกใจ ยิ่งไปกว่านั้นคือซาบซึ้ง

“คุณหนูหยุน ซื่อจื่อมีอันตรายหรือไม่?” หลิงเฟิงถามอย่างเป็นห่วง

“ซื่อจื่อของเจ้าแค่เลือดลมพลุ่งพล่าน ลมปราณไม่ปกติ สูญเสียกำลังภายในทำให้หมดสติ ไม่เป็นอะไรมาก โชคดีที่เมื่อวานข้าช่วยถอนพิษให้เขาไปสองส่วน ร่างกายเขาเลยไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น วางใจเถอะ มีข้าอยู่ไม่มีทางให้เขาเป็นอะไรแน่” หยุนถิงบอก และหยิบเข็มเงินที่ซ่อนไว้ในมวยผมลงมาช่วยจวินหย่วนโยวสกัดจุดชีพจรใหญ่ของเขาทั่วร่าง

เมื่อเช้าเธอหยิบเข็มเงินหลายแท่งซ่อนไว้ในมวยผม เผื่อไว้ป้องกันตนเอง ไม่คิดว่าจะได้มาใช้ตอนนี้

หลิงเฟิงแอบถอนหายใจโล่งอก ถึงจะรู้จักกับคุณหนูหยุนไม่นาน แต่ก็เชื่อมั่นว่านางมีความสามารถเช่นนี้อย่างน่าประหลาด

เพียงแต่คุณหนูหยุนผู้นี้เหตุใดจึงหยิบเข็มเงินออกมาจากในมวยผมเล่า หรือว่าคิดจะใช้เข็มเงินเป็นอาวุธลับ?

หลิงเฟิงคิดอย่างนี้ได้ เขาย่นคออย่างไม่รู้ตัว ต่อไปอย่าได้ทำให้คุณหนุหยุนผู้นี้ไม่พอใจเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะตายอย่างไรยังไม่รู้เลย

รถม้าแล่นตรงไปยังจวนซื่อจื่อ หลิงเฟิงกับหยุนถิงช่วยพยุงจวินหย่วนโยวกลับห้อง และปิดประตูห้อง จากนั้นไม่ได้ออกมาอีก

พ่อบ้านได้ยินว่าซื่อจื่อโดนพยุงเข้ามา ก็เป็นห่วงมาก รีบเข้ามาถาม หลิงเฟิงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างทางให้ฟัง

ทำเอาพ่อบ้านเดือดดาล “หลีอ๋องน่าตายนี่ช่างตายยากจริงๆ เขาต้องไม่พอใจเพราะซื่อจื่อจะตบแต่งคุณหนูหยุนแน่ถึงได้ทำเช่นนี้ พรุ่งนี้เป็นวันมงคล ตอนนี้ซื่อจื่อยังหมดสติอยู่ แล้วพิธีแต่งงานวันพรุ่งนี้จะทำอย่างไรดี?”

“พ่อบ้าน พิธีแต่งงานพรุ่งนี้จัดตามเดิม เจ้าส่งคนไปบอกพ่อข้าที่จวนเฉิงเซี่ยง พรุ่งนี้หาสาวใช้คนหนึ่งมาขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแทนข้าก็ได้แล้ว ยังไงก็มีผ้าปิดหน้า คนอื่นมองไม่เห็น รอจนถึงจวนซื่อจื่อก็หาเหตุให้ข้าออกมาก็ได้แล้ว ถ้าพรุ่งนี้ซื่อจื่อยังไม่ฟื้น งั้นก็ให้หลิงเฟิงเป็นตัวแทนซื่อจื่อกราบไหว้ฟ้าดิน เขาเป็นองครักษ์ใกล้ชิดซื่อจื่อ เป็นตัวแทนของซื่อจื่อก็ถือว่าสมเหตุสมผล” หยุนถิงตอบ

พ่อบ้านพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล “คุณหนูหยุน กรุณาอย่าหาว่าข้าน้อยพูดมากเลย เจ้าสาวสามารถแทนกันได้ แต่หากหลิงเฟิงกราบไหว้ฟ้าดินแทนซื่อจื่อ น่ากลัวคนนอกจะคิดว่าซื่อจื่อไม่ยินดีพบคุณหนู ขนาดแต่งงานยังไม่ยอมออกมากราบไหว้ฟ้าดินด้วยเลย”

“มิเป็นไร ยังไงชื่อเสียงข้าก็เสียหายหลายแสนแล้ว มิแยแสเรื่องนี้ดอก วันนี้ซื่อจื่อใช้กำลังภายในเพื่อปกป้องข้า ยังไงข้าก็ต้องช่วยเขาให้ฟื้น พิธีแต่งงานก็แค่พิธีการเท่านั้น ยังไงคนนอกก็รู้ว่าข้าหลับนอนกับซื่อจื่อแล้ว แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ” หยุนถิงเบ้ปากบอก

พ่อบ้านคิ้วกระตุก คุณหนูหยุนช่างพูดตรงจริง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าน้อยจะทำตามที่คุณหนูบอก”

“ดี งั้นพรุ่งนี้ก็ลำบากพ่อบ้านแล้วนะ รบกวนพ่อบ้านให้คนไปตุ๋นน้ำแกงบำรุงมาหน่อย น้ำแกงไก่ น้ำแกงปลา น้ำแกงตุ๋นโสมได้ทั้งนั้น ขอเพียงบำรุงก็พอแล้ว”

“ขอรับ ข้าน้อยจะไปจัดเตรียม” พ่อบ้านรีบไปทำ

ไม่นานพ่อบ้านก็ยกน้ำแกงตุ๋นเข้ามาด้วยตัวเอง พอหยุนถิงรับมาก็เทยาฉีดหลายขวดลงไปในน้ำแกง พ่อบ้านมองอย่างตกใจ เหล่มองหลิงเฟิง เห็นเขาพยักหน้าให้ตนน้อยๆ พ่อบ้านเลยไม่ได้ถามอะไรมาก

หยุนถิงทำเสร็จ ก็ยกเข้าไปป้อนให้จวินหย่วนโยว

เพียงแต่เขาสลบไม่ได้สติ ปากบางปิดแน่น หยุนถิงลองอยู่หลายครั้งก็ป้อนเข้าไปไม่ได้

“ซื่อจื่อดื่มลงไปไม่ได้แล้วจะทำอย่างไรดี?” พ่อบ้านกังวลใจมากนัก

หยุนถิงเหล่มองจวินหย่วนโยวจากนั้นอ้าปากอมยาคำหนึ่งอย่างไม่คิดเลย และป้อนเข้าปากจวินหย่วนโยวด้วยปากเธอ

พ่อบ้านกับหลิงเฟิงมองอย่างตกใจ ถึงจะดูกล้าไปหน่อย แต่พอเห็นซื่อจื่อดื่มยาลงไปแล้วจริงๆ ทั้งสองคนก็แอบถอนหายใจโล่งอก เลยรีบหันหน้าหนี ไม่กล้ามอง

ยาหนึ่งชาม หยุนถิงป้อนไปหมดแล้วถึงถอนหายใจโล่งอก

“พ่อบ้าน พวกเจ้าไปทำงานกันเถอะ ที่นี่มีข้าดูแลก็พอแล้ว” หยุนถิงบอก

“ขอรับ” พ่อบ้านรีบรับชามเปล่าไป หลิงเฟิงก็ตามออกไป เฝ้าอยู่หน้าประตู

หยุนถิงปิ้งไอเดีย พริบตาเดียวก็เข้าไปในห้องผ่าตัดของช่องว่าง

เธอหาขวดแก้วบนตู้ออกมาฝูงหนึ่งและเริ่มผสมยา ของพวกนั้นเมื่อก่อนล้วนช่วยบำรุง ถอนพิษหรือบำรุงร่างกาย ตอนนี้เธอย้อนเวลามายังต่างโลก สถานการณ์ของจวินหย่วนโยวค่อนข้างพิเศษ ดังนั้นเลยต้องผสมขึ้นมาใหม่

หยุนถิงยุ่งวุ่นวายอยู่นาน พอเห็นยาถอนพิษสีฟ้าขวดนั้น สำเร็จไปกว่าครึ่ง ถึงจะยังขาดตัวยาอีกหลายส่วน ไม่รีบ

พอคิดถึงใบหน้านี้ของตน หยุนถิงจับชีพจรตนเองทันที จากนั้นดวงตางามมีประกายมาดร้ายและคมปลาบวาบผ่าน

โดนพิษจริงด้วย คนวางยาพิษไม่ได้อยากได้ชีวิตเธอ แค่ทำลายรูปโฉมเท่านั้น ชั่วร้ายจริงๆ ต้องรู้นะว่าในยุคโบราณนี้ สำหรับผู้หญิงแล้ว ใบหน้าสำคัญยิ่งกว่าชีวิตเสียอีก

พิษนี้หยุนถิงเคยเจอมาในยุคปัจจุบันก่อนหน้านี้ เธอพุ่งตรงไปที่ชั้นสามของตู้ และหยิบมาส์กหน้าถอนพิษที่ทำเรียบร้อยแล้วลงมา จากนั้นก็ทาลงไปที่หน้าตนเองรอบหนึ่ง

พอทำเสร็จ หยุนถิงถึงออกไป

กลางดึกค่ำมืด ทั้งห้องเงียบสนิท จวินหย่วนโยวที่อยู่บนเตียงยังไม่ฟื้น หยุนถิงวุ่นอยู่ค่อนคืน เดินเข้าไปนอนลงข้างตัวจวินหย่วนโยว

จวินหย่วนโยวที่หลับสนิทใบหน้าทุ้มลึกดูดี คิ้วงามงอนดุจภาพวาด เทียนสีแดงที่ลุกโชนในห้อง ทำให้อบอุ่นและโรแมนติกมากขึ้น

หยุนถิงมองด้วยสีหน้าพอใจ ได้ซื่อจื่อที่หล่อขนาดนี้มาเป็นสามีก็ไม่เลว เธอยื่นมือออกไปกอดเขาพลางหลับตาลง

….

จวนหลีอ๋อง

พอโม่ฉือหานกลับไป ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ โกรธมาก เมื่อก่อนหญิงอัปลักษณ์หยุนถิงผู้นั้นเอาแต่วิ่งไล่ตามหลังเขา และยังใช้ชีวิตตนข่มขู่บอกจะแต่งงานกับตน บัดนี้นางกลับกล้าเหยียดหยามตนกลางตลาด

“น่าตายนัก!” โม่ฉือหานตะคอกด่า พลางยกกาเหล้าบนโต๊ะ เงยหน้ากรอกลงมา

กลิ่นเหล้าแรงเผ็ดแผดเผาลำคอเขา ทำให้เขายิ่งไม่สบอารมณ์

“ท่านอ๋อง ทำไมดื่มมากมายเพียงนี้เล่า ข้าน้อยตั้งใจตุ๋นน้ำแกงผ่อนคลายจิตใจมาให้ท่านเลยนะเจ้าคะ?” ที่หน้าประตูมีสตรีนางหนึ่งเดินเข้ามา ร่างงามอรชร คิ้วงามงอน ชุดกระโปรงสีชมพูยิ่งช่วยสะท้อนความงามของเรือนร่างอรชรของนาง คนที่มาคือนางงามลั่ว

ลั่วโรวเอ๋อร์เดินเข้ามาอย่างกังวล จะเข้าไปพยุงคนที่พื้น

เพียงแต่นางยังไม่ทันได้แตะต้องตัวโม่ฉือหาน ก็ถูกเขาออกแรงดึง ตัวลั่วโรวเอ๋อร์ทั้งตัวหล่นลงในอ้อมกอดโม่ฉือหาน เสื้อผ้าที่ไหล่พลันถูกแหวกออกตามแรงดึงเผยให้เห็นไหล่งาม

ลั่วโรวเอ๋อร์หน้าแดงฉับพลัน มองโม่ฉือหานด้วยสายตารักใคร่ “ท่านอ๋อง ท่านช่างร้ายนัก”