บทที่ 15 นางจุมพิตตน

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 15 นางจุมพิตตน

จวินหย่วนโยวไม่เลวเลยจริงๆ หน้าตาก็ดี ฐานะซื่อจื่อก็สูงส่ง แต่พิษร้ายในร่างเขา และพิษนั่นยังตามออกมาจากครรภ์มารดาอีก เห็นได้ชัดว่า คนที่วางพิษชั่วร้ายแค่ไหน ไม่แน่ตอนนี้ยังจับตาดูจวินหย่วนโยวอยู่เลย หยุนถิงไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย

เธอแสร้งทำท่าเพ้อบุรุษ ก็เพื่อฐานะอนุ แบบนี้จะสะดวกกับการที่เธอทำงานต่อไป ส่วนเรื่องอื่นหยุนถิงยังไม่เคยคิด

รถม้าแล่นผ่านมาสองถนน หลิงเฟิงเห็นรถม้าของหลีอ๋องเข้ามาจากฝั่งตรงข้ามแต่ไกล

หลิงเฟิงรีบบอก “ซื่อจื่อ ด้านหน้าเป็นรถม้าของหลีอ๋อง ผู้คนเดินพลุ่งพล่าน พวกเราจะถอยให้หรือไม่?”

ยังไม่รอจวินหย่วนโยวเอ่ยปาก หยุนถิงผุดลุกนั่งตัวตรงทันที “ทำไมต้องถอย พุ่งเข้าไปเลย ทางที่ดีชนเขาให้ตายเลย”

จวินหย่วนโยวเห็นท่าทางขึงโกรธของนาง เขาเองก็อยากรู้ว่าหยุนถิงจะหมดใจกับโม่ฉือหานจริงหรือไม่ จึงเอ่ยปากว่า “ทำตามที่คุณหนูหยุนบอก”

“ขอรับ” หลิงเฟิงรีบควบรถม้าเข้าไป

หยุนถิงแกล้งเลิกผ้าม่านรถม้าขึ้น พอเห็นจะสวนทางกับรถม้าของหลีอ๋อง เธอคว้าจับหน้าของจวินหย่วนโยวพลางว่า “ซื่อจื่อ ขออภัยด้วย”

พูดจบ หยุนถิงจุมพิตริมฝีปากเขาทันที

จวินหย่วนโยวอึ้งตะลึงตัวแข็งทันที เบิกดวงตากว้างอย่างตกตะลึงมองคนที่อยู่ใกล้แค่เพียงปลายเอื้อม

นาง จุมพิตตน

เขารับรู้ถึงความอ่อนนุ่มที่ริมฝีปาก จวินหย่วนโยวดวงตาหม่นหมอง มือที่อยู่ใต้ชายเสื้อกำแน่นอย่างไม่รู้ตัว

รถม้าสองคนสวนกันไป โม่ฉือหานเห็นภาพคนสองคนจุมพิตกันในรถม้าฝั่งตรงข้ามพอดี พลันเดือดดาลไฟทะลุ โกรธจนหน้าดำคร่ำเครียด

สตรีน่าตายนี่พึ่งหย่าร้างกับตน ก็ทำเช่นนี้กับบุรุษอื่นแล้ว นางจงใจยั่วโมโหตนงั้นรึ

“ท่ามกลางสายตาผู้คน ทำเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้ ไร้ยางอาย!”

เสียงไม่เบาเลย หยุนถิงที่อยู่ในรถม้าฝั่งตรงข้ามได้ยินเข้าพอดี เธอหันมามองอย่างไม่แยแสพลางว่า “ข้ากับซื่อจื่อได้หมั้นหมายและแลกสินสอดกันแล้ว จะโอบกอดจุมพิตก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลอยู่แล้ว เกี่ยวอันใดกับท่านด้วย อีกอย่าง หลีอ๋องท่านเองก็มีสัมพันธ์กับสตรีห้าคนพร้อมกัน รสนิยมแปลกกว่าพวกเรามากนัก ด้านนี้พวกข้ายังด้อยกว่าท่านนัก”

พอคำนี้ออกมา ผู้คนที่เดินไปมาด้านนอกรถม้าพร้อมกันตะลึง พากันหยุดฝีเท้าลงมาดูละคร

โม่ฉือหานสีหน้าดำมืด ดวงตาดำขลับพุ่งไอสังหารกระหายเลือด “หุบปาก หยุนถิงเจ้าหญิงอัปลักษณ์ไร้ยางอายจริง ต่อให้ได้เป็นพระชายาซื่อจื่อแล้วจะอย่างไรเล่า ในสายตาข้าเจ้ามิคู่ควรจะถือรองเท้าให้ข้าด้วยซ้ำ”

หยุนถิงไม่โกรธเลยสักนิด พูดเนิบช้าว่า “หลีอ๋องท่านพูดผิดแล้ว ข้าแต่งให้กับจวินซื่อจื่อ มิใช่เป็นพระชายาซื่อจื่อ แต่เป็นอนุ จะอย่างไรข้าก็เคยตบแต่งกับหลีอ๋องมาก่อน คนเคยเป็นพระชายาหลี จะคู่ควรเป็นพระชายาซื่อจื่อได้อย่างไร จวินซื่อจื่อเย็นชาหล่อเหลา ท่วงท่าองอาจ ฐานะสูงส่ง ข้ามิคู่ควรกับเขาดอก ซื่อจื่อมิรังเกียจข้า รับข้าเป็นอนุ ข้าก็พอใจแล้ว”

โม่ฉือหานโกรธจนกำสองหมัดแน่น เสียงดังกรอดกรอด ไอสังหารกระหายเลือดรอบตัวค่อยแผ่ซ่านออกมา

อันตราย ชั่วร้าย

นี่นางหมายความว่า หลีอ๋องอย่างเขายังสูงส่งไม่เท่าจวินหย่วนโยว สตรีที่เขาเคยตบแต่งด้วยคู่ควรเป็นแค่อนุของจวินหย่วนโยว น่าตายนัก นี่มันเท่ากับตบหน้าเขาชัดๆ

“หยุนถิง เจ้าสมควรตาย!” โม่ฉือหานตะคอกลั่นด้วยความเดือดดาล

“หลีอ๋องท่านช่างดุร้ายนัก ข้ากลัว ซื่อจื่ออ่อนโยน เขาไม่เคยเดือดดาลใส่ข้าเลย ซื่อจื่อกอดข้าที” หยุนถิงบอก และยังแกล้งเข้าหาอ้อมกอดจวินหย่วนโยว

จวินหย่วนโยวรับลูกอย่างดี ยื่นมือโอบไหล่นาง มองดูนางแสดงละครอย่างเงียบๆ

โม่ฉือหานที่เดือดดาลแทบบ้าเหล่มองจวินหย่วนโยว สีหน้าฉายแววหยามหยันพลางว่า “เขาจะดีแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ ก็แค่คนอายุสั้น อยู่ได้อีกแค่ไม่กี่ปี ต่อให้เจ้าแต่งกับเขา อีกไม่กี่ปีก็ต้องเป็นม่ายผัวตาย หยุนถิงเจ้ามันตัวซวย”

สีหน้าหล่อเหลาของจวินหย่วนโยวขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าเย็นชาดูน่าเกลียดขึ้นอีกหลายส่วน เขาจะอยู่ได้อีกไม่กี่ปีเป็นเรื่องที่ทั่วทั้งแคว้นต้าเยียนต่างรู้กันดี แต่เมื่อโดนหลีอ๋องพูดออกมาเพื่อเหยียดหยามหยุนถิง จวินหย่วนโยวไม่ยอมเด็ดขาด แต่ยังไม่รอเขาตอบโต้ หยุนถิงก็พูดขึ้น

“อายุสั้นแล้วอย่างไร ขอเพียงข้าชอบก็เพียงพอแล้ว เรื่องอีกหลายปีใครจะรู้กัน ถ้าเกิดถึงตอนนั้นซื่อจื่อหายดีแล้วล่ะ ความสุขนั้นสั้นนัก ขอเพียงตอนนี้ซื่อจื่อดีกับข้า ทำให้ข้าพอใจยามอยู่บนเตียงก็เพียงพอแล้ว ไม่เหมือนท่านหลีอ๋อง น่ากลัวจะมีสัมพันธ์กับสตรีรุนแรงมากเกินไป นกเขาไม่ขันแล้วกระมัง” หยุนถิงเลิกคิ้วถาม

“หุบปากนังหญิงอัปลักษณ์ หาเรื่องตาย!” โม่ฉือหานซัดฝ่ามือลมเข้ามาทันที

ในฐานะบุรุษกลัวใครจะดูถูกตนที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาคือหลีอ๋อง พอคิดถึงความไร้เรี่ยวแรงยามอยู่กับชายารองเมื่อคืน โม่ฉือหานยิ่งเดือดดาล

หยุนถิงตะลึง รู้สึกถึงลมปราณรุนแรงกลางอากาศ คิดจะแอบโดยไม่รู้ตัว

มือที่โอบเธออยู่ของจวินหย่วนโยวยิ่งแน่นขึ้น อีกมือสะบัดเบาๆ สลายฝ่ามือนั้นของโม่ฉือหานไป

“หลีอ๋องลงมือกับสตรีของข้า คือว่าข้าตายแล้วรึ” จวินหย่วนโยวแค่นเสียงเดือดดาล ซัดฝ่ามือกลับใส่

ฝ่ามือนั้นไม่ได้โจมตีหลีอ๋อง แต่โจมตีม้าของเขา

ม้าตกใจ กรีดร้องออกมา พุ่งวิ่งไปข้างหน้าทันที

“หลีกไป รีบหลีกไป!” คนขับรถม้าตกใจ รีบเข้ามาห้ามปราม

ชาวบ้านที่เดินไปมาตกใจกันหมด หลบหลีกไม่ทัน โดนม้าชนกระเด็น แผงลอยที่วางอยู่เละเทะระเนระนาด ทั่วทั้งถนนเละเทะไปหมด

โม่ฉือหานเดือดดาลจัด ดวงตาดำขลับกระหายเลือดเหล่มองจวินหย่วนโยว มองดูม้าที่ตกใจเตลิดวิ่งพล่าน ซัดฝ่ามือใส่ม้าตัวนั้นทันที ม้ามีหรือจะรับฝ่ามือเขาไหว ล้มลงตายคาที่ ทำเอารถม้าเอียงไปด้วย ท่อนไม้ด้านหน้ารถม้าหักออกเป็นสองท่อนทันที

ฉากนี้แค่พริบตาเดียว โม่ฉือหานโดนรถม้าชนเข้าหัวอย่างจัง เจ็บแทบตาย ในใจยิ่งขุ่นเคือง

“ไอ้โหย หลีอ๋องความแข็งแรงของรถม้าท่านช่างด้อยไปหน่อยกระมัง ม้าพุ่งทะยานเกือบชนผู้คน รถม้าก็เสียตามด้วย เห็นได้ชัดว่า คนนิสัยไม่ดี รถม้าก็โชคร้ายตามไปด้วย” ที่ห่างไปไม่ไกล เสียงสาแก่ใจของหยุนถิงลอยมา

โม่ฉือหานเดือดดาลทะลุฟ้า “น่าตายนัก เจ้ากล้าสงสัยนิสัยข้า?”

“หลีอ๋องวันนี้ควบม้าพุ่งชนชาวบ้าน ข้าเตือนท่านให้คิดหาทางบอกฝ่าบาทและชาวบ้านอย่างไรจะดีกว่า” เสียงเย็นชาของจวินหย่วนโยวลอยมา

โม่ฉือหานเหล่มองชาวบ้านที่มีสีหน้าเดือดดาล ยังมีแผงลอยนับไม่ถ้วนที่โดนชนกระเด็น อดทนความคิดที่จะสั่งสอนหยุนถิง “ข้าจะจัดการเอง ไม่ต้องให้เจ้ามาสนใจดอก”

“พรุ่งนี้เป็นวันมงคงของข้ากับซื่อจื่อ หากหลีอ๋องมีเวลาว่าง แวะมาดื่มเหล้ามงคลด้วยนะ” หยุนถิงแกล้งแหกปากบอกเสียงดัง

“ข้าไม่สนใจ” โม่ฉือหานพูดอย่างโกรธขึ้ง มองรถม้าที่แล่นไปไกล เขายิ่งเดือดทะลุฟ้าหนักกว่าเดิม

หญิงอัปลักษณ์น่าตาย เจอนางเมื่อไหร่ไม่มีเรื่องดีเลย เขาต้องดวงชงกับนางแน่

หญิงอัปลักษณ์อย่างหยุนถิงมิได้รักใคร่ตนแต่เด็กรึ พริบตาเดียวก็หันไปยั่วยวนจวินหย่วนโยวแล้ว วันนี้ทำเช่นนี้น่ากลัวเพื่อจะดึงดูดความสนใจของตนกระมัง

เหอะ หญิงอัปลักษณ์ ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไร ข้าไม่มีทางชายตาแลเจ้าแม้เพียงแวบเดียว โม่ฉือหานพูดอย่างเดือดดาล

ในรถม้า หยุนถิงหัวเราะฮ่าๆ “วันนี้ช่างสะใจนัก สามารถเห็นหลีอ๋องโดนบังคับ ช่างสะใจยิ่งนัก ซื่อจื่อท่านช่างเก่งกาจนัก เก่งมาก”

“พรืด!” จวินหย่วนโยวกระอักเลือดคำโตออกมา สีหน้าซีดเผือด