บทที่ 209 น้ำปรโลก คือยาถอนพิษงั้นรึ

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 209 น้ำปรโลก คือยาถอนพิษงั้นรึ

“และแน่นอนว่า มีคนที่ตั้งใจใช้วิชาการควบคุมพิษกู่เพื่อครอบงำคนโดนมนต์ดำเหล่านี้ เช่นนั้นก็สามารถที่จะสร้างกองทัพซอมบี้ได้อย่างสมบูรณ์

ไม่สิ เจ้าคงจะไม่เข้าใจว่ากองทัพซอมบี้นั้นหมายถึงสิ่งใด มันก็ประมาณว่าสร้างกองกำลังทหารที่ไม่กลัวตาย แล้วการครองโลกนั้นก็จะไม่ใช่เพียงแค่ความฝันอีกต่อไป

แต่เงื่อนไขก็คือ หนอนพิษกู่จิ้นจักต้องเข้าไปในร่างกายของมนุษย์เสียก่อน ถึงจะใช้หนอนพิษกู่จิ้นครอบงำผู้คนได้ โดยที่ผู้ติดเชื้อนั้นจะไม่สามารถควบคุมตนเองได้เลย

เช่นนั้นหากมีผู้ใดต้องการที่จะสร้างกองทัพเช่นนี้ละก็ เขาก็ต้องใช้มากมายนับพันนับหมื่นหยด ซึ่งก็ต้องมีหนอนพิษกู่จิ้นไว้ในครอบครองเป็นล้านตัวถึงจะทำได้

อย่างนั้นก็ดูเหมือนว่า การสร้างกองกำลังทหารยังไม่สัมฤทธิ์ผล

สิ่งใดที่ข้าไม่รู้ก็ลำบากเจ้าช่วยบอกข้าแล้วล่ะ โอเคไหม?”

มันก็เหมือนกับผีดิบ นางเข้าใจมากขึ้นแล้ว

ด้วยการไตร่ตรองของนาง หานแสที่รู้สึกเหลือเชื่อ เขาจึงมองนางอย่างใจจดจ่ออีกครั้ง

เรื่องที่ทำให้เสียวสันหลังวาบเช่นนี้ ก็บอกนางมาอย่างง่ายดาย และเป็นการพูดที่ดูเหมือนกับว่าคนผู้นั้นคิดเรื่องการเพาะเลี้ยงหนอนพิษกู่จิ้นนั่นขึ้นมาได้จริงๆ

เขาไตร่ตรองเป็นเวลาหลายปีกว่าจะได้ข้อสรุป ซึ่งเผยให้นางได้รู้อย่างหมดเปลือกในคราเดียว

ด้วยความที่สัมผัสได้ว่าหลานเยาเยานั้นไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไป อีกทั้ง สิ่งที่นางรู้อยู่ในใจนั้นก็ไกลเกินกว่าที่คนทั้งแผ่นดินนี้จะจินตนาการได้

ทว่า……

ก็เห็นแจ้งได้ว่านางนั้นมาจากวังหลวง เป็นลูกสาวของหลานเฉินมู๋

จะไปรู้สิ่งที่พวกเขาไม่รู้มากมายปานนั้นได้อย่างไรกัน?

หึหึ นางนี่ช่างน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆแล้วสิ ทั้งยังน่าหลงใหลมากขึ้นอีกด้วย ไม่สงสัยเลยว่าเหตุใดจึงมีอำนาจอันทรงพลังที่มากกว่าอ๋องเย่เสียอีก ในเพลานี้เขาจะจับนางไว้ในกำมือให้อยู่หมัด

ในเมื่อเขาได้โยนหมากอันล้ำค่าตัวนี้ทิ้งไปแล้ว อย่างงั้น เขาก็จะใช้ประโยชน์จากหมากตัวนี้ให้เป็นอย่างดี ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายแต่อย่างใด

เช่นนั้น!

เขาก็หัวเราะเบาๆ และค่อยๆเอ่ยว่า

“เจ้าอยากรู้สิ่งใด?”

“หนอนพิษกู่จิ้นไม่ใช่สิ่ง*ยิงจวนผู้ครองนรกยมราชยิงจวนเพาะเลี้ยงไว้หรอกรึ? เหตุใดจึงมาโผล่อยู่ที่นี่ได้?” หลานเยาเยาไม่รู้เลยว่าในใจของหานแสนั้นคิดสิ่งใดอยู่

รู้เพียงแต่ว่า เขาสามารถอธิบายในสิ่งที่นางอยากรู้ได้ก็เป็นพอ

“*อ๋องยิงจวนผู้ครองนรกน่ะยมราชยิงจวนน่ะรึ! เขาแค่เคยเลี้ยงหนอนพิษกู่จิ้น แต่ก็เลี้ยงไว้เพียงแค่ตัวเดียว ยังไงเสีย ณ ตอนนี้ก็ไม่ได้เลี้ยงไว้แล้ว”

ตัวเดียว?

จะเป็นไปได้อย่างไรกันที่มันจะมีแค่ตัวเดียว?

อีกทั้งในเพลานี้ก็ไม่ได้เลี้ยงไว้แล้วด้วย จะไม่เลี้ยงแล้วได้อย่างไรกัน? หรือว่ายมราชยิงจวนที่เพาะเลี้ยงมันขึ้นมาจะเอาไปใช้กับร่างของคนอื่นแล้ว?

จู่ๆก็นึกบางอย่างขึ้นได้ หลานเยาเยาเงยหน้ามองไปทางเขา ด้วยแววตาอาฆาตพยาบาท

“หนอนพิษกู่จิ้นของยมราชยิงจวนมาอยู่ในร่างของเย่แจ๋หยิ่ง เจ้ารู้ว่าเย่แจ๋หยิ่งโดนหนอนพิษกู่จิ้นตั้งนานแล้วอย่างนั้นรึ?”

“ใช่ รู้ตั้งนานแล้ว อันที่จริงยมราชต้องการที่จะให้มันอยู่ในตัวเจ้า แต่ดันมีเจ้าชายขี่ม้าขาวมารับแทนเจ้า”

คนที่ถามกัดฟันแน่น แต่คนที่ตอบนั้นพูดอย่างเรียบเฉย

“ปัง……”

หลานเยาเยาทุบกำปั้นลงบนโต๊ะ พลางจ้องไปที่หานแสด้วยความเกลียดชัง

“แท้จริงแล้วเจ้าเป็นท่านชายของเรือแห่งความสิ้นหวัง หรือเป็นคนของยมราชยิงจวนกันแน่?” นี่เป็นสิ่งที่ทำให้นางสับสน

“จะเป็นคนของทั้งสองฝ่ายมิได้รึ?”

นกสองหัวอย่างนั้นรึ?

ร้ายกาจเสียจริง!

“เช่นนั้นเจ้าก็รู้ว่า เขาไปเก็บหนอนพิษกู่จิ้นจากที่ใดมาเลี้ยงใช่หรือไม่?”

“มันก็ออกมาจากตัวเขานั่นแหล่ะ” หานแสหัวเราะออกมา จากนั้นก็มองมาทางหลานเยาเยา เพราะอยากรู้ว่านางจะมีปฏิกิริยาอย่างไร

เขาคิดว่านางจักต้องตกใจเป็นแน่ แม้จะเป็นการทำให้โมโหมากกว่าเดิม

แต่เขาก็ไม่คิดว่า ปฏิกิริยาของนางกลับเป็นสิ่งที่ไกลเกินความคาดหมายของเขา

หลานเยาเยาที่โกรธเคืองก็ได้สงบลง สายตาจับจ้องมาที่เขา แต่ก็ไม่ได้จ้องมองเขาอยู่จริงๆ นางน่าจะกำลังไตร่ตรองบางสิ่งอยู่ เพียงแต่ไม่รู้ว่ากำลังคิดถึงสิ่งใด

ผ่านไปพักใหญ่ เสียงของนางก็ดังขึ้นด้วยริมฝีปากสีแดงระเรื่อนั่น

“เช่นนั้นยมราชยิงจวนก็เป็นเพียงแหล่งหล่อเลี้ยงหนอนพิษกู่จิ้น มันไม่ใช่ของของเขา อีกทั้งในเพลานี้หนอนพิษกู่จิ้นก็ได้มาอยู่ที่ชาวเผ่าหยินไห่แล้ว

จากที่เคยได้ยินผู้อาวุโสใหญ่พูดก่อนหน้านี้ มันไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้งที่มีคนในชนเผ่าโดนมนต์ดำ อย่างงั้นก็ สถานที่ที่เพาะเลี้ยงหนอนพิษกู่ที่แท้จริงก็น่าจะเป็นที่แห่งนี้”

พูดจบ หลานเยาเยาก็ได้เห็นหานแสที่จ้องมองอยู่เงียบๆ เป็นการจับจ้องที่แปลกประหลาด

“ทำไม การวิเคราะห์ของข้าผิดพลาดงั้นรึ?”

หานแสส่ายหน้า พลางถอนหายใจออกมาเบาๆ จากนั้นก็พูดเรียบๆว่า: “มันถูกต้องสุดๆเลยล่ะ เจ้านี่ฉลาดกว่าที่ข้าคิดไว้”

หากเขาได้เจอหลานเยาเยาเร็วกว่านี้ ชีวิตของเขาจะเปลี่ยนไปไหมนะ? เขาคงไม่ต้องประสบพบเจอกับความเลวร้ายมามากขนาดนี้ใช่ไหม?

“ฉลาดรึ? ข้าหาได้เฉลียวฉลาดอันใดไม่ เจ้าทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาที่นี่กับพวกข้า และเมื่อเห็นว่าเลือดของข้ามีปฏิกิริยากับเลือดที่โดนพิษกู่จิ้น เจ้าก็ดูกระตือรือร้นถึงปานนั้น ส่วนเย่แจ๋หยิ่ง……”

เมื่อนึกถึงเย่แจ๋หยิ่ง ใจของนางก็ไม่สามารถทำสิ่งใดต่อไปได้ นางจึงพูดว่า:

“หากข้ายังดูเรื่องพวกนี้ไม่ออกอีก ก็คงจะสมองทึบจริงๆ”

“แต่เลือดมันก็แค่ทำให้เกิดปฏิกิริยานี่ หาใช่ยาถอนพิษไม่”

ตั้งแต่ต้นจนจบหานแสก็ใส่ใจแต่เรื่องที่เขาสนใจมาตลอด ส่วนเรื่องอื่นๆนั้นเขาเองก็ไม่เคยได้ใส่ใจมาก่อน

“เจ้าคิดว่าไงล่ะ? พูดกันตามตรง ต่อให้มีข้าสักสิบคน แล้วสูบเอาเลือดข้าออกไปจนหมด ก็หาช่วยคนที่โดนพิษกู่จิ้นไว้ได้ไม่

เลือดของข้าสามารถชำระล้างเลือดของคนโดนมนต์ดำได้ก็จริง แต่มันก็มีผลเพียงน้อยนิด ทั้งนี้ทั้งนั้น เลือดนี้ก็จะเป็นส่วนประสมนำร่องที่จำเป็นสำหรับยาถอนพิษ

เจ้ายังต้องบอกสิ่งที่เจ้ารู้เกี่ยวกับหนอนพิษกู่จิ้นให้แก่ข้า เช่นนี้ข้าก็จะสามารถปรุงยาถอนผิดที่แท้จริงขึ้นมาได้ ก่อนหน้านี้เจ้าพูดว่า บนโลกนี้ไม่มียาถอนพิษอีกแล้ว ยาถอนพิษที่ว่านั่นมันเป็นเช่นไรกัน?”

เมื่อรู้ว่าเลือดของหลานเยาเยาไม่สามารถถอนพิษได้อย่างสมบูรณ์ แววตาของหานแสก็ฉายแววสิ้นหวัง

“ยาถอนพิษไม่มีแล้วก็คือไม่มีอยู่อีกแล้ว”

น้ำเสียงของเขาฟังดูไม่ค่อยสู้ดี แต่เมื่อได้มองดูใบหน้าที่สงบนิ่งของหลานเยาเยา เขาก็รีบสงบสติอารมณ์ จากนั้นก็ค่อยๆพูดว่า

“ยาถอนพิษของหนอนพิษกู่จิ้นคือน้ำปรโลก ซึ่งในเพลานี้ไม่มีใครรู้เรื่องสูตรของน้ำปรโลกนั่นอีกแล้ว ครั้งหนึ่งมันเคยตกอยู่ในเงื้อมมือของราชครูในราชวงศ์เก่าแห่งประเทศก่วงส้า

หลังจากการล่มสลายของราชวงศ์เก่าแห่งประเทศก่วงส้า ราชครูก็หายตัวไป สูตรจึงได้หายสาบสูญไปด้วย เช่นนั้นน้ำปรโลกก็ได้หายไปพร้อมกับการล่มสลายของราชวงศ์เก่าแห่งประเทศก่วงส้า”

น้ำปรโลกเป็นยาถอนพิษจริงๆรึ?

หลานเยาเยาลองเอากลับมาคิดๆดู แววตาก็เป็นประกาย: “แต่น้ำปรโลกมันก็ไม่ได้สาบสูญไปใช่หรือไม่? แล้วเจ้าเองก็เคยดื่มน้ำปรโลกใช่ไหม?”

นางเคยตรวจร่างกายของหานแสมามากกว่าหนึ่งครั้ง ซึ่งไม่เคยจะพบสาเหตุเลย แต่เมื่อใดก็ตามที่เขาป่วย ก็จะเจ็บปวดทรมานอย่างมากจนร่างกายนั้นโชกไปด้วยเลือด

ถึงแม้ว่าอาการดังกล่าว จะไม่สามารถทำให้นางเชื่อมโยงกับอาการของ*ฤทธิ์หนอนพิษกู่จิ้นได้

แต่เพลานี้นางก็มุ่งมั่นในเรื่องยาถอนพิษของหนอนพิษกู่จิ้นเป็นอย่างมาก นี่แค่ทำให้รู้ว่าเขาเคยโดนหนอนพิษกู่จิ้นมาก่อนเป็นแน่ อีกทั้งยังเคยดื่มน้ำปรโลกที่ว่ากันว่าเป็นยาถอนพิษอีกด้วย

เช่นนั้นเขาจึงไม่ได้กลายเป็นคนโดนมนต์ดำ แต่ก็ไม่ได้กลายเป็นคนธรรมดาด้วยเช่นกัน

“ใช่ น้ำปรโลกไม่ได้หายไปจริงๆ มีอยู่ช่วงนึง ตอนที่จับพลัดจับผลูไปโดนหนอนพิษกู่จิ้นเข้า ก็ได้จับพลัดจับผลูไปดื่มน้ำปรโลกดัวยเหมือนกัน

แม้ว่าข้าจะไม่ตาย แต่ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับคนที่ตายไปแล้ว ไปหาหมอมาทุกหนทุกแห่งบนโลก หาได้มีผู้ใดสามารถค้นคว้ารักษาได้ไม่ ก็มีเพียงแต่เจ้าเท่านั้นที่สามารถมองเห็นเบาะแส

หานแสด่ำดิ่งอยู่กับความหลังในวัยเยาว์ หลานเยาเยาที่ได้เห็นความหวัง

ก็บอกข้อสรุปของตนออกมาทันใด

“ถึงแม้ว่าน้ำปรโลกจะไม่สามารถถอนพิษของหนอนพิษกู่จิ้นในร่างกายเจ้าได้ แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยชีวิตเจ้าไว้ นี่มันก็เพียงพอที่ทำให้รู้ว่า มันเป็นส่วนประสมในยาถอนพิษหนอนพิษกู่จิ้นที่แท้จริงได้

บอกข้ามาสิ ว่าเจ้าไปเจอสถานที่ของน้ำปรโลก ณ ที่แห่งใด? ความหวังอยู่เพียงเอื้อม ยิ่งเจอส่วนประสมสำหรับปรุงยามากเท่าไหร่ ก็จะใกล้กับยาถอนพิษมากขึ้นเท่านั้น”

หลานเยาเยารู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา จนนางแทบจะรอการตอบของหานแสไม่ไหว

แบบนั้น……เย่แจ๋หยิ่งก็จะได้รับการรักษา

แต่ใครจะรู้ว่า…