บทที่ 304 โม่เจียวมาแล้ว

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 304 : โม่เจียวมาแล้ว

บทที่ 304 : โม่เจียวมาแล้ว

แสงสว่างสีทองปกคลุมรอบตัวของฉู่เหินและทุกคนเอาไว้ รวมทั้งนกคีรีบูนและนกกระเรียนอวกาศ!

ที่ทุกคนไม่ทันสังเกตก็คือ ท่ามกลางแสงสว่างนั้นมีงูตัวเล็กถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทองทั้งตัว! เจ้างูสีทองตัวเล็กดูภายนอกแล้วดูน่ารักน่าชังมากที่สำคัญมันไม่ดุร้าย อีกทั้งยังใจดีมาก บนหัวของงูตัวเล็กนี้ยังมีวงแหวนเล็ก ๆ อยู่ด้านบนอีกด้วย

แสงสว่างค่อย ๆ อบอุ่นเรื่อย ๆ เมื่อหลับตาลงก็จะเหมือนนอนอยู่ในอ้อมแขนของแม่ยังไงอย่างงั้น ตอนที่ถูกแสงสว่างโอบอุ้มพวกเขาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นสายหนึ่ง ไม่มีความรู้สึกอื่นใดนอกเหนือจากนี้! ทำให้ทุกคนตกอยู่ในอาการเคลิ้ม ทันทีที่แสงสว่างสลายไป

พวกเขาก็ดวงตาเบิกกว้าง พวกเขามองไปรอบ ๆ ราวกับว่าทุกสิ่งรอบตัวเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน! พวกเขาจำได้ว่าตัวเองยืนอยู่บนหน้าผา แล้วเหตุใดตอนนี้ข้างหน้าของพวกเขาถึงกลายเป็นป่าทึบพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลแบบนี้

มองไปรอบ ๆ มีดอกไม้และต้นไม้พันธุ์แปลก ๆ มากมาย เหล่าต้นไม้ดูแล้วมีอายุนับพันปี บางครั้งพวกเขาก็ได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ร้ายจากไกล ๆ เสียงคำรามของสัตว์ร้ายฟังดูแล้วคล้ายกับเสียงโหยหวนของเหล่าภูตผี เมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองเหนือยอดไม้จะเห็นงูเลื่อยผ่านไปตัวแล้วตัวเหล่า

“ทุกคนระวัง ที่แห่งนี้มีอันตรายรอบด้าน!” ปาเค่อตะโกนเตือนทุกคนแล้วเขาก็คอยระวังหลังให้กับทุกคนทันที ทุกคนที่เพิ่งจะรู้สึกตัวไม่นานก็ห้อมล้อมไปด้วยงูพิษนับพันตัว

งูมีพิษเหล่านี้ตัวเล็กสุดยังยาวกว่า 1 เมตรและตัวที่ใหญ่ที่สุดก็มีความยาวมากกว่า 10 เมตร อีกทั้งยังมีลำตัวที่หนายิ่งกว่าปากโอ่งเก็บน้ำ แต่ละตัวจ้องมองพวกเขาด้วยดวงตาแดงก่ำมีแค่ฉู่เหินคนเดียวที่ไม่โดนจ้องแบบนั้น พวกมันต้องมองพวกเขาราวกับจะเขมือบพวกเขาในคำเดียวยังไงอย่างงั้น

ในตอนนี้เองฉู่เหินค่อย ๆ ลืมตาอย่างช้า ๆ แล้วจ้องมองงูพิษนับไม่ถ้วนรอบตัวจนเขารู้สึกขนลุก ไม่ใช่ว่าฉู่เหินสู้ไม่ไหว แต่พองูหลาย ๆ ตัวมาอยู่รวมกันแล้ว มันน่าขนลุกขนพอง

“ไม่คิดว่าป่าแห่งนี้จะมีงูเยอะขนาดนี้ ถ้าโม่เจียวอยู่ก็คงจะดีน่ะสิ” หลังจากลืมตาแล้วมองรอบ ๆ ฉู่เหินก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา สิ้นเสียงลงไม่ทันไรฉู่เหินก็ได้ยินเสียง ๆ ดังขึ้น

“พี่ฉู่ ฉันบอกแล้วไงว่าให้ฉันร่วมเดินทางไปด้วยแต่สุดท้ายพี่ก็วิ่งหนีซะงั้น ตอนนี้พอเห็นงูรอบ ๆ คิดถึงฉันขึ้นมาละสิ ถ้าตอนนี้พี่เรียกชื่อฉันดัง ๆ พร้อมกับขอโทษแล้วบอกว่าต่อไปผมจะไม่ทำอีกแล้วครับ ดัง ๆ 3 ครั้ง ฉันจะปรากฏตัวออกไป โอเคไหม?”

เมื่อฉู่เหินได้ยินแบบนี้มุมปากก็กระตุกไม่หยุด ไม่คิดว่าโม่เจียวจะล้อเขาเล่นแบบนี้ แต่เขารู้ดีว่าเข้าเมืองตาลิ่วต้องลิ่วตาตาม เมื่อเจอเพื่อนสนิทในที่แบบนี้ฉู่เหินก็ดีใจมาก เพียงแต่ว่าที่หญิงสาวพูดเมื่อกี้มันกวนมากจนฉู่เหินพูดไม่ออก

ฉู่เหินมองไปรอบ ๆ และเขาเห็นงูสีทองตัวเล็ก ๆ ซ่อนตัวอยู่หลังหิน งูสีทองตัวเล็กนี้แตกต่างจากงูตัวอื่น ๆ มาก ไม่ต้องพูดถึงบรรยายกาศที่ไม่เข้ากับตัวอื่นเลย แค่มองงูเล็กก็รู้สึกสบายใจและเป็นมิตรแล้วไม่มีความเป็นปรปักษ์เลยแม้แต่น้อย

ที่สำคัญคือร่างของงูตัวน้อยนี้มีวงแหวนขนาดเล็กบนหัวคล้ายจะบอกว่าที่ตรงนี้มีเงินสามร้อยตำลึง* หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ฉู่เหินก็อดยิ้มไม่ได้

(*สุภาษิตจีน เป็นคำเปรียบเปรยหมายถึง อยากปกปิดซ่อนเร้น กลับกลายเป็นเปิดเผยให้โลกรู้)

“เล่นเกมกับเธอน่ะก็น่าสนุกดีนะ แต่เอาวงแหวนของไว้บนหัวแบบนั้น ใครก็ดูออก ออกมาเถอะถ้าเธอยังไม่ออกมาฉันจะขังเธอไว้ในค่ายกลถึงตอนนั้นเธอก็อย่าถือสาฉันละ” ฉู่เหินยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมถูมือของเขา เอื่อมมือไปจับงูสีทองตัวเล็ก ๆ

ทว่าทันใดนั้น ก็มีแสงสว่างปรากฏจากวงแหวนก่อนที่ร่างของโม่เจียวจะปรากฏตรงหน้าของทุกคน หญิงสาวที่เพิ่งปรากฏกายขมวดคิ้ว หน้ามุยคล้ายกับเด็กน้อยที่กำลังโกรธ

“พี่ฉู่ใจร้ายที่สุด กล้าแกล้งฉันรู้ใช่ไหมว่าจะต้องชดใชยังไง! ฮึ ต่อไปฉันจะไม่ทำดีกับพี่แล้ว!” โม่เจียวโกรธงุ้งงิ้งเหมือนกับเด็กน้อย ตอนที่พูดยังกอดอกอย่างน่ารักน่าชังอีกด้วย

“สาวน้อย ฉันไม่พูดไม่จบเธอก็ออกมาแล้ว ไม่เล่นด้วยกันต่อเหรอ” ดูเหมือนฉู่เหินไม่หลงกลท่าทางน่าสงสารของเธอเลยแม้แต่น้อย เขารู้ว่าเด็กหญิงคนนี้ชื่นชอบการหยอกเล่นเป็นที่สุด

โม่เจียวยืนขึ้นจ้องฉู่เหินอย่างเคือง ๆ จากนั้นก็วิ่งไปหาเสี่ยวชิง แขนทั้งสองข้างกอดแขนของเสี่ยวชิงแล้วขย้ำไปมา อย่างกับเด็กน้อย

“พี่สะใภ้ฉู่ พี่ต้องให้ความเป็นกับฉันนะ พี่ฉู่รังแกฉัน!”

เดิมทีเสี่ยวชิงเห็นเด็กผู้หญิงคนนี้งดงามมาก ในใจก็แอบระแวงแต่คิดไม่ถึงว่าทันใดนั้นเด็กสาวจะมาอ้อนตัวเองแบบนี้ ทำให้ความรู้สึกระแวงเมื่อครู่หายไปในกลีบเมฆ! จากนั้นเธอก็ลูบหัวอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู แม้จะไม่พูด แต่ฉู่เหินก็รู้ว่าถูกเด็กบ้านี้แกล้งซะแล้ว

“เสี่ยวชิง สาวน้อยคนนี้เจ้าเล่ห์กว่าที่คิด อย่าถูกรูปลักษณ์ของเธอหลอกสิ ถ้าไปยุ่งกับเด็กนี้เธอจะปวดหัวได้นะ” ฉู่เหินเตือนประโยคหนึ่ง เขาได้แต่มองเสี่ยวชิงกับสาวน้อยน่ารักที่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

“พี่ฉู่ ทำไมพี่ถึงรังแกสาวน้อยน่ารักแบบนี้ได้ ครั้งนี้ฉันไม่เข้าข้างพี่แน่ ๆ ดูสาวน้อยคนนี้สิน่ารักขนาดไหน!” เมื่อได้ยินที่เสี่ยวชิงพูด ฉู่เหินก็ได้แต่ถอนหายใจ ในใจคิดว่าจะทำยังไงให้เสี่ยวชิงเชื่อเขาดี

“อืม ๆ ๆ พี่สะใภ้ร้ายกาจมาก ต่อไปฉันจะเรียกพี่ว่าซ้อใหญ่ พี่จะเป็นซ้อใหญ่ที่รับหน้าที่ดูแลฉัน พี่ฉู่เขาจะขังฉันไว้ ในค่ายกล กล้าทำกับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างฉันได้ยังไงกัน” โม่เจียวพูดด้วยท่าทางน่าสงสาร

“ไม่ต้องห่วงนะว่าพี่ฉู่ไม่ทำแบบนั้นหรอก มีฉันอยู่ใครจะกล้าแกล้งเธออีก!” เมื่อพูดจบดวงตาของเสี่ยวชิงก็จ้องมองฉู่เหิน ดวงตาทั้งหมดเต็มไปด้วยความจริงจัง

ฉู่เหินเงยหน้าถามท้องฟ้าอย่างเงียบ ๆ ราชินีงูผู้ยิ่งใหญ่หรือจะเป็นเด็กผู้หญิงแสนอ่อนแอ? เจ้าเด็กนี้พูดจาเพ้อเจ้อ แต่เห็นคำพูดของโม่เจียวไม่ใช่แค่เสี่ยวชิงที่เชื่อ แม้แต่ปาเค่อและฉู่เฟิงก็พยักหน้า เห็นได้ชัดว่าทุกคนเชื่อเด็กสาวคนนี้ไปแล้ว

“พี่ใหญ่ให้เธอตามไปด้วยเถอะ ดูเธอสิน่ารักขนาดนี้ ถ้าไปคนเดียวต้องไม่ปลอดภัยแน่ ๆ ให้เธอมากับเราดีกว่า!” คนที่เอาแต่กินไม่ทำงานอย่างฉู่เฟิงยังออกปากแสดงความรู้สึกออกมา

“ท่านฉู่ ฉันคิดว่าท่านฉู่เฟิงมีเหตุผลให้ผู้หญิงคนนี้ติดตามเรามาเถอะ เด็กน่ารักขนาดนี้ ดูยังไงก็น่าจะมีปัญหาอะไร!” ฉู่เหินไม่คิดเลยว่าในพริบตาเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้จะซื้อใจคนรอบตัวเขาได้อย่างหมดจดขนาดนี้

จริง ๆ แล้วฉู่เหินคิดจะส่งเด็กสาวคนนี้กลับทันที ในสถานที่ไม่รู้จักเช่นนี้เธอต้องสร้างปัญหาแน่ ๆ แต่ไม่คิดว่าแผนที่วางไว้จะล้มเหลวก่อนจะเริ่มด้วยซ้ำ ฉู่เหินได้แต่ยอมแพ้ทุกคน