บทที่ 230 ความหวานหอมของการสานสัมพันธ์รอบใหม่

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า

บทที่ 230 ความหวานหอมของการสานสัมพันธ์รอบใหม่

บทที่ 230 ความหวานหอมของการสานสัมพันธ์รอบใหม่

สำหรับถังหว่านแล้วค่ำคืนนี้ช่างเป็นเวลาที่ยาวนาน

นานมากแล้วที่เธอไม่ได้ลิ้มรสของน้ำค้างอันแสนหวานเช่นนี้ ส่วนโจวอี้… มันคือค่ำคืนที่แสนสนุกสุดหฤหรรษ์

เช้าตรู่

ภายในห้องพักที่อบอุ่นและสะดวกสบาย โจวอี้ตื่นขึ้นจากการหลับใหล เขามองไปที่เจ้าหญิงนิทราที่อยู่ใกล้ ๆ และรู้สึกว่าตอนนี้เขาสามารถต่อสู้ได้อีกตั้งแปดร้อยรอบ!

ทว่า… ตอนนี้เขาต้องรีบดับไฟตัณหาอย่างรวดเร็ว

ค่ำคืนที่ผ่านมานี้โจวอี้คลั่งมากจนถังหว่านเหนื่อยจนแทบไม่อยากจะขยับนิ้วเลยด้วยซ้ำ ท้ายที่สุดเขาต้องอุ้มถังหว่านเข้าห้องน้ำไปเพื่ออาบน้ำล้างตัว

เธอหมดแรง

โจวอี้จึงไม่ต้องการต่อสู้อีก

ในไม่ช้า โจวอี้ก็แต่งตัวเรียบร้อยและเดินออกจากห้องของถังหว่านพร้อมคีย์การ์ดห้องพักในมือ

เมื่อเสียงประตูปิดลง ถังหว่านซึ่งควรจะนอนหลับอยู่พลันลืมตาตื่นขึ้นมาทันที เธอค่อย ๆ ยันตัวนั่งบนเตียงด้วยสีหน้าที่เอียงอาย

ร่างกายท่อนบนของเธอไม่มีผ้าห่มปกปิด ผิวของเธอขาวเนียนราวกับหยก เธอรู้สึกทั้งเจ็บและเบาหวิวไปทั้งตัว เธอจำเรื่องบ้า ๆ เมื่อคืนนี้ได้ จึงเอามือปิดแก้มที่เห่อร้อนทันที จากนั้นก็ดูเหมือนจะจำอะไรบางอย่างได้ เธอจึงรีบคว้าชุดนอนของเธอมาใส่อย่างเร่งรีบ

เขาไปไหนน่ะ?

มันเพิ่งจะเก้าโมงเอง…จะรีบออกไปทำไม…

เดี๋ยวนะ! เก้าโมง?!

สีหน้าของถังหว่านเปลี่ยนไป เธอรีบกระโดดออกจากเตียงทันที

โดยปกติแล้วทีมงานจะเริ่มถ่ายทำตอนหกโมงเช้า ดังนั้นก็หมายความว่าการถ่ายทำของวันนี้เริ่มไปแล้วสองหรือสามชั่วโมง!

เธอรีบอาบน้ำและแต่งตัว!

ในขณะที่ถังหว่านพร้อมที่จะออกไปข้างนอกก็มีคนเปิดประตูห้อง โจวอี้เข้ามาพร้อมกับแก้วนมร้อน ๆ

“ตื่นแล้วเหรอ รีบตื่นทำไม?” โจวอี้ถามด้วยรอยยิ้ม

“เก้าโมงกว่าแล้ว ฉันต้องรีบไปที่กองถ่าย…”

“ไม่เป็นไร ผมลาให้แล้ว” โจวอี้เดินเข้ามาหาด้วยรอยยิ้ม วางแก้วนมที่เริ่มอุ่นไว้ในมือถังหว่านแล้วพูดว่า “วันนี้งานของคุณคือพักผ่อนให้เพียงพอ และพรุ่งนี้คุณค่อยกลับไปถ่ายละครต่อ”

“คุณลางานให้ฉันเหรอ?” ถังหว่านตกตะลึง จากนั้นก็รีบถามว่า “คุณให้เหตุผลอะไรไป?”

“ผมพูดกับผู้กำกับถังไปตามตรงว่าภรรยาของผมเหนื่อยเกินไปเมื่อคืนนี้ วันนี้เธอจึงลุกไม่ขึ้นและขอหยุดงานหนึ่งวัน!” โจวอี้ยิ้มอย่างสดใส

“นี่คุณ…” ถังหว่านตกตะลึง

เหนื่อยเกินไปเมื่อคืนนี้?

เหนื่อยแค่ไหน?

ถังหว่านนึกถึงสีหน้าของถังจี้โจวได้ทันที เมื่อเธอได้ยินประโยคเหล่านี้จากโจวอี้

“ทำไม? ผมบอกความจริงไม่ได้?” โจวอี้หยอกล้อ

“ที่คุณบอกไปมันไม่ผิดก็จริง…” ถังหว่านทั้งอับอายทั้งโกรธเล็กน้อย “แต่คุณไปพูดแบบนี้ ต่อไปฉันจะสู้หน้าผู้กำกับถังได้ยังไง! คุณ! คุณ…!”

“ฮ่า ๆๆ…” โจวอี้หัวเราะเสียงดัง

เมื่อเห็นว่าถังหว่านกำลังจะกระโจนเข้าใส่ เขาก็รีบกลั้นหัวเราะและโบกมือพลางพูดว่า “ผมล้อเล่นน่ะ! ถึงผมจะโง่ แต่ผมก็ไม่เล่าเรื่องสามีภรรยาของเราให้ใครฟังหรอก! หยุดโกรธได้แล้ว ดื่มนมอุ่น ๆ เร็วเข้า”

“คุณไม่ได้พูดจริงเหรอ”

“ผมไม่ได้พูด!”

“งั้นคุณขอลาได้ยังไง”

“ผมบอกว่าคุณมีไข้ เมื่อเช้าคุณหลับไปหลังจากกินยา พรุ่งนี้คุณจะกลับไปถ่ายทำต่อถ้าอาการคุณดีขึ้น” โจวอี้หัวเราะ

ถังหว่านรู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยินคำพูดนี้

เธอยิ้มเล็กน้อยแล้วกลอกตา จากนั้นก็นั่งลงที่ขอบเตียงอีกครั้งพลางจิบนมในแก้ว

“ผมสั่งอาหารเช้าไว้ เดี๋ยวจะมาส่งทีหลัง หลังจากที่เรากินแล้ว ให้ผมไปชอปปิงกับคุณไหม” โจวอี้ถาม

“ไม่” ถังหว่านส่ายหัว

“คุณไม่ชอบซื้อของเหรอ?” โจวอี้ถาม

“ฉันชอบชอปปิงมาก! แต่สถานะปัจจุบันของฉันตอนนี้ไม่เหมาะกับการไปชอปปิง ฉันกลัวว่าจะถูกใครจำได้”

โจวอี้เข้าใจ

บางทีนี่อาจเป็นข้อเสียของการเป็นดาราดัง!

แม้จะโด่งดังมีชีวิตสุขสบาย แต่ก็ต้องแลกกับอิสรภาพเช่นกัน

“ถ้าอย่างนั้นเราจะไม่ออกไปข้างนอก ผมจะอยู่กับคุณวันนี้ที่นี่ และจะกลับไปจินหลิงในวันพรุ่งนี้ ผมเป็นห่วงลูกสาวที่บ้าน”

“อืม”

แม้ว่าจะมีถงหู่อยู่ที่บ้านและโจวอี้บอกว่ามีหญิงชราอีกคนคอยคุ้มครอง แต่เธอก็กลัวว่าลูกสาวของเธอจะร้องไห้และโกรธเอาได้

วันนี้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองได้พัฒนาไปอย่างมาก

พวกเขาจึงเข้ากันได้ดี แม้ว่าถังหว่านจะถูกโจวอี้หยอกล้อจนหน้าแดงด้วยความอายและโกรธเป็นครั้งคราว แต่คำพูดของชายหนุ่มก็ทำให้เธอยิ้มออกมาได้ไม่หยุด

และเป็นอีกคืนที่พวกเขานอนด้วยกันฉันสามีภรรยากันอีกครั้ง

ถังหว่านรู้สึกหลงใหลในรสชาติของความหอมหวานจากการใกล้ชิดและเป็นหนึ่งเดียวกับโจวอี้มากขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อเช้าวันใหม่มาถึง โจวอี้ส่งถังหว่านที่กองถ่ายละคร และมองดูเธอเดินเข้าไปในกองถ่ายก่อนที่เขาจะกลับไปที่เมืองจินหลิง

เงินชดเชยหนึ่งพันล้านหยวนของตระกูลหยางถูกโอนเข้ามาในบัญชีของโจวอี้แล้ว

โจวอี้ไม่ลังเลที่จะส่งเงินจำนวนนี้ให้ถังหว่าน

แต่เมื่อเขากลับไปถึงจินหลิงและเข้าไปในช็องเซลิเซ่ ลานติง วิลล่า เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากฮวงฟู่จินซุน

เขาได้รับรู้ว่าฮวงฟู่จินซุนฆ่าพ่อลูกตระกูลหยาง และยังลงโทษพ่อตาของหยางเทียนเจิ้นอย่างรุนแรง

โจวอี้ไม่ได้มีความเห็นใดเกี่ยวกับเรื่องนี้

เขาเดินเข้าไปในบ้าน ขณะที่ยังถือโทรศัพท์ที่คุยกับฮวงฟู่จินซุนและถามว่า “คุณขาดแคลนยาสำหรับบ่มเพาะไหม? คุณสามารถติดต่อผมได้ถ้าขาดแคลนมัน ผมจะขายให้ในราคาถูกกว่าที่พวกผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นซื้อแน่นอน”

“คุณยินดีขายยาให้กับตระกูลฮวงฟู่งั้นเหรอ?” ฮวงฟู่จินซุนที่อยู่ปลายสายรู้สึกประหลาดใจ

“คุณมีชีวิตอยู่มาหลายปี คุณยังไม่เข้าใจอีกเหรอ?”

“อะไร?”

“โลกนี้ขับเคลื่อนด้วยผลประโยชน์ และความโกลาหลที่เกิดในโลกเป็นเพียงการแสวงหาผลกำไร ไม่มีศัตรูถาวร มีเพียงผลประโยชน์เท่านั้นที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าหากตระกูลฮวงฟู่ของคุณปล่อยวางความคับแค้นใจกับผมได้จริง ๆ ผมจะขายยาให้คุณในราคาที่ถูกลง มีปัญหาอะไรไหม?”

“เข้าใจแล้ว คุณวางใจได้ว่าตระกูลฮวงฟู่ของเราได้เรียนรู้บทเรียนแล้ว!” ฮวงฟู่จินซุนกล่าวอย่างหนักแน่น

“ดี!” โจวอี้ยิ้ม

จนกระทั่งวางสาย ฮวงฟู่จินซุนก็ไม่ได้พูดถึงการซื้อยาเลย

อย่างไรก็ตาม โจวอี้รู้ว่าฮวงฟู่จินซุนคงอยู่นิ่งได้ไม่นาน เพราะไม่มีใครในโลกของผู้ฝึกยุทธ์ที่ไม่ต้องการซื้อยา

ตระกูลฮวงฟู่ต้องการยาเพื่อพัฒนาความแข็งแกร่งของตระกูล หรือไม่ก็ใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น

แม้แต่ฮวงฟู่จินซุนซึ่งเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับปรมาจารย์ก็ยังต้องการยาเพื่อพัฒนาระดับยุทธ์ของตนเองไปสู่ระดับต่อไปที่สูงขึ้น

โจวอี้ไม่กลัวว่าตระกูลฮวงฟู่จะแข็งแกร่งขึ้น เพราะเขาเชื่อว่าเขาสามารถทะลวงเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ได้ในเวลาอันสั้นหลังจากนี้ แถมยังมีคนที่แข็งแกร่งสุด ๆ มากมายอยู่เคียงข้าง

ทว่าเขารู้สึกว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการต้มยาหนึ่งหมื่นขวด แล้วทำยาสองเม็ดนั้นที่เขาต้องการ

ลูกสาวของเขาต้องการยานั้น

ตัวเขาเองก็ต้องการมันเช่นกัน

สี่วันต่อมา โจวอี้ไปที่ไป๋หลัววิลล่าเพื่อทำยาต้มอี้เฉินในตอนกลางวัน และใช้เวลากับลูกสาวสองคนที่บ้านในตอนเย็น

ถงหู่ออกจากจินหลิงและกลับไปที่ภูเขาชางหลางเพื่อไปเอาบางสิ่งบางอย่างมา

แต่แม่เฒ่าเทียนจี้ยังคงนั่งง่วงอยู่ในบ้านของโจวอี้ แม้แต่ตอนที่เธอกินอาหารอร่อย ๆ เธอก็ยังไม่มีสีหน้าตื่นเต้นเลยสักนิด

ในที่สุด

ห้าโมงเย็นของวันอาทิตย์ โจวอี้ก็ต้มยาหนึ่งหมื่นขวดจนเสร็จสิ้น

หวงไห่เทาผู้ที่ได้รับข่าวรีบมาอย่างรวดเร็วเท่าที่จะทำได้

“ผมกำลังจะรวยเละสุด ๆ ไปเลย!”

นี่เป็นประโยคแรกที่หวงไห่เทาพูดหลังจากเจอหน้าโจวอี้

สำหรับประโยคนี้

หากเป็นก่อนหน้านี้ โจวอี้คงรู้สึกตื่นเต้นและเห็นด้วย

แต่ตอนนี้จำนวนเงินในบัญชีของเขานั้นไม่ค่อยทำให้เขาตื่นเต้นเท่าไหร่แล้ว

นอกจากนี้ นอกเหนือจากแผนการเดิมซึ่งก็คือการสร้างโรงเรียน เขายังมีแผนการใหม่ในหัวซึ่งคงจะต้องใช้เงินมหาศาล ดังนั้นไม่ว่าจะอย่างไร เขาก็ยังคงต้องหาเงินให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้