ตอนที่ 235 มุมกำแพง

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

ไม่ว่า​คุณหนู​ห้า​เจี่ย​จวน​เซียง​หยาง​โหว​จะ​คิด​อย่างไร​ ​ฉัง​หนิง​ออกเรือน​ ​อีกทั้ง​ยัง​มา​เป็น​แขก​ที่​บ้าน​ของ​ผู้อื่น​ ​อย่างไร​ใบหน้า​ก็​ไม่สมควร​แต้ม​ไป​ความทุกข์​ระทม​ ​สร้าง​ความวุ่นวาย​ให้​เจ้าของบ้าน

นาง​ยืน​อยู่​อีก​มุม​หนึ่ง​ของ​ทางเดิน​เพียงลำพัง​กว่า​ครึ่ง​ค่อนวัน​ ​เมื่อ​จัดการ​เก็บ​อารมณ์​ความรู้สึก​เสร็จ​แล้ว​ถึง​ได้​เดิน​กลับ​ไป​ที่​โถง​รับรอง​อย่าง​เชื่องช้า​ ​แต่​สุดท้าย​ใน​ใจ​ยังคง​รู้สึก​ไม่​ค่อย​แช่มชื่น​นัก​ ​ตอนที่​ผู้อื่น​ชวน​กัน​ไปดู​เจ้าบ่าว​มารับ​เจ้าสาว​นั้น​ ​นาง​รั้ง​อยู่​ที่​โถง​รับรอง​ ​มีสาว​ใช้​มา​เก็บกวาด​ห้อง​เพื่อ​ตั้ง​พวก​ผลไม้​ของหวาน​และ​เติม​น้ำ​ใหม่​ ​รอ​ให้​เหล่า​สตรี​กลับ​จากไป​ดู​ความ​ครึกครื้น​แล้ว​จะ​ได้​นั่งลง​มา​พูดคุย​อย่าง​สดชื่น​และ​ผ่อนคลาย

ดีร้าย​อย่างไร​คุณหนู​ห้า​เจี่ย​ก็​เป็น​แขก​ ​การ​นาง​นั่ง​อยู่​ใน​นี้​ไม่​ขยับ​ไป​ไหน​ ​สาวใช้​เหล่านั้น​ก็​ไม่กล้า​เก็บกวาด

นาง​ครุ่นคิด​แล้ว​เดิน​ไป​ที่​สวนดอกไม้​เล็ก​ด้านหลัง

ผู้ใด​จะ​รู้​ว่า​เพิ่ง​พ้น​โถง​ทางเดิน​มาก​็​เห็น​หวัง​ซี​ ​ไม่รู้​ว่า​เหตุใด​ถึง​นั่ง​ยอง​อยู่​ใต้​ดอก​ไห่​ถัง​ข้าง​บันได​ทาง​ทิศตะวันตก​ของ​จวน​เพียง​คนเดียว​ ​ก้มหน้า​ลง​ ​ไม่รู้​ว่า​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่

นาง​ตกใจ​ไป​ครั้ง​ใหญ่​ ​นึก​ว่า​หวัง​ซี​ไม่สบาย​ ​เมื่อ​เร่งฝีเท้า​เดิน​เข้าไป​ก็ได้​ยิน​หวัง​ซีกำ​ลัง​พูดว่า​ ​“​ที่​งานเลี้ยง​วันนี้​ไม่มี​อะไร​อร่อย​เลย​ ​ข้า​กิน​ของหวาน​ไป​ถ้วย​หนึ่ง​ ​แม้แต่​ของหวาน​ถ้วย​นั้น​ก็​ยัง​ทำไม​่​ได้​รสชาติ​ดั้งเดิม​ ​ไม่รู้​ว่า​เติม​อะไร​ลง​ไป​ ​หวาน​จน​เลี่ยน​ ​กล่าว​เช่นนี้​ถูก​หรือไม่​ ​คน​ทางเหนือ​อย่าง​พวก​เจ้า​เรียก​สิ่ง​ที่​หวาน​เกินไป​ว่า​ ​‘​หวาน​จน​เลี่ยน​’​?

คุณหนู​ห้า​เจี่ย​พลัน​เลือด​ลม​สูบฉีด​ขึ้น​ด้านบน

นี่​หวัง​ซีกำ​ลัง​คุย​กับ​ผู้ใด​ ​คง​มิใช่​กำลัง​แอบ​นัดพบ​ใคร​อยู่​หรอก​กระมัง

เหตุใด​ตน​ถึง​ได้​โชคร้าย​ขนาด​นี้​ ​บังเอิญ​เจอ​เข้า​จนได้​?

หาก​รู้​เช่นนี้​แต่แรก​ก็​คง​ไม่สน​ใจ​ว่านาง​จะ​สบาย​หรือไม่​สบาย​แล้ว​ ​เดิน​จากไป​เลย​ดีกว่า

เสียง​ที่​ตอบ​หวัง​ซีก​ลับ​มา​เป็น​เสียง​ของ​บุรุษ​จริงๆ​ ​นอกจากนี้​ยัง​เป็น​เสียง​ที่​ไพเราะ​มาก​ ​เจือ​รอยยิ้ม​เอาไว้​เล็กน้อย​ ​กล่าวว่า​ ​“​ถูกต้อง​!​ ​เข้า​เมือง​ตา​หลิ่ว​ต้อง​หลิ่วตา​ตามจริง​ๆ​ ​เจ้า​เพิ่ง​มา​ได้​ไม่นาน​ ​แต่​รู้เรื่อง​พวก​นี้​แล้ว​ ​ทว่า​เช่นนี้​ก็ดี​เหมือนกัน​ ​เจ้า​ดูป​รับ​ตัว​ได้มาก​แล้ว​นี่​นา​!​ ​ไม่มี​เรื่อง​แบบ​ที่​แม้แต่​พริกฮ​วา​เจียว​สัก​ต้น​ก็​ยัง​หามา​กิน​ไม่ได้​แล้ว​!​ ​ต่อให้​ข้า​ไร้ความสามารถ​อย่างไร​ ​ก็​ไม่​ถึงขั้น​ที่​แม้แต่​พริกฮ​วา​เจียว​ต้น​เดียว​ก็​ยัง​หาไม่​ได้​หรอก​กระมัง​ ​ถึง​เวลา​จะ​ปลูก​เอาไว้​ใน​ลานบ้าน​ให้​เจ้า​สัก​ผืน​หนึ่ง​ ​ข้า​จะ​คอย​ดู​ว่า​พี่ใหญ่​ยัง​จะ​พูด​อะไร​ได้​อีก​!​”

หวัง​ซี​หัวเราะ​คิก​ ​หัน​ศีรษะ​มอง​ไป​ทาง​ด้านหลัง

คุณหนู​ห้า​เจี่ย​ถึง​ได้​ค้นพบ​ว่า​ด้านหลัง​เสา​ต้น​นั้น​มี​รองเท้า​สีดำ​ปัก​ลาย​ก้อน​เมฆ​โผล่​ออกมา​ให้​เห็น

คนที​่​คุย​กับ​หวัง​ซีคือ​เฉินลั​่ว​?

ใบหน้า​ของ​นาง​พลัน​ร้อนผ่าว

บทสนทนา​ของ​ทั้งสอง​คน​ช่าง​หวาน​หยดย้อย​ยิ่งนัก

หมั้น​หมาย​กัน​แล้วยัง​วิ่ง​ออกมา​ลอบ​พบกัน​อีก

นึกถึง​ตรงนี้​ ​นาง​อด​กลอกตา​อย่าง​ใช้​ความคิด​ไม่ได้

เมื่อก่อน​สวน​ร่ม​หลิว​กับ​จวน​จ่าง​กง​จู่​คั่น​เอาไว้​ด้วย​กำแพง​หนึ่ง​เท่านั้น

นาง​ว่า​แล้ว​เชียว​ว่า​เหตุใด​งานแต่ง​นี้​ถึง​มา​อย่าง​ผิดปกติ​นัก​ ​ที่แท้​ก่อน​หมั้น​หมาย​ทั้งสอง​คน​ก็​ไปมาหาสู่​กัน​มาตั​้ง​นาน​แล้ว

เมื่อ​คิด​เช่นนี้​ ​ไหล่​ของ​นาง​ห่อเหี่ยว​ลงมา​หลาย​ส่วน

ต่อให้​เป็น​เช่นนั้น​ ​แต่​ทำให้​จ่าง​กง​จู่​ยอม​ตอบ​ตกลง​โดย​ไม่​โวยวาย​ ​ยัง​ออกหน้า​ช่วย​หมั้น​หมาย​ให้​พวกเขา​อีก​ ​ก็​ถือว่า​หวัง​ซี​ผู้​นั้น​เป็น​คน​มี​ความสามารถ​ผู้​หนึ่ง​แล้ว

บางที​เฉินลั​่ว​เอง​ก็​ชอบ​หวัง​ซี​มาก​เช่นกัน

ไม่อย่างนั้น​ด้วย​นิสัย​ของ​เฉินลั​่ว​ ​มี​คน​มาช​อบ​เขา​ตั้ง​มากมาย​ ​หาก​เขา​ยินยอม​ก็​คง​หมั้น​หมาย​ไป​นาน​แล้ว

ก็​เหมือน​คุณหนู​รอง​จวน​เว​่​ยกั​๋​วกง​ที่​พวก​นาง​พูดถึง​ก่อนหน้านี้​ ​เกิดเรื่อง​กับ​บ้าน​ตาของ​นาง​ ​มิใช่​ว่ายั​งมี​ลุง​ป้า​ที่​บ้านเดิม​อยู่​หรอก​หรือ​ ​ถึงคราว​ให้​สาย​รอง​จาก​จวน​เว​่​ยกั​๋​วกง​ที่​หา​ได้​มีสัม​พันธ์​ใกล้ชิด​กับ​จวน​เว​่​ยกั​๋​วก​งมาก​ขนาด​นั้น​อย่าง​ครอบครัว​นี้​ออกหน้า​ช่วยเหลือ​ตั้งแต่​เมื่อใด​กัน​ ​คุณหนู​รอง​ผู้​นั้น​ก็​แค่​ใช้​เรื่อง​นี้​เป็น​ข้ออ้าง​ ​อยาก​ลงมือ​ผ่าน​เฉินลั​่ว​ ​ล่อลวง​เฉินลั​่ว​มา​ไว้​ใน​กำมือ​ก็​เท่านั้น

คาด​ว่า​เฉินลั​่ว​คง​ดูออก​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​จึง​ไม่​หลงกล

นาง​รีบ​หลบ​ไป​อยู่​ข้างๆ​ ​ต้น​การบูร​พลาง​คิด​ว่า​รอ​พวกเขา​เดิน​ไป​ก่อน​แล้ว​ตัวเอง​ค่อย​ออก​ไป​ ​หวัง​ซีกับ​เฉินลั​่​วจะ​ได้​ไม่ต้อง​รู้สึก​กระอักกระอ่วน​ ​นอกจากนี้​พวกเขา​ที่​ถือโอกาส​มา​เจอกัน​สักครั้ง​และ​คุย​กัน​สัก​สอง​ประโยค​ตอนที่​มาร​่ว​มงาน​แต่ง​เช่นนี้​ ​น่าจะ​กลัว​ถูก​ผู้อื่น​มา​เห็น​ ​ไม่นาน​ก็​คง​ต่าง​คน​ต่าง​แยกย้าย​กัน​แล้ว

แต่​ผู้ใด​จะ​รู้​ว่า​สถานที่​ที่นาง​ใช้​ซ่อนตัว​ช่าง​ไม่เป็นใจ​ ​นาง​ได้ยิน​สิ่ง​ที่​ทั้งสอง​คน​สนทนา​กัน​อย่างชัดเจน

คน​หนึ่ง​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​เคย​เห็น​ต้น​พริกฮ​วา​เจียว​หรือไม่​ ​หนึ่ง​ต้น​ให้ผล​ผลิต​มากมาย​นัก​ ​คน​อย่าง​พวก​ข้า​ยัง​กิน​ได้​ตั้ง​หนึ่ง​ฤดูหนาว​ ​พริกฮ​วา​เจียว​ยัง​แบ่ง​เป็น​สีแดง​กับ​สีเขียว​ ​สีแดง​เหมาะกับ​ย่าง​ปลา​ ​สีเขียว​เหมาะกับ​ย่าง​เนื้อ​”

อีก​คน​หนึ่ง​กล่าวว่า​ ​“​จาก​ที่​เจ้า​กล่าว​มา​ ​ข้า​คง​ต้อง​ปลูก​ต้น​พริกฮ​วา​เจียว​สอง​ต้น​เสีย​แล้ว​!​”

“​เช่นนั้น​เจ้า​จะ​ทำให้​หรือไม่​”

“​ทำให้​!​ ​หาก​ข้า​ไม่​ทำ​ ​เจ้า​ต้อง​มีเรื่อง​มา​ว่า​อีก​ ​ไม่แน่​ว่า​อาจ​ลด​อาหาร​ของ​ข้า​ด้วย​ ​คราวก่อน​ตอนที่​ข้า​ไป​กินข้าว​ด้วย​ข้า​ดู​อย่างละเอียด​แล้ว​ ​ไอ้​ที่อยู่​บน​ผัก​หมัก​จาน​นั้น​คือ​พริกฮ​วา​เจียว​สีแดง​”

หวัง​ซี​ได้ยิน​แล้ว​หัวเราะ​คิก​พลาง​ลุกขึ้น​ ​กล่าวว่า​ ​“​พวก​เครื่องเคียง​นี้​เจ้า​ชอบ​กิน​ผัก​หมัก​มากกว่า​ใช่​หรือไม่​ ​ก่อนหน้านี้​ข้า​ดูแล​้ว​หาก​เป็น​ผัก​แช่​ใน​น้ำ​ซีอิ๊ว​เจ้า​ยัง​กิน​บ้าง​สอง​สาม​ตะเกียบ​ ​แต่​ผัก​ดอง​เค็ม​นั้น​เจ้า​ไม่​ค่อย​ชอบ​กิน​เท่าไร​นัก​”

ผัก​ใน​น้ำ​ซีอิ๊ว​เป็น​รสชาติ​ของ​ทางเหนือ​ ​ผัด​ดอง​เค็ม​เป็น​รสชาติ​ของ​ทางใต้​ ​คาด​ว่า​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ผัก​แช่​ซีอิ๊ว​หรือ​ผัก​ดอง​เค็ม​เขา​ล้วน​ไม่​ชอบ​กิน​ทั้งสิ้น​ ​แต่​เพราะ​เคยชิน​ก็​เลย​ยัง​กิน​ผัก​แช่​ซีอิ๊ว​อยู่​บ้าง

ตอนที่​เห็น​นาง​ลุกขึ้น​เฉินลั​่ว​ใช้​แขน​เสื้อ​รอง​เอาไว้​ประคอง​นาง​ครั้งหนึ่ง​ ​ยัง​ถือโอกาส​ให้​นาง​นั่งลง​บน​เก้าอี้​คน​งาม​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​ด้วย​ ​กล่าวว่า​ ​“​บ้าน​ข้า​ไม่​ค่อย​กิน​ของ​พวก​นี้​เท่าไร​นัก​ ​ท่าน​แม่​ข้า​บอกว่า​ ​ตอน​นาง​เป็น​เด็ก​มัก​ถูกห​มัว​มัว​สอน​มารยาท​ตำหนิ​อยู่​บ่อยๆ​ ​จึง​ไม่กล้า​กินข้าว​มาก​ ​ตกดึก​หิว​จน​ท้องร้อง​ ​มีนา​งกำ​นัล​ใจดี​เอา​แป้ง​ย่าง​ยัด​ไส้​ผัก​แช่​ซีอิ๊ว​ให้​นาง​กิน​ผ่านพ้น​ไป​หนึ่ง​มื้อ​ ​พอนาง​โตมา​จึง​ไม่​ชอบ​ผัก​แช่​ซีอิ๊ว​มาก​เป็นพิเศษ​ ​ที่​บ้าน​พวก​ข้า​ก็​เลย​ไม่​ค่อย​ได้​กิน​ผัก​แช่​ซีอิ๊ว​ ​ข้า​เอง​ก็​รู้สึก​เฉยๆ​ ​เช่นกัน​”

หวัง​ซี​ถอนใจ​กล่าว​ ​“​นี่​สู้​ชีวิต​วัยเด็ก​ของ​ข้า​ไม่ได้​เลย​!​”

“​เพราะฉะนั้น​ถึง​ได้​กล่าว​กัน​ว่า​ ​ยิ่ง​ดู​งดงาม​โอฬาร​ ​ทำ​สิ่งใด​ก็​ยิ่ง​ต้อง​ระมัดระวัง​”​ ​เฉินลั​่​วก​ล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​อย่าง​ไม่​ยี่หระ​ ​“​เจ้า​ดู​ชีวิต​ของปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​ ​ยาม​หยิ่งผยอง​ก็​หยิ่งผยอง​จริงๆ​ ​ยาม​สลด​ก็​ตัว​งอ​เป็น​ตะขอ​ ​บางครั้ง​เศรษฐี​บ้าน​ๆ​ ​ก็​มี​ข้อดี​ของ​เศรษฐี​บ้าน​ๆ​ ​เหมือนกัน​”

ถาม​นาง​อีกว่า​ ​“​เมื่อ​ครู่​เจ้า​เห็นชัด​แล้ว​กระมัง​ว่า​รังมด​อยู่​ที่ไหน​ ​ตามหา​สิ่ง​นี้​เพื่อ​อัน​ใด​หรือ​”

หวัง​ซี​เม้มปาก​หัวเราะ​ ​“​น่าสนุก​ดี​!​”

“​คง​เบื่อ​แล้ว​กระมัง​!​”​ ​เฉินลั​่ว​เปิดโปง​นาง​อย่าง​ไม่​เกรงใจ​แม้แต่​ครึ่ง​เดียว​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​ไม่จำเป็น​ต้อง​ทำ​เช่นนี้​ ​พวก​นาง​อยาก​พูด​ไร้สาระ​ ​เจ้า​ก็​เข้าไป​ร่วมวง​พูด​ด้วย​ ​ใคร​ต้อง​กลัว​ใคร​ด้วย​หรือ​!​”

หวัง​ซีก​ล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​พูด​เกี่ยวกับ​บ้าน​เจ้า​ก็ได้​หรือ​”

ช่วงนี้​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ไป​ไหน​ก็​พา​เฉิน​อิง​ไป​ด้วย​ ​ซือ​จู​แต่งงาน​แล้ว​ทว่า​ไม่เคย​เข้าร่วม​งานเลี้ยง​ของ​ตระกูล​ชั้นสูง​ใน​จิง​เฉิง​มาก​่อน​ ​และ​ทุกคน​ต่าง​รู้​นิสัย​ของ​จ่าง​กง​จู่​ดี​ ​ไม่​คิด​จะ​ขัดเกลา​เฉิน​อิง​สอง​พี่น้อง​มาตั​้ง​แต่​ปีนั​้น​แล้ว​ ​ยิ่ง​ไม่มีทาง​ขัดเกลา​ซือ​จู​อย่างแน่นอน

เหตุใด​ซือ​จู​ไม่​มาร​่ว​มงาน​สังคม​ ​หลังจากที่​หวัง​ซี​หมั้น​หมาย​กับ​เฉินลั​่ว​ ​พอทุ​กคน​เห็น​นาง​ก็​นึกถึง​เรื่อง​ซือ​จู​ขึ้น​มา​ ​หาก​ไม่​มอง​อย่าง​พิพากษา​ก็​มาถา​มนา​งอย​่า​งอ​้​อม​ๆ

นาง​จะ​ไปรู​้​ได้​อย่างไร

กอปร​กับ​ที่​คร้าน​จะเข้า​ไปร​่วม​ครึกครื้น​กับ​ฉัง​หนิง​ก็​เลย​ออกมา​เดินเล่น​ตามอำเภอใจ

ไม่​คิด​ว่า​จะ​เจอ​เฉินลั​่ว

ยาม​ส่งตัว​เจ้าสาว​ทุกคน​ต่าง​ไปดู​ความ​ครึกครื้น​กัน​หมด​ ​การ​เว้นระยะ​ของ​ชาย​หญิง​จึง​ไม่​เข้มงวด​มาก

เฉินลั​่ว​มา​เป็นตัวแทน​ของ​จวน​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ ​ตอนนั้น​เขา​หลบ​ไปหา​ความสงบ​อยู่​ใต้​ชายคา​ของ​โถง​รับรอง​ใหญ่​ด้านนอก​ ​พลัน​เหลือบ​ไป​เห็น​สาวใช้​ข้าง​กาย​ของ​ฉัง​เคอ​ ​ได้ยิน​สาวใช้​ผู้​นั้น​คุย​กับ​บ่าว​ชาย​อะไร​ทำนอง​ว่า​ให้​ไป​ซื้อ​ลูกกวาด​จาก​ที่ไหน​มาสั​กอย​่าง​ ​ยัง​กล่าวว่า​ ​“​ประเดี๋ยว​คุณหนู​จะ​เอาไว้​รับรอง​คุณหนู​ต่าง​สกุล​ ​เจ้า​รีบ​ไปรี​บก​ลับ​”

ตอนนั้น​เขา​แปลกใจ​ก็​เลย​เอ่ย​ถาม​ไป​ครั้งหนึ่ง​ ​ถึง​ได้​รู้​ว่า​หวัง​ซี​ไม่ได้​ตาม​เหล่า​สตรี​ชั้นใน​ไป​ส่ง​เจ้าสาว

ขณะนั้น​เฉินลั​่ว​พลัน​ร้อนใจ​ขึ้น​มา​ ​กลัว​ว่า​หวัง​ซี​อาจ​ถูก​เอาเปรียบ​ ​ฉัง​เคอ​อยาก​ปลอบโยน​นาง​ ​จึง​ตั้งใจ​จะ​พา​หวัง​ซี​ไป​พักผ่อน​ที่​สวน​ร่ม​หลิว​หลัง​ส่ง​ฉัง​หนิง​เสร็จ​แล้ว

ผล​ปรากฏ​ว่า​พอ​เขา​มาตา​มหา​ ​กลับ​เจอ​หวัง​ซีกำ​ลัง​นั่งยองๆ​ ​ดู​มด​ย้าย​รัง​อยู่​ตรงนั้น​!

พอ​เห็น​เขา​ ​ยัง​ไล่​ให้​พวก​ไป๋​กั่ว​นำ​ความ​ไป​ตอบกลับ​ฉัง​เคอ​ ​ส่วน​ทั้งสอง​คน​สนทนา​อยู่​ตรงนั้น​กว่า​ครึ่ง​ค่อนวัน

“​ขา​ชา​หรือไม่​”​ ​เขา​ถาม​หวัง​ซี​ ​อยาก​นวด​ขา​ให้​นาง​แต่​ก็​กลัว​จะ​เป็นการ​เสียมารยาท​กับ​นาง​ ​ได้​แต่​กล่าวว่า​ ​“​ประเดี๋ยว​อย่า​ลืม​ให้​สาวใช้​นวด​ให้​เจ้า​”​ ​จากนั้น​บอก​นาง​ว่า​ ​“​เรื่อง​ที่​บ้าน​ข้า​ ​เจ้า​อยาก​พูด​เช่นไร​ก็​พูด​ได้​เลย​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​ช่วย​ปิดทอง​บน​หน้า​ให้​พวกเขา​ ​ผู้ใด​ไม่รู้​บ้าง​ว่า​เรื่องราว​เป็นมา​อย่างไร​ ​เพียงแต่ว่า​อย่า​เอา​ตัว​เจ้า​เข้าไป​ยุ่งยาก​ด้วย​ก็​พอ​”

ช่าง​ใจใหญ่ใจโต​จริงๆ​!

หวัง​ซีจึ​งก​ล่าว​เย้า​เขา​ว่า​ ​“​หาก​พวกเขา​ว่า​จ่าง​กง​จู่​ ​ข้า​จะ​ไม่​พูด​อะไร​ได้​หรือ​”

“​ความจริง​บุตรชาย​หญิง​ไม่​ควร​วิจารณ์​ถูก​ผิด​ของ​บิดา​มารดา​อยู่​แล้ว​”​ ​เฉินลั​่ว​เสนอ​ความเห็น​ให้​นาง​ ​“​เจ้า​ไม่​พูด​อะไร​เป็น​สิ่ง​ที่​ถูกต้อง​แล้ว​”

นี่​หมายความว่า​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​จะ​ยืน​เคียงข้าง​นาง​!

งานแต่ง​ครั้งนี้​ดีกว่า​ที่​ตน​จินตนาการ​เอาไว้​มาก​โข

หวัง​ซีพ​ยัก​หน้า​ยิ้ม​ตาหยี

เฉินลั​่​วก​ล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​รอ​อยู่​นี่​ก่อน​อย่า​เพิ่ง​ไป​ไหน​ ​ข้า​จะ​เรียก​พวก​ไป๋​กั่ว​มา​ ​ให้​พวก​นาง​ประคอง​เจ้า​ไป​ที่​สวน​ร่ม​หลิว​ ​ไป​กิน​ขนม​ของว่าง​อยู่​ที่นั่น​ตามใจชอบ​เสร็จ​แล้วก็​กลับบ้าน​ ​ส่วน​ข้า​เกรง​ว่า​คง​ต้อง​รอ​จนถึง​กลางดึก​ ​พวกเขา​ย่อม​ส่ง​เจ้า​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ส่ง​ข้า​กลับ​ ​เจ้า​ไม่ต้อง​กลัว​”

ฤกษ์​มงคล​คือ​ยาม​โหย​่ว​ของ​ช่วง​เย็น​ ​ยาม​เว​่ย​เจ้าสาว​ก็​ต้อง​ออกจาก​ประตู​แล้ว​ ​ตอนเย็น​ยัง​มี​งานมงคล​ต่อ​ ​คนที​่​ค่อนข้าง​สนิท​หรือไม่ก็​คนที​่​บ้าน​อยู่​ไกล​จะ​พัก​ที่​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ ​รอ​เจ้าสาว​กลับบ้าน​เดิม​วันที่​สาม​แล้ว​ค่อย​กลับ​ไป​ ​อย่าง​หวัง​ซีนี​้​สมควร​รอ​เจ้าสาว​กลับบ้าน​มา​เยี่ยม​ญาติ​ก่อน​ค่อย​กลับ​ไป​ ​แต่​ไม่มีใคร​ใน​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​บอก​นาง​เลย​สัก​คน​ ​นาง​จึง​แสร้งทำ​เป็น​ไม่รู้​เรื่อง

เฉินลั​่ว​เอง​ก็​คิด​เช่นเดียวกัน​ ​“​หาก​ไม่​อยาก​อยู่​ ​ก็​ส่ง​คน​ไป​บอก​พี่สะใภ้​ของ​เจ้า​สัก​คำ​หนึ่ง​ ​พวก​เจ้า​กลับ​ไป​ก่อน​ ​ไม่​คุ้ม​ที่​ต้อง​อดทน​อยู่​ที่นี่​ ​ทาง​พี่ใหญ่​ข้า​จะ​ดูแล​เอง​”

สตรี​กลับ​ก่อน​ได้​ ​แต่​สำหรับ​หวัง​เฉิน​นั่น​กลับ​ถือว่า​เป็น​โอกาส​ได้​รู้จัก​คน​มากขึ้น​โอกาส​หนึ่ง​ ​โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​มี​เฉินลั​่ว​คอย​ประกบ​อยู่​ด้วยตัวเอง​ ​ดอง​กับ​บ้าน​จ่าง​กง​จู่​แล้วก็​จริง​ ​แต่​ทั้งสอง​ครอบครัว​มีท​่า​ที​ต่อ​การ​เกี่ยวดอง​ครั้งนี้​อย่างไร​นั้น​ดู​ได้​จาก​ความใกล้ชิด​หรือ​เหินห่าง​นี้​แล้ว

ต่อไป​เวลา​หวัง​เฉิน​อยู่​ข้างนอก​ ​แม้น​ผู้อื่น​ไม่​ถึงกับ​ประจบประแจง​แต่​ก็​ไม่​อาจ​รังแก​ได้​ตามใจชอบ​เช่นกัน

หวัง​ซี​ขานรับ​เสียง​หนึ่ง​ ​กล่าวว่า​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​กับ​พี่สะใภ้​กลับ​ก่อน​แล้ว​!​ ​พวกเขา​หา​ได้​เห็น​พวก​ข้า​เป็น​ญาติ​จริงๆ​ ​ก็​ไม่​คุ้มค่า​ที่​พวก​ข้า​จะ​ต้อง​ค้อมตัว​ให้เกียรติ​ผู้อื่น​”

“​ข้า​เอง​ก็​คิด​เช่นนั้น​”​ ​เฉินลั​่ว​เร่ง​นาง​ ​“​เช่นนั้น​ก็​กลับ​เร็ว​หน่อย​เถอะ​ ​จะ​ได้​ให้​แม่ครัว​ของ​ตัวเอง​ทำ​ของ​อร่อย​ให้​ด้วย​ ​เมื่อ​ครู่​เจ้า​บอกว่า​ไม่ได้​กิน​ดี​ๆ​ ​เลย​มิใช่​หรือ​”

เสียง​ของ​เขา​อ่อนโยน​ ​น้ำเสียง​ก็​เบา​ลง​ ​เผย​ให้​เห็น​ความ​เอาอกเอาใจ​หลาย​ส่วน

ช่วงนี้​หวัง​ซี​ได้ยิน​บ่อย​จน​เริ่ม​ชิน​แล้ว​ ​จึง​ไม่ได้​รู้สึก​ผิดปกติ​อะไร​ ​ทว่า​คุณหนู​ห้า​เจี่ย​ที่​ฟัง​อยู่​ตรง​มุม​กำแพง​กลับ​ตกใจ​จน​หวัง​ซีกับ​เฉินลั​่ว​ต่าง​แยกย้าย​ไป​ครู่ใหญ่​แล้ว​นาง​ก็​ยัง​ไม่ได้​สติ​คืน​กลับมา

ไม่น่าเชื่อ​ว่า​เฉินลั​่​วก​็​มี​ช่วงเวลา​เช่นนี้​กับ​เขา​ด้วย

ท่าทาง​ที่​เขา​คุย​กับ​หวัง​ซีดู​ไม่​ออก​ว่า​ฝืน​เลย​แม้แต่น้อย​ ​ฟัง​เหมือนปกติ​ทั่วไป​ ​แต่​พอ​ขบคิด​อย่างละเอียด​กลับ​พบ​ว่า​ให้​หวัง​ซี​เป็นหลัก​แทบ​ทุกอย่าง

น้ำตา​ของ​นาง​พลัน​ร่วงหล่น​ลงมา

ตระกูล​เจี่ย​ดู​สวยสด​งดงาม​ ​แต่​เนื่องจาก​ท่าน​ย่า​เป็น​พวก​ยกยอ​เบื้องสูง​เหยียบย่ำ​เบื้องต่ำ​ ​จิตใจ​ลำเอียง​ไม่เที่ยง​ตรง​ ​พวก​พี่น้อง​ชาย​หญิง​แต่ละ​บ้าน​จึง​ระแวดระวัง​ตัว​กัน​ทุกคน​ ​ทุก​บ้าน​ต่าง​มีลูก​คิด​เป็น​ของ​ตัวเอง​ ​ระหว่าง​สามีภรรยา​เคารพ​ให้เกียรติ​กัน​มาก​ ​ทว่า​คุย​เรื่องส่วนตัว​กันน้อย​นัก

อย่าง​บิดา​มารดา​ของ​นาง​ ​เวลา​อยู่​ด้วยกัน​นอกจาก​หารือ​เรื่อง​ของ​ลูก​ๆ​ ​แล้ว​ ​ก็​ไม่เคย​ได้ยิน​พวกเขา​ถามไถ่​สารทุกข์สุกดิบ​ของ​อีก​ฝ่าย​เลย​แม้แต่​ประโยค​เดียว

มารดา​นาง​มี​แม่นม​และห​มัว​มัว​ที่​เติบโต​มาด​้ว​ยกัน​ตั้งแต่​เด็ก​อยู่​ข้าง​กาย​ ​บิดา​นาง​ก็​มี​อนุ​ที่​ปรนนิบัติ​รับใช้​เขา​มาตั​้ง​แต่​เด็ก​และ​พ่อบ้าน​ที่​ไว้ใจ​อยู่​ข้าง​กาย

เมื่อก่อน​นาง​รู้สึก​ว่า​เช่นนี้​ดียิ่ง​ ​แต่​หลาย​ปี​มานี​้​ ​ถึงแม้​จะ​มี​ข้า​รับใช้​อยู่​ข้าง​กาย​เป็นกอง​ ​ทว่า​ใน​ใจ​กลับ​รู้สึก​หนาวเหน็บ​อยู่​เสมอ​ ​เห็น​บ้าน​อื่น​ครื้นเครง​ก็​อยาก​เข้าไป​ร่วม​ด้วย​ ​แม้น​ไม่เกี่ยว​อะไร​กับ​นาง​ ​แต่​ฟัง​แล้วก็​รู้สึก​สนุก​ดี

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ตั้งแต่​พี่ชาย​นาง​แต่งงาน​มี​ภรรยา​ ​เมื่อก่อน​ยัง​มี​เขา​คุย​กับ​นาง​สัก​สอง​สาม​ประโยค​หรือ​ดูแล​เรื่อง​ของ​นาง​บ้าง​ ​แต่​บัดนี้​สายตา​ส่วนใหญ่​ของ​พี่ชาย​มอง​แต่​ครอบครัว​เล็ก​ๆ​ ​ของ​ตัวเอง​เท่านั้น​แล้ว

อนาคต​นาง​จะ​เป็น​อย่างไร​ ​จะ​ได้​เจอ​กับ​สามี​ที่​สนใจ​และ​เอาใจใส่​ตน​เหมือน​หวัง​ซี​บ้าง​หรือไม่​นะ​?

นาง​นึกถึงปั​๋ว​หมิง​เย​่ว​์​ ​นึกถึง​ที่​เฉินลั​่ว​พูดว่า​ดู​งดงาม​โอฬาร​นั่น​ขึ้น​มา​…

……………………………………………………….