ตอนที่ 236 ครั้งแล้วครั้งเล่า

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

ฉัง​หนิง​กลับบ้าน​ใน​วันที่​สาม​ ​หวัง​ซี​ไม่ได้​ไปร​่ว​มด​้วย

ไม่รู้​ว่า​เป็น​เพราะ​คน​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​นึกถึง​หวัง​ซี​ขึ้น​มากะ​ทัน​หัน​ ​หรือ​เพราะ​ตอน​ทำความรู้จัก​ญาติ​ค้นพบ​ว่า​คน​หาย​ไป​คน​หนึ่ง​กัน​แน่​ ​โหวฮู​หยิน​ส่ง​พานห​มัว​มัว​มา​เชิญ​อย่าง​ปัจจุบันทันด่วน​ ​หวัง​ซี​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​นี้​เป็น​โหวฮู​หยิน​ที่​ทำไม​่​ถูก​ ​ต่อให้​นาง​ยุ่ง​มาก​จน​หลงลืม​ไป​ชั่วขณะ​ ​เช่นนั้น​คนใต้​บังคับบัญชา​มัว​ทำ​อะไร​กัน​อยู่​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ความ​สะเพร่า​ประเภท​นี้​ ​สำหรับ​คน​เป็น​นาย​หญิง​ดูแล​เรื่อง​ใน​บ้าน​แล้ว​ ​บางครั้ง​มีโทษ​ถึงแก่ชีวิต​ได้

นาง​ไม่ยอม

“ห​มัว​มัว​เกรงใจ​เกินไป​แล้ว​”​ ​หวัง​ซี​อ้างว่า​จิน​ซื่อ​ออก​ไป​ข้างนอก​ ​ให้​จิน​ซื่อ​อยู่​ใน​ห้อง​ ​นาง​ออกมา​พบพานห​มัว​มัว​เพียงลำพัง​ ​“​เนื่องจาก​ก่อนหน้านี้​ไม่ได้​เทียบ​เชิญ​ ​คิดได้​ว่า​ในเมื่อ​พวก​ข้า​กับ​ที่​จวน​ก็​เป็น​เพียง​ญาติ​ดอง​กัน​ ​คง​ไม่มีความคิด​อยาก​เชิญ​พวก​ข้า​ไป​ ​พวก​ข้า​ก็​เลย​มีแผน​การ​สำหรับ​เรื่อง​อื่น​ไป​แล้ว​ ​ประเดี๋ยว​ข้า​เอง​ก็​ต้อง​ออก​ไป​ข้างนอก​เช่นกัน​ ​เกรง​ว่า​คง​ไม่มีเวลา​ไป​ที่โน่น​แล้ว​”

หาก​มิใช่​เพราะ​โหวฮู​หยิน​ระบุชื่อ​ให้​พานห​มัว​มัว​เป็น​คน​มา​เชิญ​แขก​ ​นาง​ย่อม​ซ่อนตัว​ไป​แล้ว

พอ​หวัง​ซีก​ล่าว​เช่นนี้​ ​ใบหน้า​นาง​พลัน​ร้อนผ่าว​ ​มุม​ปาก​อ้า​หุบ​ ​ไม่รู้​จะ​พูด​อะไร​ดี

หวัง​ซีย​กชา​ส่ง​แขก​ ​แม้แต่​วัน​ออกเรือน​ก็​ฉัง​เหยี​ยน​ก็​ไม่​ไปร​่ว​มดื​่ม​สุรา​มงคล​ด้วย

บ้าน​รอง​ย่อม​รู้​ว่านี​่​คือ​การ​ระบาย​อารมณ์​ ​นาย​หญิง​รอง​ขบคิด​เรื่อง​นี้​แล้ว​รู้สึก​ลำบากใจ​เล็กน้อย​ ​ควร​ไป​กล่าว​ขอโทษ​หวัง​ซีสั​กค​รั้ง​ ​ทว่า​ท่าที​ของ​โหวฮู​หยิน​เป็น​เช่นนั้น​ ​แต่​ถ้า​ไม่​ไป​ก็​รู้สึก​ว่า​ภายภาคหน้า​หวัง​ซีจะ​ได้​แต่ง​เข้า​จวน​จ่าง​กง​จู่​ ​ไม่​อยาก​ทำให้​คน​ไม่พอใจ

หัน​ซื่อ​กำลัง​กังวล​เรื่อง​หา​โอกาส​ไป​คุย​กับ​หวัง​ซี​ไม่ได้​เสียที​ ​ตอนนี้​จึง​กระตือรือร้น​อย่างยิ่ง​ ​หว่านล้อม​แม่​สามี​ว่า​ ​“​ท่าน​เป็น​ผู้อาวุโส​ ​ต่อให้​มี​จุด​ที่​ทำไม​่​ถูกต้อง​บ้าง​ ​ก็​ไม่​อาจ​ไป​กล่าว​ขอโทษ​ด้วยตัวเอง​ ​และ​ทาง​ด้าน​โหวฮู​หยิน​ก็​สะเพร่า​ไป​แล้ว​จริงๆ​”

กล่าว​จบ​ ​นาง​กระซิบ​ที่​ข้าง​หู​นาย​หญิง​รอง​ว่า​ ​“​ได้ยิน​ว่า​เป็นความ​คิด​ของ​กู​ไหน​่​ไน​รอง​ ​แต่​โหวฮู​หยิน​ไม่รู้​เจ้าค่ะ​”

นี่​เท่ากับ​อธิบาย​ปัญหา​ทั้งหมด​ได้​แล้ว​ ​กล่าวคือ​โหวฮู​หยิน​ไม่​เพียง​สอนสั่ง​ฉัง​หนิง​ให้​ดี​ไม่ได้​ ​ยัง​ควบคุม​ดูแล​คน​ข้าง​กาย​ให้​ดี​ไม่ได้​ด้วย

นาย​หญิง​รอง​เบ้​ปาก​ ​รู้สึก​ว่า​หาก​มิใช่​เพราะ​โหวฮู​หยิน​ได้​แต่งงาน​มีตำ​แหน่ง​ดีกว่า​ ​นาง​ก็​คง​ไม่ได้​ดีเด่น​มากความ​สามารถ​ไป​กว่า​ตน

“​ข้า​จะ​ช่วย​ท่าน​เดินทาง​ไป​ตระกูล​หวัง​สักครั้ง​หนึ่ง​เอง​เจ้าค่ะ​”​ ​หัน​ซื่อ​เสนอ​ความเห็น​ให้​แม่​สามี​ต่อ​ ​“​พวกเรา​คง​ไม่​อาจ​เอาแต่​พึ่งพา​จวน​โหวต​ลอด​ไป​หรอก​กระมัง​”

นี่​หาก​แยก​บ้าน​ออก​ไป​ ​จะ​ไม่มี​สายสัมพันธ์​ของ​ตัวเอง​เลย​ไม่ได้​!

นาย​หญิง​รอง​สนใจ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​ไม่​เพียง​ให้​หัน​ซื่อ​ไป​ตระกูล​หวัง​เท่านั้น​ ​ยัง​ส่ง​ของขวัญ​ล้ำค่า​ไป​ให้​เป็น​จำนวนมาก​อีกด้วย

เมื่อ​หัน​ซื่อ​เจอ​หวัง​ซี​ ​คำพูดคำจา​ก็​กล่าว​ได้​อย่าง​น่าฟัง​ ​“​ข้า​รู้​ว่า​เจ้า​ระคาย​ใจ​กู​ไหน​่​ไน​รอง​ ​ข้า​เอง​ก็​รู้สึก​เช่นกัน​ว่า​เรื่อง​นี้​ไม่​ถูกต้อง​ ​คิด​ว่า​ต่อให้​เจ้า​ไป​ ​ใน​ใจ​ก็​ไม่มี​ความสุข​ ​มิสู​้​พักผ่อน​อยู่​ที่​บ้าน​ดีกว่า​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ญาติ​หรือไม่​ใช่​ญาติ​ ​ก็​ต้อง​ไปมาหาสู่​กัน​บ่อยๆ​ ​ถึง​จะ​สนิทสนม​กันได​้​ ​ไม่อย่างนั้น​จะ​มีคำ​กล่าว​เก่าแก่​ที่​บอกว่า​ญาติ​ห่างไกล​มิสู​้​เพื่อนบ้าน​ชิด​ใกล้​เกิดขึ้น​มา​ได้​อย่างไร​”

ไม่​เอ่ยถึง​แม่​สามี​ของ​นาง​เลย​แม้แต่​ครึ่ง​ประโยค

หวัง​ซีจึง​รู้สึก​ว่า​หัน​ซื่อ​ผู้​นี้​เก่งกาจ​กว่า​แม่​สามี​ของ​นาง​มาก

นาง​ขบคิด​อยู่​ใน​ใจ​ว่านาย​หญิง​รอง​นั้น​ภาคภูมิใจ​ใน​ตัว​คุณชาย​สาม​ฉั​งบุ​ตร​ชาย​คนโต​ของ​ตัวเอง​เป็น​ที่สุด​ ​หาก​นาง​ยุแยง​ให้​หัน​ซื่อ​แยก​บ้าน​กับ​แม่​สามี​ ​ไม่รู้​ว่านาย​หญิง​รอง​จะ​ทำ​หน้า​อย่างไร

อย่างไรก็ตาม​ ​ความคิด​ดังกล่าว​ก็​แค่​ผ่าน​มา​แล้ว​ผ่าน​ไป

นาง​ยัง​ไม่มีเวลา​มาสน​ใจ​เรื่อง​นี้

วันที่​ฉัง​เคอ​ออกเรือน​ ​นาง​กลับ​เดินทาง​ไป​ถึง​ตั้งแต่​เช้าตรู่​ ​ยัง​ลาก​จิน​ซื่อ​ไป​เจอ​ฉัง​เคอ​ด้วย

จิน​ซื่อ​แอบ​ยัด​ตั๋วเงิน​หนึ่ง​พัน​ตำลึง​ให้​ฉัง​เคอ​เงียบๆ​ ​ยัง​กระซิบ​บอก​นาง​ด้วยว่า​ ​“​ให้​เจ้า​เก็บ​ไว้​เป็น​เงิน​ส่วนตัว​ ​ไม่ต้อง​บันทึก​ลง​ใบ​รายการ​ของขวัญ​ ​แล้วก็​อย่า​บอก​ผู้อื่น​ด้วย​ ​ไม่อย่างนั้น​คง​ทำให้​ผู้อื่น​ขุ่นเคือง​ใจ​แน่​”

ความหมาย​โดยนัย​ก็​คือ​ไม่ได้​ให้​ฉัง​หนิง​กับ​ฉัง​เหยี​ยน

ฉัง​เคอ​ไม่สบายใจ​ ​อยาก​บอก​จิน​ซื่อ​ว่า​หวัง​ซี​แอบ​ให้​ร้านค้า​นาง​หนึ่ง​ร้าน​ไป​แล้ว​ ​อีกทั้ง​คิด​ว่า​หวัง​ซี​เอง​ก็​ใกล้​จะ​ออกเรือน​แล้ว​ ​จิน​ซื่อ​ยัง​ต้องเต​รี​ยม​สิน​เจ้าสาว​ให้​หวัง​ซี​และ​ต้อง​เอา​เงิน​มาจาก​ที่​บ้าน​อีก​ ​แต่​ก็​กลัว​ว่า​หาก​จิน​ซื่อ​ทราบ​เรื่อง​แล้ว​จะ​ไม่พอใจ​ ​หรือ​ตน​พูด​ออก​ไป​แล้ว​อาจ​ทำให้​จิน​ซื่อ​กับ​หวัง​ซี​มี​รอย​บาดหมาง​กัน​แทน​ ​จึง​ได้​แต่​กล่าว​ขอบคุณ​ครั้งแล้วครั้งเล่า​และ​รับเอา​ไว้​ ​ทว่า​เอาเรื่อง​นี้​ไป​เล่า​ให้​นาย​หญิง​สาม​ฟัง​แทน

นาย​หญิง​สาม​นึกถึง​สินสอด​ที่​ตระกูล​เวิน​นำมา​ให้​แล้ว​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ไม่ต้อง​กลัว​ ​ตอน​อา​ซี​ออกเรือน​ ​เจ้า​ตอบแทน​นาง​ดี​ๆ​ ​ก็ได้​แล้ว​”

ถึง​เวลา​บุตรสาว​ของ​นาง​ก็​มี​ความสามารถ​ตอบแทน​น้ำใจ​ดังกล่าว​แล้ว​เช่นกัน

จากนั้น​เพียงพริบ​ตาเดียว​ก็​ถึง​วัน​คล้าย​วันเกิด​ของ​จ่าง​กง​จู่​ใน​เดือน​สี่

จ่าง​กง​จู่​ไม่​อยาก​จัดงาน​ใหญ่โต​ ​ตอนที่​เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​มาส​อบ​ถาม​ ​นาง​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ข้า​จะ​เป็น​แม่​สามี​คน​อยู่​แล้ว​ ​ยัง​จะ​จัดงาน​วัน​คล้าย​วันเกิด​อะไร​อีก​!​”

เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​หัวเราะ​ร่า​ ​กล่าวว่า​ ​“​มิใช่​เพราะ​กำลังจะ​เป็น​แม่​สามี​แล้ว​ถึง​ยิ่ง​สมควร​จัดงาน​วัน​คล้าย​วันเกิด​หรอก​หรือ​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​ปีนี​้​จัด​ง่ายๆ​ ​สบาย​ๆ​ ​หน่อย​ก็ดี​เหมือนกัน​ ​ปีหน้า​แต่ง​สะใภ้​เข้า​บ้าน​แล้ว​ ​ค่อย​ให้​สะใภ้​จัด​ให้ท่าน​ ​รอ​ได้​อุ้ม​หลานชาย​แล้วก็​ให้​หลานชาย​จัด​ให้ท่าน​”

จ่าง​กง​จู่​พูดคุย​กับ​เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​อย่าง​ยิ้มแย้ม​ไป​กว่า​ครึ่ง​ค่อนวัน​ ​แต่​พอ​เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​กลับ​ไป​แล้ว​ ​สีหน้า​นาง​สลด​ลงมา​ ​ยัง​ให้​ชุ่ย​กู​หยิบ​กระจก​มา​ให้​นาง​ส่อง​ดู​ครั้งแล้วครั้งเล่า​อีกด้วย​ ​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​ยัง​ไม่ได้​แก่​ขนาด​นั้น​กระมัง​ ​เหตุใด​เพียงพริบ​ตาเดียว​ก็​จะ​ต้อง​อุ้ม​หลานชาย​เป็น​ย่า​คน​แล้ว​”

ขณะที่​กล่าว​ ​ตัวเอง​ก็​สั่นเทิ้ม​ไป​ครั้งหนึ่ง​ก่อน​เป็น​คน​แรก

ชุ่ย​กู​ได้​แต่​ปลอบ​นาง​ว่า​ ​“​ต่อให้​เป็น​ท่าน​ย่า​ ​ท่าน​ก็​เป็น​ท่าน​ย่า​ที่​ดู​อ่อนวัย​และ​งดงาม​ที่สุด​เจ้าค่ะ​”

จ่าง​กง​จู่​รู้สึก​ว่า​ตอนนี้​ตน​ยัง​รู้สึก​ยาก​ที่จะ​ทำใจ​ยอมรับ​ได้​ ​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​ว่า​ ​ข้า​ให้​พวกเขา​แยก​บ้าน​ออก​ไป​เป็น​อย่างไร​”

เมื่อ​ตา​ไม่เห็น​ใจ​ก็​เป็นสุข​ ​ปิด​หู​ขโมย​ระฆัง​ ​เรื่อง​ประเภท​นี้​ปิด​ไว้​ได้​นาน​เท่าไร​ก็​ปิด​ให้​นาน​เท่านั้น​ดีกว่า

ชุ่ย​กู​ไม่รู้​จะ​พูด​อะไร​ดี​ไป​ชั่วขณะ

งาน​วัน​คล้าย​วันเกิด​ครั้งนี้​จ่าง​กง​จู่​ส่ง​เทียบ​เชิญ​ไม่​มาก​นัก​ ​ไม่​รบกวน​ไป​ถึง​เฉิน​เจ​วี​๋ย​ทางโน้น

ทว่า​เฉิน​เจ​วี​๋​ยก​ลับ​ฝ่า​ลม​คลุกฝุ่น​เร่ง​เดินทาง​กลับมา​จาก​เฉิง​โจว​ ​ตอน​มา​เยี่ยม​จ่าง​กง​จู่​ยัง​ทำที​เป็น​มอง​ซ้าย​มอง​ขวา​พลาง​กล่าวว่า​ ​“​เหตุใด​ไม่เห็น​คุณหนู​หวัง​ ​เรื่องใหญ่​ขนาด​นี้​ ​นาง​ไม่​มาช​่วย​ได้​อย่างไร​”

เด็กสาว​ที่​ยัง​ไม่​ออกเรือน​ ​ผู้ใด​มาช​่ว​ยงา​นที​่​บ้าน​สามี​บ้าง​?

นอก​เสีย​จาก​ว่า​อยาก​ประจบสอพลอ​บ้าน​สามี​จน​ไม่สน​แม้แต่​หน้าตา​และ​เกียรติ

สีหน้า​ของ​จ่าง​กง​จู่​พลัน​เปลี่ยนเป็น​ไม่น่า​ดู​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​ปกติ​ล้วน​แสร้งทำ​ไม่​เป็น​ไม่รู้​ ​ทว่า​ครานี​้​ไม่ยอม​ให้​นาง​เคยตัว​อีก​ ​กล่าว​อย่าง​เย็นชา​ว่า​ ​“​ข้า​ไม่เคย​รู้​เลย​ว่า​ก่อน​แต่งงาน​เจ้า​ไป​ช่วย​งาน​ที่​ตระกูล​ติง​ด้วย​ ​เห็นได้ชัด​ว่าห​มัว​มัว​สอน​มารยาท​ที่อยู่​ข้าง​กาย​เจ้า​ไม่รู้​จัก​กฎระเบียบ​เลย​แม้แต่น้อย​”

นาง​หันไป​ถาม​ชุ่ย​กู​ว่า​ ​“​ทุกวันนี้​ผู้ใด​เป็น​คน​ปรนนิบัติ​รับใช้​อยู่​ข้าง​กาย​กู​ไหน​่​ไน​ใหญ่​?​”

“​หวังห​มัว​มัว​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ชุ่ย​กู​ตอบ​อย่างนอบน้อม

“​เรียก​นาง​กลับมา​”​ ​จ่าง​กง​จู่​กล่าว​เยือกเย็น​ ​“​ข้า​ก็​ว่า​เหตุใด​ทุกครั้งที่​แม่​สามี​ของ​กู​ไหน​่​ไน​ใหญ่​เจอ​ข้า​ล้วน​มีสี​หน้า​กังวลใจ​ ​หาก​ข้ามี​สะใภ้​ที่​ไม่สน​ใจ​เรื่อง​ใน​บ้าน​ของ​ตัวเอง​แม้แต่​เรื่อง​เดียว​ ​แต่​เรื่อง​ของ​ตระกูล​เดิม​กลับ​ต้องการ​สอด​มือ​เข้าไป​ยุ่ง​ทุก​เรื่อง​อย่าง​กู​ไหน​่​ไน​ใหญ่​ล่ะ​ก็​ ​ข้า​เอง​ก็​คง​กังวลใจ​เช่นกัน​ ​กล่าว​ไป​กล่าว​มา​ล้วน​เป็นความ​ผิด​ของ​ข้า​ ​ไม่​ควร​ทิ้ง​นาง​ไว้​กับห​มัว​มัว​สอน​มารยาท​ ​เลี้ยง​จน​นาง​เสียนิ​สัย​ไป​หมด​แล้ว​”

ยัง​กล่าว​กับ​เฉิน​เจ​วี​๋​ยอย​่าง​ใจดี​ว่า​ ​“​บัดนี้​เจ้า​ก็​โต​เป็น​นาย​หญิง​ดูแล​งาน​ใน​บ้าน​ของ​ผู้อื่น​ไป​แล้ว​ ​ต่อให้​ข้า​อยาก​อบรมสั่งสอน​เจ้า​ตอนนี้​ก็​คง​ไม่​เหมาะ​ ​บาง​เรื่อง​เจ้า​คง​ต้อง​จัดการ​ด้วยตัวเอง​ ​แต่ห​มัว​มัว​ที่​ไม่​ยึดถือ​ใน​กฎระเบียบ​เช่นนี้​ไม่​อาจ​ปล่อยไป​ได้​ ​หลีกเลี่ยง​ไม่​ให้​นาง​ทำ​เรื่อง​ของ​เจ้า​เสียหาย​ใน​สักวัน​”

กล่าว​จบ​ก็​ให้​ชุ่ย​กู​ไป​หยิบ​ป้าย​คำสั่ง​ไป​เรียก​คนที​่​ตระกูล​ติง

เฉิน​เจ​วี​๋ย​โกรธ​จน​ไม่​เหลือ​ชิ้น​ดี​แล้ว

ห​มัว​มัว​ข้าง​กาย​นาง​ไม่​ต่าง​จากห​มัว​มัว​ข้าง​กาย​เฉิน​อิง​ ​ล้วน​เป็น​คนที​่​มารดา​ผู้ให้กำเนิด​ของ​พวกเขา​ทิ้ง​เอาไว้​ให้​นาง​ ​ภายหลัง​จ่าง​กง​จู่​มาบ​อก​ว่า​ประทาน​ชาติกำเนิด​ให้ห​มัว​มัว​ทั้งสอง​คน​ใหม่​เป็น​รางวัล​ ​ให้​ขึ้นทะเบียน​กับ​สำนัก​กิจการ​ภายใน​ ห​มัว​มัว​ทั้งสอง​คน​ต่าง​คิด​แค่​ว่า​เป็นเกียรติ​ที่​จ่าง​กง​จู่​ต้องการ​ยกย่อง​พวก​นาง​เท่านั้น​ ​แม้น​ไม่ได้​รับเอา​ไว้​ ​แต่​ก็​ไม่​อาจ​ปฏิเสธ​ได้​ ​จำต้อง​พยายาม​ดูแล​เด็ก​ทั้งสอง​คน​อย่าง​ใส่ใจ​มากขึ้น

ต่อมา​จ่าง​กง​จู่​ก็​ไม่สน​ใจ​เรื่อง​นี้​อีก

พอนาง​โต​ขึ้น​เข้าใจ​ว่า​หลังจาก​เฉินลั​่ว​ถือกำเนิด​แล้ว​ ​ด้วย​ความรัก​ลูก​ของ​ตัวเอง​จ่าง​กง​จู่​คง​คร้าน​จะ​สนใจ​ดูแล​เรื่อง​ของ​พวกเขา​แล้ว​ ​และ​จ่าง​กง​จู่​ก็​ไม่​ค่อย​สนใจ​เรื่อง​ของ​พวกเขา​จริงๆ​ ​พอ​เวลา​ผ่าน​ไป​นาน​วัน​เข้า​ ​นาง​เอง​ก็​ค่อยๆ​ ​ลืม​เรื่อง​นี้​ไป​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ทุกๆ​ ​เดือนห​มัว​มัว​ทั้งสอง​ท่าน​ยัง​มี​เบี้ย​รายเดือน​ห้า​ร้อย​ตำลึง​อีกด้วย​ ​ไม่ใช่​ไม่ได้​อะไร

แต่​วันนี้​ต้อง​จ่าย​ราคาค่างวด​แล้ว​ ​เนื่องจาก​รับ​เบี้ย​รายเดือน​ของ​สำนัก​กิจการ​ภายใน​ ​เช่นนั้น​ก็​ถือเป็นห​มัว​มัว​ของ​สำนัก​กิจการ​ภายใน​ ​สำนัก​กิจการ​ภายใน​จึง​มีอำนาจ​ตัดสินใจ​เรื่อง​ตำแหน่ง​ของ​พวก​นาง

ห​มัว​มัว​ทั้งสอง​ท่าน​ดูแล​นาง​กับ​เฉิน​อิง​มานาน​หลาย​ปี​ ​เป็น​คนที​่​สมควร​ได้รับ​การ​เลี้ยงดู​อย่างดี​ใน​ยาม​บั้นปลาย​อยู่​ใน​จวน​แล้ว​ ​แล้วก็​เป็นหนึ่ง​ใน​คนที​่​นาง​กับ​เฉิน​อิง​ไว้ใจ​ที่สุด​ ​เป็น​แขน​ซ้าย​ขวา​ของ​พวกเขา​ ​นอกจาก​ไม่​อาจ​ยก​ให้​แล้ว​ ​หาก​ถูก​จ่าง​กง​จู่​เรียกตัว​กลับ​ไป​จริงๆ​ ​แล้ว​ถูก​เอา​ไป​ทิ้ง​ไว้​ที่​มุม​ไหน​ก็​ไม่รู้​ ​เช่นนั้น​คน​ข้าง​กาย​นาง​จะ​คิด​อย่างไร

ติดตาม​เจ้านาย​ที่​ไม่มี​อนาคต​ ​ผู้ใด​จะ​ทุ่มเท​แรงกาย​แรงใจ​ให้​ได้

เป็นครั้งแรก​ใน​ชีวิต​ที่​เฉิน​เจ​วี​๋​ยก​ระ​วน​กระ​วาย​ยาม​อยู่​ต่อหน้า​จ่าง​กง​จู่​ ​นาง​จ้อง​จ่าง​กง​จู่​ ​กล่าว​ขึ้น​อย่าง​ตะกุกตะกัก​เล็กน้อย​ว่า​ ​“​ท่าน​ทำ​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​ ​เจ้าเล่ห์​เกินไป​แล้ว​กระมัง​ ​ข้า​อุตส่าห์​คิด​มาต​ลอด​ว่า​ท่าน​เป็น​คน​ไม่เลว​ผู้​หนึ่ง​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​ท่าน​จะ​จงใจ​วางแผนการ​เพื่อ​รอ​วันนี้​!​”

จ่าง​กง​จู่​ไม่​คิด​จะ​มอง​นาง​ตรงๆ​ ​ด้วยซ้ำ​ ​รอนาง​พูด​จบ​แล้ว​ถึง​ได้​จิบ​ชาคำ​หนึ่ง​ ​กล่าว​อย่าง​เรียบ​เฉย​ว่า​ ​“​เจ้า​คิด​เช่นนั้น​มาต​ลอด​อยู่​แล้ว​มิใช่​หรือ​ ​หาก​ข้า​ไม่​ช่วย​ยืนยัน​สิ่ง​ที่​เจ้า​คิด​ ​เจ้า​ก็​คง​ยัง​คิด​ว่า​ข้า​เป็น​คนโง่​ที่​ไม่มี​ความสามารถ​อะไร​ผู้​หนึ่ง​!​”

นาง​ตะโกน​เสียงดัง​ว่า​ ​“​ใครก็ได้​เข้ามา​”​ ​จากนั้น​กล่าวว่า​ ​“​ส่งห​มัว​มัว​ทั้งสอง​ท่าน​ไป​ที่​สำนัก​กิจการ​ภายใน​ ​ให้​พวกเขา​จัดการ​กันเอง​”

นี่​เท่ากับ​ไม่​คำนึงถึง​ความ​เป็นความ​ตาย​แล้ว

“​ไม่​ ​ท่าน​จะ​ทำ​เช่นนี้​ไม่ได้​!​”​ ​เฉิน​เจ​วี​๋ย​หน้าซีด​เผือด​หันไป​หมาย​จะ​พุ่ง​เข้าใส่​จ่าง​กง​จู่​ ​ทว่า​ถูก​ป้า​รับใช้​ข้าง​กาย​จ่าง​กง​จู่​ขวาง​เอาไว้

จ่าง​กง​จู่​มอง​นาง​อย่าง​เหยียดหยัน​ ​ไม่ได้​กล่าว​อะไร

ชุ่ย​กูรู​้​ว่า​จ่าง​กง​จู่​ต้องการ​สั่งสอน​เฉิน​เจ​วี​๋ย​เพื่อ​หลีกเลี่ยง​ไม่​ให้​หวัง​ซี​ต้อง​ไม่สบายใจ​หลังจากที่​แต่ง​เข้ามา​เพราะ​มีพี​่​สาว​สามี​เช่นนี้

นอกจากนี้​นาง​เอง​ก็​ไม่​ค่อย​ชอบใจห​มัว​มัว​ทั้งสอง​คน​เช่นกัน​ที่​ชอบ​พูด​ไร้สาระ​ต่อหน้า​พวก​เด็ก​ๆ​ ​ทำให้​เรื่องเล็ก​กลายเป็น​เรื่องใหญ่​ ​เรื่องใหญ่​กลายเป็น​เรื่อง​ที่​หาทาง​ลง​ไม่ได้​ ​จึง​รีบ​หยิบ​ป้าย​คำสั่ง​แล้ว​มุ่งหน้า​ออก​ไป​ข้างนอก

เฉิน​เจ​วี​๋ย​ไม่เคย​เห็น​จ่าง​กง​จู่​ที่​เป็น​เช่นนี้​มาก​่อน​ ​นาง​ชะงักงัน​อยู่​ตรงนั้น​ไป​ชั่วขณะ​ ​ผ่าน​ไป​ครู่ใหญ่​ถึง​ได้สติ​กลับมา​ ​ร้อง​เสียงหลง​ให้​สาวใช้​เด็ก​ตาม​ชุ่ย​กู​ไป

เด็กสาว​เหล่านั้น​จะ​กล้า​ทำได้​อย่างไร

เพียง​แสร้ง​วิ่ง​ตาม​ออก​ไป​ตามหน้าที่​เท่านั้น

ส่วน​นาง​ยืน​อยู่​กลาง​ห้องโถง​ด้วย​ใบหน้า​ซีดเผือด​ ​จะ​ก้าว​หรือ​จะ​ถอย​ก็​ยากลำบาก​ทั้งสอง​ทาง​ ​ได้​แต่​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​จะ​ไป​บอก​ท่าน​พ่อ​ของ​ข้า​!​”

จ่าง​กง​จู่​ไม่​ยก​หาง​ตา​ขึ้น​ด้วยซ้ำ​ ​มอง​เฉิน​เจ​วี​๋ย​จ้ำ​อ้าว​ออก​ไป​อย่างรวดเร็ว

พวก​สาวใช้​เด็ก​เก็บ​ถ้วย​ชากั​นอย​่าง​เบามือ​เบา​เท้า

มุม​ปาก​ชิง​กู​แต้ม​ยิ้ม​ ​ประคอง​จ่าง​กง​จู่​กลับ​ห้อง

จ่าง​กง​จู่​ถอนใจ​กล่าวว่า​ ​“​ที่นา​งก​ลาย​เป็น​เช่นนี้​ ​ข้า​เอง​ก็​มีส่วน​ต้อง​รับผิดชอบ​เช่นกัน​”

หาก​นาง​สนใจ​ดูแล​เฉิน​เจ​วี​๋​ยสั​กหน​่อย​ ​ดึง​เอา​คน​ข้าง​กาย​นาง​ที่​มี​เจตนาร้าย​ซ่อนเร้น​เหล่านั้น​ออก​ไป​ ​นาง​จะ​ไม่​โง่เขลา​ถึงขนาด​นี้​หรือไม่

เฉิน​เจ​วี​๋ย​ไป​ฟ้อง​ไม่​เป็นผล​เนื่องจาก​เจิ​้​นกั​๋​วก​งกับ​เฉิน​อิง​ตาม​ฮ่องเต้​เสด็จ​ไป​ที่​เซ​วี​ยนฝู​่

ฮ่องเต้​ประสงค์​ไปดู​การป้องกัน​เมือง​ของ​ทาง​นั้น​สักหน่อย

เฉินลั​่​วกับ​จ่าง​กง​จู่​รั้ง​อยู่​จิง​เฉิง​ ​จ่าง​กง​จู่​จัดงาน​วัน​คล้าย​วันเกิด​อย่าง​เงียบๆ

หวัง​ซี​ไม่ได้​ไปร​่ว​มงาน

นาง​เป็น​ว่าที่​ภรรยา​ของ​เฉินลั​่​วก​็​จริง​ ​แต่​สุดท้าย​แล้วก็​ยัง​ไม่ได้​ตบแต่ง​ ​ไปร​่ว​มงาน​ด้วย​จึง​ดู​ไม่​ค่อย​ดีนัก​ ​จิน​ซื่อ​กับ​หวัง​เฉิน​เป็นตัวแทน​ของ​ตระกูล​หวัง​ไปร​่วม​แสดงความยินดี

ฉัง​เคอ​ตั้งใจ​มา​อยู่​เป็นเพื่อน​หวัง​ซี​เป็นพิเศษ

หวัง​ซี​ถาม​อย่างแปลกใจ​ว่า​ ​“​ครอบครัว​ของ​พี่เขย​ไม่ว่า​อะไร​หรือ​”

ดู​จาก​สิ่ง​ที่​ตระกูล​เวิน​ตระเตรียม​ให้​เวิน​เจิง​ก็​รู้​ได้​ถึง​ความทะเยอทะยาน​ของ​พวกเขา​แล้ว​ ​งาน​วัน​คล้าย​วันเกิด​ของ​จ่าง​กง​จู่​เป็น​โอกาส​อัน​ดียิ่ง​ที่จะ​ได้​สร้าง​สายสัมพันธ์​กับ​ผู้คน

ฉัง​เคอ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เจ้า​เอง​ก็​ไม่​ไป​มิใช่​หรือ​”

หวัง​ซี​หัวเราะ​อย่าง​กระดากอาย​ ​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​ไม่ต้อง​สนใจ​ข้า​ ​ข้า​ไม่​อยาก​ไป​จริงๆ​”

นาง​กลัว​ตัวเอง​จะ​ถูก​ชักจูง​เข้าไป​ใน​สวนป่า​นั่น​อีกครั้ง​แล้ว​เห็น​เรื่อง​อะไร​เข้า​อีก

ตอนนี้​สถานะ​ของ​นาง​ไม่​เหมือน​เมื่อก่อน​แล้ว​ ​เมื่อก่อน​นาง​รู้เรื่อง​อะไร​ไป​ก็​ไม่เป็นไร​ ​ทว่า​บัดนี้​ไม่​อาจ​เห็น​อีก​เป็นอันขาด

ฉัง​เคอ​ยิ้ม​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​วางใจ​เถอะ​!​ ​พี่เขย​ของ​เจ้า​ไป​ก็​เหมือนกัน​แล้ว​มิใช่​หรือ​ ​พวกเรา​ควร​ถือโอกาส​ตอนที่​พวกเขา​ไม่อยู่​มาคุ​ยกัน​ให้​หนำใจ​ถึง​จะ​ถูก​”

หวัง​ซี​ไม่เห็นด้วย​ ​กล่าวว่า​ ​“​เป็น​เจ้า​คนเดียว​ ​มิใช่​พวกเรา​ ​ข้า​อยู่​ที่นี่​มีเรื่อง​สนุก​ให้​ทำ​มากมาย​”

“​ได้​ๆ​ๆ​ ​ข้า​พูด​ผิด​ไป​แล้ว​พอใจ​หรือยัง​”​ ​ฉัง​เคอ​กล่าว​ขอโทษ​ด้วย​รอยยิ้ม​กว้าง​ ​หา​ได้​มี​ความจริงใจ​แม้แต่น้อย

สอง​พี่น้อง​จึง​หัวเราะ​ออกมา​เป็น​เสียง​เดียวกัน

…………………………………………………………….