ฤดูใบไม้ผลิ​เป็น​ฤดูกาล​ของ​การกิน​ผักสด

หวัง​ซีกับ​ฉัง​เคอ​อยู่​บ้าน​ห่อ​เกี๊ยว​ไส้​ผัก​จี้​ไช​่

เวิน​เจิง​ไปร​่ว​มอว​ยพร​วัน​คล้าย​วันเกิด​จ่าง​กง​จุ​่

เนื่องด้วย​เห็นแก่​ฉัง​เคอ​ ​เฉินลั​่​วจึง​จัด​ให้​เวิน​เจิง​นั่ง​โต๊ะ​ตัว​ที่สอง​รอง​จาก​โต๊ะ​ของ​เจ้าภาพ​ ​คนที​่​นั่ง​ร่วมโต๊ะ​หาก​มิใช่​เพื่อนร่วมงาน​เก่า​ของ​เฉินลั​่​วที​่​กองพล​ม้า​ทะยาน​ก็​เป็น​เหล่า​ผู้บังคับบัญชา​ ​รอง​ผู้บังคับบัญชา​และ​ผู้ช่วย​ผู้บังคับบัญชา​ของกอง​พล​ทองคำ​ทั้ง​สี่​ ​ส่วน​โต๊ะ​เจ้าภาพ​มี​องค์​ชาย​ใหญ่​ ​องค์​ชาย​รอง​ ​องค์​ชาย​เจ็ด​ ​บุตรชาย​ทั้งสอง​คน​ของ​หลิน​อาน​ต้า​จ่าง​กง​จู่​ ​และ​หวัง​เฉิน​เป็นต้น

ทุกคน​ต่าง​พูดคุย​สรวลเสเฮฮา​กัน​ ​อยาก​เย้า​เฉินลั​่​วว​่า​รีบ​แต่งงาน​หรือไม่​ ​แต่​พอ​เห็น​ว่า​หวัง​เฉิน​นั่ง​อยู่​ที่​โต๊ะ​ด้วย​ก็​ไม่กล้า​พูด​อะไร​มาก​ ​ได้​แต่​ยักคิ้วหลิ่วตา​แต่​ก็​ครึกครื้น​มาก​ทีเดียว

คนที​่​อยู่​เป็นเพื่อน​จ่าง​กง​จู่​ทาง​ด้านหลัง​ก็​มี​หลิน​อาน​ต้า​จ่าง​กง​จู่​ ​เจียง​ชวน​ป๋อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​และ​จิน​ซื่อ​เป็นต้น

หลิน​อาน​ต้า​จ่าง​กง​จู่​มอง​จ่าง​กง​จู่​แล้ว​ถอนใจ​กล่าวว่า​ ​“​เพียงพริบ​ตา​เป่า​ชิ่ง​ก็​จะ​ได้​เป็น​แม่​สามี​แล้ว​”​ ​จากนั้น​ถาม​จิน​ซื่อ​ว่า​ ​“​พวก​เจ้า​เลือก​วัน​มงคล​หรือยัง​ ​ข้า​คิด​ว่า​หน้า​ใบไม้​ร่วง​กำลังดี​ ​ไม่​หนาว​และ​ไม่​ร้อน​ ​จัดงาน​เลี้ยง​เพิ่ม​สัก​สอง​สาม​วัน​ ​พวกเรา​จะ​ได้มา​สนุก​ด้วยกัน​”

จ่าง​กง​จู่​ให้เกียรติ​ตระกูล​หวัง​ ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เรื่อง​นี้​ข้า​ไม่​อาจ​ตัดสินใจ​ได้​ ​ต้อง​ถาม​สะใภ้​ใหญ่​หวัง​แล้ว​”

จิน​ซื่อ​ยิ้ม​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​เอง​ก็​หา​ใช่​คนที​่​ตัดสินใจ​ได้​!​ ​นาย​หญิง​ผู้เฒ่า​กับ​นาย​หญิง​ของ​พวก​ข้า​กำลัง​เร่ง​เดินทาง​มา​จิง​เฉิง​เจ้าค่ะ​!​”

หลิน​อาน​ต้า​จ่าง​กง​จู่​ได้ยิน​เช่นนั้น​แล้ว​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​เหตุใด​ทั้งสอง​ท่าน​ถึง​ไม่​เดินทาง​เข้า​เมืองหลวง​พร้อมกับ​เจ้า​”​

ได้ยิน​ว่า​ตระกูล​หวัง​ให้ความสำคัญ​กับ​หลานสาว​ผู้​นี้​มาก​ ​ตาม​หลัก​ควร​มาส​่ง​นาง​แต่งงาน​ด้วย​ถึง​จะ​ถูก

จิน​ซื่อ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​นี่​มิใช่​เพราะ​คิดไม่ถึง​ว่าน​้​อง​เล็ก​ของ​พวก​ข้า​จะ​ได้​แต่ง​มาที​่​จิง​เฉิง​หรอก​หรือ​ ​สิน​เจ้าสาว​ที่​เคย​เตรียม​เอาไว้​ก่อนหน้านี้​ล้วน​อยู่​ที่​สู่​จง​ ​ข้าวของ​มากมาย​นัก​ ​ข้า​เอง​ก็​ต้อง​เร่ง​ออกเดินทาง​ ​ตอนนั้น​ยัง​ตรวจ​นับ​กัน​ไม่เสร็จ​ ​แม่​สามี​กับ​ท่าน​ย่า​ของ​ข้า​ก็​เลย​จะ​เดินทาง​มา​พร้อมกับ​สิน​เจ้าสาว​ ​จะ​ได้​มี​เวลา​จัดการ​เรื่อง​สิน​เจ้าสาว​อีกหน่อย​”

เหล่า​สตรีที​่​นั่ง​อยู่​ใน​งาน​ต่าง​แลกเปลี่ยน​สายตา​กัน​อย่าง​ห้าม​ไม่อยู่

ดูแล​้ว​ข่าวลือ​คง​เป็นความ​จริง​ ​ตระกูล​หวัง​ร่ำรวย​มาก​จริงๆ

แต่​หลิน​อาน​ต้า​จ่าง​กง​จู่​กลับ​ไม่ได้​รู้สึก​ว่า​มี​อะไร​พิเศษ

ได้​ดอง​กับ​ราชวงศ์​ ​ผู้ใด​ไม่รู้​สึก​ว่า​มีเกียรติ​บ้าง​ ​เนื่องด้วย​กลัว​ถูก​ผู้อื่น​ดูแคลน​ ​จึง​มี​คน​จำนวนมาก​เอา​ทรัพย์สิน​มากกว่า​ครึ่ง​ของ​ตระกูล​ออกมา​เป็น​สิน​เจ้าสาว​ให้​บุตรสาว​ ​การ​ที่​ตระกูล​หวังมี​ความคิด​เช่นนี้​ก็​เป็นเรื่อง​ที่​เข้าใจ​ได้

มี​เพียง​เซียง​หยาง​โหวฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เท่านั้น​ ​นับตั้งแต่​ที่​ชิ่ง​อวิ​๋น​ป๋อ​เริ่ม​ชิงไหวชิงพริบ​กับ​ฮ่องเต้​เป็นต้นมา​ ​งานแต่ง​ของ​หลานสาว​คนโต​ที่​เคย​ทำให้​นาง​เอา​ไป​อวดอ้าง​ได้​ใน​ปีนั​้​นก​็​กลายเป็น​ความทุกข์​ใจ​หนึ่ง​ของ​นาง​แทน

หาก​สุดท้าย​แล้ว​องค์​ชาย​รอง​ไม่ได้​ขึ้น​เป็น​จักรพรรดิ​ ​ครอบครัว​พวก​นาง​จะ​ถูก​จวน​ชิ่ง​อวิ​๋น​ป๋อ​ลาก​เข้าไป​ติดร่างแห​ด้วย​หรือไม่

ถ้า​ครอบครัว​ของ​พวก​นาง​ถูก​ลาก​เข้าไป​ติดร่างแห​ด้วย​ ​จะ​หาวิ​ธี​ดอง​กับ​ใคร​สัก​ตระกูล​ที่​ทำให้​บ้าน​พวก​นาง​พ้น​จาก​จุด​ที่​ต้อง​พ่ายแพ้​ไป​ด้วย​ได้​หรือไม่

องค์​ชาย​ใหญ่​คง​เป็นไปไม่ได้​แล้ว

ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​ที่​เด็กสาว​จาก​ครอบครัว​พวก​นาง​ไม่​อาจ​ไป​เป็น​อนุชา​ยา​ของ​องค์​ชายเลย​ ​แม้แต่​บ้านเดิม​ของ​พระ​ชายา​องค์​ชาย​ใหญ่​ก็​เป็น​ตระกูล​ที่​ตกต่ำ​แล้ว​ตระกูล​หนึ่ง​ ​ใน​บ้าน​ไม่มี​พี่น้อง​ให้​พึ่งพา​ได้​เลย​สัก​คน​ ​หาก​เข้าไป​ข้องเกี่ยว​ด้วย​คง​สลัด​ตัว​ออกมา​ได้​ยาก​ ​ส่วน​องค์​ชาย​เจ็ด​ ​เขา​อายุ​น้อย​เกินไป​ ​โอกาส​ได้​เป็น​รัชทายาท​คงมี​ไม่​มาก​ ​หาก​ให้​หลานสาว​แต่ง​เข้าไป​เป็น​พระ​ชายา​องค์​ชาย​สัก​คน​ ​ความสัมพันธ์​ก็​จะ​แนบแน่น​กัน​เกินไป​ ​ซึ่ง​มิใช่​เรื่อง​ที่​ดีนัก​ ​จะ​ให้​ดีที​่​สุด​คือ​เป็น​ญาติ​ดอง​กับ​พระ​ชายา​องค์​ชาย​เจ็ด​ ​แต่​จนถึง​บัดนี้​ก็​ยัง​ไม่รู้​เลย​ว่า​ฮ่องเต้​มี​ความคิด​อย่างไร​ ​จะ​หมั้น​หมาย​หญิงสาว​จาก​ตระกูล​ใด​ให้​องค์​ชาย​เจ็ด

ช่าง​น่า​ปวดหัว​ยิ่งนัก​!

เซียง​หยาง​โหวฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​นั่ง​อยู่​ตรงนั้น​อย่างใจ​ลอย​เล็กน้อย

จู่ๆ​ ​ก็ได้​ยิน​คน​เรียก​นาง​ ​“ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​”

นาง​ได้สติ​กลับมา​ ​รีบ​ปรับ​อารมณ์​ให้​ยิ้มแย้ม​แล้ว​หันไป​มอง​คน​เรียก

เป็น​นาย​หญิง​จาก​สาย​รอง​ท่าน​หนึ่ง​ของ​จวน​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ ​เรียงลำดับ​เป็น​คนที​่​สาม​ของ​บ้าน​ ​สามี​มีนาม​ว่า​เฉิน​หยาง​ ​ทุกคน​ต่าง​เรียก​นาง​ว่า​ ​‘​นาย​หญิง​สาม​หยาง​’​ ​เป็น​คน​ไหล​ลื่น​เข้าสังคม​เก่ง​ ​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​เจิ​้​นกั​๋​วกง​และ​จ่าง​กง​จู่​ตึงเครียด​ขนาด​นี้​ ​นาง​ยัง​ไปมาหาสู่​กับ​ทั้งสองฝ่าย​ได้​อย่าง​ไม่​เป็นปัญหา

นาง​กระซิบ​ถาม​เซียง​หยาง​โหวฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ว่า​ ​“​คุณหนู​ห้า​ของ​พวก​ท่าน​หมั้น​หมาย​แล้ว​หรือ​”

เซียง​หยาง​โหวฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​มุ่น​คิ้ว​เล็กน้อย​จน​แทบ​มองไม่เห็น

เฉิน​หยาง​ได้​ทำงาน​เป็น​หัวหน้า​กอง​ธง​ใหญ่​อยู่​ที่​กองพล​ทองคำ​ผ่าน​การ​ช่วยเหลือ​ของ​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ ​เป็น​คน​ค่อนข้าง​เจ้าเล่ห์​ไหล​ลื่น​ ​แต่​ก็​ชอบ​ดื่ม​สุรา​ ​เมื่อ​ได้​ดื่ม​สุรา​แล้วก็​ไม่มีสติ​ ​ด้วยเหตุนี้​นั่ง​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​หัวหน้า​กอง​ธง​ใหญ่​มาสิ​บก​ว่า​ปี​แล้วก็​ยัง​ไม่ได้​ขยับ​ไป​ไหน​ ​คนที​่​คบค้าสมาคม​ด้วย​ก็​ล้วนแล้วแต่​เป็น​คนที​่​สถานะ​ไม่​ต่างกัน​เหล่านั้น​ทั้งสิ้น

ให้​นาย​หญิง​สาม​หยาง​เป็น​แม่สื่อ​ ​จะ​เป็น​แม่สื่อ​เช่นไร​ได้​?

แต่​ก็​ไม่​คุ้มค่า​ที่นาง​จะ​ผิดใจ​กับ​คน​เช่นนี้​ ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ยัง​ไม่ได้​หมั้น​หมาย​แต่​ก็​มี​คน​มาทา​บทาม​ไม่น้อย​ ​ข้า​กำลัง​ช่วย​นาง​ดูตัว​อยู่​ ​เจ้า​เอง​ก็​รู้​ ​การ​แต่งงาน​ของ​เด็กสาว​ก็​เหมือน​การเกิดใหม่​เป็น​ครั้ง​ที่สอง​ ​ไม่​อาจ​กระทำ​อย่าง​ลวกๆ​ ​ได้​”

ความหมาย​โดยนัย​ก็​คือ​ ​ไม่มีทาง​แต่ง​กับ​คน​ทั่วไป​นั่นเอง

ไม่รู้​ว่า​เป็น​เพราะ​นาย​หญิง​สาม​หยาง​ผู้​นั้น​หมายมั่น​ใน​ตัว​คุณหนู​ห้า​จวน​เซียง​หยาง​โหว​เอาไว้​นาน​แล้ว​ ​หรือ​เป็น​เพราะ​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​เป็น​แม่สื่อ​ที่​ดี​ได้​จริงๆ​ ​กัน​แน่​ ​นาง​ได้ยิน​เช่นนั้น​แล้ว​พยักหน้า​หงึกๆ​ ​ยิ้ม​กล่าวว่า​ ​“​เป็น​เหตุผล​นี้​จริงๆ​!​ ​ฉะนั้น​แล้ว​ข้า​อยาก​เป็น​แม่สื่อ​ให้​คุณหนู​ห้า​ของ​พวก​ท่าน​”

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​จวน​เซียง​หยาง​โหว​ไม่​อยาก​ฟัง

แต่​นาย​หญิง​สาม​หยาง​ผู้​นั้น​กลับ​กล่าว​อย่าง​เอาใจ​ว่า​ ​“​เป็น​หัวหน้า​กอง​ธง​ใหญ่​ท่าน​หนึ่ง​ของกอง​พล​ทองคำ​ ​เข้าสู่​ตำแหน่ง​ด้วย​การ​แต่งตั้ง​พิเศษ​ ​เรื่อง​ใน​บ้าน​ข้า​ไม่พูดถึง​แล้ว​ ​มี​เพียง​หนึ่ง​สาย​เท่านั้น​ ​ป้า​ของ​เขา​ก็​คือ​หนิง​ผิน​ของ​วัง​หลวง​ ​ท่าน​ก็​ลองดู​ว่า​ดี​หรือไม่​”

ย่อม​ไม่​อาจ​พูดว่า​สตรี​ชั้นสูง​ใน​วัง​ไม่ดี​อยู่​แล้ว

แต่​คน​เป็น​ป้านี​้​ก็​แบ่ง​ได้​หลากหลาย​ประเภท​ ​บ้าง​ไม่​คิด​จะ​ยอมรับ​เจ้า​แม้แต่น้อย​ ​บ้าง​ก็​รัก​หลาน​ๆ​ ​จาก​บ้านเดิม​ดั่ง​เป็น​แก้วตาดวงใจ​ ​บ้าง​ก็​เพียง​ใช้​แซ่​ร่วมกัน​เท่านั้น

แต่​เซียง​หยาง​โหวฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​กำลัง​คิด​เรื่อง​ควร​ไม่​ควร​ดอง​กับ​องค์​ชาย​เจ็ด​อยู่​มิใช่​หรือ

นาง​เปลี่ยนใจ​ ​โน้ม​ร่าง​ไป​ทาง​ตำแหน่ง​ที่นาย​หญิง​สาม​หยาง​นั่ง​อยู่​ ​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​ลอง​เล่า​ให้​ข้า​ฟัง​อย่างละเอียด​ที​ว่า​ครอบครัว​พวกเขา​เป็น​อย่างไร​”

นี่​หมายความว่า​เริ่ม​สนใจ​แล้ว

นาย​หญิง​สาม​หยาง​พลัน​เริงร่า​ขึ้น​มา​ ​พรั่งพรู​เรื่องราว​ออกมา​ไม่​หยุด

คนที​่​นั่ง​อยู่​ด้วย​มี​จำนวน​ไม่น้อย

จวบจนกระทั่ง​นาย​หญิง​สาม​หยาง​เล่า​จบ​ ​ข่าว​ก็​บิน​ไป​ถึง​หู​ของ​คุณหนู​ห้า​เจี่ย​แล้ว

มี​คน​กล่าว​เย้า​นาง​ว่า​ ​“​เป็น​หลานชาย​แท้ๆ​ ​ของ​หนิง​ผิน​ ​ก่อนหน้านี้​กักตัว​อ่าน​ตำรา​อยู่​ใน​บ้าน​ ​บัดนี้​ถึง​วัย​ต้อง​เดินหน้า​ไขว่คว้า​อนาคต​แล้ว​ถึง​ได้​ส่ง​มา​อยู่​ที่​จิง​เฉิง​ ​หนิง​ผิน​เป็น​คน​ขอร้อง​ฮ่องเต้​ ​หม่า​ซาน​เป็น​คน​จัดการ​ให้​ไป​อยู่​กองพล​ทองคำ​ด้วยตัวเอง​ ​ถือว่า​อนาคต​ไกล​ ​ลอง​พิจารณา​ดู​ได้​จริงๆ​ ​ไม่เสียหาย​”

คุณหนู​ห้า​เจี่ย​พลัน​มี​เหงื่อ​เย็น​ซึม​เต็ม​หลัง

ผู้ใด​ไม่รู้​บ้าง​ว่า​ฮ่องเต้​กลับ​ชิ่ง​อวิ​๋น​ป๋อ​กำลัง​งัดข้อ​กัน​อยู่​ ​แต่​ยิ่ง​เป็นเวลา​เช่นนี้​ ​ผล​เก็บเกี่ยว​ที่​ไม่​คาดคิด​ก็​ยิ่ง​มาก

หาก​เป็น​สตรี​บ้าน​อื่น​ ​เพื่อ​วางแผน​เผื่อ​บุตรชาย​หญิง​แล้ว​ ​หาก​หลบ​ให้​ไกล​ได้​เท่าไร​ก็​จะ​ซ่อนตัว​ให้​ไกล​มาก​เท่านั้น​ ​แต่​ท่าน​ย่า​ของ​นาง​ไม่​เหมือน​สตรี​บ้าน​อื่น

นาง​ชอบ​กระโจน​เข้าหา​การแข่งขัน​ที่​ไม่รู้​แพ้ชนะ​เป็น​ที่สุด

มัก​ชอบ​พูด​คำ​ว่า​ ​‘​เติม​บุปผา​ใน​ผ้าตาด​เป็นเรื่อง​ง่าย​ ​ส่ง​ถ่าน​ท่ามกลาง​หิมะ​เป็นเรื่อง​ยาก​’

นาง​คง​ไม่เห็นด้วย​กับ​การดอง​ครั้งนี้​จริงๆ​ ​หรอก​กระมัง

คุณหนู​ห้า​เจี่ย​นั่ง​ไม่​ติด​ที่​เล็กน้อย​ ​นาง​เรียกห​มัว​มัว​ที่​เป็น​แม่บ้าน​มาถาม​ว่า​ ​“​เหตุใด​ถึง​ไม่เห็น​คุณหนู​หวัง​ ​หมายถึง​คุณหนู​สกุล​หวัง​ของ​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ผู้​นั้น​”

ห​มัว​มัว​ผู้​นั้น​เอา​มือ​ป้อง​ปาก​หัวเราะ​เบา​ๆ​ ​กระซิบ​ที่​ข้าง​หู​ของ​นาง​ว่า​ ​“​ปี​ที่แล้ว​คุณหนู​หวัง​ยัง​มาร​่ว​มงาน​ ​แต่​ปีนี​้​ไม่​มา​เจ้าค่ะ​”

คุณหนู​ห้า​เจี่ย​อด​ย่น​คิ้ว​ไม่ได้​ ​ยิ่ง​รู้สึก​แย่มาก​ขึ้น

คน​จวน​จ่าง​กง​จู่​ตั้งแต่​ล่าง​ขึ้นไป​ข้างบน​ล้วน​ให้ท้าย​หวัง​ซี​เช่นนี้​กัน​ทั้งสิ้น​ ​แต่​นาง​เล่า​…

ใน​ใจ​ของ​นาง​พลัน​ลุกเป็นไฟ​ ​นั่ง​ไม่​ติด​ที่​อีกต่อไป​ ​แอบ​ลุกขึ้น​เดิน​ไป​ที่​ศาลา​กวาง​ร้อง

***​

ด้าน​ซอย​ลิ่ว​เถียว​ ​เฉินลั​่ว​ให้​คน​นำ​ปลา​ตะลุมพุก​หนึ่ง​ตัว​ ​ผัก​ตั้ง​โอ๋​หนึ่ง​กำ​ ​และ​ผัก​อีก​หลากหลาย​ชนิด​มา​ให้​ ​บอกว่า​ให้​หวัง​ซี​เอาไว้​ทำกับข้าว

ฉัง​เคอ​หัวเราะ​งอ​หงาย​ ​ชี้​ปลา​ตะลุมพุก​ตัว​นั้น​พลาง​กล่าวว่า​ ​“​นี่​คง​ไป​ไถมา​จาก​จวน​จ่าง​กง​จู่​อีกแล้ว​กระมัง​”

เวลานี้​จิง​เฉิง​ยัง​ไม่มี​ปลา​ตะลุมพุก​วางขาย​ใน​ตลาด​ ​หาก​มี​ก็​ต้อง​เป็น​ของ​ที่​ส่ง​มาจาก​เจียง​หนาน

หวัง​ซี​ไม่​สะทกสะท้าน​ ​ไม่ได้​รู้สึก​กระดากอาย​แม้แต่​นิดเดียว​ ​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​แค่​พูด​มา​ว่า​เจ้า​จะ​กิน​หรือไม่​กิน​”

“​กิน​!​”​ ​ฉัง​เคอ​เท้าสะเอว​กล่าว​ ​“​ไม่​กิน​ก็​เปล่าประโยชน์​ ​หาประโยชน์​ได้​ก็​ควร​หา​”

หวัง​ซี​หัวเราะ​ฮ่า​เสียงดัง

คนที​่​มาส​่ง​ปลา​ให้​เป็น​บ่าว​ชาย​ข้าง​กาย​ของ​เฉินลั​่ว​มีนาม​ว่า​ลิ่วฝู​ ​เขา​กล่าวว่า​ ​“​คุณชาย​รอง​ยัง​ให้​บ่าว​บอก​ท่าน​ว่า​ ​สอง​สาม​วันนี้​ให้ท่า​นอย​่า​ออก​ไป​ไหน​ ​ที่​จวน​จ่าง​กง​จู่​เกิดเรื่อง​ขึ้น​เล็กน้อย​ขอรับ​”

หวัง​ซี​ตกใจ

ปี​ที่แล้ว​มีเรื่อง​ของ​จิน​ซง​ชิง​ ​ปีนี​้​…

นาง​รีบ​ถาม​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​”

ลิ่วฝู​ลูบ​ท้ายทอย​ ​กล่าวว่า​ ​“​เป็นคุณ​หนู​ห้า​ของ​จวน​เซียง​หยาง​โหว​ขอรับ​ ​ไม่รู้​ว่า​เดิน​ไป​ถึง​เรือน​ชั้นนอก​ได้​อย่างไร​ ​บังเอิญ​เจอ​กับ​หัวหน้า​กอง​ธง​เล็ก​ของกอง​พล​ทองคำ​ผู้​หนึ่ง​เข้า​ ​จ่าง​กง​จู่​กับฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​จวน​เซียง​หยาง​โหวกำ​ลัง​หารือ​กัน​อยู่​ว่า​จะ​จัดการ​เรื่อง​นี้​อย่างไร​ดี​ขอรับ​”

ถ้า​แค่​บังเอิญ​เจอ​บุรุษ​ข้างนอก​ ​ทุกคน​เงียบ​ไว้​ก็ได้​แล้ว​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​ให้​จ่าง​กง​จู่​ช่วย​ออกหน้า​ให้​ ​ยัง​ต้องหา​รือ​กับฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​จวน​เซียง​หยาง​โหว​อีก

เกรง​ว่าการ​บังเอิญ​เจอกัน​ครั้งนี้​จะ​มิใช่​ความบังเอิญ​ธรรมดา

หวัง​ซีกับ​ฉัง​เคอ​ต่าง​มองหน้า​กัน

“​ข้า​ทราบ​แล้ว​”​ ​หวัง​ซี​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​กล่าว​กับ​ลิ่วฝู​ว่า​ ​“​เจ้า​กลับ​ไป​บอก​คุณชาย​รอง​สัก​คำ​”

ลิ่วฝู​ถอย​ออก​ไป​อย่าง​ลิงโลด​ยินดี

ฉัง​เคอ​กลับ​ร้อนใจ​ขึ้น​มา​ ​“​ควร​รั้ง​ลิ่วฝู​เอาไว้​สอบถาม​ให้​กระจ่าง​”

แม้น​คุณหนู​ห้า​เจี่ย​กับ​นาง​จะ​ไม่ได้​มี​ไมตรี​ต่อกัน​มากมาย​ ​แต่​อายุ​เท่ากัน​ ​ยาม​ออก​ไปร​่ว​มงาน​สังคม​ก็ได้​เจอกัน​บ่อยครั้ง​ ​พอ​จะ​ได้​คุย​กัน​บ้าง​สอง​สาม​ประโยค​ ​จึง​มี​ความประทับใจ​ที่​ดี​ต่อกัน​ ​เกิดเรื่อง​เช่นนี้​ขึ้น​ ​ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​สตรี​เหมือนกัน​ ​จะ​ไม่​ให้​นาง​เป็นห่วง​ได้​อย่างไร​ ​จึง​รู้สึก​กังวลใจ​หลาย​ส่วน

หวัง​ซีก​ลับ​เชื่อมั่น​ใน​ตัว​เฉินลั​่ว​มากกว่า​ ​กล่าวว่า​ ​“​ในเมื่อ​เขา​ให้​พวกเรา​หลีกเลี่ยง​ ​ย่อม​ต้อง​มี​จุด​ที่​ไม่​สะดวก​สำหรับ​พวกเรา​แน่​ ​พวกเรา​หลีกเลี่ยง​สัก​ระยะ​หนึ่ง​ก่อน​ก็แล้วกัน​ ​สุดท้าย​จะ​เป็น​อย่างไร​ ​ย่อม​มีผล​ลัพธ์​ออกมา​อยู่ดี​”

พวก​นาง​รู้​แค่​ผลลัพธ์​ก็​พอแล้ว

ตอนเย็น​แม้น​ทั้งสอง​คน​จะ​ต้ม​น้ำแกง​ปลา​ตะลุมพุก​ผัก​ตั้ง​โอ๋​ ​แต่​สุดท้าย​ก็​กินกัน​อย่าง​ไม่​ค่อย​แช่มชื่น​นัก​ ​ตอนที่​เวิน​เจิง​มารั​บนาง​ ​ฉัง​เคอ​จึง​ไม่ได้​รั้ง​อยู่​ต่อนาน

หวัง​ซีก​ล่า​วว​่า​ ​“​หาก​ข้า​ได้ข่าว​คราว​อะไร​จะ​ส่งข่าว​ไป​ให้​เจ้า​ ​ส่วน​เจ้า​ถ้า​ได้ข่าว​คราว​อะไร​ก็​ส่งข่าว​มาบ​อก​ข้า​ด้วย​สัก​คำ​หนึ่ง​”

ฉัง​เคอ​พยักหน้า​ ​เดินทาง​กลับ​ตระกูล​เวิน​พร้อม​เวิน​เจิง​ ​ต่อให้​รู้สึก​ร้อนใจ​เพียง​ก็​เชื่อฟัง​คำเตือน​ของ​เฉินลั​่ว​ ​อยู่​แต่​ใน​บ้าน​ไม่​ออก​ไป​ไหน​ ​กระทั่ง​มี​ข่าว​การ​หมั้น​หมาย​ระหว่าง​คุณหนู​ห้า​จวน​เซียง​หยาง​โหวกับ​หัวหน้า​กอง​ธง​เล็ก​แซ่​ซ่ง​จาก​กองพล​ทองคำ​ผู้​หนึ่ง​ลือ​มา​ให้​ได้ยิน​ ​นาง​ถึง​ได้​นั่ง​ไม่​ติด​ที่​อีก​ ​เร่ง​เดินทาง​ไป​พบ​หวัง​ซี

หวัง​ซีกำ​ลัง​คุย​กับ​ป้า​รับใช้​ผู้​หนึ่ง​อยู่​ ​เห็น​นาง​มาถึง​แล้วก็​ไม่ได้​หลบเลี่ยง​ ​ชี้​เก้าอี้​กระเบื้อง​ตัว​กลม​ข้าง​กาย​พลาง​กล่าว​ ​“​เจ้า​เอง​ก็​นั่งลง​มา​ฟัง​ด้วยกัน​เถอะ​”

ฉัง​เคอ​ถึง​ได้​ค้นพบ​ว่า​ป้า​รับใช้​ผู้​นั้น​กำลัง​พูด​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​คุณหนู​ห้า​เจี่ย​อยู่

“​เป็น​คน​ชานเมือง​ ​ปู่ย่า​ล้วน​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ ​รุ่น​พ่อ​มีพี​่​น้อง​ผู้ชาย​สี่​คน​ ​ส่วน​รุ่น​เขา​มีพี​่​น้อง​ผู้ชาย​สิบสอง​คน​ ​เป็น​ครอบครัว​ใหญ่​มีส​มาชิ​กมา​ก.​..​บิดา​ของ​เขา​เป็น​คน​ลำดับ​ที่สอง​…​เขา​เข้า​กองพล​ทองคำ​โดย​อาศัย​เส้นสาย​ของ​ท่าน​อา​สี่​ของ​เขา​…​ตระกูล​ฝั่ง​ภรรยา​ของ​อา​สี่​ของ​เขา​เป็น​สหาย​เก่าแก่​ของ​จวน​เว​่​ยกั​๋​วกง​ ​สนิทสนม​กับ​กู​ไหน​่​ไหน​ใหญ่​ที่​แต่ง​เข้า​ตระกูล​ถาน​ผู้​นั้น​เป็นอย่างมาก​…​ฐานะ​ของ​ครอบครัว​ธรรมดา​ ​หน้าตา​ก็​สามัญ​ ​โชคดี​ที่​เป็น​คนฉลาด​มี​ความสามารถ​ ​อยู่​กองพล​ทองคำ​มา​หก​ถึง​เจ็ด​ปี​แล้ว​ ​ใช้​ความสามารถ​ของ​ตัวเอง​ไต่เต้า​จนได้​ดำรงตำแหน่ง​หัวหน้า​กอง​ธง​เล็ก​”

กองพล​ทองคำ​เป็น​สถานที่​อะไร​ ​มี​คน​จาก​จวนกั​๋​วกง​และ​จวน​โหว​อยู่​ไม่น้อย​ ​คน​จาก​ครอบครัว​ขุนนาง​ก็​มากมาย​นับไม่ถ้วน​ดุจ​ขน​วัว​ ​แม้แต่​คนที​่​มี​ชาติกำเนิด​อย่าง​เฉิน​อิง​ ​ตอน​เข้าไป​ใหม่​ๆ​ ​ยัง​ต้อง​เริ่มต้น​จาก​การ​เป็น​หัวหน้า​กอง​ธง​เล็ก​เลย

อาศัย​ความสามารถ​ของ​ตัวเอง​ไต่เต้า​จนได้​เป็น​หัวหน้า​กอง​ธง​เล็ก​ ​นั่น​ยิ่งกว่า​มี​ความสามารถ​แล้ว

ฉัง​เคอ​กับ​หวัง​ซี​แลกเปลี่ยน​สายตา​กัน​ครั้งหนึ่ง​ ​เอ่ย​เร่ง​ป้า​รับใช้​ผู้​นั้น​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​บังเอิญ​เจอกัน​ได้​อย่างไร​”

ป้า​รับใช้​ผู้​นั้น​เผย​สีหน้า​กระอักกระอ่วน​ออกมา​ ​กล่าว​เสียง​ค่อย​ว่า​ ​“​ว่า​กัน​ว่า​คุณหนู​ห้า​เจี่ย​ทำ​ปิ่นทอง​ตก​ ​จึง​หา​สถานที่​หนึ่ง​สำหรับ​ผลัดเปลี่ยน​อาภรณ์​ ​ผล​ปรากฏ​ว่า​ใต้เท้า​ซ่ง​ผู้​นั้น​ปราด​เข้าไป​”

นั่น​ยิ่ง​ไม่​สมเหตุสมผล​แล้ว

คุณหนู​ห้า​เจี่ย​มี​ชาติกำเนิด​เช่นไร​ ​สถานที่​อะไร​ผลัดเปลี่ยน​อาภรณ์​ได้​ ​สถานที่​อะไร​ไม่​อาจ​รั้ง​อยู่​ได้​ ​ย่อม​ต้อง​รู้ดี​ไม่​ปล่อย​ให้​มีเรื่อง​ผิดพลาด​ได้​แม้แต่​ครึ่ง​เดียว

ฉัง​เคอ​ยัง​อยาก​ถาม​ต่อไป​ ​แต่​หวัง​ซี​หันไป​ทำสัญญา​ณมือ​ห้าม​นาง​เอาไว้​ ​ให้​ไป๋​กั่ว​นำ​ซอง​แดง​มา​ให้​ป้า​รับใช้​ผู้​นั้น​พลาง​กล่าว​อย่าง​ยิ้มแย้ม​ว่า​ ​“​ขอบคุณ​ท่าน​มาก​ ​ข้า​ไม่สบายใจ​ ​จำต้อง​เรียก​ท่าน​มาส​อบ​ถาม​ ​บัดนี้​รู้​แล้ว​ว่า​ไม่เกี่ยว​ข้อง​อะไร​กับ​จวน​จ่าง​กง​จู่​ ​ข้า​เอง​ก็​วางใจ​ลง​ได้​แล้ว​”

ป้า​รับใช้​ผู้​นั้น​โบกมือ​เป็น​พัลวัน​พร้อม​กล่าวว่า​ ​“​มิก​ล้า​เจ้าค่ะ​”​ ​บ่ายเบี่ยง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ถึง​ได้รับ​ซอง​แดง​เอาไว้​ ​ยอบ​เข่า​ทำความเคารพ​แล้ว​ถอย​ออก​ไป

………………………………………………………………….