ผู้นำถูกู่
“ท่านจ้าวตำหนักต้วนใยท่านไม่ลองกล่าวบอกข้าดูเล่า…ว่าท่านมีเงื่อนไขอันใดที่จะพอทำให้ท่านไว้ชีวิตตี้จิ่วได้บ้าง?”
เมื่อเห็นว่าต้วนหรูเฟิงคิดลงมือแตกหักจริงๆ ตี้ชานได้แต่ยอมลงให้ ถึงแม้มันจะไม่ได้กลัวที่ต้องสู้กับต้วนหรูเฟิง แต่มันก็ต้องคิดให้มากเข้าไว้ เพราะหากมันแพ้พ่ายขึ้นมาคงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเผ่าพันธุ์มังกร
มันเป็นผู้นำของเผ่าพันธุ์มังกร การกระทำของมันก็คือตัวแทนของเผ่าพันธุ์ มันไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม ยังไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่มันมั่นใจไม่ถึงครึ่งว่าจะเอาชนะต้วนหรูเฟิงได้
“ท่านผู้นำ!”
เมื่อเห็นว่าตี้ชานยอมเป็นฝ่ายลงให้ต้วนหรูเฟิงแบบนี้ เฉวี่ยฉานและอาวุโสมังกรคนอื่นๆถึงกับหน้าเสียทันที
ถึงแม้ว่าพวกมันต่างรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะแตกหักกับจ้าวตำหนักเมฆาครามอย่างต้วนหรูเฟิง แต่พวกมันก็รู้สึกยากยอมรับนักที่ผู้นำของพวกมันต้องเป็นฝ่ายยอมถอยก้าวหนึ่งทั้งๆที่อยู่ในดินแดนของตัว!
แต่แน่นอนว่าพวกมันไม่กล้าระบายโทสะอะไรใส่ต้วนหรูเฟิง เพราะอีกฝ่ายไม่ได้ทำผิดอะไร
จังหวะนี้เฉวี่ยฉานและมังกรอาวุโสคนอื่นๆได้แต่หันมาถลึงตามองตี้จิ่วอย่างคาดโทษ หากอีกฝ่ายไม่ใช่มังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บล่ะก็ พวกมันจะทุบตีตัวบัดซบชักศึกเข้าบ้านนี่ให้ตาย!
อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวอย่างตี้จิ่วกลับไม่สนใจสายตาของเฉวี่ยฉานและคนอื่นๆเลย
หลังจากที่ตระหนักได้ว่าจะอย่างไรเผ่าพันธุ์มังกรก็จะต้องปกป้องมัน มันก็ไม่กลัวอะไรอีก
อย่างไรก็ตามยามหันไปมองต้วนหรูเฟิง ในแววตามันเผยประกายเย็นเยียบขึ้นมา
เรื่องราวในวันนี้ทำให้มันหวาดกลัวแทบตาย! แต่ตอนนี้ในที่สุดมันก็สามารถสงบใจลงได้เสียที!!
มันไม่คิดไม่ฝันจริงๆ ว่าจ้าวตำหนักเมฆาครามที่ชื่อเสียงเลื่องลือกลับเป็นบิดาของต้วนหลิงเทียน คนที่มันอยากจะฆ่าให้ตายเสียได้!
อย่างไรก็ตามในเมื่อมันรู้แล้วว่าวันนี้มันไม่ตายแน่ๆ ใจมันก็กลับมาฮึกเหิมลำพองอีกครั้ง!
ความเกลียดชังที่มีต่อต้วนหลิงเทียนก็ยิ่งฝังลึกเข้ากระดูก!
แน่นอนว่ามันยังกลัวต้วนหรูเฟิง และไม่กล้าเผยทีท่าอะไรออกมา
‘ต้วนหลิงเทียน ข้าคิดไม่ถึงจริงๆว่าเจ้าจะเป็นลูกของต้วนหรูเฟิง..ความอัปยศอดสูที่บิดาเจ้ามอบให้ข้าวันนี้ ข้าจะให้เจ้าชดใช้เป็นสิบเท่าร้อยเท่า! เว้นเสียแต่เจ้าจะหดหัวอยู่ในตำหนักเมฆาครามชั่วชีวิต หาไม่แล้วข้าตี้จิ่วจะฆ่าเจ้าให้ตาย!!’
ใจตี้จิ่วกู่ร้องด้วยอาฆาต ตอนนี้หากต้วนหลิงเทียนยืนอยู่ตรงหน้า มันจะกระโจนเข้าไปฉีกทึ้งร่างอีกฝ่ายให้แหลกอย่างไม่ต้องคิด!
ตอนนี้มันไม่คิดด้วยซ้ำว่าต้วนหลิงเทียนจะใช่คนที่ฆ่าลูกมันจริงๆหรือไม่!
ต่อให้ต้วนหลิงเทียนไม่ใช่ฆาตกรที่แท้จริง มันก็ไม่มีวันปล่อยต้วนหลิงเทียนไปเด็ดขาด!
“อะไรกันตี้ชาน ที่เจ้าอุตส่าห์คืนร่างเดิมมิใช่ว่าอยากจะเล่นกับข้าหรอกรึไง?”
ได้ยินวาจาหาทางลงของตี้ชาน ต้วนหรูเฟิงยังไม่คลายพลังแต่อย่างไร เพียงกล่าวถามออกไปด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
และวาจานี้ของต้วนหรูเฟิง ทำให้ตี้ชานอับอายไม่น้อย
ยังดีที่ตอนนี้มันอยู่ในรูปลักษณ์มังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บยาวกว่า 1,000 หมี่ จึงไม่อาจมีใครเห็นถึงสีหน้าที่เปลี่ยนไป
ครู่ต่อมาร่างมังกรยาวนับพันหมี่ของตี้ชาน ก็ทอแสงสว่างวาบคราหนึ่ง ก่อนที่จะจำแลงกายเป็นมนุษย์อีกครั้ง ร่างชายชราในชุดคลุมสีทองลอยเด่นกลางหาว ที่เคนสง่างามเผยแรงกดดันออกมาไม่น้อยยามนี้แลดูอ่อนลงหลายส่วน
การที่มังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บยาวกว่าพันหมี่หายไป ย่อมทำให้เงาทะมึนที่ฉาบปกคลุมเผ่าพันธุ์มังกรสลหายหาย แสงตะวันพลันสาดส่องลงมาอีกครั้ง
“มิได้ต่อสู้กัน!”
จังหวะนี้คนของเผ่าพันธุ์มังกรที่สังเกตการณ์อยู่ห่างไกล พอได้ระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ถึงแม้ใจหนึ่งพวกมันก็อยากเห็นการปะทะกันระหว่างจ้าวตำหนักเมฆาครามที่เลื่องลือกับผู้นำของพวกมัน แต่อีกใจก็ไม่ยินดีที่จะเห็นเผ่าพันธุ์มังกรย่อยยับวอดวายเพราะผลพวงจากการปะทะ!
“จ้าวตำหนักต้วน ท่านช่วยไว้หน้าผู้อื่นบ้าง”
ในขณะที่ตี้ชานหวนคืนสู่ร่างมนุษย์และคล้ายจะตกอยู่ในสถานะกล้ำกลืนนั้นเอง พลันมีเสียงหนึ่งแว่วดังมาตามสายลมยากระบุทิศทางปานเสียงกระซิบของภูตผี
“หืม?”
ได้ยินเสียงนี้ต้วนหรูเฟิงขมวดคิ้วทันที เพราะเสียงนี้นับว่าคุ้นหูนัก หากแต่ยังไม่อาจนึกออกได้ทันที
ตี้ชานที่ได้ยินเสียงนี้ไม่มีอาการตึงเครียดอะไร ยังอดไม่ได้ที่จะโล่งใจ คล้ายพบพานผู้ช่วยชีวิต…
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ปรากฏร่างหนึ่งวูบมาฉับไว ในที่นี้ผู้ที่จับตามองความเคลื่อนไหวของมันได้ทันก็มีแต่ต้วนหรูเฟิงกับตี้ชานเท่านั้น มันเหินมาหยุดข้างตี้ชาน เผยตัวออกมาให้เห็นเด่นชัด
เป็นชายหนุ่มผู้หนึ่ง!
รูปร่างสูงโปร่ง คิ้วเข้มคมใบหน้าหล่อเหลาไม่เบา หากแต่ให้บรรยากาศน่ากลัวคล้ายชั่วร้ายอย่างไรพิกล หว่างคิ้วยังมีสัญลักษณ์ประหลาดคล้ายสัญลักษณ์ประจำเผ่าพื้นเมืองอันใดสักอย่าง
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งดังกล่าว มาในชุดคลุมลมดำ หากแต่โม่งคลุมกับถูกเลิกออกไว้ด้านหลัง เผยให้เห็นผมสีแดงปานโลหิตทอดยาวปรกไหล่ รับกับใบหน้าหล่อเหลาของมันเป็นอย่างดี
ความประทับใจแรกยามเห็นร่างชายหนุ่มผู้นี้ก็คือ “หน้าสวย”
“ผู้นำถูกู่”
เมื่อพบกับชายหนุ่มหน้าสวยแต่ให้บรรยากาศชั่วร้ายน่ากลัวผู้นี้ ตี้ชานกลับเป็นฝ่ายเริ่มกล่าวทักทายออกมาก่อน
มันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าคนผู้นี้จะย้อนกลับมา
ก่อนหน้านี้ที่มันปรากฏตัวออกมาช้า เป็นเพราะมันกำลังรับรองแขกหรือก็คือชายผู้นี้อยู่ ทำให้ออกมาจัดการเรื่องราวสายไปอยู่บ้าง
“ผู้นำถูกู่”
อาวุโสอย่างฉานเฉวี่ยมังกรโลหิต และอาวุโสคนอื่นๆก็กล่าวทักทายชายหนุ่มผู้นี้ทันที ไม่มีใครกล้าไม่สุภาพ
‘ผู้นำถูกู่? หรือจะเป็นผู้นำตลาดมืดหยินชาน?’
ตี้จิ่วที่ลุกขึ้นมายืนได้แล้วหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย เมื่อแลเห็นชายหนุ่มหน้าสวยแต่แลดูชั่วร้ายในชุดคลุมลมดำ ใจมันบังเกิดความรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา ทั้งยังตกใจกับการปรากฏตัวของอีกฝ่ายไม่น้อย
“เจ้ามาที่นี่ทำอะไร?”
เห็นชายหนุ่มในชุดคลุมลมดำปรากฏตัวขึ้นมา สีหน้าต้วนหรูเฟิงเผยความจริงจังขึ้นมาทันที
ต้องทราบด้วยว่า แม้จะเผชิญหน้ากับร่างที่แท้จริงของตี้ชาน สีหน้าต้วนหรูเฟิงยังไม่แปรเปลี่ยน
อย่างไรก็ตามการปรากฏตัวของชายหนุ่มในชุดคลุมลมดำ ทำให้ต้วนหรูเฟิงเพิ่มความระแวดระวังขึ้นมา
“ท่านจ้าวตำหนักต้วน ท่านมาเยือนเผ่าพันธุ์มังกรได้ หรือข้าถูกู่จะมาบ้างไม่ได้ อันที่จริงข้ามาก่อนท่านเสียอีกและข้าก็พึ่งกลับไป…แต่บังเอิญข้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังจึงรู้ว่าท่านเองก็มา จึงอดไม่ได้ที่จะย้อนกลับทักทายท่านเสียหน่อย”
ชายหนุ่มในชุดคลุมลมดำมองกล่าวกับต้วนหรูเฟิงด้วยรอยยิ้ม
แน่นอนว่าเป็นยิ้มเสแสร้ง
ลึกลงไปในแววตาของมันยังเผยประกายวูบวาบเย็นเยียบไม่ขาด เห็นได้ชัดว่ามันไม่ถูกกันกับต้วนหรูเฟิง!
“โฮ่? เดี๋ยวนี้ตลาดมืดหยินชานเจ้ายื่นมือมาทำธุรกิจในเผ่าพันธุ์มังกรด้วย…ไม่คิดว่ากำลังทำเรื่องเกินกำลังอยู่รึไร?”
ต้วนหรูเฟิงกล่าวเย้ย
“เรื่องตลาดมืดเหยินชานไม่ลำบากให้ท่านจ้าวตำหนักต้วนออกความเห็น…ข้าเพียงอยากรู้นักว่าไฉนจ้าวตำหนักต้วนถึงมาเยือนเผ่าพันธุ์มังกรได้ อีกทั้งดูท่าจ้าวตำหนักต้วนยังอารมณ์เสียไม่น้อย?”
ชายหนุ่มในชุดคลุมลมดำมองถามต้วนหรุเฟิงด้วยความสนใจ
“เจ้าไม่ต้องสนใจเรื่องนี้หรอกถูกู่หลิง ตลาดมืดหยินชานเจ้าจะทำธุรกิจอุบาทว์อันใดกับเผ่ามังกรก็เรื่องของเจ้าไม่เกี่ยวอะไรกับข้า…แต่เป็นการดีเสียกว่าที่เจ้าจะไม่สะเออะสอดมือมายุ่งเรื่องระหว่างข้ากับเผ่ามังกร! หาไม่แล้วข้าจะพาเด็กๆไปเยือนรังตลาดมืดหยินชานของเจ้าสักครา!!”
ต้วนหรูเฟิงยังกล่าวค่อนแคะออกมา
เมื่อได้ยินวาจาที่คล้ายจะเป็นการข่มขู่อยู่รอมร่อของต้วนหรูเฟิง รอยยิ้มบนใบหน้าชายหนุ่มในชุดคลุมลมดำพลันหายไป “จ้าวตำหนักต้วน หรือตำหนักเมฆาครามท่านคิดจะเปิดศึกกับตลาดมืดหยินชานของข้าและเผ่าพันธุ์มังกรพร้อมกัน?”
“ผู้นำถูกู่เจ้าจะคิดอะไรก็เรื่องของเจ้า…ว่าแต่นี่เจ้าสำคัญตัวผิดไปหรือไม่? เจ้าไม่ลองถามผู้นำตี้ชานดูก่อนเล่า ว่าเต็มใจจะอยู่ข้างเดียวกับตลาดมืดหยินชานของพวกเจ้ารึเปล่า?”
มุมปากต้วนหรูเฟิงยกยิ้มแสยะ ไม่ได้กลัววาจาเชิงยกตนข่มท่านของชายหนุ่มในชุดคลุมลมดำแม้แต่น้อย