ตี้ชานหงุดหงิด
“ท่านจ้าวตำหนักต้วน ในฐานะที่ท่านเป็นจ้าวตำหนักเมฆาคราม ท่านสมควรรู้จักเผ่าพันธุ์มังกรของเราดี…หากตี้จิ่วมิใช่มังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บ หากมันกล้าสร้างปัญหาให้ท่านมันจะเป็นจะตายอย่างไรข้าคงไม่สน…”
ตี้ชานมองต้วนหรูเฟิงค่อยกล่าว “ทว่าจะอย่างไรตี้จิ่วก็เป็นมังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บ! ข้ามั่นใจว่าท่านจ้าวตำหนักต้วนสมควรรู้ความสำคัญของมันที่มีต่อเผ่าพันธุ์มังกรของเราดี…พวกเรามิอาจส่งมันให้จ้าวตำหนักต้วนฆ่าได้จริงๆ”
ตี้ชานกล่าวยืนกรานคำขาดออกมา ไม่เว้นพื้นที่ให้ต่อรองเช่นกัน
“ใช่!”
ตอนนี้เองเหล่าอาวุโสเผ่าพันธุ์มังกรรวมถึงเฉวียฉานเองที่ไม่พอใจตี้จิ่ว ก็พยักหน้ากล่าวออก
ในเรื่องนี้พวกมันเห็นด้วยกับตี้ชาน
หากตี้จิ่วไม่ใช่มังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บล่ะก็ พวกมันเองคงไม่มีวันละเว้น ยังไม่ต้องให้ถึงมือต้วนหรูเฟิงด้วยซ้ำ!
อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วตี้จิ่วมันก็เป็นมังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บ! เป็นตัวตนที่สำคัญต่อเผ่าพันธุ์มังกรของพวกมันมาก ทั้งหมดไม่มีทางเลือกจำต้องปกป้องตี้จิ่วเพื่อเผ่าพันธุ์มังกร เพราะตี้จิ่วเสมือนอนาคตของเผ่าพันธุ์มังกร!!
ถึงแม้ตี้ชานผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรนั้น จะมีอายุไขยืนยาวจนแทบไร้วันตาย
ทว่าตามกฏของเผ่าพันธุ์มังกร มันก็ต้องออกจากตำแหน่งผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรในอีก 1,000 ปีหลังจากนี้…กล่าวให้ชัดตี้ชานจำต้องออกจากภูมิภาคเบื้องล่างเพื่อขึ้นไปยังภูมิภาคเบื้องบน
ถึงตอนนั้นตี้ชานต้องไปเข้าร่วมกับเผ่าพันธุ์มังกรที่ภูมิภาคเบื้องบน!
นี่คือภาคกิจหลักของผู้นำเผ่าพันธุ์มังกร อันเป็นมังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บทุกคน และเป็นกฏของเผ่าพันธุ์มังกรที่ตั้งมาตั้งแต่สมัยโบราณ กระทั่งตี้ชานก็ไม่อาจฝ่าฝืนได้
พอถึงวันที่ตี้ชานต้องจากไป เผ่าพันธุ์มังกรย่อมต้องการผู้นำคนใหม่
และผู้นำที่ว่าต้องเป็นมังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บเท่านั้น
ในเผ่าพันธุ์มังกรของภูมิภาคเบื้องล่าง มีมังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บตัวอื่นเหลืออยู่แค่ตี้จิ่วคนเดียวเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ตี้จิ่วจึงถูกกำหนดให้เป็นผู้นำคนต่อไป!
ถึงแม้กลุ่มมังกรอาวุโสจะไม่พอใจการกระทำของตี้จิ่วมากเพียงใด แต่พวกมันก็ไร้หนทางเลือกอื่น
หากตอนนี้ในเผ่าพันธุ์มังกรมีมังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บอยู่อีกสักคน พวกมันจะไม่ปกป้องตี้จิ่วจนหน้ามืดตามัวแบบนี้!
พอได้ยินคำของตี้ชานทั้งการสนับสนุนของอาวุโส ตี้จิ่วก็โล่งใจไม่น้อย
มาตอนนี้มันค่อยตระหนักได้ ว่าก่อนหน้าเป็นมันหวาดกลัวไปจนไม่ลืมหูลืมตาแล้วจริงๆ จะอย่างไรมันก็คือมังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บว่าที่ผู้นำคนต่อไป! ไม่มีใครกล้าทิ้งมันแน่!!
“ตี้ชาน ข้าไม่สนใจว่ามังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บมีความสำคัญอะไรกับพวกเจ้า ข้ารู้แค่ตี้จิ่วมันเกือบฆ่าลูกข้า! แถมคนเผ่าพันธุ์มังกรเจ้ายังกล้าออกตามล่าหาตัวลูกข้า! พวกเจ้ามิใช่วางแผนเอาไว้ว่าหลังจากพบตัวลูกข้า จะพามาให้ตี้จิ่วมันฆ่าระบายแค้นรึไง?”
ต้วนหรูเฟิงกล่าวออกเสียงเย็น ท้ายประโยคยังแฝงเร้นไปด้วยโทสะอันเกรี้ยวกราด
เมื่อต้วนหรูเฟิงมีโทสะขึ้นมา เชือกรัดผมพลันขาดผึง เส้นผมยาวสลวยเริ่มโบกสะบัดไปแม้ไร้ลม มองไปยังคล้ายอสรพิษมิชีวิต!
อีกทั้งกลิ่นอายที่แผ่ออกมาทั่วร่างยังแปรเปลี่ยนไปในฉับพลัน!
ลูกตาที่เคยเป็นสีดำ บัดนี้กลับกลายเป็นสีแดงฉานปานโลหิต!
จิตสังหารอันตรายเอ่อล้นออกมาทั่วร่าง ยังแผ่พุ่งออกไปสะกดมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บทั้ง 7!
ตอนนี้นอกจากตี้ชานแล้ว ตี้จิ่วรวมถึงอาวุโสที่เหลือล้วนเผยสีหน้าหวาดกลัว กระทั่งเฉวียฉานยังเริ่มเหงื่อตก
ตี้จิ่วและชิงเหยียนที่พลังฝึกปรืออ่อนด้อยกว่าใคร นับว่าได้รับผลกระทบจากจิตสังหารอำมหิตนี้อย่างรุนแรง หน้าพวกมันเปลี่ยนเป็นสีแดง กระอักโลหิตออกมาคำใหญ่
วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม!
……
ตอนนี้เองความว่างเปล่าโดยรอบอันมีต้วนหรูเฟิงเป็นจุดศุนย์กลางพลันเริ่มบิดเบือน
ต้นไม้ใบหญ้าทั้งขุนเขาเริ่มสั่นสะเทือนหักโค่นพังทลาย
กระทั่งคนของเผ่าพันธุ์มังกรที่อยู่ห่างไกลยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกดดันเสมือนถูกบีบกำหัวใจ เร่งรีบถอยห่างออกไปอย่างจ้าละหวั่น ด้วยหวาดกลัวจะตกตายเพราะเป็นเหยื่อไอพลังดั่งภัยพิบัติอันน่ากลัวนั่น!
“กลิ่นอายพลังที่ร้ายกาจนัก!”
หลังจากอาวุโสที่เป็นมังกรเทพยาดา 4 กรงเล็บนำพาทั้งหมดให้ล่าถอยออกไป พวกมันก็ได้แต่ชักสีหน้าหวาดผวามองไปยังขอบฟ้าไกลห่าง จับจ้องบรรยากาศที่บิดเบือนไกลตาจากกลิ่นอายพลังด้วยความยำเกรง
คนในเผ่าพันธุ์มังกรที่ถูกช่วยให้พ้นจากระยะอันตราย พวกมันต่างหวาดกลัวไปถึงแก่นกายแต่แรก มาตอนนี้ก็ได้แต่มองไปไกลตาด้วยความหวาดผวา “นะ…นี่คือ กลิ่นอายพลังของจ้าวตำหนักเมฆาครามหรือ?”
จังหวะนี้พวกมันรู้สึกเสมือนต้วนหรูเฟิงเป็นดั่งเทพมาร จ้าวผู้ปกครองใต้หล้า!
เทพมารมาผู้ใดหาญกล้าต่อกร!
“จ้าวตำหนักต้วน ท่านต้องให้เรื่องมันเลยเถิดจริงๆงั้นหรือ?”
ตี้ชานชักสีหน้าเคร่งเครียด ทันใดนั้นทั่วร่างพลันปรากฏแสงสีทองเจิดจ้า ร่างของมันแปรเปลี่ยนกลับกลายสู่รูปลักษณ์ที่แท้จริง! มังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บ!!
ยามเมื่อร่างมังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บ ที่มีขนาดมหึมาลำตัวยาวกว่า 1,000 หมี่ปรากฏขึ้น ก็ประหนึ่งมีฉากม่านปิดฟ้าบดบังแสงตะวัน พาลให้ครึ่งเผ่าพันธุ์มังกรตกอยู่ในเงามืดทันที!
“นะ…นั่นคือ ร่างที่แท้จริงของท่านผู้นำ!?”
ทันทีที่คนของเผ่าพันธุ์มังกร เงยหน้าขึ้นไปเห็นร่างหมึมาดังกล่าว ทั้งหมดก็เผยความตื่นตระหนกตกใจออกมาบนใบหน้าทันที
“ท่านผู้นำถึงกลับหวนคืนสู่ร่างที่แท้จริงเช่นนี้…หรือคิดจะปะทะแตกหักกับจ้าวตำหนักเมฆาคราม?!”
คนในเผ่าพันธุ์มังกรหลายคนอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความหวาดหวั่น
หากตัวตนอันทรงพลังเหนือผู้ใดในแดนดินเทพยุทธ์เซียนเต๋า 2 คนปะทะกันด้วยพลังทั้งหมด…เห็นที่ว่าเผ่าพันธุ์มังกรกว่าครึ่ง ไม่พ้นวอดวาย!
“ตี้ชาน ดูเหมือนว่าเจ้าตั้งใจจะสู้กับข้าจริงๆ”
เผชิญหน้ากับร่างที่แท้จริงของตี้ชาน ต้วนหรูเฟิงยังคงสงบไม่แยแส คล้ายไม่ได้รับผลกระทบจากกลิ่นอายพลังจากร่างมหึมาของตี้ชานแม้แต่น้อย
กลับกันกู่มี่ที่ลอยร่างอยู่ด้านหลังต้วนหรูเฟิงพลันหน้าซีดลง
ถึงแม้ว่าพลังฝีมือของมันจะร้ายกาจ กระทั่งนับเป็นยอดฝีมือคนหนึ่งในตำหนักเมฆาคราม
อย่างไรก็ตามต่อหน้าตัวตนอันทรงพลังที่แท้จริงอย่างต้วนหรูเฟิงกับตี้ชาน มันก็เสมือนมดอ่อนแอตัวหนึ่ง!
“จ้าวตำหนักต้วน หากท่านคิดสังหารตี้จิ่วให้จงได้ ข้าก็มีแต่ต้องสู้กับท่านเพื่อปกป้องมันเท่านั้น!”
เสียงตี้ชานดังสนั่นปานฟ้าคะนอง “แน่นอนว่าหากท่านเต็มใจเลือกวิธีอื่นในการแก้ปัญหา มิว่าจักเป็นอันใดเผ่าพันธุ์มังกรของข้าล้วนยินดีน้อมสนองและปฏิบัติต่อท่านดั่งมิตรสหาย…และเผ่าพันธุ์มังกรเรามิเคยทำร้ายมิตรสหาย!”
“อะไร? นี่เจ้ากำลังขู่ข้างั้นเรอะ?”
ต้วนหรูเฟิงหัวเราะออกมา ทั่วร่างปรากฏไอพลังดั่งเพลิงทมิฬปะทุออกมาอีกครา พวกมันแผ่ขยายคลุมฟ้าเปลี่ยนอาณาบริเวณให้มืดมิดดั่งราตรีกาล
อีกทั้งทันใดนั้นเอง ยังคล้ายมีเพลิงโลหิตอันแดงฉานลุกไหม้ในดวงตาต้วนหรูเฟิง ให้ความรู้สึกดุร้ายอำมหิตปานจะกลืนกินเลือดเนื้อผู้คน!
เมื่อเห็นกลิ่นอายพลังที่ปะทุออกมาทั่วร่างของต้วนหรูเฟิง กระทั่งพลังอำนาจยังคล้ายจะสะกดข่มกลิ่นอายพลังมังกรของมันได้ชะงัด สีหน้าตี้ชานก็เปลี่ยนไป ลูกตาเผยความหวาดกลัวระคนหงุดหงิดออกมาทันที!
ใจหนึ่งมันก็อิจฉาพลังอันน่าสะพรึ่งของต้วนหรูเฟิงนัก
สุดท้ายแล้วเวลาที่ต้วนหรูเฟิงใช้ในการก้าวขึ้นมาสู่จุดนี้ก็แสนสั้น! อนิจจาแต่พลังฝีมือของอีกฝ่ายกลับเป็นที่รู้จักกันดี กระทั่งได้รับการขนานนามว่าเป็นอันดับ 1 ในรายนามยอดเซียน!!
ต่อหน้าต้วนหรูเฟิง มันมั่นใจไม่ถึง 5 ส่วนว่าจะเอาชนะได้…
ในทางกลับกันมันก็รู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย ที่ต้วนหรูเฟิงไม่เหลือทางเลือกไว้ให้มันเลย! หรืออีกฝ่ายไม่เห็นความนัยวาจาที่มันเลือกจะผูกมิตรเมื่อครู่?
ที่นี่คือถิ่นที่อยู่อาศัยของเผ่าพันธุ์มังกร! ในฐานะที่มันเป็นผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรมันต้องกล่าวหาทางลงอ้อมๆโดยไม่ให้เสียศักดิ์ศรี!
อย่างไรก็ตามมันพบว่าต้วนหรูเฟิง คล้ายจะไม่เข้าใจเจตนาของมันจริง และคิดว่ามันอยากจะสู้ด้วยแบบนี้!
ปัญหาก็คือ ถึงมันเลือกที่จะสู้กับต้วนหรูเฟิงจริงๆ แต่นั่นก็ไม่ใช่สู้กันที่นี่!!