ตอนที่ 215 วันที่แสนทรมานของอาจารย์เฮอร์ 4

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 215 วันที่แสนทรมานของอาจารย์เฮอร์ 4

เมื่อมองดูรายการขององค์หญิงสาม ในฐานะผู้ชาย เขาจะต้องยิ้มอ่อนและรู้สึกเห็นใจอาจารย์เฮอร์

โธ่เอ๊ย ไอ้หมอนี่ แกกล้าดียังไงมาทำมลทินใส่ลูกตาขององค์หญิงสาม?

ว่ากันว่ามีเพียงผู้หญิงกับคนถ่อยเท่านั้นที่เข้าด้วยยาก แต่กล้าดีอย่างไรถึงขัดใจคนที่รวมทั้งสองแบบไว้ด้วยกัน?

โอคาซีขมวดคิ้วเมื่อจ้องมองแนวทางของสวี่หลิงอวิ๋น เธอมองดูเรือนร่างของชายอื่นได้อย่างไร? ไม่ได้การแล้ว คืนนี้จะต้องเชื่อมต่อวิดีโอหาเธอ จะต้องชำระล้างดวงตาของเธอด้วยเรือนร่างที่สมบูรณ์แบบให้ได้

สวี่หลิงอวิ๋นไม่รู้ว่าตนเองทำให้แฟนหนุ่มรู้สึกไม่พึงพอใจมากแค่ไหนกับการจ้องมองกางเกงชั้นในของอาจารย์เฮอร์ อย่างไรก็ตาม หากเธอได้เห็นเรือนร่างอันสมบูรณ์แบบของแฟนหนุ่ม รับประกันได้เลยว่าเธอจะต้องเสียใจที่ไม่ยอมมาปลุกเร้าเขาตั้งแต่เนิ่น ๆ

อาจารย์เฮอร์รู้สึกถึงชีวิตที่มืดหม่น

คนทั่วทั้งจักรวาลเห็นข้อบกพร่องของเขาแล้ว! จบเห่! คงไม่มีใครต้องการแต่งงานกับเขาอีกแน่นอน! ฮือ ๆๆ! นางฟ้าก็คงจะเกลียดเขาด้วยใช่ไหม?

เธอคงจะไม่ส่งยิ้มให้เขาอีกแล้ว!

ทำไมผู้หญิงอย่างสวี่หลิงอวิ๋นถึงเลวทรามขนาดนี้? อาจารย์เฮอร์อยากจะร้องไห้แต่กลับไร้น้ำตา

โชคชะตาเกี่ยวกับผู้หญิงของอาจารย์เฮอร์สิ้นมลายลงแล้ว แต่กลับคาดไม่ถึงว่าเขาจะได้รับความสนใจจากกลุ่มคนพิเศษ

พวกเขาชอบอาจารย์เฮอร์ที่มีเอวบางร่างน้อย อันที่จริงเขาเองก็ดูหล่ออยู่นิดหน่อย และเป็นแบบที่หลายคนชื่นชอบ

แส้หนังในมือของเขาก็ดูจะร้อนแรงเลยทีเดียว ถ้าได้ฟาดลงบนร่างกายสักครั้งก็คงจะตื่นเต้นไม่เบาใช่ไหม?

ไม่กี่วันต่อมา อาจารย์เฮอร์ก็ได้รับจดหมายมากมายผ่านทางกล่องจดหมายของเขา และรู้สึกโกรธแทบบ้าเมื่อเปิดอ่านมัน!

หลายคนแนบรูปกล้ามเนื้อของตนเองมาพร้อมกับจดหมายรักที่ร้อนแรง

“ไอ้พวกสารเลว! ฉันไม่ใช่แบบเดียวกันสักหน่อยโว้ย!” อาจารย์เฮอร์กวาดจดหมายและรูปภาพทิ้งลงในถังขยะ ทว่าความเกลียดชังกลับไม่บรรเทาลง เขาจึงโยนถังขยะลงไปที่จุดจำแนกขยะอีกครั้งอย่างโหดร้ายทารุณ

และเมื่อเขาเข้าไปกินข้าวที่โรงอาหาร มันคงไม่เป็นอะไรหากใครบางคนแค่ชี้นิ้วมาทางเขา ทว่าใครบางคนกลับจับก้นเขาครั้นเมื่อกำลังต่อแถว!

“ใคร?! ไอ้สารเลวหน้าไหน?!” เขาหันหลังกลับมาและพบว่าไม่มีใครอยู่ด้านหลัง แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกว่ามีคนแตะต้องเขาอย่างชัดเจน?!

บัดซบ! เป็นเพราะเสียงร้องตะโกนของเขา นักเรียนทั้งหลายที่กำลังกินอาหารอยู่ด้านหลังจึงหันมามองเขาเป็นตาเดียวกัน

ราวกับอยากจะเอ่ยถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับท่าน? ป่วยหรือเปล่า?!

เฮอร์ขบฟันและหันหลังกลับไปกินอาหาร

เมื่อพ่อครัวที่กำลังทำอาหารอยู่พบเข้ากับเฮอร์ เขาจึงส่งยิ้มให้ราวกับเป็นคนประเภทเดียวกัน “โย่ อาจารย์เฮอร์นี่เอง ไม่คิดเลยนะครับว่าเราจะเป็นพวกเดียวกัน ถ้าเกิดทีหลังคุณมีคู่ขาแล้ว อยากจะให้ผมช่วยแนะนำคุณทั้งสองเอาไหมครับ?”

“ไม่! จำ! เป็น!” เฮอร์เค้นคำพูดเหล่านี้ออกมาขณะกัดฟันแน่น ร่างที่แข็งทื่อนำอาหารมาที่โต๊ะ และเริ่มกินอย่างช้า ๆ

ขณะเดียวกัน เฮอร์รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกใครบางคนสัมผัส!

“ไอ้สารเลว!” หากเฮอร์ไม่รู้ว่าเขากำลังถูกกระทำจากพลังจิตของใครสักคน เขาคงไม่ใช่เฮอร์คนนี้แล้วล่ะ!

เดิมทีก็รู้สึกโมโหอยู่แล้ว ยังถูกกระทำเช่นนี้อีก ชายแท้คนนี้จะอดทนไหว?!

เขาลุกขึ้นด้วยความโกรธเกรี้ยว และจ้องมองไปรอบ ๆ

ทันทีที่นักเรียนทั้งหลายเห็นสายตาของเขา นักเรียนเหล่านั้นก็รีบละสายตาแกมหยอกล้อ และเสแสร้งทำราวกับไม่มีอะไรผิดปกติทันที

เฮอร์ตั้งเป้าหมายไปที่คลื่นพลังของนักเรียนที่นั่งอยู่บนโต๊ะที่ใกล้เคียงที่สุด

เด็กนักเรียนที่ไม่ทันตั้งตัวเผยให้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขา และถูกเฮอร์จับได้ในทันที

“อยู่ปีไหน? แผนกอะไร?” เฮอร์จ้องมองเหล่านักเรียนอย่างเย็นชา

“สอง ปีสองครับ…” นักเรียนเหล่านี้ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอาจารย์เฮอร์ถึงจ้องมองพวกเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ? จะทำอะไรหรือเปล่า?

หรือว่าตกหลุมรักพวกเขาอย่างนั้นเหรอ? พระเจ้า! พวกเขาชอบผู้หญิงต่างหาก!

เฮอร์จ้องมองใบหน้าของพวกเขา และพยักหน้า “ผมจำพวกคุณได้!”

ฮะ? เอ๊ะ? อะไรนะ? จำพวกเขาได้หมายความว่าอย่างไร?!

นักเรียนชั้นปีที่สองรู้สึกถึงลางสังหรณ์ใจที่ไม่ดีบางอย่าง ทำไมอาจารย์เฮอร์ถึงจ้องมองพวกเขาราวกับอยากจะกลืนกินพวกเขาเลยล่ะ?

ขณะเดียวกัน นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งเดินทางเข้ามายังโรงอาหารภายใต้การนำของสวี่หลิงอวิ๋น

นักเรียนชั้นปีอื่นมีจำนวนอยู่ไม่มากนัก แต่ทันทีที่พวกเขาเห็นองค์หญิงสาม มหาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ย่างก้าวเข้ามาในโรงอาหารเพื่อรับประทานอาหารมื้อใหญ่ที่นี่ พวกเขาก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยท่าทางวิตกกังวล พร้อมกับถือชามข้าวไว้ในมือ และจ้องมององค์หญิงสามเดินนำผู้คนเข้าไปในห้องอาหารชั้นใน ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

เฮอร์เห็นสวี่หลิงอวิ๋นเช่นกัน

กล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างกายของเขาตึงเครียดในทันที ราวกับเห็นปีศาจร้ายยุคก่อนประวัติศาสตร์ ร่างกายของเขากำลังร้องคำรามว่ารีบวิ่งเร็ว! เจ้าโง่!

วิ่งหนีไม่ได้! ถ้าเกิดวิ่งหนีไป จะยอมถูกดูถูกดูแคลนเอาหรือ?! จะวิ่งหนีไม่ได้!

สวี่หลิงอวิ๋นเองก็เห็นเฮอร์เช่นกัน ดวงตาที่ดูไม่แยแสเปล่งประกายวิบวับในทันใด ราวกับพบเจอของเล่นชิ้นโปรด กระโดดโลดเต้น และเดินไปด้านข้าง ก่อนจะส่งเสียงร้องตะโกนดังลั่น “อา อาจารย์เฮอร์นี่นา! ท่านมากินข้าวเหมือนกันสินะคะ!”

ใบหน้าแข็งทื่อของเฮอร์พยักหน้าเล็กน้อย

เสียใจจัง จะปั้นหน้าต่อไปอย่างไรดี?! ไม่รู้ว่าองค์หญิงสามจะมีวิธีการอื่นอะไรอีกหรือเปล่า?!

เนื่องจากเสียงดังก้องของสวี่หลิงอวิ๋น จึงทำให้ทุกคนกลับมาจดจ้องพวกเขาอีกครั้ง

นักเรียนทั้งหลายนั่งกินเงียบ ๆ ขณะขยับตัวเข้าหากันอย่างกลมเกลียว ราวกับมีเรื่องซุบซิบใหญ่โตให้ได้ใส่ใจ!

อะไรคือความเพลิดเพลินที่สุดในชีวิต?

แน่นอนว่าต้องเป็นความอิ่มเอมทางราคะและการนินทาอย่างไงล่ะ

หากไร้ซึ่งคำนินทา ชีวิตก็คงไร้ซึ่งความสมบูรณ์แบบ!

สวี่หลิงอวิ๋นนั่งลงตรงหน้าอาจารย์เฮอร์ “ดีใจจังเลยค่ะที่ได้พบท่านอีก นักเรียนปีหนึ่งชอบท่านมากเลยล่ะค่ะ ไม่สิ เดิมทีพวกเราตั้งใจจะไปกินข้าวด้วยกัน แต่พอพวกเราได้ยินว่าท่านจะมากินอาหารมื้อใหญ่คนเดียว พวกเราก็กลัวว่าท่านจะเหงา ก็เลยตามมากินข้าวกับท่านน่ะค่ะ!”

อีกทั้งยังแสดงท่าทีราวกับว่า ‘ชมฉันสิค่ะ ฉันเป็นคนดีนะ’

องค์หญิงสามมีผิวพรรณที่ดี ผิวขาวผ่องและไร้ซึ่งตำหนิ ดวงตาคู่โตคว่ำลงเล็กน้อย แต่กลับดูเฉียบคมนัก

ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันเล็กน้อย ราวกับน้องสาวผู้น่ารักข้างบ้าน อดไม่ได้ที่มอบความรักให้อย่างทะนุถนอม

ทว่าอาจารย์เฮอร์กลับไม่มีถูกหลอกด้วยรูปลักษณ์ใสซื่อ

“ไม่จำเป็น!” อาจารย์เฮอร์ครุ่นคิดกับตนเอง ฉันไม่ต้องการให้เธอมากินข้าวเป็นเพื่อนหรอก! ฉันจะไม่สูญสิ้นอะไรในชีวิตอีกเพื่อขอให้เธอมากินข้าวเป็นเพื่อนแน่?!

สวี่หลิงอวิ๋นกล่าวทักทายนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งที่อยู่ด้านหลัง ราวกับไม่ได้ยินคำพูดของเขา

“รีบไปหาที่นั่งซะสิ อาจารย์เฮอร์ดีใจมากเลยนะที่ได้เจอพวกเรา! เพราะตลอดทั้งสี่ชั้นปี ก็มีแค่พวกปีหนึ่งเท่านั้นแหละที่ได้ใช้ทักษะการฝึกฝนที่ดั้งเดิมที่สุด”

“นี่แสดงให้เห็นอะไร? แสดงให้เห็นว่าผู้คนให้ความสำคัญกับเรามากขนาดไหน!” สวี่หลิงอวิ๋นสั่งให้นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งนั่งลง

กำลังถากถางเขาอย่างนั้นหรือ?! เฮอร์สูดลมหายใจเฮือกใหญ่

เขาต้องดูให้ออกว่าองค์หญิงสามจะโยนลูกไม้อะไรมาให้เขาอีก

สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองท่าทีนิ่งสงบไม่ขยับเขยื้อนของเขาด้วยความพึงพอใจ จิตใจของเขาแข็งแกร่งยิ่งนัก ไม่เลวเลยทีเดียว!