บทที่ 211 ถูกทำร้าย

คนรับใช้รีบวิ่งไปที่ห้องทำงานของหลันเยว่เฉิน แล้วพูดว่า : “คุณ……หมอหลัน คุณนายเหมือนจะมีอาการผิดปกติ คุณรีบไปดูหน่อยเถอะ!”

เห็นท่าทางที่ดูร้อนใจของคนรับใช้ หลันเยว่เฉินก็ตกใจ เขาเองก็ไม่คาดคิดว่าดึกดื่นอย่างนี้จะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น จึงรีบลุกจากที่นั่ง แล้วตามคนรับใช้ไปยังห้องคนไข้ของเจียงหยุนเอ๋อ

ตอนที่คนรับใช้ไปตามหลันเยว่เฉินนั้น เจียงหยุนเอ๋อก็ได้ฝืนตัวเองให้อ้วกเอายาที่เพิ่งทานเข้าไปเมื่อกี้นี้ออกมา ถึงแม้จะอ้วกออกมาบ้างแล้ว แต่เจียงหยุนเอ๋อยังคงไม่วางใจ

ทำยังไงดีนะ……

ขณะที่จิตใจของเจียงหยุนเอ๋อกำลังวิตกกังวลกระสับกระส่ายอยู่นั้น เรื่องที่ร้ายกว่านั้นก็เกิดขึ้น เพราะเธอเริ่มรู้สึกว่าท้องของตัวเองนั้นเจ็บปวดอย่างรุนแรงขึ้นมา

ในตอนนั้น เจียงหยุนเอ๋อสติกระเจิงหมดแล้ว เธอไม่กล้าแม้แต่จะคิด ว่าถ้าหากตัวเองสูญเสียลูกไปเพราะสาเหตุนี้ เธอจะทำยังไง

เจียงหยุนเอ๋อในตอนนี้ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม เธอได้แต่กุมท้องตัวเองเอาไว้ อดทนรอให้หลันเยว่เฉินมาที่นี่

ตอนที่หลันเยว่เฉินผลักประตูออกนั้น ก็ได้เห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อเหงื่อแตกเต็มตัว เขาหน้านิ่งคิ้วขมวด รีบเดินไปพยุงเจียงหยุนเอ๋อขึ้นมา แล้วเอ่ยถาม : “นี่มันเกิดอะไรขึ้น? อยู่ ๆ เธอก็ปวดท้องขึ้นมาเหรอ?”

เจียงหยุนเอ๋อส่ายหน้า แล้วอธิบาย : “เมื่อสักครู่มีพยาบาลคนหนึ่งเข้ามาบังคับให้ฉันทานอะไรบางอย่างเข้าไป ดูจากอาการของฉันตอนนี้ เป็นไปได้มากว่าจะเป็น……ยาทำแท้ง”

“อะไรนะ?” หลันเยว่เฉินสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ยังไม่ทันได้พูดอะไร แต่ทว่า คนรับใช้ที่อยู่ข้าง ๆ กลับร้องตกใจออกมา

ตลอดทั้งคืนเป็นตัวเองที่คอยดูแลเจียงหยุนเอ๋อ ถ้าหากลี่จุนถิงรู้ว่าเจียงหยุนเอ๋อเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น ต้องกล่าวโทษตัวเองแน่ ๆ

เมื่อคิดได้อย่างนี้ คนรับใช้ก็เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา

“เธอกลืนลงไปแล้วหรือยัง?” ถึงแม้หลันเยว่เฉินจะเอ่ยถามออกไปอย่างนี้ แต่เห็นอาการของเจียงหยุนเอ๋อแล้ว ในใจก็พอจะรู้คำตอบอยู่แล้ว

เห็นสีหน้าหลันเยว่เฉินดูขรึมขึ้น เจียงหยุนเอ๋อก็เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ ทันใดนั้นก็เริ่มวิตกกังวลขึ้นมา แต่ยังคงแข็งใจตอบออกไปว่า : “ฉัน……ฉันพยายามอ้วกออกมาบ้างแล้ว แต่ก็มีกลืนลงไปเล็กน้อย”

“หมอหลัน ขอร้องล่ะ……ช่วยลูกของฉันด้วยนะ ฉันไม่อยาก……ไม่อยากเสียเขาไป!” เจียงหยุนเอ๋อจับแขนของหลันเยว่เฉินไว้ด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง ในตาเริ่มมีน้ำตาคลอ

เธอไม่รู้ว่า ถ้าหากต้องสูญเสียลูกคนนี้ไปเพียงเพราะความประมาทเลินเล่อของตัวเอง เธอจะสู้หน้าลี่จุนถิงได้ยังไง

“เธอวางใจเถอะ เธอเป็นคนไข้ของฉัน ฉันต้องใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีของฉันรักษาเด็กคนนี้เอาไว้ให้ได้” หลันเยว่เฉินพูดด้วยสีหน้าจริงจังตั้งใจ

“ฉัน……ฉันปวดท้องมากเลย……” เหงื่อบนหน้าเจียงหยุนเอ๋อยังไหลออกมาไม่หยุด เธอได้จับแขนของหลันเยว่เฉินไว้อย่างรู้สึกหมดหนทาง

หลันเยว่เฉินเห็นสีหน้าของเธอ ก็ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวทันที : “เธอรออยู่ในห้องคนไข้นี่ก่อน ฉันจะรีบไปเตรียมการรักษาอย่างเร่งด่วน”

หลังจากนั้น หลันเยว่เฉินก็รีบออกไปจากห้องคนไข้ของเจียงหยุนเอ๋อ จัดแจงเตรียมคนเพื่อเตรียมรักษาเร่งด่วน จากนั้นก็ส่งคนมาเข็นเจียงหยุนเอ๋อไปยังห้องฉุกเฉิน

ก่อนเข้าทำการผ่าตัด หลันเยว่เฉินไม่ลืมที่จะโทรหาลี่จุนถิง

“ฮัลโหล จุนถิง เจียงหยุนเอ๋อทางนี้……เกิดเรื่องที่ไม่ค่อยดีขึ้น” ขณะที่หลันเยว่เฉินกำลังพูดเรื่องนี้ออกมา ที่จริงก็เป็นห่วงลี่จุนถิงมาก เกรงว่าจะตื่นตระหนกตกใจมากเกินไป

เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด……

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” ลี่จุนถิงที่อยู่ในสายดูร้อนรนอย่างมาก เขาเพิ่งกลับมาได้ไม่นาน ทำไมเกิดเรื่องขึ้นอีกแล้ว?

หลันเยว่เฉินมองไปยังเจียงหยุนเอ๋อที่นอนอยู่ในห้องฉุกเฉิน แล้วเอ่ยพูดขึ้นว่า : “เรื่องค่อนข้างซับซ้อน ฉันต้องรีบไปดูอาการเธอก่อน ตอนนี้นายรีบมาที่นี่เถอะ”

เมื่อได้ยินดังนั้น ลี่จุนถิงก็อดหน้านิ่วคิ้วขมวดไม่ได้ แต่ก็ไม่กล้าไปเซ้าซี้หลันเยว่เฉินให้เสียเวลา เลยรีบพูดไปว่า : “ตกลง ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ”

หลังจากวางสาย ลี่จุนถิงก็รีบเร่งไปที่โรงพยาบาลโดยด่วน

ตอนที่ลี่จุนถิงมาถึงโรงพยาบาล เจียงหยุนเอ๋อยังคงอยู่ในห้องฉุกเฉิน นอกห้องฉุกเฉิน คนรับใช้และบอดี้การ์ดต่างก็ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าหวั่นกลัว

ไม่มีเหตุผลอื่นใดไปได้ พวกเขาต่างก็เป็นคนที่ลี่จุนถิงส่งมาด้วยตัวเอง แต่กลับไม่สามารถดูแลเจียงหยุนเอ๋อให้ดี ทำให้เธอเกิดเรื่องขึ้น จึงรู้สึกหวั่นใจเป็นธรรมดา กลัวว่าลี่จุนถิงจะลงโทษพวกเขา

“คุณชายลี่” หนึ่งในบอดี้การ์ดรวบรวมความกล้าเอ่ยเรียกเขา

ลี่จุนถิงขมวดคิ้ว กระชากเสียงถาม : “ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

คนรับใช้ที่ตอนนั้นอยู่ด้วยกันกับเจียงหยุนเอ๋อ ได้ยินที่ลี่จุนถิงเอ่ยถาม ก็ได้แต่ตอบออกไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ : “คุณชายลี่ คืออย่างนี้ค่ะ……เดิมทีคุณนายพักผ่อนอยู่ จากนั้นอยู่ ๆ ก็มีคนที่เหมือนพยาบาลเข้ามาในห้อง ตอนแรกพวกเราก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่ปรากฏว่าพยาบาลคนนั้นได้บังคับให้คุณนายทานอะไรบางอย่างเข้าไป จากนั้นคุณนายก็บอกว่าปวดท้อง……”

พูดจบ คนรับใช้ก็ก้มหน้าลง ไม่กล้าส่งเสียงอีกแม้แต่นิด

เมื่อได้ฟังคำแก้ตัวของคนรับใช้ สีหน้าของลี่จุนถิงก็ถมึงทึงลงทันที : “ตกลงให้ทานอะไรเข้าไป?”

“ดิฉัน……ดิฉันก็ไม่แน่ใจค่ะ……คุณนายบอกว่า……อาจจะเป็นยาทำแท้ง” คนรับใช้พูดด้วยท่าทีที่หวาดกลัวมาก กลัวว่าลี่จุนถิงจะโมโหใส่ตัวเอง

ลี่จุนถิงโกรธจัดอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์มาโมโหใส่คนพวกนี้ ได้แต่อยากรู้อาการของเจียงหยุนเอ๋อว่าเป็นยังไงบ้างมากกว่า

แต่ว่า ตอนนี้ยังอยู่ในห้องฉุกเฉิน เขาก็ไม่สามารถฝ่าเข้าไปด้านในได้ ไม่อย่างนั้นอาจจะส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่ที่ทำการรักษาอยู่ก็ได้

“เรื่องนี้ต้องตรวจสอบให้ได้!” ลี่จุนถิงพูดกระชากเสียงออกมา

ภายหลัง เรื่องนี้ได้รู้ถึงหูผู้รับผิดชอบของโรงพยาบาล ผู้รับผิดชอบของโรงพยาบาลหลังจากที่ได้ทราบเรื่องก็รีบมาทันที แล้วเอ่ยขอโทษลี่จุนถิงด้วยท่าทีที่เสียใจและเกรงกลัว : “คุณชายลี่ เรื่องนี้เป็นความประมาทเลินเล่อของพวกเราเอง ต้องขออภัยด้วยจริง ๆ!”

“แค่ขอโทษจะไปมีประโยชน์อะไร? ถ้าหากไม่ตรวจสอบเรื่องนี้ให้แน่ชัด ฉันไม่ยอมให้เรื่องนี้จบลงง่าย ๆ แน่” สีหน้าลี่จุนถิงดูเคร่งขรึมมาก เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ทำให้ความอดทนของเขาหมดลงแล้ว

“คุณชายลี่วางใจ เรื่องนี้พวกเราต้องตรวจสอบให้แน่ชัด จะต้องมีคำตอบให้คุณแน่นอน” ผู้รับผิดชอบของโรงพยาบาลเอ่ยพูดอย่างจริงจัง

เขาไม่กล้ามีปัญหากับลี่จุนถิง เพราะอำนาจและฐานะของลี่จุนถิงก็เห็น ๆ กันอยู่

ลี่จุนถิงทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ สายตามีรังสีอำมหิตแผ่ออกมา : “พวกแก ไม่ใช่เอาแต่พูดให้ดูดี ตอนนี้รีบไปสั่งให้คนเอาภาพจากกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบดูเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้น……รอจัดการทีหลัง เดี๋ยวพวกแกก็อ้างนู้นอ้างนี้ จนคว้าน้ำเหลวอีก”

ผู้รับผิดชอบของโรงพยาบาลปาดเหงื่อบนหน้าผาก ไม่กล้าโต้แย้งอะไร รีบรับปากทันที : “ครับ ครับ ผมจะส่งคนไปจัดการเดี๋ยวนี้”

จากนั้น ผู้รับผิดชอบของโรงพยาบาลก็เรียกคนคนหนึ่งมา แล้วสั่งให้เขาไปเอาภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิดในวันนี้ทั้งหมดของโรงพยาบาลมาจากห้องควบคุมกล้องวงจรปิด