บทที่ 212 หลบหนี

ขณะที่ผู้รับผิชอบของโรงพยาบาลได้ส่งคนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด เจียงหยุนเอ๋อก็ถูกนำตัวออกมาจากห้องฉุกเฉิน

ถูกทำร้ายและเข้ารับการรักษาขนาดนี้ เจียงหยุนเอ๋อจึงสลบไสลไป เห็นดวงตาทั้งสองข้างที่ปิดสนิทของเธอ ลี่จุนถิงก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจเหลือเกิน

ทันใดนั้น หลันเยว่เฉินก็เดินตามเจียงหยุนเอ๋อออกมา ลี่จุนถิงรีบเดินเข้าไปถามไถ่ : “หยุนเอ๋อเป็นยังไงบ้าง?”

สีหน้าของหลันเยว่เฉินดูเคร่งขรึมมาก ลี่จุนถิงที่เห็นอย่างนั้นก็ยิ่งรู้สึกเป็นกังวลมากขึ้น กลัวว่าจะได้ยินข่าวร้ายออกมาจากปากของหลันเยว่เฉิน

“ยังดี ที่ถือว่าช่วยไว้ได้ทันเวลาพอดี ตอนนี้ไม่มีอันตรายอะไรแล้ว”

ได้ยินหลันเยว่เฉินพูดอย่างนี้ ลี่จุนถิงก็โล่งอกไปที

หลันเยว่เฉินเห็นสีหน้าของลี่จุนถิง ก็พูดเสริมต่ออีกว่า : “อืม ฤทธิ์ของยาตัวนั้นรุนแรงมาก โชคดีที่ได้รับเข้าไปในปริมาณน้อย ไม่อย่างนั้นล่ะก็……คงช่วยเด็กในท้องคนนั้นเอาไว้ไม่ได้”

“อืม ฉันรู้แล้ว” ลี่จุนถิงตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

เขาจะต้องสืบหาให้ได้ว่าคนร้ายตัวจริงคือใคร คนที่มันทำร้ายเจียงหยุนเอ๋อ เขาไม่มีทางปล่อยมันไว้แน่

หลังจากที่ส่งเจียงหยุนเอ๋อกลับไปยังห้องคนไข้แล้ว ลี่จุนถิงก็รีบไปดูภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิดทั้งหมด และได้พบกับพยาบาลคนหนึ่งที่น่าสงสัยเป็นอย่างมาก

เพราะเจียงหยุนเอ๋อยังไม่ฟื้นขึ้นมา ดังนั้นลี่จุนถิงจึงคิดว่าพยาบาลคนนี้ก็คือคนที่ดูแลเจียงหยุนเอ๋อก่อนหน้านี้ เขาเดาว่าเธอคงถูกจ้างให้ทำเรื่องแบบนี้ เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบสั่งให้คนไปเอาตัวพยาบาลคนนั้นมาทันที

คนกลุ่มหนึ่งเริ่มตามหาพยาบาลคนนั้นจนทั่ว

“คุณชายลี่ครับ ผมคิดว่าพยาบาลคนนั้นที่กล้าทำเรื่องแบบนี้ ต้องหลบหนีไปแล้วแน่ ๆ”

“อืม ไปสืบเรื่องของมันมา แล้วตามตัวมาให้ได้” ลี่จุนถิงออกคำสั่งด้วยสีหน้าที่ไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ

กลุ่มคนพวกนั้นต่างก็พากันแยกย้ายออกไปหาข้อมูล แต่ภายในห้องน้ำข้าง ๆ กลับมีเสียงร้องตกใจดังออกมา

“อ้าว ลู่ลู่ ทำไมเธอถึงมาเป็นลมล้มอยู่ในห้องน้ำล่ะ?”

ในห้องน้ำ พยาบาลที่ชื่อลู่ลู่ลืมตาขึ้น แล้วก็ถูกกลุ่มคนล้อมตัวเอาไว้

จากสายตาของพวกเขา ลู่ลู่ก็รู้ได้ทันทีว่าตัวเองได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัย

“เอ๊ะ ลู่ลู่ ชุดพยาบาลของเธอล่ะ?” มีคนหนึ่งเห็นชุดที่ลู่ลู่สวมใส่ ก็ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

นางพยาบาลรีบอธิบายทันที : “ฉัน……ฉันไม่ได้ทำเรื่องแบบนั้นกับคุณเจียงนะคะ ฉันกำลังจะเข้าไปตรวจความเรียบร้อย แต่อยู่ ๆ ก็ถูกคนตีจนสลบไป……หลังจากนั้น ก็เป็นอย่างที่เห็นแล้ว……”

หลังจากได้ยินที่พยาบาลคนนี้แก้ตัว สีหน้าลี่จุนถิงก็ยิ่งบึ้งตึงขึ้นไปอีก

เบาะแสที่มีอยู่ จะจบลงแค่ตรงนี้เหรอ? แต่เมื่อคิด ๆ ดูแล้ว ถ้าหากเรื่องนี้เป็นนางพยาบาลคนนี้ทำจริง ๆ เธอก็คงไม่มีเหตุผลที่ต้องอยู่ที่นี่ต่อ คงรีบหาทางหนีไปนานแล้ว

ดูท่า คงมีคนแอบเอาชุดพยาบาลของเธอไปจริง ๆ แล้วสวมรอยเป็นพยาบาล เพื่อลอบทำร้ายเจียงหยุนเอ๋อ

“ในเมื่อไม่ใช่เธอ ก็ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว ถามเธอดูสิว่าพอจะมีเบาะแสอะไรบ้าง แล้วก็ปล่อยให้เธอไปพักผ่อนเถอะ” ลี่จุนถิงหน้านิ่วคิ้วขมวดเอ่ยพูดขึ้น

ผู้รับผิดชอบของโรงพยาบาลที่อยู่ข้าง ๆ ตื่นเต้นตกใจเป็นอย่างมาก เรื่องนี้เกิดขึ้นในโรงพยาบาลของพวกเขา ถ้าหากพูดตามตรงแล้ว ลี่จุนถิงจะให้พวกเขารับผิดชอบขึ้นมา พวกเขาก็คงไม่มีทางปฏิเสธไปได้

ตอนนี้เขาใจเต้นตุ๊มตุ๊มต่อมต่อม ตัวสั่นงึกงึก รอให้ลี่จุนถิงสั่งการ แต่ว่า ลี่จุนถิงราวกับไม่ได้สนใจอะไรเขาเท่าไหร่นัก

ถึงแม้ตอนนี้เบาะแสที่มีอยู่จะขาดหายไป แต่ว่า ลี่จุนถิงก็ยังไม่ยอมแพ้ เขาให้ลูกน้องของเขาดูกล้องวงจรปิดต่อไป พยายามที่จะหาข้อมูลหรือเบาะแสอะไรจากในนั้นอีก

“คุณชายลี่ คุณนายฟื้นแล้วค่ะ” ขณะที่ลี่จุนถิงกำลังร้อนใจกับเรื่องนี้ ก็มีคนมาบอกเขาว่าเจียงหยุนเอ๋อฟื้นแล้ว

“อะไรนะ? หยุนเอ๋อฟื้นแล้วเหรอ?” ได้ยินดังนั้น ลี่จุนถิงก็รีบทิ้งบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด แล้วรีบไปยังห้องคนไข้ของเจียงหยุนเอ๋อ

ในห้องคนไข้ เจียงหยุนเอ๋อที่เพิ่งฟื้นขึ้นมา สีหน้ายังดูซีดเซียว

ลี่จุนถิงรีบเดินเข้าไปหา กุมมือเจียงหยุนเอ๋อเอาไว้ สีหน้าเขายากที่จะซ่อนความกังวลใจไว้ได้ : “หยุนเอ๋อ เธอดีขึ้นไหม? ตอนนี้ยังมีตรงไหนไม่สบายตัวอีกบ้าง?”

เจียงหยุนเอ๋อเม้มปากแล้วยิ้มออกมา ส่ายหน้าเบา ๆ : “ฉันไม่เป็นไรแล้ว ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว……ลูกของเรา……”

“เธอสบายใจได้ ลูกปลอดภัยดี ไม่เป็นไรแล้วล่ะ” ลี่จุนถิงรู้ดีว่าเจียงหยุนเอ๋อเป็นห่วงอะไร จึงรีบตอบออกไป

ได้ยินดังนั้น เจียงหยุนเอ๋อก็ค่อยโล่งใจขึ้นหน่อย : “งั้นก็ดี”

“คนที่ให้เธอกินยาคนนั้น ตอนนี้พวกเรายังหาตัวไม่พบ รู้เพียงว่ามันเอาชุดพยาบาลของพยาบาลที่นี่มาใส่ สวมรอยเป็นพยาบาลเข้ามา” ท่าทีของลี่จุนถิงเคร่งขรึมมาก ราวกับหัวเสียอย่างมากที่ตัวเองไม่สามารถจับคนร้ายตัวจริงไว้ได้

เจียงหยุนเอ๋ออึ้งไป แล้วรีบพูดออกมา : “ฉันรู้ว่าคนนั้นคือใคร”

“หืม?” ลี่จุนถิงท่าทางคิดไม่ถึงว่าเจียงหยุนเอ๋อจะพูดออกมาอย่างนี้ จึงรีบเอ่ยถาม : “เป็นใคร?”

“เจียงหนิงเอ๋อ” เจียงหยุนเอ๋อพูดด้วยความมั่นใจแน่นอน

สีหน้าลี่จุนถิงถมึงทึงอย่างมาก : “เป็นหล่อนสินะ……”

แต่ว่า คิด ๆ ดูแล้ว เจียงหนิงเอ๋อจงใจทำร้ายเจียงหยุนเอ๋อมาโดยตลอด ทำเรื่องแบบนี้ได้ก็ไม่ถือว่าเหนือความคาดหมายของเขา

……

ฝ่ายเจียงหนิงเอ๋อ หลังจากที่ลงมือทำเรื่องแบบนั้นแล้ว ในใจก็รู้สึกหวาดกลัวไม่เป็นสุข เธอรู้ดีว่าเจียงหยุนเอ๋อรู้แล้วว่าเป็นตัวเองทำ ตัวเองก็ไม่สามารถอยู่ที่นี่ต่อไปได้ จึงตัดสินใจหลบหนีกลางดึก

“แม่ ช่วงนี้ฉันจะหลบไปสักพักนะ ไม่กลับไปชั่วคราว” ก่อนไป เจียงหนิงเอ๋อได้โทรศัพท์ไปหาฟู้ชูเหม่ย

ฟู้ชูเหม่ยยังไม่รู้ว่าเจียงหนิงเอ๋อไปก่อเรื่องอะไรไว้บ้าง หลังจากที่ถามไถ่สาเหตุแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะต่อว่าเจียงหนิงเอ๋อ : “หนิงเอ๋อ แกทำเรื่องนี้มันวู่วามเกินไปแล้ว! ถ้าหากจับไม่ได้ก็แล้วไป แต่ตอนนี้แกเป็นอย่างนี้แล้ว ถ้าหากลี่จุนถิงมาเอาเรื่องตระกูลเจียงของพวกเราจะทำยังไง?”

เจียงหนิงเอ๋อเดิมทีก็วิตกกังวลมากพออยู่แล้ว เมื่อได้ยินฟู้ชูเหม่ยต่อว่าตัวเองโดยที่ไม่ได้ช่วยคิดหาวิธี ก็ทำให้ยิ่งโมโหมากขึ้นไปอีก

“แม่ ที่ฉันโทรหาแม่ไม่ใช่มาพูดเรื่องพวกนี้อยู่นะ ไอหยา ยังไงเรื่องมันก็เป็นแบบนี้ไปแล้ว ฉันก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว รอให้ผ่านช่วงนี้ไปสักระยะแล้วฉันค่อยติดต่อแม่ไปแล้วกัน”

พูดจบ เจียงหนิงเอ๋อก็วางสายไป

เพราะกังวลว่าจะถูกลี่จุนถิงจับได้ เจียงหนิงเอ๋อจึงไม่ได้นั่งเครื่องบิน แต่เลือกที่จะนั่งรถบัสที่ตัวเองดูถูกมาตลอด

เมื่อเดินทางมาถึงสถานีรถโดยสาร เจียงหนิงเอ๋อก็คิดว่าคงไม่มีเรื่องอะไรแล้ว เพราะยังไงลี่จุนถิงก็คงคิดไม่ถึงแน่นอนว่าตัวเองจะมาอยู่ในสถานที่แบบนี้

แต่ทว่า เจียงหนิงเอ๋อได้ใจไม่นาน ในขณะที่เธอกำลังซื้อตั๋วรถโดยสาร ตำรวจหลายคนก็ปรากฏตัวขึ้น แล้วเข้าจับกุมเธอทันที