ตอนที่ 522 การเดิมพันในอีก 1 ปีข้างหน้า
แปล Tarhai
หลิวหรูหยานถามหลินเสวี่ยว่าเธอมีเงินเท่าไร คำถามของเธอทำให้หลินเสวี่ยชะงัก
หลินเสวี่ยคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “ประมาณ 500 ล้าน”
ในอดีตบริษัทของเธอมีมูลค่าเพียง 300 ล้านหยวน แต่หลังจากการเติบโตในเดือนนี้บริษัทได้ขยายตัวและขณะนี้มีมูลค่าถึง 500 ล้านหยวน
หลินหรูหยานยิ้มเล็กน้อยและกล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า “หลินเสวี่ย ชั้นไม่อยากทำให้คุณต้องรู้สึกแย่หรอกนะ แต่ชั้นมีทรัพย์สินมากกว่าห้าหมื่นล้านหยวน ทรัพย์สินสุทธิของชั้นสูงกว่าของคุณถึง 100 เท่า ถ้าฉิงเฟิงเป็นผู้ชายของชั้น ชั้นสามารถทำให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้น ตัวอย่างว่า ชั้นสามารถซื้อแมนชั่นมูลค่าหนึ่งพันล้านหยวนให้เขา ซึ่งคุณไม่สามารถทำได้ แต่ชั้นทำได้ !”
หลินเสวี่ยขมวดคิ้ว เธออึดอัดเพราะเธอรู้สึกว่าหลิวหรูหยานใช้อำนาจเงินตราข่มเธอให้ดูด้อยกว่า
“หลิวหรูหยาน ถึงแม้คุณจะร่ำรวย แต่เงินส่วนใหญ่ของคุณก็มาจากตระกูลหลิว แล้วมันจะมีความหมายอะไร ? ถึงแม้ว่าชั้นจะมีแค่ 500 ล้านหยวนและน้อยกว่าคุณ แต่เงินของชั้น ชั้นหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงและความสามารถของตัวเอง ซึ่งหมายความว่าชั้นมีความสามารถและฉลาดกว่าคุณ !” หลินเสวี่ยยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
หลินเสวี่ยมีความภูมิใจในตัวเอง เธอไม่คิดว่าจะมีใครฉลาดและสวยกว่าเธอ แม้แต่หลิวหรูหยานผู้ทรงเสน่ห์ที่สุดในเมืองทะเลตะวันออกก็ตาม
ได้ยินดังนั้น หลิวหรูหยานก็ยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “หลินเสวี่ย ดูเหมือนว่าคุณมีความมั่นใจมากในความสามารถของตัวเอง งั้นพวกเรามาเดิมพันกันหน่อยมั้ยละ ?”
“เดิมพันอะไร? ว่ามาได้เลย”
“มันง่ายมาก หลินเสวี่ย, พวกเรามาเดิมพันกันว่าในเวลา 1 ปีนับจากนี้ ใครจะเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน ผู้ชนะก็ได้ฉิงเฟิงไป”
“เรื่องนี้ไม่ยุติธรรมเลย ตระกูลของคุณมีอยู่แล้วห้าหมื่นล้าน แต่ชั้นมีแค่ 500 ล้านเท่านั้น เรามีจุดเริ่มต้นต่างกัน”
“หลินเสวี่ย คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะชั้นจะส่งคืนทรัพย์สินทั้งหมดในครอบครองของชั้นให้กับตระกูลหลิว และจะเหลือติดตัวไว้เพียง 500 ล้านหยวนเท่ากับคุณเป็นไง ?” หลิวหรูหยานกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลินเสวี่ยขมวดคิ้วเล็กน้อยและกล่าวว่า “ทำไมชั้นต้องแข่งกับคุณด้วย ?”
หลินหรูหยานยิ้มและพูดว่า “เพราะชั้นคิดว่ามีเพียงผู้หญิงที่ร่ำรวยและแข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่สมควรจะได้อยู่เคียงคู่กับฉิงเฟิง ถ้าคุณรู้สึกมีความสุขกับทรัพย์สินที่มีเพียง 500 ล้าน งั้นชั้นก็คิดว่าคุณไม่สมควรจะอยู่เคียงคู่กับเขา”
“หลิวหรูหยาน, การเดิมพันนี้ดูเหมือนจะเป็นประโยชน์กับคุณฝ่ายเดียวเท่านั้น ถ้าชั้นชนะแล้วจะเป็นไง ?”
“ก็ง่ายๆ ถ้าหนึ่งปีหลังจากนี้คุณชนะแล้วกลายเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน ชั้นจะถอยให้และจะไม่มาพบฉิงเฟิงอีกเลย”
“ตกลง ! ชั้นเห็นด้วยกับข้อเสนอของคุณฉ ชั้นหวังว่าหลังจากคุณแพ้ คุณจะไม่มาเจอฉิงเฟิงอีก” หลินเสวี่ยกล่าวว่าหนาวเย็น
หลินเสวี่ยเป็นผู้หญิงที่ฉลาด เธอสามารถบอกได้ว่านี่คือการท้าทายโดยตรงของหลิวหรูหยานที่มีต่อเธอ
เธอจะไปกลัวคำท้าทายของหลิวหรูหยานได้อย่างไร? ในเมื่อหลิวหรูหยานต้องการเดิมพันกับเธอ เธอก็ต้องยอมรับคำท้าทาย !
หลินเสวี่ยและหลิวหรูหยานต่างถูกขนามนามว่าเป็นราชินีแห่งโลกธุรกิจของเมืองทะเลตะวันออก พวกเธอต่างก็มีพรสวรรค์ในการจัดการธุรกิจของพวกเธอ พวกเธอย่อมไม่เต็มใจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ต่ออีกฝ่ายแน่นอน
ฉิงเฟิงรู้สึกอึดอัดหลังจากที่ได้ยินการเดิมพันระหว่างผู้หญิงทั้งสองคน
ทำไมฉันถึงกลายเป็นรางวัลสำหรับผู้ชนะในการเดิมพันของพวกคุณไปได้ละนี่ ?
“เอ่อ… สาวงามทั้งสอง สำหรับฉันแค่ 1 ล้านหยวนก็เพียงพอแล้ว ฉันไม่ได้ต้องการเงินมากนัก พวกคุณไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันหรอก” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เขาไม่ต้องการให้ผู้หญิงสองคนนี้แข่งขันกัน ผู้หญิงจะมีเวลาให้กับครอบครัวน้อยลงหากพวกเธอเอาแต่สนใจในเรื่องงาน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเธอจะมีเวลาพอที่จะไปดูหนัง เดินเล่นหรือออกไปดินเนอร์
หลินเสวี่ยและหลิวหรูหยานไม่สนใจคำพูดของฉิงเฟิง พวกเธอเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งและมีความมุ่งมั่นเพื่อที่จะดูว่าใครเยี่ยมกว่ากันในเชิงธุรกิจ
บรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้น หลังจากหลินเสวี่ยและหลิวหรูหยานเดิมพันกันว่าใครจะเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีนในอีก 1 ปีข้างหน้า
ไม่มีใครรู้เลยว่า การทานมื้อค่ำในวันนี้จะเป็นเหตุผลของการถือกำเนิดสองสาวผู้ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีนในอนาคต….
เนื่องจากอาหารที่หลิวเจียวเจียวทำนั้นไหม้และกินไม่ได้ หลินเสวี่ยจึงจากไปโดยไม่ได้กินอาหาร
ในเมื่อหลินเสวี่ยได้ตกปากรับคำการเดิมพันกับหลิวหรูหยานแล้ว เธอจึงไม่ต้องการเสียเวลาใดๆอีก เธอต้องการกลับบ้านเร็วๆเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับธุรกิจของเธอ
“หลินเสวี่ย ว่างๆก็มาอีกนะ” หลิวหรูหยานกล่าวขณะเดินไปส่งที่ประตู
หลินเสวี่ยยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “ชั้นหวังว่าคราวหน้าคุณจะเป็นคนเข้าครัวเองนะ ชั้นไม่ชอบกินอาหารไหม้ๆ”
หลังจากนั้นหลินเสวี่ยและฉิงเฟิงก็เดินออกจากวิลล่าของหลิวหรูหยาน
“ฮึ่ย ! ทำไมเธอทำตัวหยิ่งยโสขนาดนี้ ? อาหารไหม้นิดหน่อยแล้วจะตายรึไง ?”
หลิวเจียวเจียวกล่าวด้วยความโกรธ
เธอรู้สึกโกรธมากในวันนี้ เธออุตสาห์เสียเวลาทำอาหารแต่หลินเสวี่ยกลับดูถูกอาหารที่เธอทำ
หลิวหรูหยานยิ้มเล็กน้อย เธอไม่ได้เข้าข้างน้องสาวของเธอในครั้งนี้ เธอกล่าวว่า “เจียวเจียว เธอควรฝึกทำอาหารให้มากกว่านี้นะ บอกตามตรงอาหารที่เธอทำชั้นก็กินไม่ลงเช่นกัน”
ใบหน้าของหลิวเจียวเจียวแดงขึ้น เธอรู้สึกอึดอัดใจ พี่สาวของเธอต้องการโภชนาการสูงมากในระหว่างการตั้งครรภ์ แต่เธอก็ไม่ได้กินอะไรเลยเพราะฝีมือการทำอาหารที่น่ากลัวของเธอ
ตั้งแต่ที่หลิวเจียวเจียวทำอาหารที่กินไม่ลง และหลิวหรูหยานก็ไม่อยากเข้าครัว พวกเธอจึงต้องสั่งอาหารมากิน ไม่นานนักอาหารก็มาส่งถึงที่บ้านของพวกเธอ
หลังจากกินอิ่มแล้ว หลิวหรูหยานก็เธอตบหน้าท้องของเธอเบาๆและพูดว่า “ลูกน้อยอย่ากังวลไป แม่จะไม่ปล่อยให้หนูหิวอีกแล้วนะ”
ราวกับว่าทารกในครรภ์ได้ยินคำพูดของเธอ ทารกเริ่มเคลื่อนที่ในท้องของเธอ เรื่องนี้ทำให้หลิวหรูหยานรู้สึกมีความสุขมาก
“เจียวเจียว ! มานี่ๆ ลูกกำลังเตะ” หลิวหรูหยานกล่าวอย่างมีความสุข
หลิวเจียวเจียววิ่งไปหาหลิวหรูหยานอย่างมีความสุข เธอแนบหูของเธอไว้ที่ท้องของหลิวหรูหยานและเดินยินเสียงเคลื่อนที่เล็กน้อยจากในท้องของเธอ ดูเหมือนทารกกำลังออกกำลังกาย
“พี่ ดูเหมือนว่าเด็กน้อยคนนี้จะเข้มแข็งเหมือนพี่เขย” หลิวเจียวเจียวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ประกายแห่งความสุขปรากฏขึ้นในดวงตาของหลิวหรูหยาน เธอกล่าวว่า “อืม ดูเหมือนเด็กคนนี้จะแข็งแรงเหมือนฉิงเฟิง พวกเขาพ่อลูกชอบออกกำลังกายเหมือนกันเลย อย่างไรก็ตาม, ภารกิจหลักของพวกเราตอนนี้คือการขยายบริษัท และเอาชนะหลินเสวี่ยให้ได้ “
หลิวหรูหยานและหลิวเจียวเจียวต่างก็มีไฟและเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นเมื่อพูดถึงเรื่องการเอาชนะหลินเสวี่ย ทั้งสองคนไม่พอใจหลินเสวี่ย พวกเธอจึงอยากจะเอาชนะ
“พี่ ฉันจะหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทของหลินเสวี่ยให้นะ” หลิวเจียวเจียวกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย เธอคว้าเอกสารจากห้องนอนและเริ่มหามันให้พี่สาวของเธอ
หลินเสวี่ยก็เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นเมื่อกลับมาถึงบ้านเช่นกัน เธอกล่าวว่า
“ฉิงเฟิงเอาข้อมูลบริษัทของเรามาให้ชั้นหน่อย ชั้นจำเป็นต้องทำแผนขยายบริษัท”
“แต่นี่มันสี่ทุ่มกว่าแล้วนะ คุณควรจะพักผ่อน” ฉิงเฟิงกล่าวในขณะที่มองนาฬิกา
หลินเสวี่ยส่ายศีรษะของเธอและกล่าวว่า “ไม่ได้ ชั้นต้องเอาชนะหลิวหรูหยานและกลายเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดของประเทศจีนให้ได้ ชั้นถึงจะสามารถเคียงคู่กับคุณได้อย่างภาคภูมิใจ”
ฉิงเฟิงทั้งประทับใจและรู้สึกพูดไม่ออกเมื่อได้ยินคำพูดของหลินเสวี่ย เขาชอบหลินเสวี่ยที่ตัวของเธอไม่ใช่เพราะทรัพย์สินเงินทอง
อย่างไรก็ตาม เขารู้ว่าหลินเสวี่ยจะไม่มีทางยอมแพ้เพราะเธอตกปากยอมรับการเดิมพันกับหลิวหรูหยานไปแล้ว เธอเป็นผู้หญิงที่ดื้อรั้นและหัวแข็ง
ฉิงเฟิงนำข้อมูลของบริษัทมาให้หลินเสวี่ยและนั่งลงอยู่ข้างๆเธอ