บทที่ 214 ต้องทำลายแก

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่ 214 ต้องทำลายแก

ลี่หยูนห่วงก็ไม่ได้เกลียดอะไรเจียงหยุนเอ๋อหรอก แต่ลี่จุนถิงแคร์เจียงหยุนเอ๋อมากน่ะสิ เพราะแบบนั้นเขาเลยจงใจไล่เจียงหยุนเอ๋อไป อาจจะทำให้ลี่จุนถิงทุกข์ทรมานใจก็ได้

คิดได้อย่างนี้ ลี่หยูนห่วนก็รู้สึกดีใจขึ้นมา

และที่สำคัญที่สุดก็คือ ก่อนหน้านี้ลี่หยูนห่วนได้แอบสำรวจมาโดยตลอด พบว่าส้งหวั่นหวั่นเป็นคนคอยบงการคนพวกนี้มาตลอด ทำให้มองออกว่าเธอเป็นคนมีสามารถอยู่บ้าง เรื่องพวกนี้อยู่ในสายตาลี่หยูนห่วนทั้งหมด เขาจึงจำเป็นต้องมีเพื่อนร่วมทีมที่ฉลาดอย่างส้งหวั่นหวั่น

ส่วนลี่จีถองและเจียงหนิงเอ๋อนั่นช่างไร้ประโยชน์จริง ๆ

ส้งหวั่นหวั่นภายนอกไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ แต่ในใจเริ่มคิดพิจารณาแล้ว

ยังไงซะตอนนี้เพื่อนร่วมทีมของตัวเองก็มักจะอวดฉลาดแล้วทำเรื่องผิดพลาดอยู่บ่อย ๆ ถ้าจะร่วมมือกับลี่หยูนห่วนก็คงไม่เลว ศัตรูของศัตรูก็คือเพื่อน และลี่หยูนห่วนเองก็เป็นตัวแสดงที่ยอดเยี่ยมตัวหนึ่ง

“ตกลง งั้นก็ยินดีที่ได้ร่วมมือกัน” ส้งหวั่นหวั่นยื่นมือออกไปข้างหนึ่ง

ลี่หยูนห่วนก็ยื่นมือออกไปเช่นกัน ทั้งสองคนจับมือกันถือว่าบรรลุข้อตกลงด้วยกันทั้งคู่

ทั้งคู่ได้พูดคุยเรื่องอื่น ๆ อีกสักพัก จากนั้นก็แยกย้ายกันไป

แต่ส้งหวั่นหวั่นคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะพบกับเรื่องลำบากขึ้นมา

รถของส้งหวั่นหวั่นจอดอยู่ค่อนข้างไกล ระหว่างทางที่เดินไปที่รถ ก็ถูกคนดักไว้

“พวกแกเป็นใคร?” ส้งหวั่นหวั่นถอยหลังไปสองก้าว กวาดสายตามองกลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้า

คนที่อยู่ด้านหน้าสุดเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ส่วนด้านหลังก็เหมือนจะเป็นกลุ่มนักเลงกลุ่มหนึ่ง

ส้งหวั่นหวั่นคิดว่าพวกมันต้องการชิงทรัพย์ เลยพูดออกไปว่า : “พวกแกต้องการเงินใช่ไหม? จะเอาเท่าไหร่ก็หยิบไปได้เลย ฉันยกให้พวกแก”

ส้งหวั่นหวั่นพูดพลางเปิดกระเป๋าของตัวเอง

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า แกคิดง่ายเกินไปแล้ว” ผู้หญิงที่ยืนนำหน้าสุดคนนั้นหัวเราะออกมา แล้วเดินเข้าไปหาส้งหวั่นหวั่น

ใบหน้าของหล่อนเผยออกมาให้เห็นภายใต้แสงไฟถนน ทันใดนั้นส้งหวั่นหวั่นก็รู้สึกว่าคุ้นหน้าคนคนนี้ ผู้หญิงคนนี้เหมือนจะเป็นแฟนของลี่หยูนห่วน

แต่ทำไมหล่อนต้องมาโผล่ที่นี่ด้วย แถมยังพาคนมามากมายเพื่อดักเธอเอาไว้

เมื่อเห็นเป็นคนรู้จัก ส้งหวั่นหวั่นก็ไม่ได้ตื่นตระหนกเหมือนก่อนหน้านี้ เธอยืนตัวตรง ยืดอกด้วยความมั่นใจ พลางขมวดคิ้วเอ่ยถามด้วยความโมโห : “เธอคิดจะทำอะไรกันแน่?”

เฉียวซินแสยะยิ้มออกมา : “เหอะ นังสารเลว แกอย่ามาลักลอบเจอแฟนคนอื่นแล้วยังทำท่าทางใสซื่อบริสุทธิ์นะ คิดว่าตัวเองเป็นคุณหนูแล้วจะเป็นนางฟ้าได้งั้นเหรอ? วันนี้ฉันต้องทำลายแกให้ได้”

เฉียวซินพูดพลางโบกมือส่งสัญญาณให้ด้านหลัง ท่าทางราวกับเป็นหัวหน้าใหญ่ : “พวกแก จัดการมันได้”

นักเลงพวกนั้นเมื่อเห็นท่าทางของส้งหวั่นหวั่นก็แทบจะอดใจรอไม่ไหวแล้ว เมื่อได้ยินคำสั่งของเฉียวซิน

ก็รีบวิ่งกรูกันเข้าไป คนหนึ่งเข้าไปจับส้งหวั่นหวั่นไว้

ที่เหลือก็ตามกันเข้ามา ทำให้ส้งหวั่นหวั่นตกใจกลัว

เธอเป็นถึงคุณหนูตระกูลใหญ่ แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยพบเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน

อีกทั้งร่างกายเธอก็อ่อนแอไร้เรี่ยวแรง ต่อให้ภายนอกดูสงบนิ่ง แต่ในใจนั้นกลับรู้สึกหวาดกลัว

ส้งหวั่นหวั่นล้วงโทรศัพท์ออกมา คิดจะหาคนมาช่วย แต่ใครจะรู้ว่าเพิ่งหยิบออกมา เฉียวซีก็แย่งโทรศัพท์ไปทันที : “ยังคิดจะหาคนช่วยเหรอ? วันนี้ฉันจะทำให้แกรู้ว่าต่อให้ร้องขอยังไง ฟ้าดินก็ไม่มีทางช่วยแกได้”

“เฉียวซี แกอย่าให้มันมากเกินไปนะ แกรู้หรือเปล่าว่าทำแบบนี้ ผลที่ตามมาจะเป็นยังไง?” ส้งหวั่นหวั่นรู้ว่าตอนนี้ขอความช่วยเหลือไปก็คงไม่มีประโยชน์ จึงทำได้แค่ข่มขู่

“ห๊ะ?” เฉียวซีเดินเข้าไปใกล้ส้งหวั่นหวั่น ยื่นนิ้วไปจับคางส้งหวั่นหวั่นเชยขึ้นมา แล้วเอ่ยพูดด้วยสีหน้าร้ายกาจ “แย่งผู้ชายของฉันไป ก็ต้องชดใช้ อย่ามาข่มขู่ฉัน ฉันคนนี้ สิ่งที่ไม่กลัวมากที่สุดก็คือการข่มขู่”

พูดจบ เฉียวซินก็ทำไม้ทำมือบ่งบอกให้ผู้ชายพวกนั้นจับส้งหวั่นหวั่นกดลงไปบนพื้น ส้งหวั่นหวั่นเห็นว่าสถานการณ์อันตราย ก็รีบร้องออกมา : “เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน”

เฉียวซินยกมือขึ้นข้างหนึ่ง ผู้ชายพวกนั้นก็หยุดลงมือ : “ทำไม? มีคำสั่งเสียเหรอ?”

“เธอบอกเงื่อนไขมาสิ ปล่อยฉัน ฉันสามารถให้อะไรเธอได้หลายอย่าง ไม่ว่าเธอต้องการเงินหรืออะไร ฉันก็ให้เธอได้ทั้งนั้น” ส้งหวั่นหวั่นคิดจะใช้สิ่งของพวกนี้มาต่อรองกับหล่อน

เฉียวซินกระตุกมุมปาก : “แกคิดว่าคนอย่างฉันซื้อได้ง่าย ๆ งั้นเหรอ?”

พูดจบก็ส่งสายตา บ่งบอกให้ผู้ชายพวกนั้นลงมือได้

“เดี๋ยวก่อน” ส้งหวั่นหวั่นรีบร้องออกมา “เธอเข้าใจผิดแล้ว ฉันกับลี่หยูนห่วนไม่ได้มีอะไรกันสักนิด ตระกูลส้งและตระกูลลี่สนิทสนมกันมาเนิ่นนาน เป็นมิตรที่ดีต่อกัน พวกเราโตมาด้วยกัน ความสัมพันธ์เป็นเพียงแค่พี่น้องเท่านั้น ไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอย่างที่เธอคิดเลย ฉันว่าเธอเข้าใจผิดแล้วล่ะ”

“เดี๋ยวก่อน” เฉียวซินเปิดปากพูด เพื่อให้ผู้ชายพวกนั้นพาส้งหวั่นหวั่นมาตรงหน้าตัวเอง “แกพูดอีกรอบสิ?”

“ฉันบอกว่า” ส้งหวั่นหวั่นสูดหายใจเข้า ในใจรู้สึกโล่งขึ้นหน่อย “ฉันบอกว่าฉันกับลี่หยูนห่วนเป็นเพียงพี่น้อง ไม่ได้มีความสัมพันธ์อย่างที่เธอคิด”

“เธอพูดจริงเหรอ?” เฉียวซินจ้องมองส้งหวั่นหวั่นอย่างพิจารณา ดูว่าเธอเป็นพวกโกหกหลอกลวงหรือไม่

ส้งหวั่นหวั่นพูดพลางสะบัดมือผู้ชายออก ยกนิ้วสามนิ้วขึ้น แล้วเอ่ยพูด : “ฉันส้งหวั่นหวั่น ขอสาบานต่อฟ้าดินว่า ฉันและลี่หยูนห่วนเป็นเพียงพี่น้องกันจริง ๆ ถ้าหากมีเรื่องหลอกลวงใด ๆ ขอให้ฟ้าผ่าตาย ไม่มีทางฟื้นคืนชีพ”

ถึงแม้ส้งหวั่นหวั่นจะสาบานแล้ว แต่เฉียวซินก็ยังไม่ค่อยเชื่อ

ส้งหวั่นหวั่นกรอกตาไปมา ในใจคิดแผนอะไรขึ้นมาได้ : “ที่จริง ต้องการแย่งลี่หยูนห่วนน่ะคือคนอื่นต่างหาก”

เฉียวซินได้ยินดังนั้น ดวงตากลมก็เบิกโพล่งขึ้นมา จับคอเสื้อของส้งหวั่นหวั่นแล้วเอ่ยถาม : “มันเป็นใคร?”

เห็นท่าทางของเฉียวซิน ส้งหวั่นหวั่นก็รู้ได้ทันทีว่าเธอเชื่อไป 80-90% แล้ว เลยฉวยโอกาสนี้พูดไปว่า : “คนนั้นก็คือเจียงหยุนเอ๋อ”

เฉียวซินขมวดคิ้ว : “เจียงหยุนเอ๋อ?”

ในหัวกำลังครุ่นคิดว่าตัวเองเคยได้ยินชื่อเจียงหยุนเอ๋อคนนี้หรือเปล่า

“ก็คือภรรยาของลี่ถิงไงล่ะ” ส้งหวั่นหวั่นรู้ว่าแผนร้ายของตัวเองได้ผลแล้ว “ก็เป็นมันนั่นแหละที่หลอกล่อลี่หยูนห่วน ไม่เพียงแค่หยูนห่วนเท่านั้น มันยังหลอกล่อลี่ถิงด้วย เธอดูสิเมื่อก่อนลี่ถิงไม่เคยเข้าใกล้ผู้หญิงคนไหนเลย ตั้งแต่มีเจียงหยุนเอ๋อเข้ามา ก็หลงยัยนั่นจนหัวปักหัวปำ”

เฉียวซินเลิกคิ้ว ราวกับคิดขึ้นมาได้ว่าเจียงหยุนเอ๋อเป็นใคร : “จริงเหรอ?”

“ฉันหลอกเธอแล้วฉันได้อะไรขึ้นมาล่ะ? อีกอย่าง คนที่ฉันชอบก็คือพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของลี่หยูนห่วน ผู้ใหญ่ในครอบครัวจับคู่ให้พวกเราแล้วด้วย พวกเราเป็นว่าที่สามีภรรยากัน ถ้าหากเธอไม่เชื่อ ฉันเอาหลักฐานมาให้เธอดูก็ได้” ส้งหวั่นหวั่นรีบอธิบาย

เฉียวซินปัดมือ : “หลักฐานไม่ต้องให้ฉันดูหรอก วุ่นวาย”

ในเมื่อส้งหวั่นหวั่นพูดถึงขนาดนี้ เฉียวซินก็คิดว่าส้งหวั่นหวั่นน่าจะไม่ได้โกหกหรอก

“ก็ได้ ฉันจะเชื่อเธอก่อนแล้วกัน” เฉียวซินในใจเริ่มครุ่นคิดถึงปัญหานี้ “แต่ถ้าหากแกทำให้ฉันรู้ว่าแกโกหกฉันล่ะก็ ฉันมีวิธีจัดการแกแน่นอน”

“อืม เธอวางใจเถอะ ฉันไม่โกหกเธอหรอก” ส้งหวั่นหวั่นถามอย่างระมัดระวัง กลัวเฉียวซินจะเปลี่ยนใจ “งั้นตอนนี้ฉันไปได้หรือยัง?