บทที่ 215 ลองชุดแต่งงาน

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่ 215 ลองชุดแต่งงาน

ตอนที่ลงจากรถ สีหน้าส้งหวั่นหวั่นนั้นดูซีดเซียวมาก เพราะเรื่องเมื่อสักครู่นี้เลยทำให้ยังรู้สึกหวาดผวาอยู่

เห็นท่าทางของเฉียวซินแล้ว ส้งหวั่นหวั่นรู้เลยว่าหล่อนต้องการทำร้ายตัวเองจริง ๆ แต่โชคดีที่เธอกับลี่หยูนห่วนไม่มีอะไรกันจริง ๆ เป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งนั้น ต่อหน้าเฉียวซินเธอจึงค่อนข้างมีความมั่นใจ

เมื่อกี้นี้……ส้งหวั่นหวั่นได้โยนความผิดไปให้เจียงหยุนเอ๋อ ดูท่าทางเฉียวซินน่าจะเชื่อด้วย ไม่รู้ว่าหลังจากนี้หล่อนจะใช้วิธีไหนมาจัดการกับเจียงหยุนเอ๋อ

สำหรับส้งหวั่นหวั่นแล้ว เธอได้แต่หวังว่าเฉียวซินยิ่งใช้วิธีรุนแรงก็จะยิ่งดี

ส้งหวั่นหวั่นยกมือขึ้นมาทุบหน้าอกตัวเอง เพื่อให้ตัวเองหายใจได้โล่งขึ้นมาหน่อย

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรแล้ว……” ส้งหวั่นหวั่นพูดปลอบใจตัวเองเบา ๆ

เหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้ ทำให้เธอตกใจกลัวจริง ๆ เธอเป็นกุลสตรีที่ไม่เคยพบเจอเรื่องร้ายอย่างนี้มาก่อน เลยไม่รู้ว่าการที่เธอทำให้เจียงหยุนเอ๋อพบเจอเรื่องร้ายหลายครั้งหลายครานั้นมันเป็นยังไง ตอนนี้ก็แค่ทำให้เธอได้รับรู้ถึงความรู้สึกเช่นเดียวกับเจียงหยุนเอ๋อก็เท่านั้นเอง

แต่ส้งหวั่นหวั่นไม่มีทางมีสติคิดได้อย่างนั้นแน่นอน เธอนึกถึงคำพูดพวกนั้นที่ตัวเองพูดกับเฉียวซินเมื่อสักครู่นี้ มุมปากของเธอก็เริ่มมีรอยยิ้มเผยออกมา

เธอต้องการรอดู ว่าเฉียวซินจะจัดการกับเจียงหยุนเอ๋อยังไง

ผ่านไปสักพัก ส้งหวั่นหวั่นก็แสยะยิ้มออกมา แล้วพึมพำคนเดียวว่า : “เจียงหยุนเอ๋อ ฉันจะคอยดู ว่าแกยังจะได้ใจแบบนี้ถึงเมื่อไหร่ ไม่ช้าก็เร็ว ต้องมีสักวัน ที่แกจะต้องหายไปจากโลกของจุนถิง”

ทางฟากเจียงหยุนเอ๋อ หลังจากพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลได้ระยะหนึ่งแล้ว ในที่สุดก็ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้

“เฮ้อ อยู่โรงพยาบาลตั้งหลายวันขนาดนี้ ฉันรู้สึกว่าฉันจะขึ้นราแล้ว” เจียงหยุนเอ๋อที่อยู่ข้าง ๆ เตียงคนไข้ ได้เก็บของไปพลางบ่นพึมพำไปพลาง

ลี่จุนถิงรู้สึกขำที่เห็นท่าทางออดอ้อนของเธอ เขาหยิบกระเป๋าที่อยู่ในมือของเธอขึ้นมา แล้วเอ่ยพูด : “ฉันทำเอง”

เจียงหยุนเอ๋ออึ้งไป มองดูลี่จุนถิงที่ช่วยตัวเองเก็บของ ในใจก็รู้สึกอบอุ่นใจ ไม่ได้ห้ามอะไรเขา และได้เข้าไปพิงตัวเขา : “วันนี้ที่บริษัทนายน่าจะมีเรื่องให้จัดการไม่น้อยเลยใช่ไหม? ช่วงนี้นายเสียเวลาอยู่กับฉันที่นี่ไปมากเลย ฉันกลับไปแล้ว นายก็ตั้งใจจัดการงานที่บริษัทนะ ไม่ต้องห่วงฉันแล้ว”

“ทำไม? รำคาญฉันเหรอ?” ลี่จุนถิงหันหน้ามาจ้องเจียงหยุนเอ๋อ ขณะนั้น เจียงหยุนเอ๋อก็ดูไม่ออกว่าเขากำลังพูดเล่นหรือพูดจริง

เจียงหยุนเอ๋อส่ายหน้าเบา ๆ แล้วรีบพูดอย่างโกรธ ๆ : “ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อย ก็แค่ไม่อยากรบกวนนายน่ะ”

“ยังเห็นฉันเป็นคนนอกอีกเหรอ?” ลี่จุนถิงยิ้มอ่อน ๆ แล้วพูด

ส่วนถวนจื่อไม่ได้มีเรื่องร้ายแรงเหมือนเจียงหยุนเอ๋อ ตอนนี้นี้ไปเรียนได้หลายวันแล้ว เพราะเจียงหยุนเอ๋ออยู่โรงพยาบาลทุกวัน หลังเลิกเรียนถวนจื่อจึงมักจะรีบมาเยี่ยมเจียงหยุนเอ๋อที่โรงพยาบาล ทำให้เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกผิดอยู่บ้าง

ตอนนี้อุตส่าห์ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว เจียงหยุนเอ๋อเดาว่าระยะนี้ลี่จุนถิงก็คงไม่ยอมให้ตัวเองไปที่บริษัทแน่ ๆ เลยทำให้มีเวลาอยู่เป็นเพื่อนถวนจื่อ ถือว่าได้ชดเชยช่วงเวลาก่อนหน้านี้แล้วกัน

คิดไปคิดมา เจียงหยุนเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะก้มหน้ามองท้องของตัวเอง

ในนี้กำลังท้องอีกหนึ่งชีวิตน้อย ๆ ที่จริงเจียงหยุนเอ๋อเป็นกังวลมาก กลัวว่าหลังจากคลอดลูกออกมาแล้ว เธอจะละเลยถวนจื่อไปโดยไม่ตั้งใจ แต่……หวังว่าตัวเองจะจัดสรรเวลาได้เป็นอย่างดีนะ

เจียงหยุนเอ๋อคิดอย่างนี้

“เหม่ออะไรอยู่น่ะ?” เห็นท่าทางใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวของเจียงหยุนเอ๋อ ลี่จุนถิงที่อยู่ข้าง ๆ ก็เอ่ยถามขึ้นเบา ๆ

เจียงหยุนเอ๋อดึงสติกลับมาได้ จึงตัดสินใจไม่คิดถึงเรื่องพวกนั้นแล้ว หันกลับมายิ้มให้ลี่จุนถิง : “ไม่มีอะไรหรอก พวกเรากลับกันเถอะ ถวนจื่อกำลังรออยู่ที่บ้านนะ”

ช่วงนี้เกิดเรื่องขึ้นมากมาย ลี่จุนถิงก็รู้สึกได้ ว่ารอบ ๆ ตัวเจียงหยุนเอ๋อมีอันตรายมากมาย ในใจก็รู้สึกผิดขึ้นมา

ถ้าหากไม่ใช่เพราะตัวเอง เจียงหยุนเอ๋อจะพบเจอเรื่องแย่ ๆ พวกนี้ได้ยังไง?

น่าเสียดาย ที่ความสามารถของตัวเองกลับยังไม่พอที่จะป้องกันพายุพวกนั้นได้

ดังนั้น หลังจากที่ผ่านเรื่องพวกนี้มา ลี่จุนถิงก็ยิ่งระมัดระวังมากขึ้นไปอีก ให้ความสนใจกับเจียงหยุนเอ๋อมากกว่าเมื่อก่อน อีกทั้งส่งบอดี้การ์ดมาดูแลปกป้องเจียงหยุนเอ๋อโดยเฉพาะ

เจียงหยุนเอ๋อไม่ได้สนใจอะไรขนาดนั้นแล้ว เธอค่อย ๆ รู้ถึงเจตนาร้ายของคนรอบตัวแล้ว

จนในบางครั้ง เรื่องราวมากมายก็ยากที่จะป้องกัน……

ตามกาลเวลาที่ผ่านพ้นไป อาการของซูม่านลีนับวันก็ยิ่งดีขึ้นเรื่อย ๆ ได้ยินจากปากหมอว่าหลังจากที่ซูม่านลีได้พักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลระยะหนึ่งนั้นอาการก็ดีขึ้นมากเลย ทำให้เจียงหยุนเอ๋ออารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย

ยังไงซะ……ก็ถือได้ว่ายังมีเรื่องราวดี ๆ เกิดขึ้นบ้าง

ใกล้ถึงวันแห่งความรักแล้ว นั่นหมายถึงว่างานแต่งงานของเจียงหยุนเอ๋อและลี่จุนถิงก็ใกล้มาถึงแล้ว

เช้าวันนี้ หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อและลี่จุนถิงทานอาหารเช้าด้วยกันเสร็จ กลับพบว่าลี่จุนถิงยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะ ไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปไหน

“วันนี้นายไม่ไปบริษัทเหรอ?” เจียงหยุนเอ๋อถามด้วยความสงสัย

“ฉัน……วันนี้ฉันมีเรื่องอื่นต้องจัดการน่ะ” ลี่จุนถิงทำท่าจะยิ้มก็ไม่ยิ้มมองไปยังเจียงหยุนเอ๋อ แล้วเอ่ยปากพูด

เห็นลี่จุนถิงมีท่าทางลับลมคมในแบบนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็คิดในใจว่ามีอะไรแปลก ๆ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมากมาย

เห็นปฏิกิริยาของเจียงหยุนเอ๋อ ลี่จุนถิงก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจขึ้นมา : “เธอไม่อยากรู้หน่อยเหรอ ว่าฉันมีเรื่องอะไร?”

“ก็ต้องมีเรื่องสำคัญมากแน่นอน มีเรื่องอะไรก็รีบไปทำเถอะ ไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนฉันหรอก”

เจียงหยุนเอ๋อไม่ได้รู้สึกถึงท่าทางที่ผิดปกติของลี่จุนถิงตอนนี้ กลับเข้าใจผิดว่าเขาอยากอยู่เป็นเพื่อนเธอเท่านั้น

ลี่จุนถิงเริ่มมองเจียงหยุนเอ๋อที่ไม่รู้ประสีประสาอะไรเลยอย่างเอือมระอา ทันใดนั้นก็เดินเข้าไปดึงแขนเธอขึ้นมา : “ไปเถอะ ออกไปข้างนอกกับฉัน”

“ไปไหน?” เจียงหยุนเอ๋อมองลี่จุนถิงด้วยความประหลาดใจ “นายมีธุระต้องจัดการไม่ใช่เหรอ?”

“เรื่องที่ฉันต้องจัดการ จำเป็นต้องมีเธอไปด้วย” ลี่จุนถิงยิ้มอ่อนให้เจียงหยุนเอ๋อ เมื่อสบตาเขา เจียงหยุนเอ๋อก็หน้าแดงขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล

ในใจที่เฝ้ารอ เจียงหยุนเอ๋อก็ตามลี่จุนถิงมาถึงร้านชุดแต่งงานร้านหนึ่ง

“คุณชายลี่ มาแล้วเหรอคะ ชุดแต่งงานชุดนั้นที่คุณสั่งตัด พวกเราเตรียมไว้ให้คุณเรียบร้อยแล้วค่ะ”

พนักงานในร้านพูดกับลี่จุนถิงด้วยความเคารพน้อบน้อม

ที่แท้ นี่ก็คือชุดแต่งงานที่ลี่จุนถิงสั่งตัดให้เจียงหยุนเอ๋อที่ต่างประเทศก่อนหน้านี้ ตอนนี้ได้ส่งกลับมาถึงที่นี่แล้ว

เมื่อเห็นดังนั้น เจียงหยุนเอ๋อก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ เลยหันหน้ากลับมาถาม : “หืม? เรื่องนี้ ทำไมฉันถึงไม่รู้?”

ลี่จุนถิงยิ้มออกมา ความอ่อนโยนที่อยู่ในดวงตาเขาแทบจะไหลทะลักออกมาแล้ว : “ก็อยากเซอร์ไพรส์เธอไงล่ะ”

ทันใดนั้น ถวนจื่อก็วิ่งมาตรงหน้าเจียงหยุนเอ๋อ ตะโกนเรียกอย่างตื่นเต้นดีใจ : “หม่ามี้!”

“หืม? ถวนจื่อก็มาด้วยเหรอ?” เจียงหยุนเอ๋อมองถวนจื่ออย่างตื่นตะลึง