บทที่ 312 สวรรค์คืออะไร?
บทที่ 312 สวรรค์คืออะไร?
แม้ว่าฉู่เหินจะฆ่าผู้คนมานับไม่ถ้วนแต่เขาก็ไม่เคยเสียใจในเรื่องนี้ ที่แน่ ๆ เขาไม่มีทางเลือกเส้นทางอันมืดมนบแบนี้ เขาจึงปฏิเสธไปตรง ๆ หลังจากที่เขาปฏิเสธไปแล้วเส้นทางแห่งความมืดก็หายไปกลายเป็นแสงสีดำแล้วทะลุเข้าไปในระหว่างคิ้วของเขา
หลังจากตอบคำถามทั้งสองไป ฉู่เหินก็รู้ว่าหากเขาตอบตกลงข้อใดข้อหนึ่งไปเขาจะทะลวงเข้าสู่ขั้นผู้พิชิตดาราทันที แต่ถ้าจะให้ตอบคำถามที่ไร้ความเป็นมนุษย์แบบนั้นเพื่อเข้าสู่ขั้นผู้พิชิตดารา สำหรับฉู่เหินแล้วมันไม่จำเป็น เพราะถ้าทำเรื่องเลวร้ายขนาดนั้นเพื่อแข็งแกร่งแค่นี้ ก็ช่างมันเถอะยังไงก็ต้องตายในภายภาคหน้าอยู่ดี ถ้าเจอคนที่เหนือกว่า
“เจ้าหนุ่ม เจ้าต้องการที่จะควบคุมสวรรค์หรือไม่! มาร่วมกันเป็นเจ้าแห่งโลกใบนี้เถอะ” เราทุกคนล้วนมีความเห็นแก่ตัว เมื่อฉู่เหินได้ยินสิ่งนี้หัวใจของเขาก็เต้นแรง หลังจากตะเวนไปทั่วมาหลายปี ทำไมเขาจะไม่อยากเป็นผู้ยิ่งใหญ่ละ โดยเฉพาะผู้ที่สามารถควบคุมสวรรค์ได้
อย่างไรก็ตามเขาเลือกอย่างระมัดระวังและไม่ได้ตอบอะไรออกไป เขาต้องการฟังว่าอีกสองคำถามคืออะไร
“การปกครองโลกและสวรรค์ เจ้าจะต้องนำกองทัพทหารและม้า ต่อสู้กับทุกสิ่งเส้นทางของเจ้าจะเต็มไปด้วยเลือดและซากศพใต้ฝ่าเท้าของเจ้า เจ้าเตรียมตัวเอาไว้แล้วหรือยัง? เกิดเป็นคนชีวิตมันสั้นนัก อยากใหญ่ใจต้องแกร่ง ถ้าถึงเวลาทำการใหญ่จิตใจต้องแน่วแน่ อย่าได้ลังเลไม่สมกับเป็นลูกผู้ชาย!”
จนถึงตอนนี้ การปกครองสวรรค์เหมาะอย่างยิ่งสำหรับจิตใจของฉู่เหิน แต่เมื่อเขาคิดว่าเขาต้องนำกองกำลังทหารหลายแสนคนหรือแม้กระทั่งทหารนับล้านเข้าต่อสู้กับสวรรค์ หลายคนอาจต้องตายอย่างอนาถภายใต้คมดาบของศัตรูเพราะความเห็นแก่ตัวของเขาเอง การสู้รบซ้ำ ๆ จะทำให้ผู้คนเบื่อหน่ายในชีวิต ผู้คนนับไม่ถ้วนต้องอดอาหารจนตายบนถนนและสาเหตุทั้งหมดนี้ก็จะเป็นเพียงเพราะความโลภเพียงชั่ววูบของเขา!
ฉู่เหินถอนหายใจออกมา เขารู้ดีว่านี่ไม่ใช่เส้นทางของเขา มันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ! ฉันไม่เกรงกลัวในพลัง ฉันต้องการพลัง ฉันอยากได้ทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในกำมือของฉันก็จริงแต่การจะครอบครองโลกจากการฆ่าฟันมันจะดีแล้วจริง ๆ น่ะเหรอ? แบบนั้นแล้วโลกจะมีความสงบสุขงั้นเหรอ?
ดังนั้นฉู่เหินไม่รอคำถามที่สาม เขาก็รีบปฏิเสธไป “ฉันขอปฏิเสธ และไม่คิดจะเห็นด้วยกันมัน!” ไม่ต้องพูดให้มากความ ชายสูงคนนี้ก็กลายร่างเป็นแสงแล้วพุ่งเข้าไปในระหว่างคิ้วของเขา ทำให้เริ่มมี 3 สีขึ้นที่ระหว่างคิ้วของฉู่เหิน
“ผู้ฝึกตนควรทำตามสัญชาตญานตนเอง ไม่ว่าจะมีพลังที่เก่งกาจแค่ไหน เงินทองต่างหากล่ะที่สำคัญ ทุกอย่างจะเป็นของเจ้า! หากเจ้าเลือกทางเดินของข้า เจ้าจะทำสิ่งใดก็ได้ตามที่เจ้าต้องการ เมื่อเจ้าเห็นความอยุติธรรมเจ้าก็ทำตามที่ต้องการได้เลย เจ้าจัดการทุกคนให้มันพบกับความตายอันน่าสมเพช! ภายใต้หมอกสีแดงฉานแห่งการฆ่าฟัน การที่มีเกราะสีแดงย้อมด้วยเลือดอยู่ตลอดเวลาน่ะมันเจ๋งไปเลยไม่ใช่เหรอ!”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้หัวใจของฉู่เหินก็เต้นระรัว ฟังดูมันเหมาะสมกับตัวเขาดีแต่เขาคิดอีกครั้งแล้วก็ยังรู้สึกผิด! เส้นทางประเภทนี้เคยมีผู้เดินผ่านไปแล้วและถ้าเดินตามเส้นทางของคนก่อนหน้านี้มันจะยากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นไปไม่ได้ที่จะก้าวเดินบนเส้นทางได้อย่างราบรื่นเหมือนอย่างสิ่งที่ชายแก่คนนี้พูด!
“มองสรรพสิ่งด้วยรอยยิ้ม เห็นค่าของเงินและพลังราวกับธุรีดิน คนอื่นเป็นเหมือนสิ่งของ ๆ เจ้า ไม่ว่าใครก็ห้ามขัดขืน เจ้าทำได้หรือไม่? ไม่ว่าผู้หญิงจะสวยงามแค่ไหนมันก็แค่รูปลักษณ์ภายนอก เจ้าสามารถทิ้งพวกนางได้เหมือนกับสำริดหรือไม่ อย่ามอบความรักที่แท้จริงกับผู้หญิงไม่ว่าจะคนใดก็ตาม ทำได้หรือไม่?”
แต่เดิมมีสามคำถาม แต่พอเขาพูดไปแค่สองคำถามฉู่เหินก็ขัดจังหวะทันทีทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับหัวใจของฉันเอง…อย่ามอบความรักแก่คนที่รักงั้นเหรอ? แค่คนรักคนนึงปล่อยยังให้ถูกคนอื่นชิงไปได้ ยังถือว่าเป็นคนจริง ๆ เหรอ เรื่องนี้เขาไม่มีทางยอมรับได้เด็ดขาด!
ชายร่างเตี้ยกลายเป็นแสงสว่างและพุ่งเข้าไปในระหว่างคิ้วของเขา จนถึงตอนนี้ฉู่เหินก็ได้แต่ถอนหายใจ คำถาม 4 ครั้งที่ถามมาติดต่อกันไม่มีอันไหนน่าสนใจเลย จนเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าโชคชะตาไม่ต้องการให้เขาแข็งแกร่งกว่านี้หรือยังไง
แต่ฉู่เหินก็รู้สึกแปลก ๆ เป็นไปได้เหรอที่คำถามพวกนี้สอดคล้องกับความต้องการของเขาจริง ๆ? ถ้าเช่นนั้นเขาก็เป็นคนที่เลวร้ายจริง ๆ แต่ถ้าไม่เป็นแบบนั้น จะมีคำถามพวกนี้ให้้เขาเลือกได้ยังไง?
ฉู่เหินไม่รู้หรอกว่าเส้นทางเดินไหนจะนำพาเขาไปสู่สวรรค์และเส้นทางไหนจะเป็นเส้นทางอันหลอกลวง เพราะงั้นไม่มีสิ่งใดในโลกที่สมบูรณ์แบบ คำถามพวกนี้ไม่มีทางตรงกับจิตใจของเขาได้ทั้งหมด
นี่สอดคล้องกับคำพูดที่ว่า ‘10 สิ่งก็มี 9 สิ่งไม่มี เรื่องไม่ราบรื่นแบบนี้ก็ถือว่าเป็นความสามารถ’ ในโลกนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ หากพบว่ามีบุคคลหรือสิ่งใดสมบูรณ์แบบอย่างไม่มีข้อบกพร่องเลยล่ะก็ งั้นมันก็เป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น!
เส้นทางเหล่านี้เหมาะสมกับใครกันแน่? แต่เห็นได้ชัดเลยว่าฉู่เหินเป็นคนที่แสวงหาความสมบูรณ์แบบ เขาก็ไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ในสิ่งที่เขาต้องการ เป็นผลให้การตอบคำถามของเขายากมาก! ดังนั้นผ่านไป 4 คำถามแล้วก็ยังไม่มีอะไรที่ถูกใจเขา
หลังจาก 4 คนกลายเป็นแสงอยู่ตรงระหว่างคิ้วของเขา มีเพียง 2 คนที่เหลืออยู่ข้างหน้าเขาในเวลานี้ คน 2 คนนี้ดูอวบอ้วนและผอมบางมีดวงตาที่สดใส! ท่าทางดูน่าเกรงขาม แต่เมื่อเขาอ้าปากพูดเขาก็หยุดทันที ทำให้ฉู่เหินงงงวยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
คำถามทั้ง 2 ที่ทั้งแบบเสียงและความเงียบ คนแรกถามด้วยเสียงและอีกคนถามด้วยความเงียบ พวกเขาถามด้วยเสียงที่เป็นร่างกายของเขาเอง ส่วนอีกคนถามอย่างเงียบ ๆ ด้วยจิตวิญญาณของเขา
คนธรรมดาพวกเขาจะได้ยินคำถามด้วยเสียง เฉพาะผู้ที่มีชิ้นส่วนแห่งคุณธรรมในจิตใจเท่านั้นที่ได้ยินคำถามแบบเงียบ การถามอย่างเงียบ ๆ ไม่จำเป็นต้องตอบด้วยตนเอง เพราะอีกฝ่ายรู้คำตอบจากวิญญาณในดวงจิตดังนั้นมันจึงไม่สามารถหลอกลวงกันได้ หากมันเข้ากันล่ะก็ คุณจะรวมมันเข้ากับพลังเต๋าแล้วจะประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่!
หลังจากฉู่เหินกับชายอ้วนและผอมเพรียวมองหน้ากันอยู่พักหนึ่ง ทั้งคู่ก็กลายเป็นแสงสว่างและพุ่งเข้าไปในระหว่างคิ้ว เห็นได้ชัดว่าคำถามทั้งสองข้อคนนี้ก็ล้มเหลวเช่นกัน สิ่งนี้ทำให้ฉู่เหินผิดหวัง เขาไม่รู้ว่าแบบไหนคือเส้นทางของเขาและหัวใจของเขาต้องการอะไรกันแน่
จริง ๆ แล้ว ความต้องการของเขาไม่ได้สูงมากนัก เขาแค่ต้องการอยู่อย่างมีความสุขและได้อาศัยอยู่กับครอบครัวของเขา ไม่มีอะไรมากกว่านี้แล้ว! เขาแค่อยากจะอยู่กับคนรักทั้งกลางวันและกลางคืน ใช้ชีวิตตามปกติเหมือนกับชายเลี้ยงวัวและหญิงสาวทอผ้า แต่ความปรารถนาแบบนี้จริง ๆ แล้วอาจจะยากที่สุดแล้วก็ได้!
ระหว่างที่ฉู่เหินตกอยู่ในความเงียบ เขาก็คิดได้ทำไมเขาต้องเลือกเส้นทางจากการที่คนอื่นบอก? เขาไม่สามารถควบคุมชะตากรรมของตัวเองได้งั้นเหรอ? สวรรค์คืออะไรกันแน่? สำหรับเขาแล้วสวรรค์เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก แต่ทำไมมนุษย์ที่มีสติปัญญาต้องเชื่อฟังสวรรค์ด้วยละ มันช่างเป็นเรื่องที่แปลกเสียจริง
ฉู่เหินจะควบคุบชะตาชีวิตของตัวเอง เพราะงั้นไม่ว่าสวรรค์หรือจะใครจะมาทำอะไรเขาได้? เขาจะเดินตามเส้นทางของตัวเองทำไมต้องเดินตามรอยเท้าของคนอื่นด้วย? ฉันก็คือฉัน ฉันแตกต่างจากคนอื่น ฉันคือคนที่จะเป็นฉัน!
แล้วเต๋าของฉันคืออะไร? ฉันรู้ว่าฉันเป็นคนที่พยายามพิสูจน์ตัวเอง สิ่งที่ผูกมัดเขาไว้กับเส้นทางแห่งสวรรค์เริ่มคลายออก สามพันเส้นทางสวรรค์ฉันขอเลือกมันเอง!
อาจจะเป็นเส้นทางที่ยากลำบาก บางทีเส้นทางนี้อาจไปได้ไม่ไกล แต่แล้วยังไง? หากไม่มีทางไปต่องั้นก็สร้างมันขึ้นมา เขาต้องแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ทำลายเสี้ยนหนามที่ขวางทางให้หมด ฆ่าพวกผีสางและสังหารเทพเจ้า ฆ่าคนที่บังอาจมาขวางทางฉัน! แม้ความคิดนี้จะดูชั่วร้ายแต่เขาก็ไม่ได้เลวทรามขนาดนั้น
หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะเปิดใจ และตะโกนออกมา! ในขณะเดียวกันโดยที่เขาไม่ทันได้สังเกตสีตรงระหว่างคิ้วทั้งหมดหกสีของเขาเริ่มรวมตัวเข้าด้วยกัน และจากหัวใจของเขาก็เริ่มมี 1 สีและ 6 สีรอบๆ! ไม่นานก็มีแสงรูปทรงสวยงามปรากฎขึ้นบนหน้าผากของเขา
หากผู้คนมาเห็นฉากนี้เข้าจะต้องตกตะลึงเป็นแน่แท้ เนื่องจากเพชรที่ปรากฏออกมามีสีสันดูเป็นสมบัติล้ำค่าที่หายาก ถ้ารู้ว่าเพชรหลากสีนี้คืออะไรพวกเขาคงตกใจกันมาก!