ตอนที่ 525 การแข่งขันเริ่มต้น

แปล Tarhai

ฉิงเฟิง หลินเสวี่ยและซูหยุนชางมาถึงที่ห้องโถง พวกเขาพบที่นั่งและนั่งลง เนื่องจากพวกเขาเข้าร่วมในการแข่งขันทีหลัง จึงมีเวลาพัก

แน่นอนว่าเนื่องจากพวกเขาเป็นตัวแทนของเมืองทะเลตะวันออก พวกเขาจึงไม่ได้ที่นั่งที่ดี ที่นั่งของพวกเขาถูกจัดเตรียมโดยหลิวเฟยเหยียนซึ่งอยู่หลังสุด

หลิวเฟยเหยียนจัดที่นั่งเหล่านี้ให้พวกเขาถือเป็นการแก้แค้นฉิงเฟิงเล็กน้อย

“ฉิงเฟิงคุณมั่นใจไหมว่าจะชนะ ?” หลินเสวี่ยขมวดคิ้วด้วยความกังวล

เธอได้ทำการพนันกับหลินหรูหยานไว้แล้ว เป้าหมายของเธอคือการเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในอีกหนึ่งปีข้างหน้า เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เธอต้องขยายกิจการ

ซึ่งบริษัทของเธอกำลังพบกับอุปสรรคในขณะนี้เนื่องจากการที่หลิวเฟยเหยียนปฏิเสธให้ความร่วมมือ หากฉิงเฟิงพ่ายแพ้ในวันนี้ ชื่อเสียงของบริษัท Ice Snow จะต้องมัวหมองเป็นอย่างมาก

เป็นธรรมดาที่ฉิงเฟิงจะถึงรู้ความกังวลของหลินเสวี่ย เขากล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณไม่ต้องกังวลไปนัก คนเหล่านี้ไม่มีใครเป็นคู่มือของฉันได้สักคน”

“ฉิงเฟิง ยังไงก็ระมัดระวังไว้หน่อย คนเหล่านี้คร่ำหวอดในวงการมาหลายปี พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด” ซูหยุนชางกล่าว

เมื่อปีที่แล้วซูหยุนชางได้พ่ายแพ้ให้แก่หลิวเฟยเหยียน เขารู้ดีว่าเธอยอดเยี่ยมแค่ไหน

“ผู้อำนวยการซู คุณไม่ต้องกังวล ผมมั่นใจว่าผมจะชนะเลิศ” ฉิงเฟิงกล่าวอย่างมั่นใจ

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในพริบตาก็ถึงเวลา 8 โมงเช้า การแข่งขันวัตถุโบราณได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว

ในการแข่งขันวัตถุโบราณมีทั้งหมดสามรอบ กฎของการแข่งขันก็เหมือนกับการแข่งขันในเมืองทะเลตะวันออก รอบแรกเป็น ‘การทดสอบทฤษฎี’ ในรอบที่สองผู้เข้าแข่งขันจะนำวัตถุโบราณมาให้คู่ต่อสู้ตรวจสอบ ส่วนในรอบที่สามผู้ตัดสินจะนำวัตถุโบราณออกมาให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคนตรวจสอบ

มีกริ่งอยู่ที่ด้านหน้าผู้เข้าร่วมทั้งหมด ใครก็ตามที่กดกระดิ่งก่อนจะมีโอกาสได้ตอบคำถามคนแรก

มีผู้ตัดสินสามคน พวกเขาเป็นสมาชิกที่มีอิทธิพลในแวดวงวัตถุโบราณและผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้

พิธีกรในการแข่งขันเป็นชายชราวัยเจ็ดสิบปี ชื่อของเขาคือถังเล่ย ถึงแม้ว่าเขาจะอายุมากแล้ว แต่เขาก็ยังแข็งแรงอยู่ เขาสวมชุดสีเขียว

“สวัสดีครับทุกคน ผมชื่อถังเล่ย ผมเป็นผู้ดูแลการแข่งขันในครั้งนี้ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันถึง 300 คน ต่อไปเราจะเริ่มการทดสอบทางด้านทฤษฎี” ถังเล่ยกล่าวเสียงดัง

เสียงของเขาดังกังวานและชัดเจนมากผิดวิสัยชายชราอายุ 70 ปี ทุกคนในห้องโถงต่างก็ได้ยินเสียงของเขา

หือ !? เขาเป็นนักสู้นี่นา !? เขามีฝีมือทางด้านศิลปะการต่อสู้

ฉิงเฟิงตกตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง เขาสามารถบอกได้จากเสียงของถังเล่ยว่าชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็นนักสู้

“คำถามแรก จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา โบราณวัตถุอันดับหนึ่งคืออะไร ?”

ถังเล่ยถาม

กริ๊ง !

ฉิงเฟิงกดกระดิ่งอย่างรวดเร็ว

“ผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 300, หลี่ฉิงเฟิงโปรดตอบมา” ถังเล่ยมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความตกตะลึง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้คาดคิดว่าฉิงเฟิงจะกดกริ๊งเป็นคนแรก

หลิวเฟยเหยียนและหลี่ชางฉิงทั้งสองคนมองไปที่ฉิงเฟิงอย่างมืดครึ้ม พวกเขาอารมณ์เสียมาก พวกเขาก็กดกริ่งเช่นกันแต่ก็ยังช้ากว่าฉิงเฟิง ฉิงเฟิงรวดเร็วเกินไปจนผิดมนุษย์ พวกเขาไม่สามารถแข่งขันกับฉิงเฟิงได้

ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า

“มีโบราณวัตถุหลายประเภท แต่มีเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นอันดับหนึ่งในแต่ละหมวดหมู่ของวัตถุโบราณ อันดับหนึ่งในหมวดสำริดก็คือ ‘หม้อ Maogong’ อันดับหนึ่งในหมวดภาพวาดก็คือ ‘แสงแดดก่อนหิมะ(Sunshine before snow)’ วาดโดยหวังซีจื่อ อันดับหนึ่งของหมวดชิ้นส่วนทางประวัติศาสตร์ก็คือ เกือกม้าทองแดงของจักรพรรดิฉิน อันดับหนึ่งของหมวดภาพวาดโบราณก็คือ ‘ล่องไปตามแม่น้ำระหว่างเทศกาลเช็งเม้ง’”

ฉิงเฟิงร่ายยาวชื่อของวัตถุโบราณต่างๆอย่างรวดเร็ว

“ถูกต้อง ! หลี่ฉิงเฟิงได้รับคะแนน 10 คะแนน” ถังเล่ยมองฉิงเฟิงชื่นชม

คำตอบของฉิงเฟิงไม่เพียงแค่ถูกต้องเท่านั้น แต่ความเร็วของเขาก็เร็วมากและตอบโดยไม่ลังเล เห็นได้ชัดว่าเขามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและเชี่ยวชาญมากเกี่ยวกับเรื่องวัตถุโบราณ ไม่งั้นเขาคงไม่สามารถตอบได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้

“ต่อไปคำถามที่สองก็คือ โบราณวัตถุประเภทไหนที่ผู้ชายชอบและประเภทไหนที่ผู้หญิงชอบ ? ถังเล่ยถามด้วยเสียงดัง เสียงของเขาดังผ่านทั่วทั้งห้องโถง

กริ๊งงงง!

และก็เป็นอีกครั้งที่ฉิงเฟิงกดกริ่งเป็นคนแรก

บ้าเอ้ย ! ไอ้หมอนี่อีกแล้ว เขาเร็วมากเลย นี่เขายังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า?

คนรอบข้างมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความประหลาดใจ

ฉิงเฟิงกดปุ่มทันทีหลังจากที่ถังเล่ยพูดจบ ความเร็วของเขาเร็วเหมือนฟ้าผ่า

ฉิงเฟิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจเมื่อเห็นสายตาของคนรอบข้าง คนเหล่านี้ต้องการที่จะแข่งขันด้านความเร็วกับเขา พวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับฉิงเฟิงแม้แต่น้อย

“ผู้ชายชอบเครื่องหยก เซรามิกและกระบี่ ส่วนผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะชอบวัตถุโบราณจำพวกไข่มุกที่ส่องประกายแวววาว ทองคำและแจกัน” ฉิงเฟิงตอบด้วยรอยยิ้ม

“ถูกต้อง หลี่ฉิงเฟิงได้อีก 10 คะแนน ปัจจุบันเขามีคะแนนนำเป็นอันดับหนึ่ง”

ถังเล่ยกล่าวเสียงดังด้วยประกายของความประหลาดใจที่พาดผ่านสายตาของเขา

จากคำตอบของหลี่ฉิงเฟิงทำให้ถังเล่ยตระหนักได้ว่าชายคนนี้มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับเกี่ยวกับวัตถุโบราณ เขาไม่จำเป็นต้องเสียเวลาคิดคำตอบแม้แต่น้อย นั่นหมายความว่าคำถามเหล่านี้เป็นเรื่องกล้วยๆสำหรับเขา

หลิวเฟยเหยียนและหลี่ชางฉิงได้หันไปมองหน้ากัน พวกเขาเห็นความหงุดหงิดในสายตาของกันและกัน หลี่ฉิงเฟิงเป็นผู้เชี่ยวชาญวัตถุโบราณที่แท้จริง

ก่อนหน้านี้หลิวเฟยเหยียนดูหมิ่นฉิงเฟิง แต่ตอนนี้เธอต้องจริงจังกับเขามากขึ้นเสียแล้ว เพราะมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถตอบคำถามทั้งสองข้อของถังเล่ยได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้

ส่วนผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ต่างมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความไม่พอใจบนใบหน้าของพวกเขา ฉิงเฟิงได้แย่งตอบคำถามสองข้อติดต่อกันและไม่เปิดโอกาสใดๆให้คนอื่น

แต่ฉิงเฟิงก็ไม่ใส่ใจกับการจ้องมองราวกับจะกินเลือดกินเนื้อของคนเหล่านั้น เป้าหมายของเขาคือการเป็นอันดับหนึ่ง ให้พูดห้วนๆก็คือ ทุกคนในที่นี้คือศัตรูของเขาทั้งหมด !

ในเมื่อทุกคนคือศัตรู ฉิงเฟิงย่อมไม่อ่อนข้อให้ เขาจึงต้องกดทุกคนให้จมดิน

จากนั้นถังเล่ยก็ตั้งคำถามที่สามแล้วก็คำถามที่สี่ …….

เมื่อถังเล่ยเสร็จสิ้นการถามคำถามทั้ง 20 ข้อ ในที่สุดเขาก็หยุดและกล่าวว่า

“หลี่ฉิงเฟิง คุณไม่จำเป็นต้องตอบคำถามใดๆอีกแล้ว คุณได้ไป 200 คะแนนแล้ว ในขณะนี้ไม่มีใครเป็นเทียบเท่าคุณ”

ผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งจะได้รับ 10 คะแนนเมื่อตอบคำถามถูกต้อง ถังเล่ยถามไปแล้ว 20 ข้อรวมเป็น 200 คะแนน แต่คำถามทุกข้อถูกฉิงเฟิงแย่งตอบทั้งหมดแถมยังถูกต้องอีกด้วย !

ขืนปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปก็คงไม่จำเป็นต้องจัดการแข่งขันแล้ว เพราะไม่ว่าจะถามอีกกี่ข้อฉิงเฟิงก็คงแย่งตอบและตอบถูกหมดอยู่ดี ไม่มีใครสามารถทันความเร็วในการกดกริ่งของเขาหรือเป็นคู่ต่อสู้ของเขาในด้านภูมิความรู้เรื่องวัตถุโบราณได้

“งั้นคุณก็หมายความว่าผมเป็นอันดับหนึ่งในรอบนี้ใช่ไหม ?” ฉิงเฟิงถามด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย

ถังเล่ยพยักหน้าและกล่าวว่า “ถูกต้อง ผมขอประกาศว่าคุณคืออันดับหนึ่งและเป็นผู้ชนะในรอบนี้ คุณไปรอการแข่งขันในรอบที่สองได้เลย”

ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าเขาเป็นผู้ชนะและเป็นอันดับหนึ่งในรอบแรก

จากนั้นเขาก็เดินลงจากสนามแข่งและกลับไปหาหลินเสวี่ยกับซูหยุนชาง