บทที่ 217 จะนั่งงอมืองอเท้าไม่ได้
เห็นเจียงหยุนเอ๋อครอบครัวสุขสันต์มีความสุขกัน สีหน้าส้งหวั่นหวั่นก็บึ้งตึงอย่างมาก
แต่เธอไม่สามารถแสดงอาการออกมาได้ จึงได้รีบเก็บกดอารมณ์บ้าคลั่งที่อิจฉาริษยาเอาไว้
เธอเดินเข้าไปพลางยิ้มแล้วเอ่ยพูด : “อ้าว จุนถิง บังเอิญจังเลยนะ พวกเธอก็อยู่ที่นี่เหรอ?”
ลี่จุนถิงได้แต่ปรายตามองส้งหวั่นหวั่นนิ่ง ๆ จากนั้นสายตาก็มองไปยังลี่จีถองที่อยู่ด้านหลัง
ลี่จีถองมาแล้วคงไม่มีเรื่องอะไรดี ๆ แน่ ความสัมพันธ์ระหว่างส้งหวั่นหวั่นกับลี่จีถองก็ไม่เลว คงมีเรื่องแย่ ๆ แน่นอน
ลี่จีถองเดินไปข้างหน้าช้า ๆ จ้องมองเจียงหยุนเอ๋อที่สวมชุดสวยงามน่าตกตะลึง แล้วพูดเยาะเย้ยขึ้นมา : “ฉันก็คิดว่าใครกัน ที่แท้ก็คุณเจียงนี่เอง ไก่ฟ้าคลุมด้วยเสื้อผ้ามีสีสัน ก็ดูเหมือนพญาหงส์อยู่นะ”
พูดจบก็หัวเราะฮ่าฮ่าเสียงดังลั่น
เจียงหยุนเอ๋อตอนที่เห็นลี่จีถองก็รู้สึกกังวลใจขึ้นมา ตอนนี้เธอพูดต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ เจียงหยุนเอ๋อเลยมีสีหน้าเปลี่ยนไป สีหน้าดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
ขณะที่ลี่จีถองเดินไปด้านหน้า สีหน้าของลี่จุนถิงก็ดูบูดบึ้งขึ้นมา ตอนนี้ดูเคร่งขรึมมาก แล้วเขาก็พ่นออกมาสองคำ : “ขอโทษ”
ลี่จีถองจ้องลี่จุนถิง ตอนนี้ขอแค่มีคุณปู่ตระกูลลี่อยู่ที่เมืองจิ่งเฉิง ลี่จีถองก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น : “ไม่”
“ฉันบอกให้เธอขอโทษ ฉันหวังว่าเธอจะไม่ต้องให้ฉันพูดอีกเป็นครั้งที่สาม” ลี่จุนถิงหรี่ตาลง รังสีอำมหิตแผ่ซ่านไปทั้งตัว
ส้งหวั่นหวั่นและลี่จีถองรู้สึกตัวสั่นขึ้นมาทันที
ส้งหวั่นหวั่นลากลี่จีถองมา แล้วส่งสายตาให้เธอ
เพื่อบ่งบอกว่า ไม่อย่างนั้นก็ขอโทษไปเถอะ
ลี่จีถองครั้งนี้ถูกลี่จุนถิงขู่เอาไม่น้อยเลย แต่ก็ยังไม่ยอมก้มหัว เธอดึงมือส้งหวั่นหวั่น แล้วจ้องไปที่เจียงหยุนเอ๋อ จากนั้นก็เดินคอตกออกไปจากร้านชุดแต่งงาน
เมื่อเดินออกมาจากร้านแล้ว ลี่จีถองยังหันกลับไปมอง แล้วกระทืบเท้าพูดขึ้นด้วยความโกรธ : “ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าผู้หญิงคนนั้นมันมีเสน่ห์อะไร จุนถิงถึงได้หลงหัวปักหัวปำอย่างนี้ ก่อนหน้านี้ถึงแม้จุนถิงจะเย็นชากับฉันอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงขนาดไม่ไว้หน้าฉันเลยสักนิดเหมือนอย่างตอนนี้”
สายตาของส้งหวั่นหวั่นชำเลืองมองไปในร้านชุดแต่งงานนั้นตลอด เห็นท่าทางของเจียงหยุนเอ๋อที่สวมชุดแต่งงานเมื่อกี้นี้แล้ว ส้งหวั่นหวั่นอิจฉามากเหลือเกิน อีกทั้งชุดแต่งงานที่เห็นนั่นก็ต่างกับชุดแต่งงานทั่วไปด้วย
ส้งหวั่นหวั่นคิดว่าถ้าตัวเองได้สวมชุดแต่งงานชุดนั้นก็ต้องสวยมากแน่นอน
แต่น่าเสียดาย คนที่ยืนอยู่ข้างลี่จุนถิงนั้น กลับไม่ใช่ตัวเอง
ลี่จีถองเห็นส้งหวั่นหวั่นมองไปยังร้านชุดแต่งงานตลอด ก็รู้ได้ว่าเธอไม่ได้ฟังที่ตัวเองพูดเลย เลยแตะตัวเธอ : “หวั่นหวั่น เธอดูสิ เธอดีกว่ายัยนั่นทุกอย่าง เธอทนสภาพจุนถิงเป็นอย่างนี้ได้เหรอ?”
ส้งหวั่นหวั่นก้มหน้า จัดการอารมณ์ตัวเองแล้วก็เงยหน้าขึ้นมา เอ่ยพูดอย่างไม่รู้สึกอะไร : “นั่นก็เป็นเรื่องของจุนถิง ฉันไม่ห้ามความรู้สึกนึกคิดเขาไม่ได้ เขาต้องการแบบนี้ฉันก็ทำอะไรไม่ได้”
เธอทนไม่ได้อีกต่อแล้ว ในใจจึงเริ่มคิดแผนการ
ครั้งก่อนที่พูดกับเฉียวซิน เฉียวซินจะต้องลงมือแน่นอน แต่ทำไมจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววสักนิด
ตอนนี้ในหัวของตัวเองมีแต่ภาพลี่จุนถิงมองเจียงหยุนเอ๋อแล้วยิ้มให้มันอย่างอ่อนโยน ส้งหวั่นหวั่นยิ่งรู้สึกยอมไม่ได้
เธอกำมัดจนแน่นขึ้นมา
ในเมื่อเป็นอย่างนี้ เธอก็ต้องออกโรงอีกครั้ง
“ฉันว่าเธอนะ ไม่ควรนั่งงอมืองอเท้าอีกต่อไปแล้ว ไม่อย่างนั้นรอเธอตื่นตัวขึ้นมา จุนถิงก็วิ่งไปกับคนอื่นแล้ว ทำยังไงก็คงไม่กลับมาแล้ว” ลี่จีถองมองส้งหวั่นหวั่น แล้วยิ้มอ่อนออกมาจากนั้นก็จากไป
ส้งหวั่นหวั่นกัดฟันแล้วก็เดินตามไป
จากนั้น ส้งหวั่นหวั่นก็นัดลี่หยูนห่วนอีกครั้ง
ลี่หยูนห่วนเรียกเมื่อไหร่ก็ออกมาพบตลอด ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
“นี่คุณหนูส้ง พวกเราเพิ่งเจอกันคราวก่อนได้ไม่นาน ทำไมถึงได้นัดฉันออกมาอีกแล้วล่ะ มีเรื่องเหรอ?” ลี่หยูนห่วนที่อยู่ไกล ๆ ได้เดินไปพูดไป มาทางส้งหวั่นหวั่น
ส้งหวั่นหวั่นหันไป เห็นลี่หยูนห่วนเดินมาถึงตรงหน้าเธอพอดี
ไม่พูดไม่ได้ว่า ถึงแม้ลี่หยูนห่วนจะไม่หล่อเท่าลี่จุนถิง แต่อย่างน้อยพวกเขาก็มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด ฉะนั้นรูปร่างหน้าตาของทั้งสองคนก็มีความคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง
แต่ส้งหวั่นหวั่นชอบลี่จุนถิง ทุกท่าทางของลี่จุนถิง ล้วนฝังลึกอยู่ในหัวของส้งหวั่นหวั่น
“ฉันอยากให้ร่วมมือหน่อย” ส้งหวั่นหวั่นไม่พูดพร่ำทำเพลง เปิดปากพูดตรง ๆ
ลี่หยูนห่วนยักไหล่ : “พูดมาสิ จะให้ร่วมมืออะไร?”
ส้งหวั่นหวั่นรู้สึกว่าลี่หยูนห่วนเป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ ร่วมมือกับคนแบบนี้รู้สึกผ่อนคลายหน่อย
“นายไปใกล้ชิดเจียงหยุนเอ๋อสักหน่อย”
ลี่หยูนห่วนอึ้งไป ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงให้ไปใกล้ชิดกับเจียงหยุนเอ๋อล่ะ : “เธอให้ฉันไปใกล้ชิดหล่อน มีจุดประสงค์อะไร?”
ส้งหวั่นหวั่นยิ้มชั่วร้ายออกมา : “ฉันจะสร้างภาพลักษณ์ปลอม ๆ ให้เจียงหยุนเอ๋อดูเป็นผู้หญิงเจ้าชู้หลายใจ ถึงตอนนั้นนายก็แค่บอกว่าเจียงหยุนเอ๋อยั่วยวนนาย”
ส้งหวั่นหวั่นเลิกคิ้วขึ้น เธอคิดภาพตอนที่ทุกคนเห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อเป็นผู้หญิงเจ้าชู้หลายใจ จะมีท่าทีตกอกตกใจกันขนาดไหน
ลี่หยูนห่วนไม่ได้ตกปากรับคำในทันที แต่ยกมือขึ้นมาลูบคาง ครุ่นคิดอยู่สักครู่
ลี่หยูนห่วนคิดว่าเจียงหยุนเอ๋อที่จริงก็ดูดีทีเดียว ถึงแม้ลี่หยูนห่วนจะเจอเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ก็อดพูดไม่ได้ว่า รูปร่างท่างทางของเจียงหยุนเอ๋อนั้น ดีกว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนเลย
ถ้าเป็นอย่างนี้ หากตัวเองได้ไปใกล้ชิดกับเจียงหยุนเอ๋อก็ไม่มีอะไรเสียหาย
ไม่แน่ว่าอาจได้ฉวยโอกาสนี้แต๊ะอั๋งลวนลามเลยก็ได้
“ได้ ฉันตกลง” ลี่หยูนห่วนตบมือ
ส้งหวั่นหวั่นได้ผลลัพธ์อย่างที่ตัวเองต้องการ ก็ดีใจ
“เธอมีแผนอะไรดี ๆ ไหม?” ลี่หยูนห่วนถึงแม้จะตอบตกลงไปแล้ว แต่เขาก็ยังคิดไม่ออกว่าตัวเองจะมีโอกาสใกล้ชิดเจียงหยุนเอ๋อได้ยังไง
และทั้งสองคนก็ไม่ได้สนิทกัน มากสุดก็รู้แค่ชื่อของอีกฝ่ายเท่านั้น
“อืม……” ส้งหวั่นหวั่นครุ่นคิด เธอมีเพียงวิธีนี้ แต่ตกลงต้องทำยังไงก็ยังไม่เคยคิดมาก่อน
ลี่หยูนห่วนอยู่ ๆ ก็ร้องออกมาด้วยความดีใจ : “ฉันรู้แล้วล่ะ”
ส้งหวั่นหวั่นเงยหน้ามองเขาด้วยความสงสัย
“บังเอิญจริง ๆ อีกสองวันก็จะเป็นงานเลี้ยงครอบครัวตระกูลลี่ของพวกเรา” ลี่หยูนห่วนพูดอย่างได้ใจ คิดไม่ถึงว่างานเลี้ยงรวมญาติที่เมื่อก่อนตัวเองไม่ชอบมาโดยตลอด ตอนนี้กลับมีประโยชน์อย่างนี้ “ตระกูลลี่มีกฎระเบียบมาโดยตลอด เธอก็น่าจะรู้ และครั้งนี้คุณปู่ก็กลับมาแล้วด้วย คงต้องจัดงานตามแบบดั้งเดิมแน่นอน ถึงตอนนั้นลี่จุนถิงก็ต้องพาเจียงหยุนเอ๋อมาด้วยแน่ ๆ”
ส้งหวั่นหวั่นยิ่งฟังก็ยิ่งยิ้มกว้าง คิดถึงตอนที่เจียงหยุนเอ๋อถูกคนอื่นรุมชี้หน้าด่ากราด ส้งหวั่นหวั่นก็รู้สึกว่าความโกรธในใจค่อย ๆ จางหายไป
“ได้ งั้นก็ตามนี้แล้วกัน เรื่องที่เหลือก็ฝากนายด้วยนะ หวังว่านายจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง” ส้งหวั่นหวั่นตบไหล่ลี่หยูนห่วนแล้วก็จากไป
ขอแค่ลี่หยูนห่วนใกล้ชิดกับเจียงหยุนเอ๋อได้ เรื่องที่เจียงหยุนเอ๋อยั่วยวนลี่หยูนห่วนก็เป็นจริงแล้ว คนที่มีความต้องการครอบครองสูง ใจแคบเหมือนไส้ไก่อย่างเฉียวซิน ต้องลงมือจัดการเจียงหยุนเอ๋อแน่นอน
ถึงตอนนั้นตัวเองแค่นั่งรอรับผลประโยชน์ก็พอแล้ว