บทที่ 236 อุบัติเหตุการเช่า
บทที่ 236 อุบัติเหตุการเช่า
สีหน้าของโจวอี้แข็งค้างเมื่อต้องเผชิญกับคำถามของถังหว่าน
จู่ ๆ เขาก็รู้สึกกังวล
ถังหว่านไม่รู้จักการฝึกยุทธ์ นับประสาอะไรกับการที่จะเข้าใจผลข้างเคียงของโอสถบ่มเพาะ ถ้าเธอรู้ว่าเขาให้ลูกสาวกินยาอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งมีผลให้ต้องนอนไปหลายวัน เธอคงจะโกรธเพราะไม่เข้าใจในเรื่องนี้?
ไม่ได้!
ต้องปกปิดเรื่องนี้ไม่ให้เธอรู้!
โจวอี้จึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผมต้มยาจีนที่สามารถเสริมสร้างร่างกายของเด็ก ๆ น่ะ ผมให้เหมียวเหมี่ยว เสี่ยวรุ่ย และถงหู่ดื่มมันทุกคน และหลังจากดื่มเข้าไป พวกเขาก็หลับไปเพราะฤทธิ์ยา”
“เข้านอนเร็วไปไหม?” ถังหว่านถามอย่างสงสัย
“ยาจีนโบราณนี้มีผลข้างเคียง ดื่มแล้วจะง่วงนอน ใช้เวลานอนหลับประมาณยี่สิบชั่วโมง แล้วถ้าตื่นขึ้นมา สมรรถภาพทางกายจะดีขึ้นมาก ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”
ถังหว่านพยักหน้าแม้จะยังงุนงง
โจวอี้เป็นแพทย์แผนจีนที่เก่งกาจ และด้วยความรักที่มีต่อลูกสาว เขาจะไม่มีวันให้ยาอะไรก็ตามที่เป็นผลร้ายกับลูกสาวแน่นอน ดังนั้นถ้าเขาบอกว่าไม่มีปัญหา มันก็คงต้องเป็นแบบนั้น
แต่ว่า…
จะหลับอีกนานไหม?
“พวกเขาอยู่ที่ไหนล่ะ ฉันจะไปดูพวกเขาหน่อย” ถังหว่านถามต่อ
“ผมจะพาคุณไปเอง” โจวอี้จับมือถังหว่านไว้และพาเธอไปที่ห้องนอนของถังเสี่ยวรุ่ย
บนเตียงขนาดใหญ่ ถังเหมียวเหมี่ยวและถังเสี่ยวรุ่ยกำลังนอนเคียงข้างกัน เมื่อเห็นภาพนี้แล้วถังหว่านก็รู้สึกโล่งใจ
แต่เธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
ครั้งนี้ที่เธอกลับมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคิดถึงลูกสาวเป็นหลัก แต่ยาที่โจวอี้ต้มนั้นทำให้ลูกสาวของเธอต้องนอนหลับไปถึงยี่สิบชั่วโมง ซึ่งมันหมายความว่าจะไม่ตื่นจนกว่าเธอจะออกเดินทางพรุ่งนี้เช้า
“ฮะ?” ทันใดนั้นเธอก็พบว่าขาของถังเสี่ยวรุ่ย ซึ่งผ้าห่มบังเอิญไม่ได้คลุมไว้ดูเหมือนจะใหญ่ขึ้นมา กล้ามเนื้อที่เคยลีบแฟบไปนั้นเริ่มฟื้นตัวขึ้น
โจวอี้สบตาถังหว่านและยิ้มออกมา “ผมให้ฝังเข็มเสี่ยวรุ่ย นวด และใช้เงินไปมากเพื่อแช่ตัวเธอในอ่างยา แผลเก่าของเธอก็เลยดีขึ้นมาก อย่างมากในหนึ่งเดือนนี้ เธอจะสามารถเดินได้อย่างปกติ ถึงแม้จะวิ่งและกระโดดหนักไม่ได้ แต่เธอจะไม่พิการอีก”
แววตาของถังหว่านเป็นประกายขึ้นมาทันที
เธอชอบถังเสี่ยวรุ่ยมาก แม้ว่าเด็กน้อยคนนี้จะเก็บตัวและดูขี้อายมากแต่ก็เป็นเด็กฉลาด มีเหตุผล และน่ารัก ที่สำคัญ เด็กน้อยคนนี้ไม่รังแกลูกสาวเธอ
“ถ้างั้นหลังจากนี้เราก็มาพยายามช่วยทำให้เธอวิ่งและกระโดดได้แข็งแรงเหมือนเด็กทั่วไปกันเถอะ” ถังหว่านชื่นชมทักษะทางการแพทย์ของโจวอี้มากยิ่งขึ้น
เหมือนเด็กทั่วไป?
โจวอี้ยกยิ้มอย่างมีเลศนัย
ถังเสี่ยวรุ่ยจะไม่เป็นเหมือนเด็กทั่วไปได้หรอก! เด็กน้อยคนนี้มีพลังเหนือธรรมชาติ ในอนาคตเมื่อเธอฝึกฝนหนักพอ เธอจะกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์แถวหน้าได้แน่นอน
นับประสาอะไรกับการวิ่งและกระโดด ต่อให้บินข้ามหลังคาบ้านหรือกำแพงเมืองจีนก็ไม่ใช่เรื่องยาก
“ปล่อยให้พวกเขานอนต่อไปเถอะ อันที่จริงคืนนี้ไม่มีลูกสาวมานอนด้วยก็สงบดีเหมือนกัน…” โจวอี้โอบเอวเรียวของถังหว่านและพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ฮึ่ม! ฉันละเกลียดรอยยิ้มแบบนี้ของคุณจริง ๆ ” ถังหว่านยิ้มอย่างหมั่นไส้
“ผมจะยิ้มแบบนี้ให้คุณคนเดียว” โจวอี้ยิ้มกว้าง
ค่ำคืนนี้โจวอี้จึงสนุกหฤหรรษ์อย่างมาก
รสชาติแห่งความสนุกระดับนี้ทำให้แม้แต่ในยามหลับเขาก็รู้สึกสบายและมีความสุข
น่าเสียดายที่ถังหว่านต้องขึ้นรถตู้และจากไปในเช้าวันรุ่งขึ้น
“พี่” ถงหู่ปรากฏตัวขึ้นที่สนาม
โจวอี้หันกลับมามองถงหู่ ก่อนจะยิ้มและถามว่า “นายรู้สึกยังไงบ้าง?”
“ความคิดชัดเจนและรวดเร็วกว่าเดิม” ถงหู่ยิ้ม เห็นได้ชัดว่าพอใจกับสถานะปัจจุบันของเขามาก
“นี่เป็นครั้งที่สองที่นายกินยาเม็ดตื่นรู้ แม้ว่าผลจะไม่ดีเท่าครั้งแรก แต่ก็ยังมีความสำคัญมาก อ้อ! ฉันแนะนำว่าหลังจากนี้ นายต้องอ่านหนังสือเพิ่มสักหน่อย แม้ว่าความแข็งแกร่งจะสำคัญ แต่ความรู้ก็สำคัญนะ”
“ผมเข้าใจแล้ว” ถงหู่พยักหน้า
ทั้งสองคุยกันอีกเล็กน้อยก่อนที่โจวอี้จะไปยังห้องของลูกสาว เขาจับชีพจร และเมื่อแน่ใจว่าพวกเธอไม่ได้เป็นอะไร เขาก็ออกจากห้องไป
ครั้งแรกที่เขากินยาเม็ดตื่นรู้ เขาผล็อยหลับไปเกือบสี่วัน ในขณะที่เด็กสองคนนี้เพิ่งหลับไปเพียงสามวัน พวกเธอคงจะตื่นขึ้นมาในอีกหนึ่งหรือสองวัน
“เสี่ยวหู่ ฉันจะออกไปข้างนอก ถ้าเด็ก ๆ ตื่นแล้ว นายโทรมาบอกฉันทันทีนะ” โจวอี้กลับไปที่สนามและพูดกับถงหู่ที่กำลังเริ่มฝึกฝน
เซียงจางวิลล่า
โจวอี้มาที่นี่ด้วยรถแท็กซี่ และเห็นเฉิงฮ่าวที่กำลังพักฟื้นอาการบาดเจ็บ
เขาต้องการสร้างโรงเรียน แต่ไม่ต้องการสร้างภาระให้กับหวงไห่เทา เฉิงฮ่าวจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะช่วยเขา
“เกิดอะไรขึ้น?” เฉิงฮ่าวต้อนรับโจวอี้ให้เข้ามาในห้องนั่งเล่น
โจวอี้บอกจุดประสงค์ของเขาทันทีและท้ายที่สุดก็พูดว่า “คุณรู้ไหม ผมอยู่บนภูเขามาตลอด และไม่เคยอ่านหนังสือในโรงเรียนมาก่อนเลย ผมก็เลยไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการสร้างโรงเรียน ดังนั้นผมต้องการให้คุณช่วย”
“ไม่มีปัญหา”
เฉิงฮ่าวตกลงอย่างง่ายดาย ขณะนี้คนสนิทของเขาเป็นผู้บริหารธุรกิจให้เขา ดังนั้นเขาจึงมีเวลาว่างมาก
ส่วนบาดแผลตามร่างกาย นอกจากมือที่ขาดแล้ว บาดแผลอื่น ๆ นั้นก็หายดีแล้ว ไม่กระทบกระเทือนต่อการทำงานแต่อย่างใด
“ว่าแต่ หลังจากที่โรงเรียนสร้างเสร็จ คุณวางแผนที่จะบริหารโรงเรียนด้วยตัวเองหรือว่ายังไง”
“ไม่ ผมจะหาคนมาจัดการ เพราะผมรู้แค่วิชาการแพทย์เท่านั้น”
“งั้นผมจะบริจาคเงินหนึ่งร้อยล้านหยวนให้โรงเรียนทุกปีเพื่อช่วยคุณแบ่งเบาความกดดันนี้เอง”
“ตกลง! ขออวยพรให้ในอนาคตคุณทำเงินได้เยอะมากกว่าเดิมแล้วกันนะ” โจวอี้ยิ้ม
“ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว”
ทั้งสองได้พูดคุยกันเป็นเวลาหลายชั่วโมงเกี่ยวกับแผนการสร้างโรงเรียน
ส่วนใหญ่เฉิงฮ่าวเป็นผู้พูดและโจวอี้เป็นผู้ฟัง
ณ เมืองจินหลิง เขตฉินไฮว่
อาคารห้าชั้นที่จางเหิงเช่าอยู่ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด และที่นี่จะเป็นสำนักงานใหญ่ของ Collection Entertainment
จางเหิงสวมหมวกนิรภัยเพื่อดูแลควบคุมการตกแต่งภายใน
“ประธานจาง มีบางอย่างผิดปกติ” ไป๋ไครีบมาที่สำนักงานด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว
“เกิดอะไรขึ้น?” จางเหิงขมวดคิ้ว
“ผมเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากเจ้าของอาคารว่าต้องการขออาคารคืน และยินดีจ่ายค่าเสียหายให้เราด้วย”
“ฮะ? นี่เขากำลังทำบ้าอะไร?!” จางเหิงถึงกับโกรธขึ้นมา
ตอนนี้อาคารได้รับการปรับปรุงไปครึ่งหนึ่งแล้ว และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในหนึ่งเดือน ดังนั้นการที่อีกฝ่ายจะมายึดเอาอาคารคืนในเวลานี้
ตลกแล้ว?!
“เขาบอกว่าต้องการใช้เงินจำนวนมากเพื่อพลิกธุรกิจของเขา เขาก็เลยพร้อมที่จะขายตึกนี้แล้ว แถมได้ผู้ซื้อแล้วด้วย เขาสามารถเซ็นสัญญาขายตึกกับฝ่ายนั้นได้ทันทีถ้าเรายุติการทำงานที่นี่” ไป๋ไคพูดอย่างหมดหนทาง
“ขายเหรอ? เขาไม่รู้เหรอไงว่าค่าเสียหายที่เขาจะต้องจ่ายให้เราคือสิบล้านหยวน!”
“เขารู้ แต่เขาแสดงชัดเจนว่าเขายังต้องการขาย”
“สารเลว!”
จางเหิงโกรธจัด เขาถอดหมวกนิรภัยออกและเขวี้ยงลงพื้น
นี่เป็นงานแรกที่โจวอี้มอบหมายให้เขาทำ การหาที่ตั้งสำนักงานสำหรับบริษัทใหม่ เขาทำมันได้แล้ว แต่พอผ่านไปได้ครึ่งทาง… ทุกอย่างกลับกลายเป็นแบบนี้ เหตุการณ์แบบนี้มันคล้ายกับว่าเขาถูกตบหน้า!
นอกจากนี้ เขาได้เซ็นสัญญากับบริษัทรับตกแต่งและใช้เงินไปแล้วถึงแปดล้านหยวน ถ้าหากเขายกเลิกสัญญา ค่าชดเชยเกือบทั้งหมดจากเจ้าของอาคารจะกลายเป็นว่าต้องเอาไปจ่ายให้กับบริษัทตกแต่ง และที่สำคัญที่สุดคือวัสดุที่ใช้ในการตกแต่งล็อตแรกที่เขาสั่งไป เขาเสียเงินไปกับพวกมันเกือบสิบล้านหยวนแล้ว!
หากเขาต้องย้ายไปอาคารใหม่ มันจะเท่ากับว่าเขาทั้งเสียเวลาและสูญเสียเงินไปจำนวนมาก