“ทำไม หรือว่า ท่านผู้นำตระกูลคนอื่น ๆ เห็นด้วยกับการที่ หยาหนยุนหนาน คุกคามฝ่าบาทด้วยเส้นชีวิตของมณฑล?”จางซุนหวูจี๋ กล่าวถามอย่างไม่แยแส

คำถามนี้ทำให้พวกเขารีบก้มหน้ากันอย่างรวดเร็ว

ร่างที่ไร้ศีรษะของ หยานหยุนหนาน อยู่ตรงหน้าพวกเขา หากพวกเขากล้าไม่เห็นด้วยจุดจบของพวกเขาคงจะเหมือนกับ หยานหยุนหนาน

กระทั่งหลายคนยังแอบ ด่า หยานหยุนหนาน ในใจ กล้าที่จะคุกคามอีกฝ่ายด้วยเส้นชีวิตเช่นนี้ ทำให้พวกเขาพลอยเดือดร้อนไปด้วย

ถ้าพวกเขาจะตายก็คงต้องโทษหยานหยุนหนานกันทุกคน

“ภายในสามวัน ถ้าพวกท่านไม่ยอมจำนน ชะตากรรมแบบหยานหยุนหนาน กำลังรอพวกท่านอยู่!”

หลังจากที่ จางซุนหวูจี๋พูดจบ เขาก็จากไป

เขาได้ฝ่าฝืนคำสั่งของฝ่าบาทและเปลี่ยนวิธีจัดการเรื่องเหล่านี้เอง

ไม่ถึงหนึ่งในสี่ชั่วโมง หลังจากที่ จางซุนหวูจี๋ จัดการเรื่องเสร็จ ลู่เฟิง ก็ได้รับข่าว จากจินยี่เหว่ย

“ดูเหมือนว่า จางซุนหวูจี๋ จะดูถูกไม่ได้จริง ๆ สมกับเป็นยอดวีรบุรุษสี่ยิบสี่อันดับแรกของ อนุสรณ์หลิงหยาน ในประวัติศาสตร์”

แม้ว่า จางซุนหวูจี๋ จะขัดขืนคำสั่งของเขาและเปลี่ยนวิธีจัดการ แต่ลู่เฟิงก็ไม่คิดว่ามันเป็นปัญหาอะไร

สำหรับ หยานหยุนหนาน อีกฝ่ายสมควรตายอย่างแท้จริง

เพราะถ้าหากเก็บเอาไว้ จะยิ่งเป็นอันตรายต่ออาณาจักร ดังนั้นการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการฆ่าจึงง่ายที่สุด

“ฝ่าบาท จางซุนหวูจี๋ ต้องการเข้าเฝ้าพระองค์”ในขระนี้ จางฮั่น ได้เดินเข้ามารายงาน

“ให้เขาเข้ามา”

หลังจากนั้น จางซุนหวูจี๋ ก็เดินเข้ามาและคุกเข่าลงบนพื้น”ถวายบังคมฝ่าบาท!”

“ลุกขึ้น!”ลู่เฟิง ได้ตอบกลับ

“ข้าน้อยต้องขออภัยฝ่าที่ไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่ง!”จางวุนหวูจี๋ ได้ตอบกลับ

“ฮ่าฮ่า,ข้าได้ยินเรื่องเกี่ยวกับการจัดการของเจ้าแล้ว ทำได้ดีมาก นับแต่วันนี้ไปที่นี่ก็คือดินแดนอาณาจักรหนานหยานของข้า ข้าไม่ต้องการให้มีหนอนบ่อนไส้อาศัยอยู่ในนี้”ลู่เฟิง มองไปที่ จางซุนหวูจี๋

เมื่อจางซุนหวูจี๋ ได้ยิน เขาก็ตกใจเล็กน้อย หลังจากที่เขาออกจากสถานที่ที่พบปะพูดคุยกับผู้นำตระกูลขุนนางเหล่านั้นเขาก็รีบมาที่พระราชวังทันที ไม่คิดเลยว่า ฝ่าบาทจะทรงทราบอยู่ก่อนแล้ว

ดูเหมือนว่า ชื่อเสียงของ จินยี่เหว่ย จะไม่ใช่เพียงแค่ข่าวลือ ความสามารถในการรับข่าวสารของพวกเขายอดเยี่ยมที่สุดในโลก

แต่ว่าคนที่สุดยอดที่สุดก็คือคนที่ทำให้ตัวตนมากมายเหล่านี้มาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาได้อย่างฝ่าบาท

มีความคิดมากมายปรากฏขึ้นในใจของ จางซุนหวูจี๋ ก่อนที่เขาจะตอบกลับ”ขอบพระทัยฝ่าบาท ข้าน้อยจะจัดการงานทุกอย่างตามหน้าที่ที่ได้รับให้ดีที่สุด และจะไม่ทำให้ฝ่าบาทไม่พอพระทัย”

“ดีมาก”ลู่เฟิง ยิ้มออกมา”เจ้าไปจัดการงานที่เหลือต่อเถอะ!”

“ขอรับ!”

จางซุนหวูจี๋ ได้จากไปทันที

อีกด้านนึงมีรถม้าที่ได้รับการคุ้มครองโดยยอดฝีมือหลายคนเดินทางมา

“พวกเรามาถึงแล้วเจ้าค่ะ”ม่านรถม้าได้ถูกเปิดออกสาวใช้สาวสวยคนนึงได้หันมองออกไปดูจากนั้นก็ถอนศีรษะกลับเข้ามารายงาน

ภายในรถม้ายังมีหญิงสาวที่งดงามนั่งอยู่

เธอก็คือ จางซุนอู๋โกว

เธอเดินทางมาหาจักรพรรดิแห่งอาณาจักรหนานหยานภายใต้การจัดการของ จางซุนห่าว บิดาของเธอ

จางซุนอู๋โกวได้ตอบกลับเบา ๆ “รีบเข้าเมืองเถอะ!”

“เจ้าค่ะ!”

ในอีกไม่กี่วันถัดมา เมิ่งเถียน ได้นำกองทัพเข้ายึดสถานที่ทั้งหมดภายในอาณาจักรซีหยาง

เดิมชาวอาณาจักรซีหยาง ที่สูญเสียเมืองหลวงซีหยางไปพวกเขาก็ยังมีใจสู้อยู่ แต่เมื่อเสียเมืองหลวงรองอย่างเมืองหลิงหยางไปใครเล่าจะกล้าขัดขืน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ลู่เฟิง ไม่ได้ลงไปจัดการด้วยตัวเอง เขาได้ส่งมอบให้ จางซุนหวูจี๋ จัดการทั้งหมด

ผลลัพธ์ที่ได้ จางซุนหวูจี๋ ไม่ทำให้เขาผิดหวังจริง ๆ

อีกเจ็ดวันต่อจากนี้จะเป็นวันขึ้นปีใหม่ ลู่เฟิง ได้มอบการจัดการเรื่องทหารให้กับ เมิ่งเถียน และ ส่งมอบภารกิจทางการเมืองให้กับ จางซุนหวูจี๋ จางกนั้นเขาก็พา ทาสดาบทั้งหก,ชูฉี,ลิโป้ โจจู๋ และ ตู้หลี่ซู่ เดินทางไปที่ เมืองซีหยาง

สำหรับนางสนมเหล่านั้นที่ยังไม่ถูกสังหาร ลู่เฟิง ได้ส่งพวกนางไปที่เมืองหนานหยานซึ่งเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรหนานหยาน

เหตุผลที่เขามาที่เมืองซีหยาง เป้าหมายแรกก็คือ หาสถานที่ลับที่ หนิงหยุนเอ๋อร์ บอกเขาก่อนหน้านี้

เพื่อดูว่ามันมีเส้นเลือดวิญญาณข้างในจริง ๆ หรือไม่

ส่วนเหตุผลที่สองที่เขามาก็คือ เขาได้รับข่าว จาก เจี๋ยสวี่ ว่ามีการจัดตั้งอาคมเคลื่อนย้ายขึ้นในเมืองซีหยาง กับ ตำหนักจงอี้ เขาสามารถกลับไปยังเมืองหลวงได้โดยผ่านการเคลื่อนย้าย

ไม่นาน ลู่เฟิง ก็มาถึง เมืองซีหยาง

หลังจากนั้นเขาก็พา ทาสดาบทั้งหก โจจู๋ ลิโป้ และ ตู้หลี่ซู๋ ไปถึงพระราชวังและพบห้องลับตามแผนที่ที่ หนิงหยุนเอ๋อร์ มอบให้

“เป็นยังไง เจ้ารู้วิธีเปิดห้องลับนี้หรือไม่?”ลู่เฟิง ได้กล่าวถาม ตู้หลี่ซู่

ตู้หลี่ซู่พบว่า สถานที่แห่งนี้ถูกซ่อนไว้ด้วยกลไกบางอย่างและมันยากที่จะผ่านเข้าไปได้

ดังนั้นตอนนี้เขากำลังมองหาวิธี

“ฝ่าบาท ข้าน้อยสามารถเปิดมันได้อย่างแน่นอน แต่ด้วยความสามารถในปัจจุบันเกรงว่าข้าน้อยต้องการเวลาสามวันในการเปิดมัน”ตู้หลี่ซู่ ได้ตอบกลับ

“เข้าใจแล้ว ข้าจะให้เวลาเจ้าสามวัน”

อย่างไรก็ตามยังมีเวลาอีกเจ็ดวันก่อนจะขึ้นปีใหม่และด้วยอาคมเคลื่อนย้าย ลู่เฟิง สามารถไปถึงเมืองหลวงได้ในระยะเวลาอันสั้นเขาจึงไม่รีบร้อน

สามวันต่อมา ตู้หลี่ซู่ ได้เปิดห้องลับและเข้าไปได้สำเร็จ

มีทางเดินอยู่ภายในนั้น ลู่เฟิง ได้พากลุ่มคนเข้าไปและพบกับหินวิญญาณ

“ไม่คาดคิดเลยว่าที่นี่จะมีเส้นเลือดวิญญาณจริง ๆ !”โจจู๋ ได้ถอนหายใจออกมา

ลู่เฟิง มองไปที่ พลังงานโดยรอบและถอนหายใจเบา ๆ “น่าเสียดายที่มันเป็นเส้นเลือดวิญญาณขนาดเล็ก”

โจจู๋ มองไปที่มันและตอบกลับ”ถึงแบบนั้นเราต้องหาหัวใจเส้นเลือดวิญญาณใพบ อย่างน้อยถ้าพบเราก็สามารถเคลื่อนย้ายมันได้”

“ฮ่าฮ่า,โจจู๋ ท่านคิดว่าจะหามันเจอหรือไม่?”ลู่เฟิงยิ้มและกล่าวถาม

“นี่…”โจจู๋ รู้สึกอายเล็กน้อย

ความเป็นไปได้ที่เขาจะหาพบนั้นน้อยอย่างมาก

ลู่เฟิง ไม่ได้กังวลแม้แต่น้อย ไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องพบมันอย่างแน่นอน

ต่อมาเขาให้จินยี่เหว่ยจัดการเรื่องเหล่านี้ แต่ ตู้หลี่ซู่ ได้บอกว่าสถานที่แห่งนี้มีการจัดการรูปแบบลึกลับบางอย่าง มันคงจะดีกว่าหากให้ผู้ใช้อาคมวิญญาณอย่างเขาเป็นคนจัดการ

หลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ลู่เฟิง ก็พากลุ่มคนไปยังสถานที่ตั้งของอาคมเคลื่อนย้ายในเมืองซีหยาง

เขาได้เคลื่อนที่ไปยังเมืองหลวงโดยตรง

ความรู้สึกในการก้าวผ่านอาคมเคลื่อนย้ายนั้นเเปลกมากเพียงพริบตาเดียวเวลาก็ดูเหมือนจะผ่านพ้นไปไวมากแต่ความจริงแล้วมันเป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้นก่อนที่พวกเขาจะมาถึงห้องใต้หลังคาขนาดเล็กถัดจากตำหนักจงอี้

เมื่อออกจากตำหนักจงอี้ ลู่เฟิง ก็ไปที่พระราชวังทันที

หลังจากออกจากอาณาจักรหนานหยานมานานสิ่งแรกที่เขาคิดถึงก็คือพระราชวัง

ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ เขาคิดถึง มู่หลาน

ลู่เฟิง ได้ซ่อนสถานจนไม่มีใครรู้ว่าเขากลับมาแล้ว

หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเขาก็ตรงไปที่ห้องนอนของ มู่หลานทันที

ไม่นาน ลู่เฟิง ก็มาถึง ห้องของ มู่หลาน เขาได้ซ่อนลมหายใจและสั่งให้สาวใช้ที่เห็นเขาปิดปากเงียบก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปในห้องอย่างเงียบ ๆ

ภายในห้องเขาเห็น มู่หลาน กำนั่งอยู่ตรงโต๊ะหนังสือ

รูปลักษณ์ของเธอยังคงงดงามและน่าทึ่งเหมือนเดิม

ในมือของเธอกำลังทำงานปักอย่างปราณีต

มันยากที่จะจินตนาการว่าหญิงสาวคนนึงที่ถือดาบรบฆ่าฟันจะสามารถทำงานเย็บปักถักร้อยได้

ลู่เฟิง ได้เดินไปยืนข้างหลังของฮวามู่หลานและกล่าวกระซิบ”มู่หลาน ข้ากลับมาแล้ว!”