บทที่ 82 เธอมีปัญญาซื้อเหรอ

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

ได้ยินชื่อนี้ เฉินฮวนฮวนก็นึกขึ้นมาได้

หลิวเสี่ยวจิงเป็นเพื่อนร่วมชั้นตอนมัธยมปลายจริง ๆ เพื่อนร่วมชั้นตอนม.4และม.5 แต่ตอนม.6 หลิวเสี่ยวจิงก็ได้ย้ายโรงเรียนไปแล้ว

เมื่อครู่ที่จำไม่ได้ ก็เพราะหลิวเสี่ยวจิงที่อยู่ตรงหน้า เปลี่ยนไปเยอะมาก จมูกโด่งขึ้นมาก คางก็แหลมขึ้น เปลือกตายังกลายเป็นตาสองชั้นสไตล์ยุโรปอีกด้วย เหมือนกับออกมาจากโรงงาน

ความสัมพันธ์ของเธอกับหลิวเสี่ยวจิงไม่ดีเท่าไหร่นัก เป็นเพราะเดือนของห้องเรียนข้าง ๆ ที่หลิวเสี่ยวจิงชอบมาชอบตนเอง ดังนั้นในตอนนั้นหลิวเสี่ยวจิงหาเรื่องเธออยู่ไม่น้อย

“หลิวเสี่ยวจิง ขอโทษด้วย เธอเปลี่ยนไปเยอะมาก ฉันเลยจำไม่ได้” เฉินฮวนฮวนพูดตามตรง

ตอนนั้นเธอโดนหลิวเสี่ยวจิงเอาเปรียบอยู่ไม่น้อย เป็นธรรมดาที่จะไม่ไว้หน้าผู้หญิงคนนี้

“เฉินฮวนฮวน คิดไม่ถึงว่าไม่ได้เจอกันนานหลายปีขนาดนี้ เธอก็ยังยากจนอยู่เหมือนเดินนะ!” หลิวเสี่ยวจิงพยายามกลั้นหัวเราะ ดูภูมิใจมาก

“หึ” เฉินฮวนฮวนหัวเราะในลำคอ ไม่อยากจะสนใจผู้หญิงคนนี้อีกต่อไป

ความสัมพันธ์ของพวกเธอก่อนหน้านี้ไม่ดีมาก ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดว่าหลังจากนี้เจอกันแล้วจะยังยิ้มให้กันได้อีก ความเป็นไปได้คงจะน้อยมาก

ในตอนที่เฉินฮวนฮวนกำลังจะหมุนตัวเดินออกไป หลิวเสี่ยวจิงก็เรียกเธอไว้อีก “เฉินฮวนฮวน เธอชอบกระโปรงตัวนี้ไม่ใช่เหรอ? ฉันยกให้เธอ เธอมีปัญญาซื้อเหรอ?”

เฉินฮวนฮวนรู้ว่าหลิวเสี่ยวจิงกำลังดูถูกเธอ เธอมองไปที่หลิวเสี่ยวจิงด้วยความใจเย็นเป็นอย่างมาก แล้วตอบกลับ “ชอบกระโปรงตัวเดียวกับเธอ ฉันรู้สึกว่าสายตาของฉันต้องได้รับการซ่อมแซมดี ๆ สักหน่อยแล้ว”

“เฉินฮวนฮวน เธอหมายความว่ายังไง!” หลิวเสี่ยวจิงชี้หน้าเธอ ถลึงตาโตอย่างโมโห เปลือกตาสองชั้นสไตล์ยุโรปคู่นั้น ดูแปลกประหลาดอย่างมาก

“ไม่ได้หมายความว่าอะไร ก็แค่หัวเราะเยาะกับรสนิยมแย่ ๆ ของเธอ” เฉินฮวนฮวนกระแทกกลับ แล้วเดินไปทางประตู

“เธอหยุดอยู่ตรงนั้นนะ! ฉันดูแล้วว่าเธอไม่มีเงินซื้อ ในสายตาของฉัน แม้แต่ธาตุอากาศเธอก็ไม่ใช่! อย่าคิดว่าหน้าตาสะสวย แล้วจะหยิ่งยโสไปหน่อยเลย ตอนนี้ไม่มีเงิน แม้แต่ขี้เธอก็ไม่ใช่!” หลิวเสี่ยวจิงตะโกนปาวปาวอยู่ด้านหลังเฉินฮวนฮวน

เฉินฮวนฮวนคับอกคับแค้นใจ เธอกำหมัดแน่น แล้วก็หมุนตัวกลับเดินไปทางหลิวเสี่ยวจิง

“ทำไม จะตบฉันเหรอ? ฉันพูดผิดเหรอ? เฉินฮวนฮวน เธอดูตัวเธอเอง มหาลัยปีสองแล้ว ยังจะใส่ชุดที่ยาจกขนาดนี้ ขายขี้หน้าคน!” หลิวเสี่ยวจิงพูด แล้วตั้งใจเอากระเป๋าแบรนด์เนมของตัวเองออกมาสะพายอยู่หน้าเฉินฮวนฮวน

“ไม่มีเงินก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่กลัวพวกที่ไม่มีเงินแต่แสร้งทำว่ามีเงินนี่สิ ไม่มีเงินแล้วยังจะอยากใส่เสื้อผ้าดี ๆ ผู้หญิงประเภทที่รักชื่อเสียงเกียรติยศเงินทอง ฉันเกลียดที่สุด!” อันฉีเหลือบตามองเฉินฮวนฮวน แล้วพูดเสริมหลิวเสี่ยวจิง

เฉินฮวนฮวนโมโหจนเส้นเลือดปูด ผู้หญิงสองคนนี้รังแกคนอื่นมากไปแล้ว!

ตัวเองมีคุณสมบัติทางจิตใจที่ดี ถ้าหากเป็นผู้หญิงคนอื่น การเงินขัดสนแต่อยากจะดูชุดสวย ๆ งาม ๆ แล้วถูกดูถูกแบบนี้ ก็ไม่ต้องเก็บกดพอดีกันเหรอ?

รักสวยรักงามไม่ผิด ไม่ใช่ทุกคนที่เกิดมาแล้วก็ซื้อของได้ตามใจชอบ

“อันฉี นิสัยแบบนี้ของเธอ ไม่คู่ควรจะเป็นพนักงานขายเลยนะ”เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าเธอรับไม่ได้เป็นอย่างมาก เพราะไม่ใช่หลิวเสี่ยวจิงแต่เป็นอันฉี

เธอกับหลิวเสี่ยวจิงมีความบาดหมางกัน ดังนั้นหลิวเสี่ยวจิงดูถูกเธอ เธอจะคิดบัญชีเป็นการส่วนตัวกับหลิวเสี่ยวจิง แต่อันฉีที่เป็นพนักงานแนะนำ ดูถูกเธอแบบนี้ ก็สามารถทำแบบนี้กับผู้หญิงคนอื่นได้เช่นกัน

เธอจำเป็นจะต้องสั่งสอนพนักงานแนะนำคนนี้สักหน่อย เธอจะยื่นฟ้องอันฉี!

“ฉันไม่คู่ควร? ขอโทษด้วยนะคะคุณเฉิน เดือนหน้าถ้าไม่เกิดข้อผิดพลาดฉันจะเลื่อนขั้นเป็นรองหัวหน้าแล้ว เพราะผลคะแนนการทำงานของฉันคือที่หนึ่งของปี!” ตอนที่อันฉีพูดประโยคนี้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส

ร้านแบรนด์เนมแบบนี้ เป็นพนักงานแนะนำไม่มีอะไรที่น่าอวดดี แต่ว่าสามารถเป็นถึงหัวหน้าร้านได้ ก็เทียบเท่ากับพนักงานออฟฟิศได้แล้ว เงินเดือนก็ค่อนข้างดีมาก

ดังนั้น อันฉีตอนนี้ภูมิใจในชีวิตที่รุ่งเรือง ไม่แม้แต่จะมองดูนักศึกษาหญิงที่ยากจนอย่างเฉินฮวนฮวน

“ฉันจะยื่นฟ้องเธอ เธอไม่เหมาะกับการเลื่อนขั้น” เฉินฮวนฮวนมองอันฉีอย่างใจเย็น ค่อย ๆ พูดออกมาทีละคำ

อันฉีหัวเราะเยือกเย็น เดิมทีเธอยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตรมากแล้ว แต่เฉินฮวนฮวนคนนี้ยั่วยุเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอหน้าบึ้งพูดขึ้น “เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร? จำนวนคนได้กำหนดไว้แล้ว คนจนแบบเธอที่แม้แต่เสื้อผ้าตัวเดียวของร้านเราก็ไม่เคยซื้อ ยื่นฟ้องฉันจะมีประโยชน์อะไร?”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…” หลิวเสี่ยวจิงที่อยู่ด้านข้างหัวเราะอย่างหนัก หัวเราะจนท้องขดท้องแข็ง

เฉินฮวนฮวนสีหน้าเปลี่ยน

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ที่อันฉีพูดก็ไม่ผิด เธอไม่เคยซื้อเสื้อผ้าของแบรนด์วีวี่ จะมีสิทธิ์อะไรยื่นฟ้องอันฉี?

ยิ่งไปกว่านั้น ถึงเธอจะยื่นห้อง อันฉีจะถูกปลดเหรอ? คำตอบก็เห็นได้ชัดแล้วว่าไม่มีทางแน่นอน

“ฉันบอกเธอนะ กระโปรงลิมิเต็ดอิดิชั่นตัวนี้ ราคาแปดหมื่นแปดพัน เธอมีปัญญาซื้อเหรอ? เธอยินยอมที่จะซื้อเหรอ?” อันฉีถลึงตา พูดฉอด ๆ ใส่เฉินฮวนฮวน

เฉินฮวนฮวนแทบจะพูดไม่ออก เธอไม่ยินยอมที่จะซื้อจริง ๆ

งบทั้งหมดหนึ่งแสน แต่มากสุดเธออยากใช้มันแค่เพียงครึ่งเดียว อีกครึ่งหนึ่งเก็บเอาไว้เพื่อที่จะคืนให้เฟิงหานชวน เธอยังติดหนี้เฟิงหานชวนหนึ่งแสน

กระโปรงตัวนี้ แค่ตัวเดียวก็แทบจะใช้เงินงบประมาณทั้งหมดของเธอเกือบหมด เธอไม่มีทางซื้อมันแน่ ต่อให้ชอบขนาดไหนก็เถอะ

ต่อหน้าเงินทอง เธอไม่มีสิทธิ์พูดอะไร

“เฉินฮวนฮวน อย่าเย่อหยิ่งเกินไป รู้ไหม? ไม่อย่างงั้นจะขายหน้ามากกว่าเดิม!” หลิวเสี่ยวจิงหัวเราะไม่หยุด พูดน้ำเสียงดูถูก “ชั้นล่างมีร้านแฟชั่นอยู่สองร้าน ดูเหมือนจะลดราคาอยู่ ตัวละร้อยสองร้อย ค่อนข้างเหมาะสมกับเธอ”

เฉินฮวนฮวนหมดความหยิ่งยโส หน้าม่อยคอตก ดูน่าอนาถเป็นอย่างมาก

“รีบไสหัวไปเถอะ! ท่าทางยาจก ทำให้คนรู้สึกรังเกียจ!” อันฉีเบะปาก สีหน้าดูถูกเหยียดหยาม

เฉินฮวนฮวนถึงแม้จะโมโห แต่นอกจากจะต่อปากต่อคำกลับ ก็ทำอย่างอื่นไม่ได้แล้ว ตอนนี้ก็ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะตอกกลับอะไรแล้ว

ในตอนที่เธอหมดหนทางอยู่นั้น ทันใดนั้นก็เห็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ทางเดินด้านนอก ชายหนุ่มที่เดินนำหน้าร่างกายสูงใหญ่ สวมใส่ชุดสูทสั่งตัดสีดำ คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างมาก

เฟิงหานชวน!

แถมด้านหลังของเขา ก็มีคนกลุ่มหนึ่งติดตามมาด้วย

เธอนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เฟิงหานชวนมาประชุมที่นี่ ห้างอวิ๋นตวนเป็นธุรกิจของตระกูลเฟิง

ตอนนี้เฟิงหานชวนพากลุ่มคนเดินอยู่ในห้าง น่าจะกำลังสำรวจตรวจสอบอยู่?

เฉินฮวนฮวนตกตะลึงในทันที เธอรีบพุ่งตัวไปหาชายหนุ่ม แต่ว่าเห็นใบหน้าเย็นชาของเฟิงหานชวนแล้ว เฉินฮวนฮวนก็หยุดชะงักในทันที

คำเรียก “อาสาม” ก็กลืนลงท้องไป

ถึงแม้เธอจะเป็นนายหญิงของตระกูลเฟิง ภรรยาของเฟิงเฉินเหยี่ยน แต่ตระกูลเฟิงก็ยังไม่เคยเปิดเผยสถานะของเธอ เธอไม่กล้าที่จะเปิดเผยตัวตนของเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต

ดังนั้นเธอน้อมตัวให้กับเฟิงหานชวน แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ “ประธานเฟิงคะสวัสดีค่ะ! ฉันอยากจะยื่นฟ้องพนักงานในห้างของพวกคุณค่ะ!”

ประธานเฟิง?

เฟิงหานชวนยักคิ้ว ผู้หญิงคนนี้กำลังเล่นอะไรอยู่?

“บังอาจมาก!! เธอเป็นใคร? อย่ามาก่อกวนไม่มีเหตุผลอยู่ตรงนี้ ตอนนี้พวกเรากำลังสำรวจห้างอยู่!” ชายวัยกลางคนเดินออกมา แล้วชี้หน้าสั่งสอนเฉินฮวนฮวน

“เอ่อ…” เฉินฮวนฮวนเกาหัว แต่ก็ไม่ได้สนใจเขา แล้วมองอย่างมีหวังไปที่เฟิงหานชวน

เป็นครั้งแรกที่เฟิงหานชวนเห็นท่าทางแบบนี้ของเฉินฮวนฮวน เขาหัวเราะเบา ๆ แล้วถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เธออยากจะยื่นฟ้องใคร?”