ตอนที่ 113 คุณสมบัติของความสามารถในการต่อสู้

บาดแผลของจิ้งจอกดํานั้นรุนแรงเกินไป แม้ว่ามันจะกิน [ยาฟื้นฟู ไปแล้ว บาดแผลเลือดก็หยุดไหลมานานแล้ว แต่อย่างน้อยก็ต้องพักผ่อนไปอีกหนึ่งคืน

กลิ่นฉุนของเลือดในถ้ําตอนนี้ยิ่งหนักเข้าไปอีก มันกระจายไปทุกหนทุกแห่ง และเชื้อเชิญสัตว์อสูรระดับ [ธรรมดา] ที่หิวโหยจํานวนมากเข้ามาในถ้ํา

ดังนั้นถึงตาของถังลี่เสวี่ยที่จะปกป้องจิ้งจอกดําที่หมดสติ แต่ถังลี่เสวี่ยมีความสุขมากที่จะได้ทําเช่นนั้น เนื่องจากเธอสามารถอวดความสามารถขั้นเทพอันใหม่ของเธอทั้งสองอย่างได้ และฝึกฝนวิธีใช้พวกมันอย่างเหมาะสมในการต่อสู้

ยิ่งกว่านั้นถึงลี่เสวี่ยจะไม่สามารถใช้งานได้อีกหลังจากที่เธอไปถึงสถานที่ปลายทางของเธอ เพราะมันจะทําให้เปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจของเธอเปิดเผย นี่จึงเป็นโอกาสเดียวที่เธอจะได้ฝึกฝนทักษะใหม่

คืนนั้นถึงลี่เสวี่ยได้สังหารสัตว์อสูรระดับ [ไม่ธรรมดา] จํานวนมาก มากเสียจนเธอเลิกนับมันหลังจากผ่านไปห้าสิบตัว

ถังลี่เสวี่ยไม่ได้ฆ่าสัตว์อสูรบางตัวด้วย [กรงเล็บมังกรสุริยัน] และ [เขี้ยวมังกรสุริยัน] เพื่อที่เธอจะได้กินมันเป็นอาหารเย็น และเธอก็ไม่ลืมที่จะเก็บเอาไว้ให้จิ้งจอกดํา เพราะเขาจะต้องหิวโหยแน่นอนเมื่อฟื้นขึ้นมา

แน่นอนว่าไม่มีสัตว์ดุร้ายระดับ [ต่ํา] หรือ [ธรรมดา] ตัวไหนกล้าเข้าใกล้ถ้ํานี้เลย อันที่จริงสัตว์ดุร้ายระดับ [ต่ํา] หรือ [ธรรมดา] ทั้งหมดจะวิ่งหนีทันทีที่พวกมันเห็น หรือสัมผัสถึงการปรากฏตัวของสัตว์อสูร

เช้าวันรุ่งขึ้นร่างสีดําเล็กๆ ของจิ้งจอกคําสั่นเล็กน้อย และเขาก็ลุกขึ้นยืนทันทีพร้อมกับลืมตา

ดวงตาสีเขียวของมันกวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยความระแวดระวัง อันที่จริงจิ้งจอกดําไม่เคยหลับลึกเหมือนเมื่อคืนมาก่อนเลย มันจะรักษาจิตสํานึกไว้ 60% เสมอเมื่อหลับ ดังนั้นมันจึงสามารถตอบสนองได้ทันทีเมื่อมีคนซุ่มโจมตี!

จิ้งจอกดําตกอยู่ในความงุนงง เมื่อเห็นสุนัขจิ้งจอกสีเงินสวยงามนั่งอยู่ข้างๆ และเฝ้าดูแลมันตลอดทั้งคืน

มันถูกใจเป็นอย่างมาก ดวงตาสีเขียวของมันเป็นประกาย และในตอนนี้จิ้งจอกดําได้สาบานกับตัวเองว่า สุนัขจิ้งจอกเงินที่สวยงามตัวนี้ จะเป็นเพื่อนร่วมชีวิตคนเดียวของเขา และเขาพร้อมจะทําทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น!

ถังลี่เสวี่ยไม่รู้ว่าการเลือกของเธอที่จะปกป้องจิ้งจอกดําเมื่อคืนนี้ จะทําให้เธอมีปัญหาไม่รู้จบในอนาคต!

ถังลี่เสวี่ยมองดูจิ้งจอกดําอย่างสงบซึ่งเพิ่งตื่นจากการนอนหลับ และชี้ไปที่เหยื่อหลายตัวที่เธอจัดการเมื่อคืนนี้ด้วยอุ้งเท้าขวาของเธอ และส่งสัญญาณให้จิ้งจอกดํากินมัน

ปากของจิ้งจอกดําโค้งขึ้นและดวงตาสีเขียวของมันก็สว่างขึ้น มันพยักหน้าซ้ําแล้วซ้ําเล่าและกินเนื้อกระต่ายและเนื้อสิงโตที่อยู่ต่อหน้ามันอย่างมีความสุข

หลังจากจิ้งจอกกินอาหารเสร็จแล้ว ถังลี่เสวี่ยก็เดินออกจากถ้ําในขณะที่จิ้งจอกดํายังคงลังเลว่าจะตามเธอไปดีมั้ย

แน่นอนว่าจิ้งจอกดําต้องการเดินทางไปกับถังเสวียอย่างมาก แต่ก็กลัวว่าถังเสวียจะรําคาญหรือหงุดหงิดในการมีอยู่ของเขา

ถังลี่เสวี่ยหยุดเล็กน้อยที่ทางเข้าถ้ํา เธอมองย้อนกลับไปที่จิ้งจอกดํา และพยักหน้าให้จิ้งจอกดําราวกับว่าเห็นด้วยให้ตามเธอไป

“เฮ้อ… เขาช่วยฉันและปกป้องฉันในช่วงเวลาสําคัญเมื่อวานนี้ ดังนั้นฉันคงไม่ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียว และเดินทางไปที่นั่นด้วยตัวเอง อืม..ยังไงก็ช่างเถอะ! จุดหมายของฉันอยู่ไม่ไกลแล้ว ให้เขาติดตามฉันไปในตอนนี้ก็คงไม่เป็นไรหรอก”

ความสุขที่คาดไม่ถึงกําลังเบ่งบานที่หัวใจของจิ้งจอกดํา เขารู้สึกว่าในที่สุดฤดูใบไม้ผลิก็มาถึง!

จิ้งจอกดํารีบเดินตามถังลี่เสวี่ยจากด้านหลัง และออกจากถ้ํา ในขณะที่ยิ้มปากจะฉีกเหมือนคนงี่เง่า

ยิ่งถังลี่เสวี่ยและจิ้งจอกดําเข้าใกล้จุดหมายมากเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งพบญาติของจิ้งจอกมากขึ้นเท่านั้น

“หืม… ดูเหมือนไม่ใช่แค่ฉันกับจิ้งจอกโง่ๆ ที่กําลังมุ่งหน้าไปที่นั่น มีสุนัขจิ้งจอกอีกหลายตัวกําลังมุ่งหน้าไปที่นั่นด้วย? แต่ทําไม? สถานที่นั้นเหมือนกับบ้านหรือองค์กรจริงหรือ? อืม… ฉันจะได้รู้หลังจากที่ฉันไปถึงที่นั่นแล้ว”

ทุกครั้งที่ถังเสวี่ยมองไปที่จิ้งจอกดํา เขาก็จะยิ้มให้กับเธออย่างโง่เขลา ตัวตนที่เยือกเย็นและดุร้ายของเขาไม่ปรากฏให้เห็นเลย ดังนั้นถังลี่เสวี่ยจึงเริ่มเรียกจิ้งจอกดําว่าจิ้งจอกโง่ในตอนนี้

ถังเสวี่ยสามารถรับรู้ได้ว่ามีสุนัขจิ้งจอกบางตัวที่มีเจตนาร้ายต่อเธอ เนื่องจากออร่าสัตว์ร้ายของเธอนั้นเป็นแค่เพียงสัตว์ดุร้ายระดับ [ธรรมดา] เท่านั้น แต่พวกมันก็หยุดความคิดทันทีที่เห็นการปรากฏตัวของจิ้งจอกดํา

อย่าดูถูกจิ้งจอกดํา เพราะมันมักจะทําตัวงี่เง่าต่อหน้าถังเสวี่ยเท่านั้น ต่อหน้าคนอื่นนั้น เขาจะแสดงให้เห็นถึงความกระหายเลือด และความแข็งแกร่งของเขา ซึ่งมันก็มากเกินพอที่จะทําให้สุนัขจิ้งจอกหรือสัตว์อื่นๆที่อ่อนแอกว่าหวาดกลัว

แม้ว่าถังลี่เสวี่ยจะแข็งแกร่งพอที่จะจัดการกับพวกมันทั้งหมดได้ แต่ก็ยังไม่ฉลาดที่จะต่อสู้กับพวกมันทั้งหมด เพราะมันจะทําให้พวกเขาเดินทางช้าลงกว่าจะไปถึงจุดหมาย

ถังลี่เสวี่ยพยักหน้าเห็นด้วยขณะจ้องไปที่หลังของจิ้งจอกดํา เธอดีใจมากที่เธอเลือกได้ถูกต้อง ที่จะปล่อยให้จิ้งจอกโง่เดินทางไปพร้อมกับเธอ

เปรี้ยง!!

ฟ้าร้องลั่น ฟ้าแลบ ฟ้าแลบ

“หืม… ฝนจะตกงั้นหรอเนี่ย? เราควรมองหาที่พักตอนนี้ดีมั้ย?”

ถังลี่เสวี่ยเงยหน้าขึ้นมอง แต่ฉากข้างบนทําให้เธองงงันเพราะมันแปลกจริงๆ

ท้องฟ้าเหนือเธอยังคงสดใส แต่มีก้อนเมฆสีดําบางก้อนบินด้วยความเร็วที่น่าพึ่งไปยังทิศทางของเธอ

เมื่อก้อนเมฆสีดําเคลื่อนผ่านเหนือศีรษะของเธอไป นัยน์ตาสีฟ้าบุษราคัมของเธอก็มองเห็นแวบๆ ว่าเมฆสีดําเหล่านั้นกําลังติดตามอะไรบางอย่างอยู่

[เผ่าพันธุ์: สุนัขจิ้งจอกผู้เรียกฟ้าร้องและฟ้าผ่า (สามหาง)]

[คุณสมบัติ: ชั้นสูง]

[เกรด: หายาก]

[ระดับ: 25]

[HP: 224,700/224,700]

จิ้งจอกสีน้ําเงินตัวใหญ่ที่มีลวดลายสีม่วงสลักอยู่บนร่างกายของมัน มันสัมผัสได้ถึงใครบางคนที่มองมาที่มัน และจ้องมองกลับไปที่ถังลี่เสวี่ย

ดวงตาสีม่วงที่น่าสะพรึงกลัวของมันหรี่ลงอย่างดูถูก เมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตที่จ้องมองที่มันเป็นเพียงสัตว์ดุร้ายระดับ [ธรรมดา]

จิ้งจอกสีน้ําเงินตัวใหญ่หยุดจ้องที่ถังลี่เสวี่ย และเดินทางต่อไปโดยไม่ช้าลงเลย สัตว์อสูรระดับ [ธรรมดา] ไม่คู่ควรกับความสนใจของมัน

ถังลี่เสวี่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในขณะที่จิ้งจอกสีน้ําเงินตัวใหญ่หายตัวไปจากสายตาของเธอ ความกดดันมาจากสุนัขจิ้งจอกสีน้ําเงินตัวใหญ่นั้นทรงพลังมากจนทําให้เธอหายใจไม่ออก

นี่เป็นครั้งแรกที่ถังลี่เสวี่ยรู้สึกถึงแรงกดดันจากสัตว์อสูรระดับ [หายาก]

แม้ว่าเธอจะได้พบกับกิ้งก่าปีกตาแดง และบี้ฟางมาก่อนแล้ว และพวกมันแข็งแกร่งกว่าจิ้งจอกตัวใดก็ตาม แต่พวกเขาก็ไม่เคยใช้แรงกดดันเพื่อคุกคามถึงลี่เสวี่ยมาก่อนเลย

“อืม… แรงกดดันจากลุงอ้วนคนนั้นแข็งแกร่งกว่า แต่แรงกดดันจากจิ้งจอกสีน้ําเงินนี้ช่างโหดร้าย เต็มไปด้วยความกระหายเลือดและเจตนาฆ่า ดูเหมือนว่าตัวเลือกของฉันที่จะซ่อนความแข็งแกร่งที่แท้จริงของฉันนั้นถูกต้อง ที่นั้นน่าจะเต็มไปด้วยคนที่แข็งแกร่ง… เอ่อ… ฉันหมายถึงสุนัขจิ้งจอกที่แข็งแกร่ง ฉันควรจะไม่เปิดเผยตัวตนคงดีที่สุดแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันจะเจอปัญหามากมาย!”

หลังจากสงบลงชั่วขณะ ถังเสวี่ยก็ตระหนักว่า [ดวงตานักปราชญ์พื้นฐานของเธอสามารถเห็น HP ของสัตว์อสูรระดับ [หายาก] ปัจจุบันได้

“และ คุณสมบัติ มันคืออะไร

ถังเสวี่ยพยายามมองดูสถานะของจิ้งจอกโง่ด้วย [ดวงตานักปราชญ์] พื้นฐานของเธอด้วย

[เผ่าพันธุ์: จิ้งจอกดํา (สองหาง)]

[คุณสมบัติ: จ้าว]

[เกรด: ไม่ธรรมดา]

[ระดับ: 22]

[HP: 15,300/15,300]

ถังลี่เสวี่ยตัดสินใจพักผ่อนในพุ่มไม้ใกล้ๆ และจิ้งจอกดําก็ยินดีทําตามเธอ มันคอยเฝ้าเคียงข้างเธออย่างระมัดระวัง

ถังลี่เสวี่ยนสารานุกรมของเธอ [คู่มือมือใหม่โลกอมตะ] ออกจากระบบจัดเก็บข้อมูล และเปิดขึ้น

ถังลี่เสวี่ยพบสิ่งที่เธอกําลังมองหาได้อย่างง่ายดายในส่วนคุณสมบัติความสามารถในการต่อสู้ของสัตว์ร้าย

และคําตอบก็ง่ายมาก

สัตว์อสูรระดับ [ไม่ธรรมดา] ส่วนใหญ่ไม่มีความสามารถระดับเทพ และนั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมถังลี่เสวี่ยสามารถเอาชนะพวกมันทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย

สัตว์อสูรระดับ (ไม่ธรรมดา] เหล่านี้ทั้งหมดที่ไม่มีความสามารถขั้นเทพนั้นจะมีความสามารถในการต่อสู้โดยเฉลี่ย จึงมีคุณสมบัติเป็น [ปกติ]

สัตว์อสูรระดับ [ไม่ธรรมดา] ที่มีความสามารถขั้นเทพนั้นหายากมาก และความสามารถในการต่อสู้ของพวกมันนั้นแข็งแกร่งมาก คุณสมบัติของพวกมันคือ [ชั้นสูง]

คุณสมบัติ (ชั้นสูง] หมายความว่าความสามารถในการต่อสู้ของสัตว์ร้าย และความเชี่ยวชาญในการต่อสู้นั้นเหนือกว่าสัตว์ที่มีคุณสมบัติ [ปกติ] มาก พวกมันยังมีความสามารถขั้นเทพมากกว่าสัตว์อสูรที่มีคุณสมบัติ [ปกติ]

กล่าวอีกนัยหนึ่ง สัตว์อสูรระดับ [หายาก] ที่มีคุณสมบัติ [ปกติ] มักจะมีความสามารถขั้นเทพ เพียงความสามารถเดียว แต่จิ้งจอกสีน้ําเงินขนาดใหญ่นั้นมีคุณสมบัติ [ชั้นสูง]! ดังนั้นมันจึงมีความสามารถขั้นเทพอย่างน้อยสองอย่าง!

“อ่า… ถ้าอย่างนั้นคุณสมบัติ [จ้าว] ที่จิ้งจอกโง่มนี้คืออะไรล่ะ”

สัตว์ร้ายที่มีคุณสมบัติ [จ้าว] เป็นส่วนที่ดีที่สุด เป็นอัจฉริยะที่แท้จริง และความสามารถในการต่อสู้นั้น ไม่มมีใครเทียบพวกเขาได้!

มีเพียงผู้ที่สูงกว่าระดับของพวกเขา หรือสัตว์อื่นที่มีคุณสมบัติ [จ้าว] เท่านั้นที่จะสมกับความสามารถของเขา

สัตว์ร้ายที่มีคุณสมบัติ [จ้าว] มีความสามารถขั้นเทพมากกว่าสัตว์ร้ายที่มีคุณสมบัติ [ชั้นสูง]!

ดังนั้นจิ้งจอกดําที่โง่เขลาจึงมีความสามารถขั้นเทพอย่างน้อยสองอย่าง หรือมากกว่านั้นในฐานะผู้กล้าหาญ!

ถังลี่เสวี่ยอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ เธอรู้ว่าจิ้งจอกโง่เป็นสัตว์ร้ายที่ค่อนข้าง แข็งแกร่งในระดับ [ไม่ธรรมดา] แต่เธอไม่เคยคิดว่าจะมีพลังขนาดนั้น