ตอนที่ 114 มาถึงแล้ว!

ถังเสวี่ยรู้สึกเคารพจิ้งจอกดําทันทีเมื่อเธอรู้ว่าเขามีคุณสมบัติของ [จ้าว]

เธอจ้องมองไปที่จิ้งจอกดําด้วยความชื่นชม จิ้งจอกดําหันมามองทางถังลี่เสวี่ยพอดี ทําให้ใบห น้าของเขาแดงก่ํา เมื่อสบตากับถังลี่เสวี่ย จึงพยายามปกปิดใบหน้าที่แดงด้วยอุ้งเท้าของเขาทันที

“เฮ้อ… แต่สุดท้ายมันก็ยังเป็นจิ้งจอกน้อยงี่เง่าอยู่ดี ถังลี่เสวี่ยถอนหายใจขณะเก็บ [คู่

มือมือใหม่โลกอมตะ] กลับเข้าไปในคลังระบบของเธอ

ถังลี่เสวี่ยกระโดดออกจากพุ่มไม้ และเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางของเธอ ในขณะที่จิ้งจอกดําติดตามเธออยู่ข้างหลังอย่างใกล้ชิด

ถังเสวี่ยพบกับสุนัขจิ้งจอกมากขึ้นเรื่อยๆระหว่างทาง และจากการแสดงออกว่าเธอเป็นศัตรู ทําให้เธอพบว่าแม้ว่าจะเป็นญาติกัน แต่กฏแห่งปาก็ยังคงทํางานปกติคือ คนที่อ่อนแอกว่ามักจะกลายเป็นอาหารสําหรับคนที่แข็งแกร่งกว่า

แม้ว่าถังลี่เสวี่ยจะแข็งแกร่งมาก แต่การปรากฏตัวของเธอต่อหน้าทุกคนก็ยังคงเป็นเพียงแค่สัตว์ดุร้ายระดับ [ธรรมดา]

โชคดีที่จิ้งจอกดํานั้นแข็งแกร่งมากจนจิ้งจอก [ไม่ธรรมดา] ตัวอื่นไม่กล้าแม้แต่จะจ้องมองเขา และทําได้เพียงรักษาระยะห่างจากถังเสวีย

ตอนนี้ถังเสวี่ยรู้ว่าคุณสมบัตินี้มีความสําคัญมากจริงๆ จิ้งจอกดําเป็นข้อพิสูจน์ ที่เป็นรูปธรรมของข้อเท็จจริงนั้น แม้แต่สุนัขจิ้งจอกระดับ [ไม่ธรรมดา] ที่มีคุณสมบัติ (ชั้นสูง) ก็ยังไม่กล้ายุ่งกับจิ้งจอกโง่ๆตัวนี้ พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะเดินเข้าไปใกล้มันมากเกินไป

ขอบคุณจิ้งจอกดําการเดินทาง เพราะเขาทําให้การเดินทางของถังลี่เสวี่ยนั้นง่ายขึ้นมาก

ตามข้อมูลที่ถังลี่เสวี่ยได้รับจากกิ้งก่าปีกตาแดง เธอต้องใช้เวลาอีกสองวันเพื่อไปถึงที่หมายของเธอ แต่ตอนนี้เธอสามารถมาถึงก่อนหนึ่งวัน

อย่างไรก็ตามที่หมายของเธอกลับไม่เหมือนกับที่เธอคิดไว้ก่อนหน้านี้

เนื่องจากสถานที่ปลายทางของเธอถูกเรียกว่า “บ้านสุนัขจิ้งจอก ถังลี่เสวี่ยมักจะจินตนาการว่ามันเป็นหมู่บ้านจิ้งจอกหรือปาที่สวยงาม

แต่ตอนนี้ เธอยืนอยู่กลางถิ่นทุรกันดาร และตรงหน้าเธอคือพื้นที่ที่มีหมอกหนาทึบปกคลุม หากเธอเข้าไป เธออาจจะมองไม่เห็นแม้แต่อุ้งเท้าของเธอเองด้วยซ้ํา

ฉันควรเข้าไปข้างในหรือตอนนี้งั้นหรอ??

เมื่อถึงลี่เสวี่ยเริ่มลังเลว่าเธอควรจะเข้าไปในพื้นที่หมอกหรือไม่ จิ้งจอกดที่โง่เขลาก็ตบไหล่ของถังลี่เสวี่ย และเคาะหน้าอกของตัวเองด้วยรอยยิ้มอย่างมั่นใจบนใบหน้า

เห็นได้ชัดว่าจิ้งจอกดําพยายามบอกถึงลี่เสวี่ยว่า

ไม่เป็นไร! ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉัน!”

อันที่จริงจิ้งจอกดําเผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่านี้หลายครั้งก่อนหน้านี้แล้ว ที่จริงแล้วพื้นที่หมอกเป็นพื้นที่ลับที่ปกคลุมด้วยรูปแบบการปกปิด

จิ้งจอกดําเข้าไปในหมอกหนาอย่างมั่นใจ ถังลี่เสวี่ยวางใจในจิ้งจอกดํา และติดตามเขาอย่างใกล้ชิด

อันที่จริงถังลี่เสวี่ยไม่ได้วางใจในจิ้งจอกดํา แต่เธอวางใจในคุณสมบัติของ [จ้าว] สัตว์ร้ายที่มีคุณสมบัติ [จ้าว] จะไม่มีวันสะดุดกับอุปสรรคเล็กๆนี้

ถังลี่เสวี่ยเชื่อว่าจิ้งจอกดําคงจะไม่แพ้ตอนอยู่ในถ้ํานั้น ถ้ามันไม่ได้ใช้ร่างกายตัวเองเป็นเกราะเพื่อปกป้องเธอ

ถังสี่เสวี่ยรู้สึกถึงหมอกที่น่ากลัวในทันทีที่เธอก้าวเข้าไป

ขาว!

ทุกที่ก็ขาว!

ไม่… ทุกอย่างเป็นสีขาว!

ถังลี่เสวี่ยไม่สามารถมองเห็นจมูกของเธอได้ในขณะนี้

ถังลี่เสวี่ยต้องการก้าวออกจากพื้นที่หมอกโดยไม่รู้ตัว แต่เธอรู้สึกว่ามีบางสิ่งที่นุ่มนวลและอบอุ่นจับอุ้งเท้าขวาของเธอไว้

ถังลี่เสวี่ยสงบลงทันที และถอนหายใจด้วยความโล่งอก จิ้งจอกดํายังคงอยู่ข้างๆเธอ และมันก็จับอุ้งเท้าขวาของเธอไว้

เธอเริ่มเดินช้าๆ ตามจุดที่จิ้งจอกดําดึงเธอไป

สถานการณ์ตอนนี้เป็นเรื่องตลกจริงๆ เนื่องจากจิ้งจอกดําจับอุ้งเท้าขวาของถังเสวี่ยด้วยอุ้งเท้าซ้าย ดังนั้นพวกเขาสองคนจึงเดินโดยใช้สามขา

โชคดีที่ไม่มีใครเห็นอะไรในหมอกหนาสีขาว หรือถ้ามีสุนัขจิ้งจอกตัวอื่นๆเห็นตอนนี้ อาจจะหัวเราะเยาะพวกเขาได้

หลังจากเดินมานานกว่าสิบนาที หมอกสีขาวหนาที่ด้านหน้าก็จางลงเล็กน้อย ถังลี่เสวี่ยสามารถมองเห็นได้หลายสิบเมตรตรงหน้าเธอในตอนนี้

มีสุนัขจิ้งจอกมากกว่าห้าสิบชนิดที่นี่ และพวกมันทั้งหมดมองมาที่เธอด้วยท่าทางแปลกๆ

ถังลี่เสวี่ยก้มศีรษะลงด้วยความอับอาย และดึงอุ้งเท้าขวาออกจากอุ้งเท้าซ้ายของจิ้งจอกดํา ขณะที่จิ้งจอกดํารู้สึกพ่ายแพ้และผิดหวัง เขารู้สึกว่าไม่ได้จับอุ้งเท้าของถังลีเสวียนานพอ

ถังสี่เสวี่ยและจิ้งจอกดําเดินเคียงข้างกัน และเข้าใกล้กลุ่มสุนัขจิ้งจอกอย่างระมัดระวัง

ถังลี่เสวี่ยสังเกตสุนัขจิ้งจอกที่มาอยู่ที่นี่ครู่หนึ่ง

จิ้งจอกทุกตัวมีความแตกต่างจากสี พลัง แม้กระทั่งขนาด บางตัวตัวใหญ่เท่าวัว แต่หลายตัวโตแค่สุนัข หลายตัวโตพอๆกับกระรอก

ทั้งสองคนตะลึงในทันทีเมื่อสังเกตเห็นว่ามีคนสองคนยืนอยู่หน้ากลุ่มจิ้งจอก

“อ๊ะ นั่นมัน! มนุษย์

ถังลี่เสวี่ยลืมตากว้างขึ้นด้วยความประหลาดใจและตกใจ!

คนสองคนนี้สวมชุดคลุมสีขาวแบบเดียวกัน และทั้งคู่ก็สวมหน้ากากจิ้งจอกด้วย

มีเพียงสีผมเท่านั้นที่ต่างกัน คนหนึ่งมีผมสีดํา อีกคนมีผมสีแดง แต่ทั้งสองมีผมยาวถึงหลัง

ถังลี่เสวี่ยมองไม่เห็นใบหน้าของพวกเขา แต่ทั้งสองคนควรเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างเพรียวบาง และ… หน้าอกที่กว้างขวางของพวกเขา

ถังเสวี่ยเริ่มสงสัยว่าเธอตกลงไปในกับดักภาพลวงตาหรือไม่ เพราะไม่มีสุนัขจิ้งจอกตัวใดพยายามโจมตีมนุษย์สองคนนี้ แต่นั่นก็จนกระทั่งเธอสังเกตเห็นสิ่งแปลกๆเกี่ยวกับคนสองคนนี้

“คือ… นั่นคือหูและหางของจิ้งจอกงั้นหรือ! มนุษย์ที่มีหูและหางจิ้งจอก? สองคนนี้เป็นมนุษย์หรือจิ้งจอกกันแน่! หรือ… พวกเขาคือสัตว์ร้ายที่บรรลุถึงระดับสัตว์วิญญาณแล้ว!”

ถังเสวี่ยพยายามใช้ [ดวงตานักปราชญ์) พื้นฐานของเธอเพื่อระบุสถานะ สายพันธุ์ และเกรด แต่เป็นครั้งแรกที่พื้นฐาน [ดวงตานักปราชญ์] ของเธอล้มเหลวในการระบุสถานะใดๆของพวกเขา!

ร่างกายของถังลี่เสวี่ยสั่นเล็กน้อยด้วยความกลัว แต่เธอก็สงบลงทันทีหลังจากที่เธอคิดอยู่ครู่หนึ่ง

ทักษะ [ระบุ] ของเธอสามารถตรวจจับสถานะแม่ของญาญ่าได้มาก่อน และจากข้อมูลของกิ้งก่าปีกตาแดง ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเธอควรสูงกว่าสัตว์วิญญาณระดับกลาง

เหตุผลเดียวที่พื้นฐานของเธอ [ดวงตานักปราชญ์] มองไม่เห็นสถานะสองคนนี้ ก็เพียงเพราะพวกเขากําลังสวมใส่บางอย่างเพื่อซ่อนสถานะของพวกเขาจากทักษะการตรวจจับใดๆ

ถังเสวี่ยจ้องไปที่หน้ากากจิ้งจอกที่ทั้งสองคนสวมอยู่ครู่หนึ่ง และสรุปได้ว่าหน้ากากควรเป็น เหตุผลว่าทําไมเธอถึงมองไม่เห็นสถานะของพวกเขาด้วยพื้นฐาน [ดวงตานักปราชญ์]

ในขณะที่ถังลี่เสวี่ยยังคงมึนงง จิ้งจอกดําก็ตบไหล่ของถังเสวี่ยอีกครั้ง และชี้อุ้งเท้าไปที่มุมที่เงียบสงบที่ไม่มีจิ้งจอกตัวใดอยู่เลย

ถังลี่เสวี่ยตื่นจากความงุนงงของเธอ และตระหนักว่าเธอกลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจในขณะนี้เนื่องจากเธอมัวแต่จ้องมองไปที่คนสองคน เธอตามจิ้งจอกดําไปอย่างเร่งรีบ และนั่งอยู่ข้างๆไกลจากฝูงจิ้งจอกเล็กน้อย

ดูเหมือนว่าพวกเขากําลังรอให้สุนัขจิ้งจอกมาเพิ่ม โดยหมอกหนาสีขาวเป็นการทดสอบครั้งแรก มีเพียงสุนัขจิ้งจอกเท่านั้นที่สามารถผ่านหมอกหนาสีขาวได้ ถึงจะมีสิทธิ์รับการทดสอบครั้งต่อไป

เนื่องจากถังเสวี่ยไม่มีงานอื่นทํา เธอจึงตัดสินใจใช้พื้นฐาน [ดวงตานักปราชญ์] เพื่อดูสถานะของสุนัขจิ้งจอกที่นี่ที่ละตัวเพื่อขจัดความเบื่อหน่ายของเธอ

เกือบทั้งหมดเป็นสัตว์อสูรระดับ [ไม่ธรรมดา] และพวกมันทั้งหมดมีคุณสมบัติ [ชั้นสูง] จริงๆ!

อย่างไรก็ตาม มีเพียงจิ้งจอกดําเท่านั้นที่มีคุณสมบัติ [จ้าว] แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจิ้งจอกดําเป็นจิ้งจอกที่แข็งแกร่งที่สุดที่นี่

มีจิ้งจอกระดับ [หายาก] อยู่สามตัวที่อีกมุมหนึ่งข้างกลุ่มสุนัขจิ้งจอกระดับ [ธรรมดา]

ถังลี่เสวี่ยไม่รู้สึกแปลกใจเลย เมื่อเธอเห็น [สุนัขจิ้งจอกผู้เรียกฟ้าร้องและฟ้าผ่า] ในกลุ่ม

ถังลี่เสวี่ยจ้องไปที่สุนัขจิ้งจอกระดับ [หายาก] มันมีขนสีขาวสวยงาม แต่แตกต่างจากขนสีขาวเงินระยิบระยับของถังลี่เสวี่ย ขนของจิ้งจอกนี้มีน้ําค้างแข็งผสมอยู่ และมันก็ปล่อยความเย็นสุดขั้วออกจากร่างกายที่เรียวยาว

มีชั้นน้ําค้างแข็งหนาทึบบนพื้นดินรอบๆตัวมันยาวหลายสิบเมตร และหิมะยังคงตกลงมาจากด้านบน แม้แต่อุณหภูมิที่นี่ก็ค่อนข้างหนาวเหน็บเนื่องจากการมีเธออยู่ด้วย

[เผ่าพันธุ์: จิ้งจอกน้ําแข็งสีขาว (สามหาง)]

[คุณสมบัติ: ชั้นสูง]

[เกรด: หายาก]

[ระดับ: 22]

[HP: 196,800/196,800]

ตัวสุดท้ายนั้นน่าประทับใจน้อยที่สุดเพราะมันมีคุณสมบัติ [ปกติ] เท่านั้น แต่มันคงจะค่อนข้างแข็งแกร่งเพราะมันยังคงเป็นสัตว์อสูรระดับ [หายาก] อยู่ดี

ตัวและขนของมันเป็นสีดํา และดูไม่น่าประทับใจ แต่การปรากฏตัวของปีศาจทําให้สุนัขจิ้งจอกทั้งหมดที่นี่รู้สึกกลัวและอึดอัด

สุนัขจิ้งจอกทุกตัวที่นี่ระมัดระวังตัว เนื่องจากกลิ่นเลือดสดที่ออกมาจากตัวมันมากเกินไป

หมายความว่าจิ้งจอกระดับ [หายาก] ตัวนี้ได้ฆ่าสัตว์อื่นนับไม่ถ้วนที่อยู่ข้างนอกก่อนที่จะเข้ามาที่นี่ และสัตว์ในบริเวณนี้มีเพียงสุนัขจิ้งจอกเท่านั้น!

[เผ่าพันธุ์: สุนัขจิ้งจอกเลือดปีศาจ (สามหาง)]

[คุณสมบัติ: ปกติ]

[เกรด: หายาก]

[ระดับ: 17]

[HP: 178,500/178,500]

ถังลี่เสวี่ยยังรู้สึกว่าออร่าจิ้งจอกสีดําระดับ [หายาก] นี้น่ากลัวเกินไป และเธอเกลียดมันจริงๆ

ถังลี่เสวี่ยเลือกที่จะป้องกันตัวเอง โดยไม่ไปยุ่งกับจิ้งจอกดที่น่ากลัวตัวนั้นในระหว่างนี้

“เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนนะ นี่- นี่หมายความว่าฉันเป็นสุนัขจิ้งจอกระดับ [ธรรมดา] ตัวเดียวในกลุ่มนี้ไม่ใช่เหรอ! อืมม…. ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าทําไมพวกเขาถึงมองฉันแปลกๆ”