ตอนที่ 220 ฉู่ขวงเป็นเพลย์บอย

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 220 ฉู่ขวงเป็นเพลย์บอย

ยังไม่ต้องเอ่ยถึงความน่ารักช่างกระเซ้าเย้าแหย่ของชาวเน็ตก็แล้วกัน

ตอนนี้หลินเยวียนสนใจความคืบหน้าภารกิจของตนมากกว่า

พูดถึงภารกิจ…

อยู่ๆ ในมือของหลินเยวียนตอนนี้ก็มีภารกิจของระบบสะสมไว้ทั้งหมดสี่ภารกิจโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว!

ทุกภารกิจล้วนมีระดับความยากของตัวเอง

ภารกิจที่ 1: [ค่าความโด่งดังด้านวรรณกรรมและด้านดนตรี แต่ละด้านทะลุหนึ่งล้าน]

ภารกิจที่ 2: [ใช้ตัวตนเซี่ยนอวี๋รับลูกศิษย์สามคน พร้อมทั้งสอนจนลูกศิษย์จบหลักสูตรอย่างราบรื่น]

ภารกิจที่ 3: [ค่าความโด่งดังด้านจิตรกรรมทะลุสามแสน]

ภารกิจที่ 4: [แฟนคลับในปู้ลั่วของฉู่ขวงทะลุหนึ่งร้อยล้าน]

ภารกิจแรกยากและสำคัญที่สุด แต่ก็จัดอยู่ในภารกิจระยะยาว หลินเยวียนค่อยๆ ทำภารกิจไปเรื่อยๆ ก็ยังได้

เขาเพียงแค่ต้องปล่อยหนังสือและปล่อยเพลงตามปกติ ภารกิจนี้ก็นับว่าคืบหน้าแล้ว

ภารกิจที่สองไม่จำกัดระยะเวลาปฏิบัติภารกิจ แต่ประเดี๋ยวเขาก็ต้องทำไปเรื่อยๆ เช่นกัน

ปัจจุบันนี้มีแค่เซวียเหลียงที่สำเร็จหลักสูตร ความคืบหน้าผ่านไปเพียงหนึ่งในสาม

ภารกิจที่สามจัดอยู่ในด้านจิตรกรรม และเป็นหนึ่งในภารกิจที่หลินเยวียนกำลังทำอยู่ตอนนี้ การ์ตูนเรื่องปรินซ์ออฟเทนนิสเป็นหนทางในการทำภารกิจนี้ของเขา

ส่วนภารกิจที่สี่ ทำให้แฟนคลับบนปู้ลั่วของฉู่ขวงทะลุหนึ่งร้อยล้าน…

ความคืบหน้าของภารกิจนี้ กำลังเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งหลังจากเรื่องคนขุดสุสานถูกปล่อยออกไป

ก่อนที่เรื่องคนขุดสุสานจะปล่อยออกไป จำนวนแฟนคลับซึ่งติดตามฉู่ขวงบนปู้ลั่วอยู่ที่สามสิบล้านเศษ

ช่วงเวลาหลังจากปล่อยเรื่องคนขุดสุสานไปแล้ว แฟนคลับของฉู่ขวงบนปู้ลั่วก็เพิ่มสูงขึ้นตามมาอย่างเห็นได้ชัด!

32 ล้าน…

35 ล้าน…

37 ล้าน…

38 ล้าน…

ยังไม่ทันไร ก็เกือบแตะถึง 40 ล้านแล้ว ทว่าความเร็วของแฟนคลับซึ่งกดติดตามฉู่ขวงกลับลดลงเรื่อยๆ

นี่เป็นเรื่องปกติมาก

ถึงแม้เรื่องคนขุดสุสานจะเป็นกระแสร้อนแรง แต่ถึงอย่างไรผลงานชิ้นนี้ก็เพิ่งจะปล่อยออกไปได้ไม่นาน มิหนำซ้ำในตอนนี้ยังปล่อยออกมาเพียงเล่มแรก

รอให้หลังจากนี้ปล่อยเล่มอื่นๆ ตามมา จำนวนแฟนคลับจะต้องเพิ่มขึ้นอีกมากอย่างแน่นอน

แต่ถึงอย่างนั้น…

หลินเยวียนก็ยังรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างอดไม่ได้

โดยเฉพาะเมื่อเขารีเฟรชหน้าเว็บไซต์อยู่หลายครั้ง แต่พบว่าจำนวนแฟนคลับของฉู่ขวงยังไม่มีวี่แววว่าจะทะลุสี่สิบล้านได้สำเร็จ…

อาการย้ำคิดย้ำทำของเขากำเริบอีกแล้ว

หลินเยวียนมีอาการย้ำคิดย้ำทำระดับอ่อน

แต่บางทีทุกคนอาจมีอาการย้ำคิดย้ำทำอ่อนๆ เหมือนกันก็ได้

เอาเป็นว่าวันนี้หลินเยวียนอยากเห็นจำนวนแฟนคลับที่ติดตามฉู่ขวงทะลุสี่สิบล้าน ถ้าเป้าหมายนี้ไม่สำเร็จ เขาคงรู้สึกอัดอั้นตันใจน่าดู

ทำยังไงดีล่ะ

เค้นสมองขบคิด

ใคร่ครวญอยู่นับสิบวินาทีเห็นจะได้ แผนการก็ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างในสมองของหลินเยวียน

เป็นวิธีการที่สุดแสนจะเรียบง่าย

นั่นก็คือการใช้นามปากกาเซี่ยนอวี๋โพสต์ข้อความ [อีกนิดเดียวก็จะทะลุสี่สิบล้านแล้ว ทุกคนกันช่วยกดติดตามบัญชีผู้ใช้ของ @ฉู่ขวง หน่อยได้ไหมครับ]

ใช่แล้ว

วิธีการของหลินเยวียนก็คือระดมแฟนคลับของเซี่ยนอวี๋ให้ไปช่วยกดติดตามฉู่ขวง

ส่วนอิ่งจือ…

บัญชีผู้ใช้ของอิ่งจือมีผู้ติดตามแค่ไม่กี่ล้าน ระดมพลไปก็ได้ผลลัพธ์ไม่มากนัก

นอกจากนั้น การ์ตูนของอิ่งจือนั้นเป็นผลงานดัดแปลงจากเรื่องปรินซ์ออฟเทนนิสของฉู่ขวง

ดังนั้นแฟนคลับของอิ่งจือ กับแฟนคลับของฉู่ขวงนั้นมีจำนวนมากที่ทับซ้อนกัน จึงไม่ได้มีผลมากแต่อย่างใด

แต่สิ่งที่หลินเยวียนไม่คาดคิดก็คือ…

ด้านล่างโพสต์ของตน คล้ายกับว่าแฟนคลับจะแตกตื่นกันยกใหญ่ จนช่องคอมเมนต์แทบระเบิดแล้ว

‘ตรงๆ แบบนี้เลยเหรอ’

‘ถือว่าเปิดตัวอย่างเป็นทางการเลยได้มั้ยง่ะ’

‘แฟนกันแหละดูออก!’

‘ชัดแล้วมั้ยแม่ แฟนกันจ้า’

‘ได้เลย ฟอลแล้ว ชิปแล้วด้วย’

‘ว้าว ต้องสนิทกันขนาดไหนน้า ถึงจะขอให้แฟนคลับของตัวเองมาติดตามคนอื่น’

‘เดิมทีแฟนคลับของฉู่ขวงก็มากกว่าของคุณอยู่แล้ว คุณไม่อยากให้แฟนคลับของตัวเองเพิ่มเหรอคะ ทำไมถึงช่วยเรียกยอดฟอลให้ฉู่ขวงล่ะ’

‘ฉันประกาศไว้ตรงนี้เลยว่ายกนี้อิ่งจือแพ้แล้ว’

‘อิ่งจือ: บูลลี่ที่แฟนคลับผมไม่เยอะเท่าพวกคุณเหรอ’

‘…’

ความคิดเห็นนานาสารพัด ทว่าผลลัพธ์โดยรวมไม่เลวเลย ในวันที่เซี่ยนอวี๋โพสต์ไป จำนวนแฟนคลับของฉู่ขวงก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง และทะลุสี่สิบล้านคนได้สำเร็จ ท้ายที่สุดก็อยู่ที่ประมาณสี่สิบเอ็ดล้านคน

อัตราความเร็วของการแพร่ข่าวใช้ได้เลยทีเดียว

ในความจริงแล้ว

ปู้ลั่วของฉู่ขวงเองก็เริ่มมีคนเข้ามาเปิดประเด็นแล้ว

‘เลือกเซี่ยนอวี๋เถอะนะ’

‘เขาดีกับคุณจริงๆ เอาใจเก่งไปอีก’

‘นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่เห็นคนใช้วิธีง่ายและเปิดเผยแบบนี้เรียกยอดฟอลให้เพื่อน’’

‘ฉู่ขวง เซี่ยนอวี๋ ชื่อก็ฟังดูเข้ากันอยู่นะ เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ’

‘เป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อจริงๆ สินะ’

‘ตกลงพวกคุณเป็นอะไรกันเหรอครับ’

‘เทพจากวงการนิยาย กับเทพจากวงการประพันธ์เพลง คู่ฟ้าประทานไปอีกกก’

‘…’

น่าเสียดาย ที่แฟนคลับต่างต้องผิดหวัง

เพราะเซี่ยนอวี๋อุตส่าห์ออกตัวช่วยเรียกยอดผู้ติดตามให้ฉู่ขวง แต่ฉู่ขวงกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ เย็นชาดังเช่นที่ผ่านมา

มีเพียงหลินเยวียนที่กระซิบพูดขอบคุณกับตัวเองในใจ

ถึงอย่างไรเมื่อเห็นว่าจำนวนแฟนคลับของฉู่ขวงทะลุสี่สิบล้านแล้ว หลินเยวียนก็พลันโล่งใจสุดๆ

แต่ถึงอย่างนั้น…

เรื่องนี้ก็ทำให้หลินเยวียนยิ่งกังวลว่าตัวตนของเขาจะต้องถูกเปิดเผยเข้าสักวัน

เดินเลาะริมตลิ่งอยู่เป็นนิจ มีหรือรองเท้าจะไม่เปียก?

ถ้าวันใดวันหนึ่งตนดันเผลอล็อกอินเข้าผิดบัญชี ใช้บัญชีของอิ่งจือโพสต์ว่า ‘ช่วยเป็นกำลังใจให้เพลงใหม่ของผม…’

แบบนั้นจะไม่ประดักประเดิดหรือ

ด้วยความกังวลต่อเรื่องนี้ หลินเยวียนจึงเรียกหาหลัวเวย

“คุณหมายความว่า จะให้ฉันดูแลแอคเคาท์ปู้ลั่วของอิ่งจือเหรอคะ” หลัวเวยมองหลินเยวียนด้วยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทำเช่นนี้

“ใช่ครับ”

นี่เป็นวิธีที่หลินเยวียนนึกออก ฝากให้หลัวเวยดูแลบัญชีผู้ใช้ของอิ่งจือ แบบนี้ก็จะไม่มีทางเกิดปัญหา

“ไม่ใช่ว่าไม่ได้นะคะ”

หลัวเวยนัยน์ตาหลุกหลิก มองไปยังหลินเยวียนอย่างมีลับลมคมใน หรี่เสียงเบาลงถามว่า “งั้นบอกฉันก่อน ว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับฉู่ขวงเป็นยังไงเหรอคะ”

หลินเยวียนตอบไปอย่างกระอักกระอ่วน “สนิทกันครับ”

หลัวเวยจ้องมองหลินเยวียน “แค่สนิทกันเหรอคะ? วางใจเถอะค่ะ คุณกล้าบอก ฉันก็จะเก็บความลับไว้เป็นอย่างดี จะรูดซิปปากให้สนิทเลย!”

หลัวเวยระแคะระคายอะไรหรือเปล่า

หลินเยวียนรู้สึกกังวลอยู่บ้าง ถึงขั้นที่รู้สึกขัดเขินขึ้นมาด้วยซ้ำ “น่าจะเรียกว่าสนิทกันมากเลยล่ะครับ”

ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเขาเอง ก็ต้องสนิทกันมากจนไร้ช่องว่างอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ เพียงแต่เวลาถูกคนอื่นถามขึ้นมาแบบนี้ จะให้อธิบายชัดเจนเกินไปก็คงไม่ได้หรอก หลินเยวียนจึงรู้สึกขัดเขินเป็นธรรมดา

รู้สึกเก้อเขินขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกแฮะ

ถึงอย่างไรทั้งสามตัวตนนี้ก็แบ่งแยกกันอย่างชัดเจน

แต่สิ่งที่หลินเยวียนไม่รู้ก็คือ ปฏิกิริยาเช่นนี้ของเขา กลับแปรเปลี่ยนเป็นอีกความหมายหนึ่งในสายตาของหลัวเวย

หลัวเวยร้องว่า ‘อ้อ’ ราวกับมีความนัยลึกซึ้ง “งั้นคุณบอกฉันได้ไหมคะ ว่าความสัมพันธ์กับฉู่ขวงกับเซี่ยนอวี๋เป็นยังไง”

หลินเยวียนตอบทันควันโดยไม่ต้องคิด “ก็สนิทเหมือนกันครับ”

“เหมือนกัน?”

หัวคิ้วของหลัวเวยขมวดมุ่น ทันใดนั้นก็พูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “งั้นฉู่ขวงก็เป็นเพลย์บอยน่ะสิ…”

หลินเยวียนตามอารมณ์ของหลัวเวยไม่ทัน “อะไรนะครับ”

“ไม่มีอะไรค่ะ”

หลัวเวยมองหลินเยวียนด้วยสีหน้าจริงจัง แววตาเปี่ยมไปด้วยความเห็นอกเห็นใจระคนโกรธแค้น “เข้าใจแล้วค่ะ ฉันเข้าใจคุณ ฉันจะช่วยคุณเอง!”

คุณเข้าใจอะไร

คุณเข้าใจผมทำไม

หลินเยวียนรู้สึกว่าหลัวเวยทำตัวแปลกพิลึก

แต่ว่า ในเมื่ออีกฝ่ายรับปากแล้วว่าจะดูแลบัญชีผู้ใช้ของอิ่งจือให้ หลินเยวียนก็ไม่ได้รู้สึกพะวงหน้าพะวงหลังแต่อย่างใด

ไม่มีใครเหมาะกับการดูแลบัญชี ‘อิ่งจือ’ เท่ากับหลัวเวยแล้ว

เพราะการ์ตูนทั้งหมดที่อิ่งจือวาด อย่างน้อยหนึ่งในสามก็เป็นความดีความชอบของหลัวเวย ฉะนั้นเธอจึงรู้ว่าควรรับมือกับบัญชีนี้อย่างไร

……………………………………………………