เพราะแบบนี้ ซุนฮก จึงไม่กล้าเสนอหน้าพูดเรื่องคัดเลือดนางสนม

ลู่เฟิง มองไปที่ ซุนฮก ด้วยรอยยิ้ม”เหวินยื่อ ข้าไม่ได้ต้องการให้เจ้าแสดงความเห็นในเรื่องนี้ เพียงแค่ต้องการความช่วยเหลือเจ้าเล็กน้อย”

“ถ้าเช่นนั้น ความกังวลของฝ่าบาทก็คือความกังวลของข้าน้อย”

“อืม!”

ลู่เฟิง จ้องมองไปที่ ซุนฮกและตอบกลับ”ในใจของข้า มีเพียง มู่หลาน! ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ได้ แต่…”

หลังจากหยุดชั่วครู่ ลู่เฟิงก็กล่าวต่อ”แม้ว่าข้าจะสามารถสถาปนาแต่งตั้งให้มู่หลานเป็นราชินีของข้าได้ แต่ข้าไม่อาจทำให้เธอต้องถูกประณามจากผู้คนรอบข้างเพราะแบบนี้…”

“ข้าเลยต้องการให้เจ้าช่วยคิดหาทางออกเพื่อให้ตัวตนของ มู่หลาน เป็นที่ยอมรับ และข้าจะได้แต่งเธอเป็นพระชายา”

“นี่…”

ซุนฮก รู้สึกหนักใจเล็กน้อย เขาได้ยิ้มอย่างบิดเบี้ยว”ฝ่าบาท ข้าน้อยรู้สึกละอายใจยิ่งนัก ข้าน้อยไม่สามารถคิดหาวิธีได้!”

ลู่เฟิง ได้กล่าวถาม”ด้วยสติปัญญาของเจ้าไหนเลยจะคิดไม่ออก?”

“ข้าน้อย…”

ซุนฮก ยิ้มอย่างขมขื่นก่อนที่จะตอบกลับ”ฝ่าบาท แม่นางมู่หลาน เดิมเป็นเพียงสาวใช้ก่อนที่พระองค์จะขึ้นครองราชย์ หากเรื่องนี้ผู้อาวุโสในตระกูลของเธอยังไม่ล่วงลับไป ก็อาจจะพอช่วยเรื่องนี้อยู่ได้บ้างโดยการมอบยศฐาบรรดาศักดิ์ให้ตระกูลของเธอและค่อยแต่งเป็นพระชายา”

“แต่ทว่า เท่าที่ข้าน้อยทราบมา คนในตระกูลของ แม่นางมู่หลาน เสียชีวิตหมดแล้ว ตอนนี้ จึงเหลือเพียงเธอคนเดียว ข้าน้อย รู้สึกจนปัญญาจริง ๆ “

ลู่เฟิง เองก็รู้สึกปวดหัว คำพูดของ ซุนฮก นั้นถูกต้อง หากคนในครอบครัวมู่หลานยังอยู่เขาก็ยังพอทำอะไรได้บ้าง

แต่ตอนนี้พวกเขาได้ล่วงลับไปหมดแล้ว

ซุนฮก มองไปที่ลู่เฟิงและยิ้มอย่างขมขื่น”ฝ่าบาท หาก เหวินเหอ อยู่ที่นี่ เขาน่าจะสามารถหาหนทางแก้ไขเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน”

กลยุทธ์ส่วนใหญ่ของซุนฮก มักจะเกี่ยวข้องกับเรื่องบ้านเมือง แต่มันเป็นเรื่องยากที่จะมาใช้แก้ปัญหาทางนี้ นอกจากนี้เขายังมีอุปทานในใจของเขาเอง โดยไม่ต้องการมีส่วนร่วมกับข้อพิพาทเรื่องพระชายาของฝ่าบาท

หาก เจี๋ยสวี่ อยู่ที่นี่ ด้วยลักษณะนิสัยและรูปแบบกลยุทธ์ของเขา อาจจะมีพอมีหนทาง

แต่ เจี๋ยสวี่ ได้เดินทางไปยังเมืองชายแดนใหญ่ เพื่อสร้างอาคมเคลื่่อนย้าย อย่างน้อยก็ยังต้องใช้เวลาอีกห้าถึงหกวันกว่าจะกลับมาที่นี่ได้

“เฮ้อ,ไม่มีหนทางจะแก้ไขเรื่องนี้เลยจริง ๆ งั้นเหรอ?”ลู่เฟิง เกาศีรษะด้วยความจนปัญญา

หากไม่มีวิธีเขาคงต้องฝืนแต่งตั้ง มู่หลานเป็นพระชายาเท่านั้น แต่ด้วยวิธีนี้ บางที มู่หลาน อาจจะเสียหน้าอยู่บ้าง

แต่เรื่องการปิดปากผู้คนว่าร้ายนินทาเขานี่ถนัดพอตัวเหมือนกัน

ซุนฮก ได้ครุ่นคิดเล็กน้อยและตอบกลับ”ฝ่าบาท ข้าน้อยรู้จักใครบางคน ความคิดอ่านของเขามักจะโดดเด่นเสมอ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีวิธี”

“หืม?”

ลู่เฟิง ได้สติขึ้นมาและกล่าวถาม”ใครกัน?”

“เป็นสหายของข้าน้อยมีนามว่า กั๋วเจีย”

กั๋วเจีย!

ลู่เฟิง ผงะและดีใจมากในเวลาเดียวกัน เขาลืม กั๋วเจีย ไปได้ยังไง

ตอนนั้น เขาได้เรียกอีกฝ่ายมาและมันอธิบายว่าเป็นสหายของซุนฮก และ ตอนนี้ ซุนฮก กำลังแนะนำสหายของตนเองให้กับเขา

เขารีบกล่าวถามทันที”เอาหล่ะ เหวินยื่อ รีบพาข้าไปพบเขาเร็ว”

กั๋วเจีย คนผู้นี้ ค่อนข้างมีอิทธิพลในประวัติศาสตร์ดังนั้น ลู่เฟิง จึงต้องการเดินทางไปพบด้วยตนเอง

“เอ่อ…”

ซุนฮก รู้สึกอายเล็กน้อย

“เป็นอะไร?”ลู่เฟิงได้กล่าวถาม

“ฝ่าบาท ข้าน้อยเกรงว่าไม่ค่อยเหมาะนัก สหายของข้าน้อยผู้นี้มักชอบเที่ยวกินดื่มเป็นประจำ ยามนี้เขาน่าจะอยู่หออี้ฉิง ที่นั่นคือสถานพักผ่อนเริงรมย์เกรงว่าจะไม่เหมาะ”

“ก็แค่สถานที่พักผ่อนเริงรมย์ มีอะไรไม่เหมาะกัน ข้ารู้ว่าเจ้าหมายถึงอะไร”

ลู่เฟิงหัวเราะออกมา”อย่าคิดมากเลย พาข้าไปพบสหายของเจ้าเถอะ!”

ในขณะเดียวกัน ลู่เฟิง ก็ยิ้มในใจ ชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ของ กั๋วเจีย เองก็มีบันทึกเกี่ยวกับเรื่องนี่

ในความเป็นจริง คำพูดของ ลู่เฟิง นั้นก็ถูกต้อง แม้ว่าสถานที่แห่งนั้นจะไม่ค่อยเหมาะสมกับฐานะจักรพรรดิของเขา แต่มันก็เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ

ตามตัวละครของ กั๋วเจีย ในประวัติศาสตร์ อีกฝ่ายมีความสามารถในการท่องราตรีมิใช่น้อย

เมื่อได้ยินคำพูดของ ลู่เฟิง ซุนฮก ไม่สามารถแย้งอะไรได้อีก เขาได้ตอบตกลง

ลู่เฟิง ได้แอบลอบออกจากวังโดยไม่พาทหารติดตัวไปด้วย

เขาได้แต่งตัวสบาย ๆ แน่นอนว่า รอบข้างของเขา มี สองสาว ซุนฮวา และ เหม่ยหลาน ติดตามมา โดยมาพร้อมกับ ทาสดาบคนอื่น ๆ แต่พวกเขาซ่อนตัวอยู่

ภายใต้กานำของ ซุนฮก พวกเขาได้ออกจากวังมาถึง หออี้ฉิง

หออี้ฉิงแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองหลวง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนพลุ้งพล่านอย่างมาก

ลู่เฟิง มองไปที่ หออี้ฉิง และกล่าวพูดด้วยรอยยิ้ม”เหวินยื่อ สถานที่แห่งนี้ มีทำเลไม่เลวเลยเจ้าว่าไหม ดูแล้วน่าจะมีอำนาจและชื่อเสียงมากมายในเมืองหลวง!”

ซุนฮก ได้พยักหน้า”อาจารย์ลู่ พูดได้ถูกแล้ว ตามที่ข้าน้อยรู้มา ที่แห่งนี่ เต็มไปด้วยขุนนางน้อยใหญ่จำนวนมาก เพราะธุรกิจของสถานที่แห่งนี้ไม่ได้ผิดกฏหมาย ข้าน้อยจึงไม่ได้กังวลอะไร”

ด้วยคำสั่งของ ลู่เฟิง ในเวลาเดินทาง อย่าได้เรียกเขาว่า จักรพรรดิ ให้เรียกเขาว่าอาจารย์ลู่

“ไป,เข้าไปข้างในกันเถอะ”ลู่เฟิงยิ้มออกมา

เขาได้เดินเข้าไปพร้อมกับ ซุนฮก โดยพา ซุนฮวา และ เหม่ยหลานเข้าไปด้วย

“โอ้ว,คุณชายท่านนี้ช่างหล่อเหลายิ่งนัก ท่านมาเยี่ยมเยือนที่นี่เป็นครั้งแรกใช่หรือไม่?”

ทันทีที่ ลู่เฟิง เดินเข้ามา เขาก็เห็นชายวัยกลางคน ที่มากด้วยเล่ห์เดินมาประจบเขาด้วยรอยยิ้ม

ด้านข้างของเขา ซุนฮวา และ เหม่ยหลาน ได้เดินก้าวไปข้างหน้าและยืนอยู่ตรงหน้าของลู่เฟิง

ชายวัยกลางคนได้หัวเราะเบา ๆ”คุณชายท่านนี้น่าสนใจยิ่งนัก มาถึงสถานที่แห่งนี้ กลับยังพาสตรีข้างกายติดตามมาด้วย เป็นเพราะสาว ๆ ที่นี่ไม่งดงามพองั้นหรือ?”

“ไม่ต้องพูดให้มากความ!”

ซุนฮก ได้มองไปที่ชายวัยกลางคนและตอบกลับ”พาข้าไปพบ กั๋วเจีย”

“โอ้ว,ที่แท้ก็คือ คุณชายเหวินยื่อ ท่านไม่ได้มาที่นี่สักพักแล้ว”ชายวัยกลางคนได้ยิ้มออกมาเบา ๆ

ไม่ได้มาสักพัก?

ลู่เฟิง มองไปที่ ซุนฮก ด้วยความประหลาดใจ อีกฝ่ายมาที่นี่บ่อยงั้นเหรอ ?

ซุนฮก รู้สึกอาบเล็กน้อยเขาได้กระแอมไอเบา ๆ “ช่างเถอะ รีบพาข้าไปพบ กั๋วเจีย”

“ได้,พวกท่านตามข้ามา”ชายวัยกลางคนได้ยิ้มและพา พวก ลู่เฟิง ไปที่ชั้นสาม

“ฝ่าบาท ข้าน้อย มิใช่คนแบบนั้น ข้าน้อยเคยมาที่นี่ก็จริงแต่มันก็แทบจะนับได้ด้วยนิ้ว”ซุนฮก จงใจเดินตามท้าวของลู่เฟิงและกล่าวกระซิบจากด้านหลัง

เขากลัวว่า ลู่เฟิง จะว่าเขา