“ฮ่าฮ่า,ไม่เป็นไรข้าเข้าใจ”

ลู่เฟิง มองไปที่ ซุนฮก และยิ้มตอบ

ซุนฮก ได้ยิ้มอย่างขมขื่น และเดินติดตาม ลู่เฟิงไป เขาได้ขอให้ ชายวัยกลางคนนำไปยังสถานที่ที่ กั๋วเจีย อยู่

ชายวัยกลางคน รู้สึกสงสัยเล็กน้อย เขาเดาว่าคนที่อยู่เบื้องหลังของเขาเด็กหนุ่มคนนี้ไม่น่าจะใช่ตัวละครที่เรียบง่าย สำหรับ สาวใช้ติดตามกายสองคนนั้นก็ไม่ธรรมดาจริง ๆ

นอกจากนี้ ชายหนุ่ม ยังทำให้ คุณชายเหวินยื่อ เคารพมากขนาดนี้ แสดงว่าอีกฝ่ายย่อมีอำนาจมากพอสมควร

เขาเดาว่าคุณชายท่านนี้น่าจะมีอิทธิพลมากพอสมควร

ถ้าเขารู้ว่า คุณชายที่เขามองอยู่ คือจักรพรรดิแห่งอาณาจักรหนานหยาน เขาคงเผลอกัดลิ้นตัวเองเลยมั้ง

ไม่นาน ลู่เฟิง และ พรรคพวกก็มาถึงชั้นสาม

ชายวัยกลางคนได้แนะนำชั้นนี้ให้กับลู่เฟิง”คุณชายทั้งสอง ชั้นสามนี้ มีเพียงห้าห้องเท่านั้น มันเป็นห้องที่ดีที่สุดอีกทั้งยังมีสาวสวยคอยปรนณิบัติที่ดีที่สุดอีกด้วย พวกท่านต้องการให้ข้าน้อยจัดมาสักคนสองคนหรือไม่?”

“ไม่จำเป็น พาเราไปห้องที่ กั๋วเจีย อยู่ก็พอ ว่าแต่ เขาย้ายสถานที่ดื่มอีกแล้วงั้นเหรอ”ซุนฮก ได้ตอบกลับ

“เฮ้อ,คุณชายเหวินยื่อ ท่านช่างปราดเปรื่อง คุณชายกั๋วเจีย นั้นได้ย้ายห้องดื่มไม่ซ้ำกันแต่ละวันเขาบอกมันช่วยเพิ่มบรรยากาศแปลกใหม่ไม่ซ้ำตา”ชายวัยกลางคนหัวเราะเบา ๆ

“เจ้าบ้านี่!”

ซุนฮก รู้สึกทำตัวไม่ถูก”เขาไม่กลัวร่างกายจะมีปัญหาหรืออย่างไร?”

แม้ว่านักรบจะทรงพลัง แต่ก็ไม่ได้ความว่าร่างกายของพวกเขาจะไร้เทียมทาน ถ้าคุณยังไปไม่ได้ถึงระดับหนึ่งคุณจะต้องหมั่นดูแลร่างกายเป็นประจำ

ไม่นาน ชายวัยกลางคนก็พาเดินไปถึงห้องของ กั๋วเจีย เขาได้เคาะประตู”คุณชายกั๋ว,คุณชายเหวิน มาหาท่าน”

“ฮ่าฮ่า,เหวินยื่อ มาหางั้นเหรอ เขาต้องรู้แน่ว่าข้าเงินไม่หนานักจึงได้มาอยู่เป็นเพื่อนดื่มให้แก่ข้า”ชายหนุ่มข้างในได้หัวเราะออกมา

หลังจากนั้น ชายหนุ่มก็เดินมาเปิดประตูด้วยอาการเมาเหล้า

ชายคนนี้หน้าตาหล่อเหลา แต่กลับไม่เขินอายโดยเฉพาะเสื้อผ้ารุงรังที่ทำให้ไม่น่ามองเลยสักนิด

นี่คือ กั๋วเจีย และ เป็น กั๋วเจีย ในประวัติศาสตร์

ลู่เฟิง มองไปที่ อีกฝ่าย ที่ทำท่าทางเหมือนคนเมา แต่ดวงตาของเขากลับไม่ได้เลอะเลือนขนาดนั้น มันสดใสอย่างมากและสามารถบ่งบอกได้ในทันทีว่าเขาเป็นคนฉลาดมีความสามารถ

ก่อนหน้านี้ เขากังวลเกี่ยวกับตัวตนของ กั๋วเจีย มากเกินไป

ดูเหมือนเขาจะคิดมากเกินไปจริง ๆ

แต่ทว่า กั๋วเจีย ที่เขารู้จักนั้นไม่ใช่ปีศาจน้ำเมา แต่เป็น ปีศาจมากความรู้

“เฟิงเซียว,เจ้าดื่มมากเกินไปแล้ว เจ้าทำแบบนี้ทุกวี่ทุกวันไม่รู้สึกเหนื่อยบ้างเลยหรือยังไง?”ซุนฮก ได้มองไปที่ กั๋วเจียและกล่าวถามออกมา

“ฮ่าฮ่า,เหวินยื่อ เจ้าอิจฉาข้าที่มีอิสระคิดทำอะไรก็ได้ใช่มั้ยล่ะ”กั๋วเจียได้หัวเราะและพูดออกมา เขาได้มองไปที่ ลู่เฟิงเล็กน้อย

ตาของเขากระพริบและไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

ซุนฮก ได้สั่นศีรษะและโบกมือให้กับชายวัยกลางคน”เจ้าออกไปก่อน!”

“ขอรับ คุณชายเหวิน”

“มา ๆ รีบเข้ามา ข้าจะแนะนำแม่นางน้อยขวัญใจคนงามของข้า”กั๋วเจีย ได้ต้อนรับ ลู่เฟิง และ พูดกับหญิงสาวในห้อง

ลู่เฟิง มองไปที่ หญิงสาวคนนี้ อีกฝ่ายมีใบหน้าที่สวยสดงดงามก็จริง แต่เมื่อเทียบกับ มู่หลานของเขา แล้วยังห่างไกลยิ่งนัก

“ข้าน้อยรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ปรนณิบัติคุณชายทุกท่าน”ไห่ถังเอ๋อร์ ได้โค้งคำนับเล็กน้อย

“เจ้าออกไปก่อน!”

ซุนฮก ได้หยิบตั๋วเงินออกมาและส่งให้ ไห่ถังเอ๋อร์

“นี่…”

ไห่ถังเอ๋อร์ มองไปที่ กั๋วเจีย ด้วยความลังเลใจ

“โอ้ว,แม่นางน้อย เจ้าไม่ต้องกลัว คุณชายกั๋ว ผู้นี้ เอ็นดูเจ้ามาก ไว้ข้าจะเรียกเจ้ามาอีกครั้ง”กั๋วเจียมองไปที่ ไห่ถังเอ๋อร์ ด้วยรอยยิ้ม”เอาล่ะ เจ้าออกไปก่อนเถอะ หากเจ้าไม่ฟังที่ เหวินยื่อบอก เขาจะไม่ให้เงินข้าจ่ายค่าของให้กับพวกเจ้า และเจ้าอาจถูกไล่ออกเอาได้”

ไห่ถังเอ๋อร์ ได้หัวเราะเบา ๆ และออกจากห้องไป

“ข้าน้อย กั๋วเจีย ถวายบังคมฝ่าบาท,ขอพระองค์ทรงพระเจริญอายุยิ่งยืนนาน”

ทันทีที่ ไห่ถังเอ๋อร์ จากไป กั๋วเจีย ก็คุกเข่าลงกับพื้น

“เจ้ารู้สถานะของข้าได้อย่างไร?”ลู่เฟิงมองไปที่ กั๋วเจีย ด้วยรอยยิ้ม

“ฝ่าบาท พระองค์หาใช่คนธรรมดาไม่ หากข้ามองไม่ออก ก็ไม่สมควรเป็นสหายของเหวินยื่อแล้ว”กั๋วเจีย ยิ้มออกมา

“สิ่งที่เจ้าพูดเป็นการชมเชยข้าและเป็นการยกย่องเหวินยื่อไปในตัว ฉลาดจริง ๆ “ลู่เฟิง ยิ้มออกมา

“วันนี้พระองค์ออกมาเที่ยวเล่นหรือพะยะค่ะ?”กั๋วเจีย ถามด้วยรอยยิ้ม

“ป่าวหรอก,ข้าเดินทางมาที่นี่เพื่อพบเจ้า ข้าต้องการเชิญเจ้ามาเป็นผู้ช่วยของข้าทำงานภายใต้คำสั่งของข้า รับรองว่าเจ้าจะมีกิ่นอิ่มสบายเต็มท้อง”ลู่เฟิง ยิ้มออกมา

“ถ้าอย่างนั้นฝ่าบาทคงต้องจัดเตรียมชุดอาหารให้มากขึ้นเพราะช่วงนี้ข้าค่อนข้างเจริญอาหารอย่างมาก”กั๋วเจียได้ตอบกลับ

“ไม่มีปัญหา,จะเกรงก็แต่ว่าอาหารที่นี่จะไม่เพียงพอที่จะดับอาการเจริญอาหารของเจ้า”ลู่เฟิง ยิ้มออกมา

“ข้าน้อย กั๋วเจีย ยินดีถวายการรับใช้ฝ่าบาท”

“ติ้ง ตรวจพบค่าความภักดีของ กั๋วเจีย ปัจจุบัน ตายอย่างภักดี”

ตายอย่างภักดี?

ลู่เฟิง ไม่คิดเลยว่า ความภักดีของ กั๋วเจีย จะเต็มตั้งแต่แรกเริ่ม

เขาเตรียมคำพูดมามากมายและต้องการจะพูดออกไปแต่ไม่คิดเลยว่า เขาจะได้รับความภักดีเต็มตั้งแต่แรกเริ่ม

ไม่นานเขาก็มีปฏิกิริยาตอบรับ

กั๋วเจีย อยู่ในเมืองหลวงมานาน ทั้งยังเป็นสหายกับซุนฮก เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายรู้เรื่องเขาและอาณาจักร และบางทีเขาก็กลัวว่าแท้จริงแล้วอีกฝ่ายกำลังวางแผนให้ซุนฮก แนะนำตัวเอง

มิฉะนั้นค่าความภักดีจะเต็มตั้งแต่แรกเริ่มได้อย่างไร

“ลุกขึ้นเถอะ!”

“ขอบพระทัยฝ่าบาท!”

กั๋วเจีย ได้มองไปที่ ลู่เฟิงด้วยรอยยิ้ม”ฝ่าบาทพระองค์ไม่กลัวว่าข้าน้อยไร้ความสามารถงั้นหรือพะยะค่ะ?”

“ทำไมข้าต้องกลัว?”

ลู่เฟิงหัวเราะออกมา”เหตุผลแรก เจ้าเป็นสหายของเหวินยื่อ และ ข้าชื่อว่าคนที่เหวินยื่อแนะนำไม่น่าจะมีปัญหาไปได้…”

เมื่อมองไปที่กั๋วเจีย ลู่เฟิงก็ยิ้มและกล่าวต่อ”เหตุผลที่สอง เจ้าเป็นคนฉลาดมีความทะเยอทะยาน เจ้าอยู่ในเมืองหลวงมานาน เกรงว่าคงเฝ้ารอโอกาสที่จะได้รับใช้ข้า ไม่งั้นเจ้าก็คงจะออกจากเมืองหลวงไปแล้ว ข้าพูดถูกหรือไม่?”

กั๋วเจีย มองไปที่ ลู่เฟิงด้วยความประหลาดใจ”ข้าน้อยคิดเช่นนั้นจริง ๆ “

หลังจากหยุดชั่วครู่เขาก็ตอบกลับ”ข้าน้อยได้ยินมาว่า เหวินยื่อ ได้ดำรงตำแหน่งเสนาบดีฝ่ายขวาภายใต้การปกครองของพระองค์ ข้าน้อยเพียงแค่อยากรู้ว่าคนแบบไหนกันที่ทำให้ เหวินยื่อ ผู้หยิ่งผยองเต็มใจที่จะมอบความภักดีให้ได้ ดังนั้น ข้าจึงได้สืบมาเล็กน้อย เกี่ยวกับวิธีการของพระองค์ในการช่วงชิงทหารส่วนตัวของตระกูลขุนนางในอาณาจักรเพื่อวางแผนปกครองอาณาจักรโดยสมควร ความกล้าเช่นนี้ กั๋วเจีย รู้สึกเลื่อมใสยิ่งนัก!”

“แต่ถึงอย่างนั้น ข้าน้อยก็ไม่ได้วางแผนจะรับใช้พระองค์ด้วยเหตุผลนี้ หลักๆ เลย ข้าน้อยได้ยินมาว่าหลังจากพระองค์กลับมาพระองค์ไม่เกรงกลัวการคุกคามของนิกายดาบวิญญาณ และ ยึดอาณาจักรซีหยางทั้งหมด ตั้งแต่นั้นมา ข้าน้อยก็ให้สาบานว่า พระองค์เหมาะสมที่จะกลายเป็นนายเหนือหัวของข้าน้อยกั๋วเจียผู้นี้ คนที่ ข้าน้อยต้องการรับใช้นั้นสำคัญอย่างมาก อย่างแรกเลย ความทะเยอทะยานเป็นสิ่งสำคัญ อย่างที่สองก็คือความไม่เกรงกลัว หากก่อนหน้านี้ พระองค์ถูกคุกคามจากนิกายดาบวิญญาณและยอมล่าถอย เกรงว่า กั๋วเจีย คงต้องจากอาณาจักรหนานหยานไปและไปหาสถานที่สันโดษอยู่ไปตลอดชีวิต”

เมื่อ ลู่เฟิง ได้ยินคำตอบของเขา เขาก็ถอนหายใจออกมา

หากเขาหวาดกลัวในตอนนั้น เขาคงจะพลาดหลาย ๆ อย่าง รวมถึงเสียบุคคลที่มีพรสวรรค์อย่าง กั๋วเจีย ไป

นับเป็นเรื่องที่ดีจริง ๆ ที่เขาตัดสินใจถูก

กั๋วเจีย มองไปที่ ลู่เฟิง ด้วยรอยยิ้ม”ข้าน้อยมองเห็นความกังวลในสายตาของฝ่าบาท ข้าน้อยเชื่อว่าการที่พระองค์เดินทางมาที่นี่เพื่อพบข้าน้อยเพราะเรื่องบางอย่างใช่หรือไม่?”