บทที่ 221 พระชายาจะกลับสวรรค์แล้ว

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่221 พระชายาจะกลับสวรรค์แล้ว

ถ้าเป็นอุกกาบาตจริง งั้นต้องทำอย่างไรถึงจะสามารถกำจัดภาพลวงตาออกไปได้?

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าอุกกาบาตใหญ่แค่ไหน?

จู่ๆหลานเยาเยาก็คิดวิธีกำจัดภาพลวงตาออกไปได้ แต่นางก็ไม่แน่ใจมากนักว่าวิธีที่นางคิดจะทำได้หรือไม่?

หานแสเอียงหัวมองนาง

แม้จะไม่รู้ว่าหลานเยาเยาคิดวิธีอะไรออก แต่เขาก็เห็นประกายความอยากลองจากแววตาของหลานเยาเยา นี่ทำให้เขารู้สึกเหลือเชื่อ

สำหรับคนธรรมดา โดยเฉพาะผู้หญิงแล้ว

เมื่อต้องเจอกับเรื่องที่ทำให้คนกลัวแบบนี้ก็จะถูกทำให้ตกใจกลัวไปนานแล้ว

หลานเยาเยากลับดี!

ไม่เพียงแต่จะไม่กลัว แต่ยังกระตือรือร้นที่จะคิดหาวิธีแก้ไขปัญหา

แต่ว่า……

ที่ทำให้เขาแปลกใจก็คือ

ดูท่าทางของนาง ดูเหมือนกับจะเข้าใจสถานการณ์แบบนี้มาก

อา!

นับวันยิ่งทำให้คนเข้าใจยากมากขึ้นจริงๆ

มิน่าหล่ะอ๋องเย่ถึงได้ถูกใจนางเช่นนี้ ตอนนี้แม้แต่เขาก็มีความคิดที่อยากจะครอบครองนางไว้เพียงผู้เดียว

“ไม่แน่ชัด!”

นี่เป็นเพียงเรื่องเล่าขาน

มีเรื่องแบบนี้จริงหรือไม่ ยังมิอาจรู้ได้

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงขนาดของผีพุ่งไต้

“แต่ว่า ตามที่เล่าขานกันมาว่าสุสานบรรพชนของขุนนางกังฉิน(ขุนนางทุจริต)นั้นอยู่ใกล้กับทางเข้าหุบเขาจิ้น

ดังนั้น!

ถ้าอุกกาบาตชนสุสานบรรพชน ก็น่าจะเป็นบนสุสานบรรพชน ซึ่งเป็นที่ที่พวกเราอยู่ตอนนี้

ได้ยินดังนั้น!

นัยน์ตาของหลานเยาเยาเป็นประกาย

แล้วก็มีความรู้สึกปลงว่าหาตั้งนานแต่กลับไม่พบอะไร พอจะถอดใจกลับได้มาง่ายซะงั้น

ในเมื่ออยู่ใกล้ที่นี่ และนางได้กลิ่นดินบนต้นไม้สูงขนาดนี้

กำจัดภาพลวงตาออกไป จากนั้นตำแหน่งที่พวกเขาตอนนี้ก็น่าจะเป็นบนสุสานบรรพชนของขุนนางกังฉิน

ดังนั้น!

หลานเยาเยาจึงค่อยๆลูบสัมผัสความว่างเปล่ารอบๆ ในที่สุดทางด้านหลังก็ถูกของแข็งๆขวางไว้ และในสถานที่ที่นางสัมผัส ในสายตาคนอื่นก็เป็นเพียงอากาศเท่านั้น

ค่อยๆแตะตามแนวของแข็งไปทางด้านหน้า จากนั้นก็ยกเท้า ก้าวย่ำไปบนอากาศช้าๆ

หานแสที่เห็นหลานเยาเยาก้าวไปบนอากาศ มุมปากก็ยกขึ้นน้อยๆ

“น่ามหัศจรรย์จริงๆ”

ความหมายของคำพูดนี้ไม่รู้ว่าเพราะหลานเยาเยา หรือเพราะฉากมหัศจรรย์ตรงหน้า……

ส่วนจื่อเฟิงและจื่อซีด้านนี้

กลิ่นอันตรายก็ได้หายไปแล้ว พวกเขารู้ว่ามีดที่หลานเยาเยาแทงไปนั้นมีประสิทธิผล

จื่อซีเป็นหมอที่พกยาเม็ดหลากหลายชนิด

จื่อเฟิงกำลังพันแผลให้เขา

แต่เพิ่งพันแผลไปได้แค่ครึ่ง จู่ๆจื่อเฟิงก็ไม่ขยับ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความตกใจ

“จื่อเฟิง เจ้าพบปัญหาอะไรหรือไม่?”

จื่อซีไม่เห็นความผิดปกติของจื่อเฟิง แค่ถามอย่างไม่สบายใจ

“อะไร?”

เมื่อเผชิญกับจื่อเฟิงที่ตอบอย่างไม่ใส่ใจ จื่อซีก็พูดไม่ออก อดที่จะโกรธไม่ได้

“พวกนี้ก็แค่การบาดเจ็บของผิวด้านนอก อีกอย่างยังเป็นแค่แผลถลอก ไม่มีเลือดไหลสักหยด

สิ่งที่สำคัญที่สุดของข้าก็คือการบาดเจ็บภายใน ภายในหน่ะ!เจ้าได้ยินรึยัง?”

จื่อซีกลัดกลุ้มใจมาก

หลังจากที่ถูกของที่พันไว้คลายออก เขาก็ถูกจื่อเฟิงลากดึงไปยังบนหินก้อนหนึ่ง จากนั้นก็เริ่มลงมือพันแผลให้เขาโดยไม่ตรวจสอบอะไรเลย

เขาบาดเจ็บภายในจากของใหญ่ ไม่ใช่บาดเจ็บภายนอก……

เห็นได้ว่าจื่อเฟิงไม่ได้สนใจความเป็นความตายของน้องชายเลย สายตาของเขามองไปยังพระชายาที่ห่างออกไปไม่ไกลตลอด

เฮ้!

เจ้าคนบื่อ

เดิมจื่อซีคิดว่าคำบ่นของเขาจะทำให้จื่อเฟิงตระหนักถึงความสะเพร่าของตนเองได้

แต่คิดไม่ถึงว่า……

เขาจะส่งเสียง “อื้อ”มาเรียบๆหนึ่งคำ จากนั้นก็ปล่อยเขาและมองไปยังทางที่หลานเยาเยาบิน

ทันใดนั้นจื่อซีก็ตะลึง

“นี่ จื่อเฟิง เจ้าโง่รึไง? ดูไม่ออกรึ? พวกเราแค่ต้องไม่ไปเป็นภาระของพระชายาก็นับว่าดีแล้ว จะต้องให้เราปกป้องที่ไหนกัน……”

คำพูดของจื่อซียังไม่ทันจบก็ต้องอ้าปากค้าง

เพราะเขาลุกขึ้นแล้วมองไปยังทางที่หลานเยาเยาไป

ก็ต้องเห็นฉากที่ทำให้เขาตกตะลึง

หลานเยาเยาลอยอยู่บนอากาศ อีกทั้งยังก้าวไปทีละก้าวๆ

“โหห โหหห โหหหห……”

พระชายาจะกลับสวรรค์หรือ?

นี่มันน่าเหลือเชื่อมาก!

ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าทำไมจื่อเฟิงถึงไม่สนใจเขา

ดังนั้นเขาเองก็รีบลุกบินไป

หลังจากเกือบหนึ่งชั่วยาม ในที่สุดหลานเยาเยาก็เข้าใจลักษณะพื้นที่สุสานบรรพชนของขุนนางกังฉิน ส่วนอุกกาบาตก็เป็นเหมือนที่หานแสกล่าวไว้ คืออยู่บนสุสานบรรพชนของขุนนางกังฉิน

ดังนั้น

นางจึงจับลักษณะขนาดของอุกกาบาตได้อย่างรวดเร็ว

มันเหมือนเป็นทรงกลม แต่กลับไม่เรียบเป็นระเบียบ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณสี่เมตร

จะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ จะว่าเล็กก็ไม่เล็ก

หลังจากที่ทำความเข้าใจแล้ว หลานเยาเยาก็หยิบลูกระเบิดออกมาวางไว้สี่ที่รอบๆอุกกาบาต

จากนั้นก็ถอยออกมาไกลๆ

หานแสที่มีประสบการณ์กับระเบิด จึงถอยออกไปไกลกว่านางอย่างไม่รีรอ

แม้จื่อซีและจื่อเฟิงเห็นว่าหลานเยาเยาวางระเบิดประตูหินหุบเขาจิ้น แต่พวกเขาไม่ได้ยืนอยู่ในตำแหน่งที่พวกหลานเยาเยาอยู่ จึงไม่รู้สึกถึงความไม่สบายหลังการระเบิด

แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น พวกเขาสองคนจึงไปอยู่หลังหลานเยาเยาแล้วก็ไม่หาที่หลบ

ตอนที่หลานเยาเยาจะกดปุ่มทำลายระเบิด เสียงชั่วร้ายของหานแสก็ดังขึ้น

“ข้ารู้สึกว่าที่นี่ไม่ปลอดภัย!”

เมื่อก่อนที่ระเบิดประตูหินหุบเขาจิ้น หลานเยาเยาใช้แค่อันเดียวก็สามารถระเบิดประตูหินได้แล้ว แต่ตอนนี้หลานเยาเยากลับใช้ถึง4

อานุภาพนั้นครอบคลุม

หลังจากคิดถึงการระเบิดอีก หลานเยาเยาก็คว้ากางเกงเขาไว้ ดังนั้นเขาจึงอยู่ห่างจากหลานเยาเยาอีกเล็กน้อย

“……”

คำว่าไม่ปลอดภัยออกมาจากหานแส หลานเยาเยารู้สึกว่าน่าตลกอย่างบอกไม่ถูก

จากนั้น มือของหลานเยาเยาก็กดปุ่ม

มีเสียง“ติ้ด”

“ตู้ม……”

ระเบิดสี่อันระเบิดออกพร้อมกัน พื้นดินภูเขาสั่นไหว ทั้งหุบเขาจิ้นโคลงเคลงราวกับเกิดแผ่นดินไหว

ฝุ่นปกคลุมไปทั่วฟ้าทั่วพื้นรอบๆด้วยความเร็วราวกับพายุฝุ่นทราย

และพวกเขาทั้งสี่ก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกฝุ่นหนา……

เพียงครู่เดียว!

หุบเขาจิ้นก็หยุดโคลง หมอกฝุ่นก็ค่อยๆหายไป ทุกอย่างดูเหมือนกลับมาสงบ

ทั้งหมดเงียบสงบจนน่ากลัว……

หลานเยาเยาค่อยเงยหน้าขึ้นมา ปัดเศษกรวดเล็กๆน้อยๆและฝุ่นบนผม

ภาพลวงตาหายไปแล้ว!

แต่เมื่อเห็นสภาพด้านหน้า นางก็ต้องตกใจ!

ไม่มีภาพดวงอาทิตย์สวยงามเหมือนเมื่อก่อน

แล้วก็ไม่มีภูเขาต้นไม้ใหญ่งดงาม

จะมีก็แต่เพียงท้องฟ้าสีเทาสลัว รวมทั้งดอกไม้ต้นไม้รูปร่างประหลาด และหลุมศพบรรพชนอันเดิมที่ถูกระเบิดจนเป็นหลุมใหญ่

อุกกาบาตไม่มีอีกแล้วมีเพียงแต่เศษหินเล็กๆกระจายไปทั่วทุกหนแห่ง

ส่วนจื่อซีกับจื่อเฟิงก็เหมือนกับรูปปั้นดินสองตัวที่เต็มไปด้วยฝุ่น ทั้งยังมีความสุขมาก

“พู่ว ถุ้ยๆๆ……”

ปากของจื่อซีมีเต็มไปด้วยฝุ่น จึงรีบไปด้านข้างเพื่อถ่มน้ำลาย

จื่อเฟิงดีกว่าหน่อย เขาไม่พูดมาก ดังนั้นตอนระเบิด ปากของเขาจึงปิดอยู่

อีกทั้งตัวเขาค่อนข้างอึดอัด ดังนั้นตอนที่ปัดฝุ่นบนร่างกายเขาจึงไม่พูดสักคำ!

ผู้ที่สะอาดที่สุดก็นับว่าคือหานแส

ตอนที่ระเบิด เขาเอาแขนเสื้อกว้างมากันหัวตัวเองไว้ ดังนั้นบนหัวเขาแทบจะไม่มีฝุ่นเลย

ส่วนฝุ่นบนตัว เขาก็แค่ใช้กำลังภายในสั่นๆ ฝุ่นก็หลุดออกไปหมด

ทันใดนั้น!

“ฟ่อ……”

“ฟ่อ……”

“ฟ่อ……”

“……”

มีเสียงน่ากลัวดังขึ้นจากทางด้านหลัง พวกเขาจึงรีบหันกลับไป

ฉากที่อยู่ตรงหน้า อดไม่ได้ที่จะทำให้คนขนลุกซู่