270 เวลานั้นมีความหมาย
“――เช่นนั้นไว้เจอกันใหม่”
เมื่อซิลเลนที่นำทางฉันมาที่นี่กับเหล่าสาวใช้มาช่วยจัดโต๊ะออกไปจากห้องกันหมดแล้ว ภายในห้องรับแขก ตอนนี้ก็เหลือเพียงฉันกับริโนกิส และแขกสองคนจากอู่ไห่ตง
“เนียซามะเนียซามะ ขอบพระคุณที่สละเวลามาในวันนี้ค่ะ ได้โปรดกรุณานั่งลงก่อน”
ฉันได้รับการต้อนรับอีกครั้ง และนั่งลงบนเก้าอี้ที่เสนอมา ส่วนริโนกิสยืนชิดติดกับผนัง
จากนั้น ผู้ส่งสารทั้งสองคนนั่งเคียงข้างกันต่อหน้าฉัน
“เอ๊ะーโตะ 、ลินตันซังと、เว่ยป้าซัง?”
“ค่ะ”
มีฝั่งผู้หญิงที่ตอบ ส่วนชายชราเพียงพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ
ลินตัน・ออรอน。
หญิงสาวสวยร่างสูงในวัยยี่สิบปลาย ๆ มีผมยาวสีดำและดวงตาสีน้ำตาลแดง หน้าตาที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีจนดูโดดเด่น แต่เครื่องแต่งกายประจำชาติที่รัดรูปยังเน้นสัดส่วนจนทำให้สไตล์ที่ดีของเธอโดดเด่นขึ้นอีกด้วย อืーม ขนาดก้อนไขมันสองก้อนที่ติดอยู่ที่หน้าอก ม๊า เธอน่าจะเก่งเรื่องการใช้เทคนิคที่ยั่วยวนเพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายด้วย
ชายชราที่อยู่ข้าง ๆ คือ เว่ยป้า・เซิน
เขาตัวเล็ก มีศีรษะล้านเรียบและมีหนวดเคราสีขาว ใบหน้าที่มีริ้วรอยลึกที่ขยายขึ้นมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะมองมุมไหน เขาก็คนแก่
ทว่า ถึงจะแก่ แต่กล้ามเนื้อตามแนวสันหลังยังคงเหยียดตรง ――เหนือสิ่งอื่นใด ดวงตาของเขาแข็งแกร่ง เขายังคงมีความกระตือรือร้นในฐานะนักสู้
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบคุณค่ะ ฉันชื่อ เนีย・ลิสตัน บุตรีของออร์นิท・ลิสตัน ขุนนางระดับที่สี่แห่งอาณาจักรอาร์ตัวร์ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ปัจจุบัน ฉันเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนภายใต้การดูแลของอาณาจักรมาเวเลีย”
――รู้สึกเหมือนจะสายเกินไปหน่อย แต่ตระกูลลิสตันนั้นเป็นขุนนาง……ในต่างประเทศจะเรียกว่าสถานะชนชั้นสูง ดังนั้นฉันจึงเรียนรู้การทักทายในที่สาธารณะที่จำเป็น
ม๊า ฉันรู้สึกว่าสายเกินไปจริง ๆ
แต่ฉันไม่สามารถทำให้ตระกูลลิสตันอับอายได้ ดังนั้นฉันจึงทักทายอย่างเป็นทางการ
“ขอบพระคุณสำหรับความเมตตาของท่านค่ะ จริง ๆ แล้วฉันมีเรื่องที่อยากจะถามกับเนียซามะอยู่ค่ะ”
“คะ”
“――ได้เรียนรู้มาจากที่ไหน?”
โอ้?
เว่ยป้าอ้าปากของเขาเพื่อขัดจังหวะ และมองมาที่ฉันด้วยแววตาที่ดุร้ายอย่างยิ่ง
“ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความ? แค่บอกมาว่าเรียนรู้มันมาจากที่ไหนในฐานะลูกศิษย์ของใคร?”
…………
ม๊า ก็น่าจะเป็นเรื่องของ「คิ」ล่ะน๊า
“ขอโทษด้วยค่ะ”
ลินตันยิ้มอย่างมีเสน่ห์ ราวกับจะบอกว่าไม่มีทางหยุดคนแก่แบบนี้ได้
“การเคลื่อนไหวและทักษะของท่านที่แสดงให้เห็นในเทศกาลฤดูหนาวนั้น นั่นช่างคล้ายกับหมัดจักรพรรดิแห่งอู่ไห่ตงโคกุมากค่ะ เป็นสิ่งที่สอนให้เฉพาะราชวงศ์เท่านั้นและไม่ได้รับอนุญาตให้นำออกไปภายนอก……อาร๊า?”
คำพูดของลินตันหยุดลง
บางที อาจเป็นเพราะฉันกำลังหัวเราะเหมือนกัน
“――หมัดของจักรพรรดิที่มีเพียงเฉพาะราชวงศ์เท่านั้นที่สามารถเรียนได้งั้นเหรอ เห้”
จริง ๆ เลย
ศิลปะการต่อสู้ในยุคนี้มันยังไงกัน นักศิลปะการต่อสู้ก็ด้วย
มันทั้งทรยศต่อความคาดหวังของฉันตลอด และทำให้ฉันผิดหวังเสมอ
“มันดูคล้ายกันมากเลยเหรอคะ? แต่สำหรับฉันไม่มีความคล้ายคลึงเลยแม้แต่น้อยค่ะ”
ฉันหันไปหาเว่ยป้าที่มีรอยยิ้มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่จะพูดว่า
“――ฉันแข็งแกร่งกว่าชายชราคนนั้นเป็นพันเท่าเลยรู้ไหม?”
“――พูดมาแล้วสินา!”
ชายชรากระโดดขึ้นด้วยความดีใจ
เขากระโดดข้ามโต๊ะเข้ามาหาฉัน
ฉันเอื้อมมือไปหยิบถ้วยบนโต๊ะ――ก่อนที่ลูกเตะเหินฟ้าของเว่ยป้าจะเข้ามา ก็มีเท้ามาวางบนโต๊ะ เว้นระยะห่างระหว่างพวกเราไว้พอสมควร
“ใช้ได้นี่สาวน้อย”
“หุบปากนะผู้เฒ่า ฉันจะฆ่าคุณ”
เป็นการขัดจังหวะโดยริโนกิส
เว่ยป้าถอยกลับเพื่อหลีกเลี่ยงลูกเตะจากริโนกิส――ฉันจิบชาราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ฉันหันหลังให้กับภาพอันสดชื่นของชายชรากับลิโนคิสที่จ้องมองกันด้วยเจตนาฆ่า เลือดเดือดพล่าน และเนื้อของพวกเขาเต้นระบำ วางถ้วยกลับใส่จานรอ แล้วหันไปมองลินตันที่ยิ้มราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเช่นกัน
“ลินตันซัง คุณต้องการทำธุรกิจกับฉันไหม? ฉันเองก็มีเรื่องอยากจะคุยกับคุณเหมือนกัน หากคุณยินดีปรึกษากับฉัน ฉันจะตอบคำถามของคุณ”
“เป็นแค่การปรึกษาใช่หรือเปล่าคะ ขึ้นอยู่กับเนื้อหาของการปรึกษา แต่เป็นเนื้อหาประเภทไหนกันคะ?”
“――เกี่ยวกับหมู่เกาะโจรสลัดอากาศ”
เมื่อฉันพูดแบบนั้น ฉันก็เห็นความสนใจในดวงตาของลินตัน ……ไม่สิ บางทีคงสัมผัสได้ถึงผลประโยชน์ในบทบาทของฐานะนักการทูต เธอจึงยิ้มกว้างขึ้น
“เอาจริงเหรอคะ?”
ฉันต้องการที่จะปลดปล่อยทาสบนหมู่เกาะโจรสลัดอากาศ
ฉันต้องการหารือเกี่ยวกับวิธีการที่จะทำเช่นนั้น
โดยสรุป นั่นคือทั้งหมดที่ฉันพูด และลินตันฟังจนจบด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์บนใบหน้าของเธอ
“ฟุฮ่าๆๆๆๆ เป็นสาวน้อยที่น่าสนใจจริง คิดจะบุกเข้าไปโจมตีกองขยะนั่นสินะ “
“――หุบปาก ฉันจะฆ่าคุณ ผู้เฒ่า”
นอกจากนี้ เว่ยป้าก็กลับไปยังที่นั่งของเขาแล้ว บางทีอาจจะสนใจในสิ่งที่ฉันพูด ฉันหวังว่าริโนกิสจะยอมกลับไปที่กำแพงที่กำหนดไว้
และ หลังจากที่เขาพูดจบ ลินตันก็ถามฉันว่า「จริงจังสินะคะ?」
“ฉันไม่รู้? ขณะนี้การวางแผนยังดำเนินการไปได้ไม่ดีนักจึงยังไม่สามารถดำเนินการตามแผนได้ ทว่าหากปัญหาเหล่านั้นได้รับการแก้ไข……ก็จะได้เวลาลงมือไม่ว่าจะจริงจังหรือไม่”
ในใจฉันตัดสินใจไปแล้วว่า「จะทำมัน」
แต่ นี่เป็นเพียงการพบกันครั้งแรกกับผู้ส่งสารจากอู่ไห่ตง และยังไม่อยู่ในขั้นที่จะเชื่อใจได้หรือไม่ จึงยากที่จะบอกว่าฉันจะทำมันอย่างแน่นอน
คงจะดีหากมันออกมาในรูปแบบที่อู่ไห่ตงได้รับประโยชน์จากการถูกเอารัดเอาเปรียบ ยิ่งไปกว่านั้น ฉันอยากจะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะเป็นการสูญเสียผลประโยชน์ของอาร์ตัวร์ด้วย
……ฉันก็อยากจะพูดอย่างนั้นอยู่หรอก แต่สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการปลดปล่อยทาส ตราบใดที่มันเกิดขึ้น ฉันก็ไม่สนใจว่าใครจะได้ประโยชน์
ฮิเอโร่คงบอกฉันเพราะเขาต้องการหมู่เกาะโจรสลัดอากาศ แต่สำหรับเขามีสิ่งอื่นที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก
“เข้าใจแล้วค่ะ”
ลินตันกอดอกเพื่อดันก้อนไขมันอันงดงามทั้งสองก้อนบนหน้าอกขึ้นเด่นสง่า จะว่ายังไงก็เถอะ ดูหนักจังน๊า
“ฉันคิดได้หลายวิธี แต่ว่าโดยส่วนตัวแล้วฉันคิดว่าขั้นตอนต่อไปจะยากยิ่งกว่าค่ะ”
“ขั้นตอนต่อไป?”
“หมู่เกาะโจรสลัดอากาศเป็นสถานที่ที่มีเกาะลอยฟ้าจำนับไม่ถ้วนรวมตัวกัน ตั้งอยู่ใจกลางระหว่างอู่ไห่ตง、อาร์ตัวร์、อัสตาเนีย、และแว็ง เดอ ครุช
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ที่นี่เป็นสถานที่ที่สำคัญมากสำหรับดินแดนหมู่เกาะ
เป็นสถานที่ที่น่าสนใจมากซึ่งอาจเป็นจุดสำคัญทั้งในด้านการป้องกันประเทศและการขนส่ง
สาเหตุที่ดินแดนดังกล่าวยังคงถูกกลุ่มโจรสลัดยึดครองอยู่ ก็เพราะไม่ชัดเจนว่าที่นั่นตั้งอยู่อาณาเขตของดินแดนใดที่ล้อมอยู่รอบดินแดนหมู่เกาะ
ฉันไม่รู้เรื่องก่อนที่แผ่นดินจะแตก แต่ตอนนี้เส้นเขตแดนไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เพราะปัจจุบันไม่มีจุดสังเกตอีกแล้ว
ฉันแน่ใจว่าไม่ว่าประเทศไหนเมื่อพยายามจะควบคุมพื้นที่นี้อย่างจริงจัง ดินแดนหมู่เกาะก็จะอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนของตนเอง
นอกจากนี้ เนียซามะบอกว่าต้องการปลดปล่อยทาส แต่ท่านมีแผนจะทำอย่างไรกับพวกเขาหลังจากที่พวกเขาเป็นอิสระแล้วกันคะ? เราไม่รู้ว่ามีกี่คน แต่เมื่อพิจารณาจากขนาดพื้นที่ดังกล่าวที่ว่ากันว่ามีเรือโจรสลัดมากกว่าหนึ่งพันลำเสมอ การมีทาสหนึ่ง หรือ สองพันคนอาจเป็นการมองโลกแง่ดีเกินไป
――คิดว่ายังไงคะ? ด้วยความแข็งแกร่งของท่าน ท่านอาจจะสามารถพิชิตหมู่เกาะโจรสลัดได้ แต่ได้คิดบ้างไหมค่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น?”
…………
ช่างซับซ้อนจังน๊า
ฉันมีปัญหาก่อนที่จะได้ลงมือทำ แล้วยังคงมีปัญหามากมายแม้หลังจากที่ทำไปแล้วด้วยสินะ
แล้ว
แล้วสาวสวยที่มีก้อนไขมันตรงหน้าฉันก็มีสมองระดับที่สังเกตปัญหาได้ในทันที เนื่องจากเธอเป็นนักการทูต ดังนั้นจึงต้องมีทั้งความกล้าหาญ และได้รับการฝึกฝนมาค่อนข้างดี เธอมั่นใจมากกับการโชว์มวลไขมันที่หน้าอก แต่ความสามารถก็ต้องเป็นของจริง
――ดีล่ะ ฉันตัดสินใจแล้ว
“คุณ”
“คะ?”
“มีส่วนร่วมในฐานะมันสมองของการปลดปล่อยทาส”
“……คะ?”
“เรื่องที่เราคุยกันก่อนหน้านี้ หลังจากที่ฉันชนะอู่ไห่ตงก็เข้ามามีส่วนร่วมใช่ไหม? หากเป็นเช่นนั้นโปรดเข้าร่วมตั้งแต่ต้น นั่นจะเป็นเหตุผลที่คุณสามารถยืนยันสิทธิของอู่ไห่ตงได้อย่างเต็มที่ไง?”
“…………”
“ดีเลยสิสาวน้อย! ข้าเอาด้วย!”
“――ผู้เฒ่า หุบปาก ฉันจะฆ่าคุณ”
อืม ดูเหมือนว่าเว่ยป้าแค่อยากจะต่อสู้กับโจรสลัดอากาศน๊า
แต่นั่นก็ใช่ได้เลย ช่างสมเป็นนักสู้จริง ๆ
「อย่าทำเสียงดังวุ่นวายขนาดนั้น」ควรพูดด้วยหมัดของคุณ ฉันก็ชอบเหมือนกัน
“ม๊า ลองคิดดูได้ตามสบาย ถ้าไม่ ฉันกก็แค่หาคนอื่น”
และ ฉันก็ลุกจากที่นั่ง
“ฉันจะจ่ายค่าคำปรึกษาในการพบกันครั้งหน้า ในระหว่างวันฉันมีเรียนหนังสือและมีกิจกรรมอื่น ๆ ให้ทำ แต่ตอนกลางคืนฉันอยู่ที่คฤหาสน์ หากอยากคุยก็มาที่คฤหาสน์ได้ตลอดเวลา ฉันจะรอ”
บางทีลินตันอาจจะมาเข้าร่วมการสนทนาด้วย
ถ้าปฏิเสธข้อเสนอตอนนี้ ก็จะไม่สามารถอ้างสิทธิ์การเป็นเจ้าของหมู่เกาะโจรสลัดอากาศในภายหลังได้อีก――ฉันไม่ได้อยากพูดไปไกลขนาดนั้น แต่เพราะฉันคิดว่า นี่มีความเป็นไปได้ที่จะได้รับตัว「ผู้ทำหน้าที่บทบาทมันสมองที่ไม่ใช่ตัวฉันเอง」ถือเป็นการชิงลงมือโจมตีก่อนล่ะ
หากสถานที่ทุกส่วนของดินแดนหมู่เกาะกลายเป็นกุญแจสำคัญ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะปล่อยให้หลุดมือ
――นี่เป็นช่วงเวลาที่มีความหมายมาก สิ่งต่าง ๆ ดูเหมือนจะเคลื่อนไหวด้วยเหตุนี้