ตอนที่ 258 ถามตอบ ไม่อาจปล่อยให้พวกเขาปฏิเสธ (1)

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

ตอนที่ 258 ถามตอบ ไม่อาจปล่อยให้พวกเขาปฏิเสธ (1)

มีเถ้าแก่สองคนสภาพจิตใจค่อนข้างอ่อนแอ ถึงอย่างไรคนทำผิดย่อมร้อนตัว ขาอ่อนแรงคุกเข่าลงกับพื้นทันที

เฟิงต๋าเห็นสถานการณ์ไม่ดี สีหน้าเคร่งขรึม ความเหี้ยมโหดแล่นผ่านแววตาของเขา

จากนั้น วินาทีที่เฟิงต๋าเงยหน้าขึ้น เขาได้เก็บซ่อนความเหี้ยมโหดในแววตาไปแล้ว สีหน้าฉายความเจ็บปวด “เฟิงต๋าดูแลกิจการเหล่านี้ได้ไม่ดี เป็นความผิดของเฟิงต๋าแต่เพียงผู้เดียว พวกเถ้าแก่เหล่านี้ล้วนทำงานอย่างเต็มที่แล้ว แม้ไม่ได้สร้างคุณงามความดีแต่ก็ทำงานรับใช้มานานหลายปี หากคุณหนูกล่าวโทษเพียงเพราะภัยพิบัติและการกระทำชั่วร้ายของผู้อื่น เช่นนั้นจะทำให้ผู้อยู่ในปกครองปวดใจ”

ปวดใจ? นางสูญเสียเงิน ถูกเขาที่เป็นบริวารชั่วทำร้ายยังไม่ได้พูดเลยว่าตนปวดใจ เขากลับปวดใจก่อนนางแล้ว

เป็นตามที่คาด ไม่ใช่คนดีจริงๆ เพียงคำพูดเดียวก็ทำให้จิตใจที่หวาดหวั่นของเถ้าแก่แต่ละคนรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ทั้งยังโต้กลับนาง

หากนางไม่มีหลักฐานแน่นหนา เกรงว่าวันนี้คงไม่อาจทำสิ่งใดเขาได้

มั่วเชียนเสวี่ยหัวเราะเยือกเย็นไม่พูดสิ่งใด เฟิงต๋าเลิกชายเสื้อผ้าขึ้น คุกเข่าหนึ่งข้าง ดวงตาของเขาคล้ายมีน้ำตาคลอเบ้า น้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ที่ไหวหวั่น “หากคุณหนูไม่สบอารมณ์ เช่นนั้นสามารถปลดข้าเฟิงต๋าพ้นจากตำแหน่งหัวหน้าได้ ไม่จำเป็นต้องเอาผิดบรรดาเถ้าแก่เหล่านี้ไปพร้อมกัน เฟิงต๋ายอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียวขอรับ”

กลยุทธ์ทุกข์กาย จั๊กจั่นลอกคราบ แก้ปัญหาที่ต้นตอ…ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว ขณะเดียวกันก็สามารถซื้อใจคนได้ ยังทำให้ตนรอดพ้นจากเรื่องนี้ ทั้งยังทำให้นางตั้งตัวไม่ทัน

เขามั่นใจว่าในเจ็ดวันนี้ นางไม่มีวันเจอจุดผิดพลาดในบัญชีอย่างแน่นอน ทั้งยังมั่นใจว่าในระยะเวลาเจ็ดวัน นางไม่มีวันหาคนที่จะเข้ามาทำงานในตำแหน่งของเขาได้

เป็นจริงตามคาด เถ้าแก่ทั้งแปดคนเห็นเฟิงต๋ายอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว มีบางคนฉุกคิดขึ้นมาได้ มีบางคนรู้สึกว่าพ่อบ้านเฟิงช่างชอบธรรมยิ่งนัก…

ด้วยเหตุนี้ คนหนึ่งพูด “ข้าน้อยไร้ความสามารถ ขอลาออกจากตำแหน่งเถ้าแก่”

อีกคนหนึ่งพูด “ในเมื่อคุณหนูไม่เชื่อใจข้าน้อย เช่นนั้นข้าน้อยก็ขอลาออกจากตำแหน่งเถ้าแก่”

มากไปกว่านี้ยังมีคนพูดว่า “แม้ข้าน้อยจะไร้ความสามารถ ทว่าซื่อสัตย์และจงรักภักดี หากคุณหนูไม่เชื่อ มีเพียงความตายเท่านั้นที่จะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์…”

เห็นพวกเขาทำสีหน้าคล้ายชัยชนะอยู่ในกำมือ ในทางกลับกันมั่วเชียนเสวี่ยไม่ได้โมโห นางยิ้มแล้วเอ่ยวาจา “พวกท่านอุตส่าห์จงรักภักดี เดิมทีข้าเห็นว่าแม้ไม่ได้สร้างคุณงามความดีแต่ก็ทำงานรับใช้มานานหลายปี เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นข้าเพียงตั้งใจจะตำหนิแล้วจบเรื่องเท่านั้น ทว่าคิดไม่ถึงพวกท่านกลับจงรักภักดีถึงเพียงนี้ หลังจากทำความผิดยังขอลาออก หากข้าไม่อนุญาตให้พวกท่านลาออก เช่นนั้นข้าคงเข้มงวดเกินไปแล้ว”

พวกเขาต้องการที่จะแก้ปัญหาที่ต้นตอไม่ใช่หรือ เช่นนั้นนางก็จะแผนซ้อนแผน ใช้วิธีการแก้ปัญหาที่ต้นตอโต้กลับพวกเขา “ในเมื่อทุกคนจะลาออก เช่นนั้นข้าก็อนุญาต ประจวบเหมาะวันนี้เรามาคิดบัญชีกันให้เรียบร้อย จะได้คืนความบริสุทธิ์ให้กับทุกคน” ‘ความบริสุทธิ์’ นี้มั่วเชียนเสวี่ยพูดเสียงดัง ทั้งยังตั้งใจลากเสียงยาว

เมื่อพูดจบ ดวงหน้าของมั่วเชียนเสวี่ยฉายความลำบากใจ ทอดถอนหายใจคล้ายกำลังลังเล “ช่างเถอะ ไม่อาจลำบากทุกท่านแล้ว ถึงอย่างไรเปิดร้านไปก็ขาดทุน สู้หยุดชั่วคราว ตรวจนับข้าวของ แล้วค่อยเปิดใหม่ยังจะดีเสียกว่า”

เห็นชัดว่าทุกคนคิดไม่ถึงว่ามั่วเชียนเสวี่ยจะตอบตกลงรวดเร็วเช่นนี้ พวกเขาตกตะลึง โดยเฉพาะเถ้าแก่ทั้งแปดคน พวกเขาหน้าดำหน้าแดงกันหมดแล้ว

ตอนแรกพ่อบ้านเฟิงบอกว่า คุณหนูใหญ่เป็นคนอ่อนแอ ย่อมไม่มีวันเห็นความผิดปกติในบัญชีอย่างแน่นอน ไม่มีวันให้พวกเขาคืนเงินที่คดโกงไป

เวลานี้จวนกั๋วกงแม้กระทั่งเงินเดือนเดือนนี้ก็ไม่มีแล้ว แต่ชีวิตยังคงต้องดำเนินต่อไป ต้องรักษาเกียรติของตนเอาไว้ เกียรติคือสิ่งใด คือเงิน!

แม้ก่อนหน้านี้เขาจะแนะนำคุณหนูใหญ่ให้ขายที่นาและบ้านไร่ แต่นั่นเป็นเพียงกลยุทธ์ที่หลอกให้นางตายใจและทำให้สับสนเท่านั้น

คุณหนูใหญ่ไม่มีวันขายที่นาและบ้านไร่ก่อนแน่นอน แม้คุณหนูจะโง่เขลาและหลอกง่าย แต่ข้างกายของนางยังมีพ่อบ้านมั่ว และยังมีมั่วเหนียง สองคนนี้ไม่ใช่คนโง่เขลา

แม้พวกเขาจะเดาได้ว่าบัญชีมีปัญหา แต่พวกเขาก็ไม่อาจทำสิ่งใดพวกตนได้ สุดท้ายต้องเกลี้ยกล่อมคุณหนูใหญ่ให้ขายร้านค้าทิ้งอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น พวกตนต่างฝ่ายต่างลอบเข้าซื้อร้าน เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกตนก็ไม่ต้องเป็นบ่าวรับใช้ทำงานให้กับตระกูลมั่วอีกแล้ว แต่เป็นเจ้าของร้าน เป็นนายจ้าง…

ทว่า เหตุการณ์ในตอนนี้คืออะไร! คุณหนูไม่เพียงแต่ไม่เอ่ยปากพูดเรื่องเงิน แต่กลับฉวยโอกาสทำตามคำพูดของพวกตน เพียงถ้อยคำหนึ่งก็จะขับไล่พวกตนออกไปจนหมด

เวลานี้ พวกเถ้าแก่ล้วนอยากยกมือขึ้นตบปากตนเอง เจ็บใจที่ตนพูดไม่คิด

เฟิงต๋าเห็นโอกาสอย่างรวดเร็ว น้ำตารินไหลทันที “หากคุณหนูจะเอาผิด เช่นนั้นก็โทษที่เฟิงต๋าไร้ความสามารถ พวกเขาล้วนเป็นคนเก่าคนแก่ของฮูหยิน ทำงานตามคำสั่งของเฟิงต๋า มีความผิดใดหรือขอรับ กิจการเหล่านี้ล้วนเป็นกิจการที่ฮูหยินเหลือไว้ แล้วจะปิดง่ายๆ ได้อย่างไรขอรับ!” อ้างชื่อฮูหยินขึ้นมาก่อน จัดการคุณหนูใหญ่ให้เรียบร้อย ส่วนเรื่องอื่นค่อยวางแผนใหม่

“ยิ่งไปกว่านั้น ตั้งแต่คุณหนูใหญ่กลับมา เฟิงต๋าและเถ้าแก่ทุกคนจดจำความผิดพลาดในอดีตแล้วนำมาแก้ไขอนาคต เริ่มมีการปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลร้านค้า ระยะหลังที่ผ่านมานี้มีกิจการสองอย่างที่เริ่มดีขึ้นแล้วขอรับ…”

เขาอยากจะฉวยโอกาสนี้เอาตัวรอดตั้งแต่แรกแล้ว แม้วันข้างหน้าคุณหนูใหญ่ตรวจดูบัญชีโดยละเอียด แต่ตัวเขาก็ไปไกลแล้ว ตรวจบัญชีเรียบร้อย แม้จะเกิดเรื่องขึ้น แล้วจะเกี่ยวข้องกับเขาเช่นไร

ทว่า แม้เขาจะหนีเอาตัวรอดไปไกลแค่ไหน แต่เถ้าแก่พวกนี้ห้ามไปไหนเด็ดขาด!

เถ้าแก่พวกนี้ล้วนเป็นคนสนิทของเขา ขอเพียงพวกเขายังอยู่ ไม่ต้องกังวลว่าร้านค้าเหล่านี้จะไม่ตกถึงมือ

เจ็ดวันที่ผ่านมานี้มั่วเชียนเสวี่ยสั่งให้คนไปตรวจร้านค้าที่เฟิงต๋าดูแลหมดแล้ว แม้กิจการของร้านค้าจะไม่ได้ดีนัก แต่ก็ถือว่าไม่เลว จากการคิดคำนวณของนางเบื้องต้น รายได้ของร้านค้าบวกกับร้านค้าของโรงนาและบ้านไร่ สูญเงินไปอย่างน้อยๆ กว่าหนึ่งล้านตำลึง

หากเป็นไปได้ เวลานี้นางอยากไปหยิบสมุดบัญชีออกมา ชี้ไปยังจุดที่มีปัญหา แล้วบอกว่าเขาคดโกง สั่งคนไปค้นบ้านเรือนของเขาภายใต้หลักฐานที่แน่นหนา จากนั้นขายทั้งครอบครัวของเขาทิ้ง แล้วทุบตีเขาให้ตาย

ทว่า เขาคือชาวบ้านชนชั้นรากหญ้า ไม่ใช่ทาสรับใช้ ชีวิตของเขาไม่ได้ขึ้นอยู่ในอำนาจของจวนกั๋วกง…

หากนางทำเช่นนั้นจริงๆ ก็จะเป็นการข่มเหงและฆ่าทำลายชีวิตคน เมื่อเป็นเช่นนี้ฮองเฮาจะมีอีกหนึ่งเหตุผลในการเอาชีวิตนาง ทางด้านฮองเต้ก็จะมีจุดอ่อนของนางเพิ่มมากขึ้น ชื่อเสียงของมั่วเทียนฟ่าง จะถูกทำลายจนป่นปี้ด้วยมือของนาง

ทั้งหมดนี้ก็คือสิ่งที่เขาพึ่งพิง!

บัญชีนั้นจดบันทึกได้อย่างชาญฉลาด แม้จะมีเงื่อนงำบางอย่าง แต่บัญชีดูปกติยิ่งนัก ทุกรายรับรายจ่าย ล้วนจดบันทึกอย่างละเอียด แค่ว่ามีการปรับเปลี่ยนตัวเลขเล็กน้อย…หากเดินตามช่องทางปกติ บัญชีหลายร้อยเล่มนั้น ผ่านการตรวจสอบโดยสำนักราชการ อย่าว่าต้องใช้เวลาเจ็ดวัน ร้อยวันก็ยากจะได้ผลลัพธ์

เฟิงต๋าอยู่ในเมืองหลวงหลายปี ให้สินน้ำใจผู้คนมากมาย ทั้งยังรู้จักกับพวกเจ้าหน้าที่ชั่วช้าหลายคน เวลานี้ไม่ใช้ แล้วจะรอถึงเมื่อใด…รอถึงตอนนี้ สมุดบัญชีในสำนักราชการถูกหนูแทะ หรือไม่ก็เปียกน้ำด้วยความไม่ระมัดระวังเช่นนั้นหรือ หรือว่า…สมุดบัญชีขาดหายไปเล่มสองเล่ม ก็จะกลายเป็นคดีที่ไร้หลักฐาน สุดท้ายก็ปล่อยผ่านแล้วจบลง…

อย่างมากสำนักกฎหมายก็จะถูกจวนกั๋วกงกดดัน ยกทรัพย์สินทั้งหมดภายใต้ชื่อพ่อบ้านเฟิงแก่จวนกั๋วกง ก็ถือเป็นการให้เกียรติมากแล้ว

นางสืบจนรู้แน่ชัด พ่อบ้านเฟิงคนนี้เจ้าเล่ห์ยิ่งนัก ภายใต้ชื่อของเขาไม่มีทรัพย์สินและเงินทองมากมายเท่าใดนัก มีเพียงที่นาร้อยหมู่และเรือนขนาดเล็ก อีกทั้งเรือนนั้นยังเป็นเรือนที่มารดาของนางยกให้เขา ในอดีต เขาเป็นหัวหน้าพ่อบ้านคอยดูแลเรื่องภายนอกจวนย่อมเป็นคนที่มีหน้ามีตา

พ่อบ้านเฟิงเป็นบุตรของบ่าวรับใช้ที่ติดตามรับใช้มารดาของนางเมื่อครั้นออกจากเรือน เป็นธรรมดาที่บิดามารดาของเขาคือบ่าวรับใช้ในจวนกั๋วกง ท่านแม่จิตใจดีจึงให้เขารับบิดามารดาออกจากจวนตั้งนานแล้ว ในเรือนหลังนั้นจึงมีครอบครัวของเขาและบ่าวรับใช้อยู่กันไม่กี่คนเท่านั้น