บทที่ 86 อาเยี่ยนไม่มีทางชอบเธอ

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

จากที่เฉินฮวนฮวนดู เฟิงหานชวนอบรมพนักงานไม่ถือว่ามีอะไร แต่เลี้ยงอาหารเที่ยงเธอ เห็นได้ชัดว่าต้องการชดเชยต่อเธอ

สำหรับก่อนหน้านี้ที่รังแกเธอ เข้าใจเธอผิด เฟิงหานชวนรู้สึกติดค้างในใจ เฉินฮวนฮวนสามารถเข้าใจได้

เพียงแต่เฟิงหานชวนเคยขอโทษเธอแล้ว เธอยอมรับความหวังดีของเฟิงหานชวนหลายครั้งต่อหลายครั้ง เธอก็รู้สึกติดค้างเช่นเดียวกัน

ในเมื่อเธอยังติดเงินเฟิงหานชวนอยู่

“เงินพวกนั้น เธอไม่ต้องใช้คืนแล้ว” เฟิงหานชวนรู้สึกว่าเฉินฮวนฮวนกำลังดื้อกับเขา ในใจรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก

เงินหนึ่งแสน พูดติดปากอยู่ตลอดเวลา เขาก็แค่เลี้ยงข้าวเธอ ยังจะเบี่ยงเบนอีก

ถ้าเปลี่ยนเป็นอาเยี่ยนเลี้ยงข้าวเธอ คิดว่าเฉินฮวนฮวนคงไม่มีท่าทางแบบนี้

ตอนนี้เฟิงหานชวนยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห น้ำเสียงทุ้มต่ำลงมาก เขาค่อย ๆ ขมวดคิ้ว

รู้สึกได้ถึงบรรยากาศเยือกเย็นรอบตัวของเฟิงหานชวน เฉินฮวนฮวนก้มหน้าลงเล็กน้อย แล้วพูดเสียงเบา “อาสาม ถึงแม้ตอนนี้ฉันจะเป็นหลานสะใภ้ของคุณ แต่ฉันติดเงินคุณ เป็นคนละเรื่องกัน จำเป็นต้องคืน ฉันจะใช้ให้คุณโดยเร็วค่ะ”

หลานสะใภ้?

ได้ยินสามคำนี้ เฟิงหานชวนก็สีหน้าเปลี่ยน

“เฉินฮวนฮวน คุณพอได้แล้ว!” เขาตะคอกเสียงต่ำ

เสียงตะคอกนี้ ทำให้เฉินฮวนฮวนตกใจ เธอกะพริบตาอยู่หลายครั้ง อ้าปากค้าง แต่กลับพูดไม่ออกสักคำ

เธอถูกเฟิงหานชวนตะคอกใส่?

เมื่อครู่เฟิงหานชวนอ่อนโยนมากไม่ใช่เหรอ ทำไมจู่ ๆ ถึงได้ดุขนาดนี้?

เป็นเพราะเรื่องที่เธอจะคืนเงินเหรอ?

รู้สึกได้ถึงอารมณ์ของตัวเอง เฟิงหานชวนถอนหายใจเล็กน้อย แล้วพูดอธิบาย “ผมไม่ได้ตั้งใจตะคอกใส่คุณ คุณเป็นคนของตระกูลเฟิงแล้ว ทำไมต้องเกรงใจผมขนาดนี้?”

“ไม่สำคัญว่าจะคืนเงิน หรือทานข้าว คุณไม่ต้องขีดเส้นแบ่งจนชัดเจนขนาดนี้”

ได้ยินเฟิงหานชวนพูดแบบนี้ เฉินฮวนฮวนเชื่อว่าเขาพูดจากใจจริง ถึงได้รู้สึกว่าตัวเองระวังตัวเกินไปหน่อย

“แต่ว่า อาสาม…” เฉินฮวนฮวนเม้มปาก พูดด้วยความจริงใจ “คุณให้ฉันยืมเงินแสนหนึ่ง แถมยังช่วยฉันทำพิธีฝังศพให้คุณยาย เงินก้อนนี้ ฉันอยากจะคืนให้คุณจริง ๆ ค่ะ”

“ฉันรู้ว่าคุณไม่ขาดแคลนเงิน งั้นเอาแบบนี้ ฉันค่อยให้ของขวัญคุณในภายหลัง?”

เธอเงยหน้าขึ้น ดวงตาเป็นประกาย ยิ้มมองชายหนุ่มตรงหน้า แล้วรีบพูดขึ้น

เฉินฮวนฮวนคิดว่านี่น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดหรือเปล่า?

“ให้ของขวัญฉัน?” เฟิงหานชวนเลิกคิ้วนิดหน่อย

“ค่ะ ถ้าหากไม่ตอบแทนบุญคุณนี้กับคุณ ฉันก็จะรู้สึกติดค้าง ในเมื่อคุณไม่ให้ฉันคืนเงินคุณ งั้นฉันก็ให้ของขวัญคุณ ได้ไหมคะ?” เฉินฮวนฮวนดวงตาคมโต ตื่นเต้นจนกะพริบตาปริบ ๆ

ผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้า เหมือนกับกระต่ายน่ารักตัวหนึ่ง ทำให้คนรู้สึกมันเขี้ยวอยากรังแกเป็นอย่างมาก

“ได้สิ” แน่นอนว่าเฟิงหานชวนยินยอมอยู่แล้ว

ผู้หญิงของตัวเองมองของขวัญให้ตัวเอง ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ?

“งั้นก็เอาอย่างว่าแล้วกันค่ะ แบบนี้พวกเราจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดต่อกันและกัน” เฉินฮวนฮวนพยักหน้า รู้สึกอารมณ์ดีอย่างมาก

“ทำไมถึงอึดอัด?” เฟิงหานชวนถามกลับ

“เอ่อ ก็คือ…” เฉินฮวนฮวนคิดว่า เธอกับเฟิงหานชวนไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน

เมื่อครู่ที่เธออธิบายเยอะแยะขนาดนั้น เฟิงหานชวนไม่เข้าใจเลยเหรอ?

“คุณชายเฟิงคะ ไม่ทราบว่ารับอะไรดีคะ?” สาวเสิร์ฟเซ็กซี่คนหนึ่งรีบเดินเข้ามา

เฟิงหานชวนเป็นแขก Vip ของร้านนี้ พนักงานเสิร์ฟหญิงคนนี้ชื่อเจียงเม่ย เธอรู้สถานะของเฟิงหานชวน

เจียงเม่ยตั้งใจแกะกระดุมคอเสื้อของตัวเอง เมื่ออยู่ต่อหน้าเฟิงหานชวนก็ก้มตัวลง วางเมนูอาหารลงบนโต๊ะ ส่วนที่เป็นลูกคลื่นนั้นผลุบ ๆ โผล่ ๆ อยู่

เฉินฮวนฮวนนั่งอยู่ตรงข้าม สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน เธอใสซื่อมาก ในสมองมีเพียงความคิดเดียวคือ พนักงานเสิร์ฟสาวคนนี้รูปร่างดีมาก

เรื่องอื่นกลับไม่ได้คิดอะไรเยอะแยะ

เฟิงหานชวนหมุนเมนูอาหารและดันไปด้านหน้าเฉินฮวนฮวน แล้วพูดอย่างเฉยชา “ดูว่าอยากทานอะไร”

เฉินฮวนฮวนพยักหน้า แล้วเปิดเมนูอาหาร จากนั้นก็อึ้งไปเลย

ราคาอาหารร้านนี้ เธอค่อนข้างรับไม่ได้ แต่ในเมื่อเฟิงหานชวนพาเธอมา ถ้าหากพูดต่อหน้าคนอื่นว่าแพงเกินไป จะทำให้เฟิงหานชวนเสียหน้าได้

ดังนั้นเฉินฮวนฮวนทำได้เพียงเม้มปาก แล้วเลือกสเต๊กที่ราคาถูกที่สุด “ฉันเอาสเต๊กเนื้อที่หนึ่งก็พอแล้วค่ะ”

พูดจบเธอก็ส่งเมนูอาหารให้เฟิงหานชวน

“คุณชายเฟิงคะ คุณล่ะคะ?” เจียงเม่ยไม่ได้สนใจเฉินฮวนฮวนแม้แต่น้อย แต่ยังคงกระตือรือร้นถามเฟิงหานชวนต่อไป

เมื่อครู่เธอไม่ได้ยินที่ทั้งสองพูดคุยกัน แต่ดูจากคำพูดและการกระทำ เฉินฮวนฮวนที่อยู่ตรงข้ามไม่ใช่ผู้หญิงของเฟิงหานชวน

ดังนั้นเธอไม่มีความเกลียดชังต่อเฉินฮวนฮวนเท่าไหร่นัก

ในเมื่อข่าวซุบซิบของเฟิงหานชวนเธอได้ยินมาอยู่บ้าง สิ่งที่มีชื่อเสียงหนึ่งในนั้นก็คือ…ไม่เข้าใกล้ผู้หญิง

แต่เจียงเม่ยคิดว่า เหตุผลหลักที่ไม่เข้าใกล้ผู้หญิง เพียงเพราะว่าเฟิงหานชวนได้เห็นผู้หญิงมาเยอะแยะมากมาย ยังไม่พบคนที่จะทำให้เขามีความรู้สึกได้

เพราะเธอไม่เชื่อว่าเฟิงหานชวนเป็นเกย์ เขาไม่เหมือนสักนิด แถมเธอก็มีสัญชาตญาณ

“เอาตามมาตรฐานของผมก่อนหน้านี้สองชุด” เฟิงหานชวนรู้ว่าเฉินฮวนฮวนเกรงใจ จึงสั่งเจียงเม่ยที่อยู่ด้านข้าง

“สองชุด?” เจียงเม่ยอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถามต่อ “งั้นสเต๊กเนื้อยังจะรับไหมคะ?”

“อืม” เฟิงหานชวนมองดูเฉินฮวนฮวนที่อยู่ตรงข้าม แล้วตอบรับ

“ค่ะ คุณชายเฟิงรอสักครู่นะคะ ฉันจะรีบเอาอาหารมาเสิร์ฟให้คุณ” เจียงเม่ยพูดอย่างหยาดย้อย แล้วรีบไปสั่งอาหารที่ห้องครัว

เฉินฮวนฮวนสีหน้าประหลาดใจ

สเต๊กเนื้อคืออาหารกลางวันของเธอ แต่เฟิงหานชวนสั่งอาหารกลางวันไปสองชุด เขาจะทานสองชุด หรือว่ายังมีคนอื่นมาอีก?

“อาสาม ยังมีคนมาอีกเหรอคะ?” เฉินฮวนฮวนอดไม่ได้จึงถามขึ้น

“ไม่มี” เฟิงหานชวนตอบ

“อืม” เฉินฮวนฮวนพยักหน้า มีคำตอบในใจแล้ว

นั่นก็คือเฟิงหานชวนทานข้าวเยอะ

“เฉินฮวนฮวน”

ในตอนที่เธอกำลังเหม่อลอยอยู่ ชายหนุ่มที่อยู่ตรงข้ามก็เรียกเธอ

เฉินฮวนฮวนรีบเงยหน้ามอง แล้วถามขึ้น “อาสาม มีอะไรเหรอคะ?”

“คุณ…คิดยังไงกับอาเยี่ยน?” เฟิงหานชวนเก็บไว้ไม่อยู่แล้ว เขาอยากถามให้ชัดเจน

“ฉัน?” เฉินฮวนฮวนถูกถามแบบนี้ ในหัวก็อดคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ได้

เธอกับเฟิงเฉินเหยี่ยนคือสามีภรรยากัน แต่เมื่อคืนเป็นครั้งแรกที่นอนเตียงเดียวกัน เขาจูบเธออย่างเร่าร้อนมาก แถมยังนอนกอดเธอ

นึกได้ถึงเรื่องพวกนี้ เฉินฮวนฮวนรู้สึกหน้าเริ่มร้อนขึ้นมา

เฟิงหานชวนที่อยู่ตรงข้าม สีหน้ากลับเคร่งขรึมขึ้นมา

“อาเยี่ยนไม่มีทางชอบเธอ” เขาพูดเย็นชา

นี่ก็เหมือนน้ำเย็นกะละมังหนึ่ง ที่จู่ ๆ ก็สาดลงหัวของเฉินฮวนฮวน เธอถลึงตาโต งุนงงไปหมด

“แต่ว่า เมื่อคืนเขา…” เฉินฮวนฮวนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็หยุดชะงักไป

เมื่อคืนเฟิงเฉินเหยี่ยนอ่อนโยนกับเธอขนาดนั้น ตอนเช้าก็ทำดีกับเธอมาก น่าจะอยากเป็นคู่สามีภรรยาที่ดีกับเธอ?

“เขาทำแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน” ถึงแม้เฉินฮวนฮวนไม่ได้พูด แต่เฟิงหานชวนรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

ดังนั้นน้ำเสียงของเขาแน่วแน่มาก

คำพูดประโยคนี้ของเฟิงหานชวน ตีลงบนหัวเฉินฮวนฮวนอีกครั้ง ถึงแม้จะรู้ประวัติร้าย ๆ ของเฟิงเฉินเหยี่ยน แต่เฉินฮวนฮวนก็ยังรู้สึกตกใจ

สังเกตได้ถึงความเงียบของเฉินฮวนฮวน เฟิงหานชวนใจคอไม่ดีเท่าไหร่

“อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลเฟิง เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเฟิง ไม่จำเป็นจะต้องเป็นนายหญิงของตระกูลเฟิง” เขาจ้องมองดวงตาที่น่าสงสารคู่นั้นของหญิงสาว และพูดอย่างจริงจัง