บทที่ 194 แผนต่อต้านเดรคคลั่ง

เนื่องจากไม่มีแชทส่วนตัวในฟอรัม ผู้เล่นคนอื่น ๆ จึงมองเห็นการสนทนาทั้งหมดได้เช่นกัน โจและคนอื่น ๆ เห็นข้อความและภาพที่แนบมาของโกวต้าน ขณะที่พวกเขากําลังหนี

โจอดไม่ได้ที่จะร้องออกมาอย่างไม่พอใจว่า “ทําไมเราถึงถูกเดรควิ่งไล่ ขณะที่โควต้านทําเควสเสร็จได้แค่วิ่งต่อไปข้างหน้า นี่มันไม่ยุติธรรมเลย”

แต่หลังจากที่เขาพูดจบ ทุกคนในปาร์ตี้ของเอ็ดเวิร์ดที่ขายังคงทํางานอยู่ก็ได้รับการแจ้งเตือนจากระบบ พวกเขาได้รับเควสเดียวกันกับโกวต้าน ต่างกันแค่มีรางวัลและ EXP มากกว่าเท่านั้น

โจเงียบและคิดอย่างกังวลว่า เทพเจ้าแห่งเกมได้ยินคําบ่นของข้าหรือ?

แต่เอลีน่าก็ได้ถูกเกลือลงไปบนบาดแผลของโจด้วยจังหวะนรกว่า “…เทพเจ้าแห่งเกมต้องได้ยินคําบ่นของโจ เลยมอบเควสเพื่อชดเชยให้เราแน่ ๆ”

“เจ้าทําผิดพลาดได้ แต่เทพเจ้าแห่งเกมจะทําผิดพลาดหรือ..” เอ็ดเวิร์ดพูดด้วยน้ําเสียงรังเกียจและมั่งคงว่า “ไม่! นั่นเรียกว่าล่าช้า!”

แม้ทุกคนจะรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมางอแงเรื่องนั้น

“ไม่ว่ายังไง เควสนี้เทพเจ้าแห่งเกมก็ได้ให้คําใบ้ที่ชัดเจนแก่เราแล้ว” เจสสิก้าพูดขึ้นมาหลังจากที่เอ็ดเวิร์ดดูอึดอัดเพราะไม่มีใครพูดต่อจากแขา เธอลากมันกลับมาที่ประเด็นหลัก ขณะหอบจากการวิ่งหนีมาราธอน และพูดอย่างจริงจังว่า “ไม่มีโอกาสชนะถ้าเราสู้กับเดรคแบบตามปกติ มันต้องมีวิธีฆ่าเดรคตัวนั้น”

คนอื่น ๆ ตอบด้วยความเข้าใจ แม้เทพเจ้าแห่งเกมจะไม่ได้กล่าวถึงวิธีการฆ่าเดรคอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่มีคําถามว่าพวกเขาควรจะทํายังไงในสถานการณ์ปัจจุบัน

โจ: พวกเจ้าดึงดูดความสนใจของมันไว้ ข้าจะหลบไปข้างหลังเพื่อนมัน!

เอ็ดเวิร์ด: เราทําได้แค่ลองยืมสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอลฟ์ป่า

เจสสิก้า: เด็กคนนั้นคือกุญแจสําคัญไม่ต้องสงสัยเลย

เอลีน่า: เซฟาริม

โจ: …

โจ: พวกเจ้าดึงดูดความสนใจของมันไว้ ข้าจะขอยืมสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอลฟ์ป่าเซฟาริม และหลบไปข้างหลังเพื่อยมัน!

ทุกคนหันไปมองโจที่มั่นใจในตัวเองมาก

สายเกินไปที่จะแก้ความเข้าใจผิดของเขา

แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยคาดหวังกับสมองของโจ แต่ปฏิกิริยาของเขาก็ยัง…เกินความคาดหมายของทุกคน

อย่างไรก็ตาม เอ็ดเวิร์ดไม่สนใจการแสดงตลกโจ เขาหันไปหาบรอม-เดย์สตาร์ผู้นําของเอลฟ์ป่า

“หากยังเป็นแบบนี้ต่อไปจะไม่มีใครหนีไปได้ ดังนั้นข้ามีข้อเสนอ..”

“เจ้าไม่เคยได้ยินเรื่องแยกกันหนีเหรอ” เอลฟ์มองไปที่เอ็ดเวิร์ด และพบความตั้งใจที่จะต่อสู้กับเดรกจากสายตาของเขา นั้นเป็นการประเมินพลังของตัวเองสูงเกินไป รวมทั้งหาเรื่องตาย

เอ็ดเวิร์ดรู้อยู่แล้วว่าครึ่งหนึ่งของทุกคนที่นี่จะรอดชีวิต หากพวกเขาแยกกันหนี

ความจริงเขาก็ตั้งใจจะทําเช่นนั้นก่อนที่จะได้รับเควส

หลังจากโกวต้านแชร์เควสมา เขาก็ไม่สามารถวิ่งหนีได้อีกต่อไป

เนื่องจากเขาเป็นผู้เล่น เป็นธรรมดาที่เขาจะมีความภาคภูมิใจของผู้เล่น และใช้เส้นทางที่เทพเจ้าแห่งเกมนี้นํา เขารู้ว่าผู้เล่นหลายคนตั้งฉายาเขาว่า เอ็ดเวิร์ดปีศาจบ้าเควส แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดสําหรับเขา การทําเควสที่เทพเจ้ามอบหมายให้สําเร็จ ไม่เพียงแต่เป็นความภาคภูมิใจของเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเชื่ออย่างไม่มีเงื่อนไขต่อเทพเจ้าแห่งเกมในฐานะผู้ศรัทธาอีกด้วย

และนั่นก็ได้ทําให้เอ็ดเวิร์ดได้รับการเลื่อนขั้นให้เป็นผู้ศรัทธาที่คลั่งไคล์ แม้กระทั่งกลายเป็นผู้ศรัทธาที่มีอํานาจมากที่สุดในปัจจุบัน

“มันไม่มีประโยชน์ที่จะวิ่ง เดรคคลั่งแล้ว แม้ตอนนี้มันจะไล่ล่าแค่เรา แต่เจ้าไม่คิดบ้างหรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าจู่ ๆ มันหาเราไม่เจอ” เอ็ดเวิร์ดระบุข้อดีข้อเสียของแผนแยกกันหนี เพราะเขารู้ดีว่าวิธีปกติ จะไม่มีทางทําให้เอลฟ์ยอมให้เขายืมสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพื่อทําเควสให้สําเร็จ

“มันอาจจะตามล่าสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ และค่อย ๆ ออกจากป่าทริเนีย” บรอม-เดย์สตาร์ตอบ

“ถ้าแค่นั้นก็ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ดี เจ้าไม่ได้คิดถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่านั้นหรือ” เอ็ดเวิร์ดพูดอย่างเคร่งขรึม “ถ้าพวกเราหายไปจากสายตาของมัน มันอาจพุ่งเข้าไปในบ้านเจ้าและทําลายเผ่าเอลฟ์แห่งป่าทริเนีย!”

ความจริงคําพูดของเอ็ดเวิร์ดก็เกินไปนิด ป่าทริเนียมีขนาดใหญ่มาก และที่อยู่อาศัยของเอลฟ์ก็เป็นที่รู้กันว่าได้รับการปกป้องโดยมนต์ลวงตา แม้แต่เดรคที่บ้าคลั่งก็ยังหาที่นั่นได้ยาก นับประสาอะไรกับการทําลายมัน

แต่มันก็ไม่ถือว่าเป็นการโกหกโดยสิ้นเชิง ท้ายที่สุดไม่ว่าความเป็นไปได้จะเล็กน้อยแค่ไหน มันก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดขึ้น

นั่นคือเหตุผลที่เอ็ดเวิร์ดพนันว่า บรอมเดย์สตาร์จะไม่กล้าเสี่ยงกับเอลฟ์ทั้งเผ่าพันธุ์

“ไม่ เซฟาริมยังคงเป็นสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา เราไม่สามารถให้เจ้ายืมเธอได้!” บรอมส่ายหัวหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง

ไม่ใช่ว่าเขาไม่ให้ยืมเพราะเขาเกลียดเอ็ดเวิร์ดและคนอื่น ๆ เนื่องจากเขาโดนจับมัดต่อหน้าลูกน้องอยู่นานสองนาน แต่เขาแค่ปฏิบัติตามประเพณีของเอลฟ์ป่า

ความจริงเอลฟ์วัยผู้ใหญ่ส่วนใหญ่เป็นพวกหัวโบราณที่ไม่รู้จักความยืดหยุ่น และจะเปลี่ยนไปได้ก็ต่อเมื่อได้รับความทุกข์ทรมานอย่างหนัก แต่หลังจากพวกเขาถูกเอ็ดเวิร์ดและโจทุบ ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าวิธีการซ่อนตัวของเอลฟ์ป่าไม่มีผลกับผู้เล่นจากก้นบึงของหัวใจ

“แม้ว่าเราจะเห็นด้วย มันก็ไม่มีประโยชน์”

จากนั้นบรอมก็กล่าวเสริมว่า “เพราะเซฟาริมไม่มีทางเห็นด้วย…”

“ข้าขอขัดจังหวะหน่อยได้ไหม”

นั่นคือตอนที่เด็กหญิง สมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอลฟ์ป่าที่ถูกเอลฟ์ตนหนึ่งอุ้มอยู่บนหลัง ถามเอ็ดเวิร์ด “คนที่กลายร่างเป็นหมีนั่นเป็นเพื่อนเจ้ารึเปล่า”

“โอ้ เจ้ากําลังพูดถึงโกว- ข้าหมายถึงโตวก้าน ใช่ เขาเป็นพรรคพวกที่ไว้ใจได้ของเรา” เอ็ดเวิร์ดตอบโดยไม่เปิดเผยชื่อที่แท้จริงของโกวต้าน “เจ้าถามหาเขาทําไม?”

เด็กหญิงพยักหน้า “ใช่ เขาบ้าบินมาก ไม่เพียงเขาจะล้มเหลวในการช่วยข้า แต่เขายังถูกเหยียบโดยฝูงสัตว์ประหลาด และจากนั้นก็ถูกไล่ล่าโดยเดรค…”

ตอนที่เอ็ดเวิร์ดกําลังคิดว่าเด็กหญิงไม่พอใจโกวต้าน น้ําเสียงของเธอก็เปลี่ยนไป “อย่างไรก็ตาม หลักการของข้าคือกตัญญูรู้คุณ และตอบแทนความกรุณา เนื่องจากคน ๆ นั้นตั้งใจจะช่วยข้าจริง ๆ ข้าจะให้รางวัลโดยการให้พวกเจ้าใช้ข้า!”