บทที่ 195 หอกศักดิ์สิทธิ์เซฟาริม

แม้ว่าเธอจะพูดอย่างนั้น เอ็ดเวิร์ดก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยขณะมองไปที่เธอ

พวกเขาจะใช้สมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอลฟ์ป่ายังไง? หยิบเธอขึ้นมาแล้วโยนไปที่เดรครี?

เอ็ดเวิร์ดนึกผลลัพธ์อื่นไม่ออกจริง ๆ นอกจากปล่อยให้เดรคกินเธออย่างเอร็ดอร่อย

“ไม่ใช่ว่าเจ้าจะใช้เธอได้แม้ว่าเซฟาริมจะอนุญาต มีเพียงผู้ศรัทธาที่ซื่อสัตย์ที่สุดของเทพธิดาลูน่าเลือกเท่านั้นถึงใช้เธอได้!” บรอมเดย์สตาร์พูดแทรกขึ้นมา “และมันก็สายเกินไปที่เจ้าจะเปลี่ยนใจมาเลื่อมใสเทพธิดาแห่งจันทร์สีเงิน เช่นเดียวกับที่ข้าเสียใจที่ต้องบอกเจ้าว่า ไม่มีวีรบุรุษที่สามารถใช้หอกศักดิ์สิทธิ์ได้ปรากฏตัวขึ้นในเผ่าของเรามากว่าร้อยปีแล้ว!”

คําพูดของบรอมทําให้เอ็ดเวิร์ดหนักใจ

ในดินแดนที่เทพเจ้ามีอยู่จริง ปัญหาที่ยากที่สุดคือปัญหาเรื่องศรัทธาอย่างไม่ต้องสงสัย

ตามปกติแล้ว เอ็ดเวิร์ดและพรรคพวกของเขาไม่สามารถเปลี่ยนใจไปเลื่อมใสศาสนาอื่นชั่วคราวได้ เพราะนั่นจะส่งผลกระทบต่อตัวตนของพวกเขาในฐานะผู้เล่น และพรของเทพเจ้าแห่งเกมไปพร้อมกัน

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็ไม่สามารถสลับได้

ขณะที่เอ็ดเวิร์ดลังเล เดรคที่หายไปจากสายตาพักหนึ่งก็โผล่ขึ้นมาโดยงับเอลฟ์ป่าที่อยู่ใกล้ที่สุดขึ้นไปในอากาศ จากนั้นก็มีเสียงของเนื้อถูกเคี้ยวและกระดูกแตกดังออกมา ก่อนที่เอลฟ์ตนนั้นจะทันได้กรีดร้อง!

ไม่มีเวลาให้ลังเล!

แต่เมื่อเอ็ดเวิร์ดกําลังจะจับเซฟาริม จู่ๆเจสสิก้าก็ก้าวขึ้นมาและสวมกอดเด็กหญิงตัวน้อยแทน

“ให้ข้าทํา” เธอกล่าวอย่างอ่อนโยนแต่มุ่งมั่น “มันไม่สําคัญว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับข้า ตราบใดที่ Eleena ยังอยู่ที่นี่ ความแข็งแกร่งของกลุ่มจะไม่ได้รับผลกระทบ

จากนั้นเธอก็ก้มหน้าลงถามเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ในอ้อมแขนของเธอว่า “เป็นข้าได้ไหม?”

“จะเป็นใครก็ได้ข้าไม่มีปัญหา แต่รีบหน่อย” เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ทําหน้าบึง แก้มเล็ก ๆ ที่สกปรกของเธอป่องขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจ เธอทําราวกับว่าการให้คนอื่นใช้เธอเหมือนการโดนหมากัด

“เดี๋ยวก่อนเจสสิก้า รับนี่!” เอ็ดเวิร์ดโยนวัตถุคล้ายแอปเปิ้ลสีเงินที่เขาเก็บมาจากตัวหัวหน้าของสมาคมลับแห่งดวงตาให้กับเจสสิก้า

“นั่น…นั่นมันของข้า! ทําไมเจ้าถึงมีมัน?!” เซฟาริมถามด้วยความประหลาดใจ ขณะที่เธออ้าปากค้างมองไปที่วัตถุนั้น

“เราจะพูดถึงเรื่องนี้กันในภายหลัง ตอนนี้มันมีประโยชน์หรือไม่” เอ็ดเวิร์ดถาม

“นิดหน่อย…” เซฟาริมตอบอย่างคลุมเครือพร้อมกับทําหน้ามุ่ย “แม้ข้าจะไม่แน่ใจว่าเจ้าจะปลดปล่อยพลังของข้าได้หรือไม่ เพราะลูน่าคือคนที่ตัดสินว่าใครคือคนที่คู่ควร…”

จากนั้นเธอก็งับแอปเปิ้ลสีเงินไว้ระหว่างฟันของเธอ แล้วตัวเธอก็เริ่มส่องแสง

เมื่อแสงขยายออกไป ร่างมนุษย์ของเซฟาริมที่อยู่ในอ้อมแขนของเจสสิก้าก็หายไป สิ่งที่เหลืออยู่ในอ้อมแขนเธอคือหอกยาว 2 เมตรที่ลายไม้ ที่มีพื้นผิวเรียบเนียนอย่างน่าประหลาดใจ เหมือนได้รับการขัดมันจนสะท้อน ภาพได้ราวกับกระจก และมีกิ่งเล็ก ๆ ที่ยื่นออกมา ใบของมันเป็นสีทองและมีผลไม้สีเงินที่คล้ายกับแอปเปิ้ลสีเงินปรากฏอยู่บนกิ่ง

ไม่ใช่แค่ 1 ผลหากแต่เป็น 7 ผล

ปลายหอกเป็นกิ่งแหลม 2 อันขนานกัน มันมีรัศมีที่ไม่มีใครเทียบได้ ไม่มีทั้งใบและผล เป็นกิ่งก้านเรียบ ๆ

อันที่จริงหอกศักดิ์สิทธิ์ของเอลฟ์ป่านั้นเหมือนส้อมเสียมากกว่าหอก

ขณะนี้ยังเช้อยู่ แต่เกือบทุกคนสามารถมองเห็นแสงจันทร์ที่ส่องลงมาจากท้องฟ้าไปยังเจสสิก้า ซึ่งตอนนี้กําลังถือเซฟาริมหอกศักดิ์สิทธิ์เซฟาริมอยู่!

เห็นได้ชัดว่าฉากอันยิ่งใหญ่นี้ไม่ใช่แค่ CG เหมือนที่ซีเว่ยทํา มันเกิดขึ้นเพราะเธอเป็นที่ยอมรับจากเทพธิดาแห่งจันทร์สีเงิน

ขณะนั้นเจสสิก้ยังได้เข้าใจถึงวิธีการใช้หอกศักดิ์สิทธิ์เซฟาริม

“ไม่มีทาง! ทําไมเทพธิดาลูน่าถึงยอมให้ผู้ที่ไม่ได้ศรัทธาเธอใช้เซฟาริม?!” บรอม-เดย์สตาร์ที่เห็นทุกสิ่งตั้งแต่ต้น แต่ก็ยังเชื่อไม่ลง “นี่มันไม่มีเหตุผล!”

แต่เหตุผลนั้นง่ายมาก

ในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ซีเว่ย เขาพบว่าชื่อของเทพธิดาแห่งจันทร์สีเงิน “ลูน่า” ค่อนข้างคุ้นเคย และหลังจากตรวจสอบสักพัก เขาก็รู้ว่าเธอเป็นสมาชิกคนหนึ่งของแพนธีออนที่มองไม่เห็น

เหยื่อรายแรกของไข่ปีศาจเป็นหนึ่งในผู้ศรัทธาของลูน่า และเธอก็ได้ไว้วานให้ราชาสิงโตอัสลานจัดการกับปีศาจตนนั้น

ดังนั้นซีเว่ยจึงหยิบขนคอที่เขามีและโทรออก

ซีเว่ย: สวัสดี ท่านอยู่ไหม?

อัสลาน: ไม่อยู่มั้ง!

แม้จะมีปฏิกิริยาซึนเดเระเช่นนั้น แต่จริง ๆ แล้วราชาสิงโตอัสลานนั้นใจดี ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็มีประสิทธิภาพมากในการจัดการเรื่องต่าง ๆ นั่นอาจเป็นเพราะชื่อของเขาคือเทพเจ้าแห่งความยุติธรรม

ไม่ช้าเขาก็เชื่อมต่อให้ซีเว่ยได้คุยกับลูน่า

หลังจากนั้นซีเว่ยก็ได้รับสิทธิ์ให้ผู้ศรัทธาของเขาใช้หอกศักดิ์สิทธิ์เซฟาริม โดยการเสนอกระดูกแข่งของเทพเจ้ากระดูกเน่าเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน แต่ก็เป็นเช่นเดียวกับวิธีที่สตอฟฟ์ เทพเจ้าแห่งงานฝีมือและไวน์ชั้นดีให้วิธีเสริมแกร่งไอเทมกับเขา ซีเว่ยยังต้องใช้พลังงานเทพเจ้าของตัวเองในการเสริมพลังให้หอก เนื่องจากลูน่าให้อํานาจการใช้งานแก่ผู้ศรัทธาขอเขาเท่านั้น

แต่แค่นั่นก็เพียงพอแล้ว

“เหล่ามนุษย์ลูกของข้าเอ๋ย จงสร้างปาฏิหาริย์” ซีเว่ยพูดเบา ๆ ขณะที่เขามองลงไปยังแดนมรรตัย

เจสสิก้ายกหอกศักดิ์สิทธิ์ขึ้นเล็งไปยังเดรคที่กําลังพุ่งเข้าใส่พวกเขาอย่างน่ากลัว เธอเปิดใช้งานเซฟาริมตามคู่มือการใช้งานที่ส่งมาจากแสงจันทร์

ใบไม้และผลไม้ที่ผลิบานบนหอกเริ่มเหี่ยวเฉาก่อนจะสลายหายไป

สัญลักษณ์สีทองนับไม่ถ้วนหมุนวนอยู่รอบหอก ในขณะที่กิ่งก้านทั้งสองของมันขดพันกันจนเป็นเกลียว ตอนนี้ใครก็ตามที่ตั้งใจมองจะพบว่าด้านในหอกที่กลวงถูกบรรจุด้วยผลไม้สีเงิน

ในไม่ช้า เจสสิก้าก็รู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่างถูกระบายออกจากร่างกายของเธอ

“เจสสิก้า! เลเวลของเจ้า!” เอ็ดเวิร์ดร้องออกมาด้วยความประหลาดใจข้าง ๆ เธอ

เจสสิก้าเงยหน้าขึ้น เธอเพิ่งจะรู้ว่าเลเวลของเธอกําลังลดลง และ EXP ของเธอถูกใช้เพื่อเปิดใช้งานหอกศักดิ์สิทธิ์

ถึงกระนั้น เธอก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ

เธอเป็นจุดอ่อนของปาร์ตี้มาโดยตลอด

ด้วยการมีเอลน่าที่เป็นนักบุญหญิงฝึกหัดอยู่ในปาร์ตี้ ความจําเป็นของเจสสิก้าในปาร์ตี้จึงคลุมเครือมาโดยตลอด และไม่มีแม้แต่ผู้อ่านคนใดจะจดจําเธอได้

ดังนั้น…ครั้งนี้แหละ เธอจะเปล่งประกาย เธออยากจะส่องแสงที่เป็นของเธอ!

มิฉะนั้นเธอรู้สึกว่าเธอจะไม่มีทางติดตามเพื่อนสมัยเด็ก ที่นําเธอไปไกลแล้วได้

แต่ความจริงมักโหดร้ายเสมอ ถึงแม้เจสสิก้าคิดจะหยุดและเตรียมปล่อยมือจากเซฟาริม เธอก็ไม่มีเวลาให้ทําเช่นนั้น

เดรคกําลังจะกลืนเธอเข้าไปในเวลาไม่ถึง 10 วินาที!

“ไม่! ฉันทําไม่ได้

เธอสิ้นหวัง แต่เธอไม่ได้สิ้นหวังเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความตาย เนื่องจากเธอคุ้นเคยกับการตายในฐานะผู้เล่น

แต่เธอสิ้นหวังเมื่อต้องเผชิญกับความล้มเหลว

มาถึงขนาดนี้แล้ว เธอก็ยังคงล้มเหลว

ทุกอย่างจะจบลงแบบนี้หรือ?

“กรงเถาวัลย์!”

“รากที่บิดเบี้ยว!”

“แม้เถาวัลย์!”

“กระจกสะท้อนแสงศักดิ์สิทธิ์!”

เอลฟ์ที่หลบหนีไม่รู้ว่าเมื่อใดที่พวกเขาหันกลับมาร่ายเวทย์ใส่เดรค และทําทุกอย่างเท่าที่จะทําได้เพื่อหยุดยั้งการรุกคืบของมัน

จากนั้นฝ่ามืออุ่น ๆ หลายมือก็แตะเข้าที่แผ่นหลังของเจสสิก้า และแบ่งปัน EXP ที่เธอระบายออกไป

เธอแปลกใจที่ได้พบเอ็ดเวิร์ด โจ เอลีน่า และแม้แต่โกวต้านที่พวกเขาไม่ได้เห็นหน้ามานาน วิ่งกลับมาเพื่อช่วยเธอ

พวกเขาไม่ได้หยิบเซฟาริมอย่างกล้าหาญไปจากเธอ และเข้ามาแทนที่เธอเพื่อสังหารเดรค และพวกเขาก็ไม่โทษเธอสําหรับการกระทําที่ไม่มีความหมายอื่นใด นอกจากทําไปเพื่อความพึงพอใจของเธอเอง

พวกเขาสนับสนุนเธอจากข้างหลังอย่างเงียบ ๆ กําลังรอให้เธอผจญภัยร่วมกับพวกเขาต่อไป

เจสสิก้าน้ําตาแทบไหล

อย่างไรก็ตาม เธอฝันยิ้มในขณะที่หันหน้าไปทางเดรคอย่างจริงจัง และปลดปล่อยพลังของเซฟาริม

มันเหมือนมีดอกไม้สีเงินขนาดใหญ่กําลังเบ่งบานบนโลกเงียบ ๆ การโจมตีนั้นงดงามอย่างหาที่เปรียบมิได้

ขณะนั้นเหมือนโลกทั้งใบถูกปล้นแสงสว่าง แม้แต่ผู้คนที่อยู่ห่างไกลจากป่า ก็ยังสามารถมองเห็นดอกไม้ที่กําลังเบ่งบานดอกนี้ได้

เมื่อดอกไม้ร่วงโรย ทุกอย่างก็กลับสู่ความสงบ เดรคหายไปอย่างสมบูรณ์พร้อมกับพื้นดินขนาดมหึมา ทิ้งไว้เพียงปล่องภูเขาไฟล็กบนพื้น….ที่มีน้ําใต้ดินไหลขึ้นมาดั่งน้ําพุ

“ใช้เซฟาริมและปลดปล่อยพลังระดับนี้ได้…เจ้าเป็นใคร ไม่ เจ้าเป็นอะไรกันแน่” บรอมอดไม่ได้ที่จะละเมอออกมา แม้ว่าเขาจะมองเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าชัดเจนแล้วก็ตาม

เจสสิก้ายังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง เธอเช็ดน้ําที่ปริ่มอยู่ตรงหางตา และตอบด้วยรอยยิ้มว่า

“ผู้เล่น เราเป็นเพียงผู้เล่นที่ผ่านทางมา”

เซฟาริม มีรูปลักษณ์เหมือนหอก (ส้อม) แต่จริง ๆ เป็นปืนใหญ่นะคะ 555+

สมัยนั้นยังไม่มีปืนไง รูปร่างคล้ายหอกก็เลยเรียกว่าหอก เข้าใจตรงกันนะ