จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​มีส​ถานะ​เป็น​ถึง​ประมุข​ ​และ​ประมุข​ก็​มิ​อาจ​ทำตาม​อำเภอใจ​ตนเอง​ ​นอกจาก​บรรดา​องค์​ชาย​แล้ว​ ​กับ​เหล่า​ขุนนาง​ก็​มิใช่​ว่า​ใคร่​จะ​ให้รางวัล​ก็​ให้รางวัล​ ​ใคร่​อยาก​จะ​ลงโทษ​ก็​ออกคำสั่ง​ลงโทษ

แม้ว่า​เขา​จะ​รู้สึก​เห็นใจ​คุณหนู​ผู้เคราะห์ร้าย​อย่างไร​ก็​มิ​อาจม​อบ​รางวัล​ตามอำเภอใจ​ ​เพราะ​หาก​ฝ่าย​ตรวจการ​ชี้​ความผิด​ใน​ฐาน​หลงเสน่ห์​สตรีเพศ​และ​หวัง​จะ​ขยับขยาย​วังหลัง​จะ​ทำ​เช่นไร

เมื่อ​ขบคิด​ได้​เช่นนั้น​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​จึง​หัน​มองหน้า​ลูกชาย​ ​ส่ง​ยิ้ม​พลาง​บอก​ ​“​จะ​ว่า​อย่างไร​เขา​ก็​เป็น​ลูกพี่ลูกน้อง​ของ​เจ้า​ ​อย่า​ไป​พูด​ให้​เสียหาย​เช่นนั้น​เลย​”

ใบหน้า​ของ​อวี​้​จิ​่​นมิ​ได้​แสดง​ความรู้สึก​ใดๆ​ ​“​ลูก​ว่า​ไป​ตามเหตุผล​ ​หา​ใช่​เพราะ​สายเลือด​เดียวกัน​”

ไม่ว่า​จะ​ด้วย​เหตุผล​ ​หรือ​ด้วย​สายเลือด​ ​สุดท้าย​แล้วก็​ทำ​เพื่อ​อา​ซื่อ​ทั้งนั้น​ ​จะ​ช้า​จะ​เร็ว​เขา​ก็​ต้อง​คิดบัญชี​กับ​คนชั่ว​อย่าง​จี้​ฉง​อี้​แทน​อา​ซื่อ​ให้​ได้

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ถอนหายใจ​ ​“​เจ้า​น่ะ​ ​เหมาะ​จะ​ทำงาน​กับ​เจิน​ซื่อ​เฉิง​แล้ว​ล่ะ​”

เป็น​คนตรง​ไป​ตรง​มา​เช่นนี้​ ​แม้แต่​วาจา​รื่นหู​ยัง​พูด​ไม่​เป็น​ ​ไม่​เหมือน​เชื้อพระวงศ์​เลย​สักนิด

ทว่า​ไม่ทราบ​ด้วย​เหตุผล​ใด​ ​ถึงแม้​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​คร้าน​จะ​ใส่ใจ​ ​แต่​ลึก​ๆ​ ​ก็​อด​เป็นห่วง​ไม่ได้

“​เจ้า​ทำงาน​ได้​ไม่เลว​ ​อีกหน่อย​ก็​ทุ่มเท​ให้​มากขึ้น​ ​ออก​ไป​ได้​แล้ว​”

“​ลูก​ทูล​ลา​เสด็จ​พ่อ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​แม้​จะ​เดิน​ออก​นอก​ประตู​วัง​ไป​แล้ว​ ​อวี​้​จิ​่​นก​็​ยังคง​งงงวย​อยู่​ว่า​สุดท้าย​แล้ว​ตน​ถูก​เรียก​เข้า​วัง​มาด​้ว​ยสา​เหตุใด

ชายหนุ่ม​หันหลัง​กลับ​ไป​มอง​กำแพง​วัง​ที่สูง​ตระหง่าน​อีกครั้ง​ ​นัยน์ตา​สีนิล​คู่​งาม​หรี่​ลง​เล็กน้อย​เนื่องจาก​แสง​จ้า​ที่​สาดส่อง​ลงมา

พาน​ไห่​ขันที​อาวุโส​เฝ้ามอง​ภาพ​เบื้องหน้า​ด้วย​ความคิด​ที่ว่า​ ​องค์​ชาย​เจ็ด​ที่​กำลัง​เสด็จ​ออกจาก​วัง​ในขณะนี้​แตกต่าง​ไป​จาก​องค์​ชาย​เจ็ด​ในขณะที่​เขา​ไป​เชิญ​มา​เข้าเฝ้า​ฮ่องเต้​ ​แต่​ครั้น​จะ​ให้​บอกว่า​มีสิ​่ง​ใด​แตกต่าง​ออก​ไป​กลับ​ไม่​สามารถ​อธิบาย​ออกมา​เป็น​คำพูด​ได้

บางที​องค์​ชาย​คงจะ​ยัง​ไม่​คุ้นเคย​กับ​กรอบ​ธรรมเนียม​ของ​วัง​หลวง​กระมัง

พาน​ไห่​กลับ​เข้าไป​ใน​วัง​ ​และ​รายงาน​ฮ่องเต้​จิ​่ง​หมิง​ว่า​อวี​้​จิ​่​นก​ลับ​ออก​ไป​เรียบร้อย​แล้ว

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​วาง​หนังสือ​บทละคร​ที่​บังหน้า​ลง​ ​และ​เหลือบมอง​ไป​ที่​พาน​ไห่​พลาง​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​ว่า​เยี​่​ยน​อ๋อง​เป็น​คน​อย่างไร​”

พาน​ไห่​ตัวสั่น​

เขา​จะ​พูด​วิพากษ์วิจารณ์​องค์​ชาย​ได้​ก็ต่อเมื่อ​เขา​เสียสติ​ไป​แล้ว​เท่านั้น

“​บ่าว​มิค​่อย​คุ้นเคย​กับ​เยี​่​ยน​อ๋อง​จึง​มิ​อาจ​กราบทูล​ได้​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​จ้อง​ไป​ที่​พาน​ไห่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​หัวเราะ​ออกมา​ ​“​เอาเถอะ​ ​เจ้า​ไป​เถอะ​”

อาจ​เป็น​เพราะ​เขา​เอง​ก็​ไม่​ต่าง​อะไร​กับ​เหล่า​องค์​ชาย​ที่เกิด​และ​เติบโต​ใน​วัง​ ​ฉะนั้น​เมื่อ​ได้​พบ​กับ​อวี​้​จิ​่​นที​่​เติบโต​มาท​่า​มก​ลาง​ไพร่​ฟ้า​ประชาชน​ทั่วไป​จึง​ยาก​จะเข้า​ใจความ​เป็นไป​ของ​เขา

เพียงแต่ว่า​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ก็​มิทั​นรู​้​ตัว​เลย​ว่า​ ​หาก​มนุษย์​เรา​เกิด​ความสงสัย​ใคร่รู้​ใน​ตัว​อีก​คน​แล้ว​ ​มักจะ​มีความรู้สึก​เห็นอกเห็นใจ​เกิดขึ้น​ตามมา​ด้วย

จำต้อง​รู้จัก​อดทน​อดกลั้น​ให้​มากขึ้น​จึง​จะ​สามารถ​รับรู้​ได้​ว่า​อีก​ฝ่าย​กำลัง​ทำ​อะไร

การกระทำ​ของ​ฮ่องเต้​ผู้มีอำนาจ​สูงสุด​สร้าง​ความสงสัย​ให้​แก่​ผู้คน​จำนวนมาก​ ​หลังจาก​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ได้​ถามไถ่​ความเป็นไป​จาก​เหล่า​ขุนนาง​หก​กรม​ ​และ​ได้​เรียก​เยี​่​ยน​อ๋อง​มา​เข้าเฝ้า​เป็นการ​ส่วนตัว​ ​อีกทั้ง​ยัง​สั่ง​ให้​พาน​ไห่​ซึ่ง​เป็น​ขันที​อาวุโส​ออก​ไป​ส่ง​ด้วย​ตนเอง​ ​ทำให้​คนอื่นๆ​ ​เริ่ม​คาดเดา​กัน​ไป​ต่างๆ​ ​นานา

หรือว่า​เยี​่​ยน​อ๋อง​ได้รับ​ความ​โปรดปราน​จาก​ฮ่องเต้​อย่างนั้น​หรือ

หรือ​จะ​เป็น​คู่แข่ง​ไท่​จื่อ​?​ ​คน​ไร้​ตัวตน​เช่นนี้​ ​จะ​มี​ใคร​กล้า​เอา​องค์​ชาย​ที่​ถูก​เลี้ยงดู​ท่ามกลาง​สามัญชน​มา​เทียบ​ชั้น​กับ​ไท่​จื่อ​ผู้​ทรง​ประทับ​อย่างมั่นคง​ใน​วัง​ตะวันออก​ได้​เล่า

องค์​ชาย​ที่​ได้รับ​ความ​โปรดปราน​ใน​สายพระ​เนตร​ฮ่องเต้​กับ​องค์​ชาย​ที่​ไม่อยู่​ใน​ความทรงจำ​ของ​ฮ่องเต้​ย่อม​แตกต่าง​กัน​โดยสิ้นเชิง

ถึง​เยี​่​ยน​อ๋อง​จะ​มิ​อาจ​เทียบ​ชั้น​กับ​ไท่​จื่อ​ได้​ ​ทว่า​เขา​จะ​ช่วย​ผู้อื่น​ให้​ชิง​บัลลังก์​ไท่​จื่อ​ไม่ได้​เชียว​หรือ

อย่างเช่น​ฉี​อ๋อง​ ​องค์​ชาย​สี่

ครั้น​จะ​พูด​ไป​แล้ว​ ​ใน​บรรดา​องค์​ชาย​ทั้งหมด​ ​ฉี​อ๋อง​ก็​นับว่า​เป็น​ผู้​ที่​ได้รับ​ความนิยม​สูงสุด​ ​ทั้ง​ยัง​เป็น​ผู้​ปรีชาสามารถ​และ​เพียบพร้อม​ไป​ด้วย​คุณธรรม

เหล่า​สนม​ใน​วัง​เป็น​กลุ่มคน​แรก​ๆ​ ​ที่​ได้​ทราบ​ข่าว​นี้​ ​ครั้น​เสียน​เฟย​ได้รับ​รู้เรื่องราว​ที่เกิด​ขึ้น​ ​ความคิด​ของ​นาง​ก็​เปลี่ยนไป​ทันที

เดิมที​นาง​มองว่า​เจ้า​เจ็ด​เป็น​พวก​ไม่เอาถ่าน​ ​แต่​พอ​มา​วันนี้​กลับ​รู้สึก​ว่า​เป็น​คนใช้​การ​ได้ดี​ทีเดียว

องค์​ชาย​สี่​มีแวว​กว่า​ใคร​ทั้งหมด​ ​เสียดาย​ก็​แต่​ประสูติ​ช้า​เพียง​ไม่​กี่​ปี​เท่านั้น​ ​แต่​หาก​มี​แรง​สนับสนุน​จาก​พระอนุชา​ที่​ได้รับ​ความ​โปรดปราน​จาก​ฮ่องเต้​ ​หนทาง​ข้างหน้า​ก็​คง​ง่ายดาย​ขึ้น​มาก

เสียน​เฟย​ทราบ​ดี​ว่าการ​เป็น​ที่​โปรดปราน​ของ​ฮ่องเต้​นั้น​เป็น​อย่างไร​ ​ซึ่ง​ดูตัว​อย่าง​ได้​จาก​องค์​ชาย​หก

ในเวลานั้น​พระสนม​จ้วง​ ​พระมารดา​ของ​องค์​ชาย​หก​เป็น​ผู้​มี​วาทศิลป์​โดดเด่น​ ​แต่​ครั้น​พอ​ชันษา​มาก​เข้า​ก็​มิได้​เป็น​ที่​โปรดปราน​เฉกเช่น​ที่ผ่านมา​ ​แต่​เพราะ​มี​องค์​ชาย​หก​ที่​เป็น​ที่​โปรดปราน​ของ​ฮ่องเต้​ ​เมื่อใด​ที่​เขา​สร้าง​ความ​สราญ​ให้​แก่​ฮ่องเต้​ได้​ ​ฮ่องเต้​ก็​มักจะ​เสด็จ​เข้าไป​หา​จ้วง​เฟย

ฉะนั้น​ทั้ง​ตำแหน่ง​เล็ก​ใหญ่​ใน​วัง​หลวง​จึง​ไม่มี​ผู้ใด​กล้า​ดูแคลน​จ้วง​เฟย

เสียน​เฟย​เป็น​คน​ตัดสินใจ​ทำ​สิ่งใด​ได้​อย่างว่องไว​ ​ทันทีที่​อวี​้​จิ​่​นก​ลับ​มาถึง​เรือน​ใน​ตรอก​เช​วี่ย​จื่อ​ ​ขันที​คนสนิท​ของเสียน​เฟ​ยก​็​รีบ​นำ​ของกำนัล​จำนวนมาก​มาถ​วาย​ถึงที่

เอ้อร​์​หนิว​ยืน​ขว้าง​อยู่​ที่​หน้า​ประตู​ไม่​ให้​ขันที​ผู้​นั้น​เข้าไป

ขันที​เอ่ย​เสียงแหลม​ ​“​ไอ้​เจ้า​สัตว์​หน้า​ขน​ ​อย่า​มา​ขวางทาง​ข้า​!​”

แค่​เอ้อร​์​หนิว​ได้ยิน​ก็​ฉุน​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​มัน​กระโจน​เข้าใส่​จน​ขันที​จน​เขา​ล้ม​ลง​ไป​กอง​กับ​พื้น​ ​จากนั้น​มัน​ก็​เข้าไป​งับ​ก้น​ของ​ขันที​ผู้​นั้น

ขันที​ร้อง​โหยหวน​ ​“​พวก​เจ้า​ตาย​แล้ว​หรือ​อย่างไร​ ​ไฉน​จึง​ไม่​รีบ​มาไล​่​ไอ้​สัตว์​หน้า​ขน​นี่​!​”

หลง​ต้าน​ประสานมือ​ไว้​ที่​อก​เป็น​เชิง​คารวะ​ ​พลาง​เอ่ย​เตือน​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​เอ้อร​์​หนิว​เป็น​ถึง​แม่ทัพ​เซี่ยว​เทียน​ชั้น​ห้า​ ​เป็น​ตำแหน่ง​ที่​ฮ่องเต้​ทรง​แต่งตั้ง​โดย​พระองค์​เอง​”

เมื่อ​สาม​ปีก่อน​มี​เหตุ​สู้รบ​กัน​ระหว่าง​ต้า​โจว​และ​หนาน​หลาน​ ​นายท่าน​ได้รับบาดเจ็บ​สาหัส​ ​เอ้อร​์​หนิว​เข้าไป​กัด​ศัตรู​ที่​กำลังจะ​ทำร้าย​เจ้านาย​ที่​กำลัง​เข้าใกล้​ความตาย​อยู่​รอมร่อ​ ​อีกทั้ง​ยัง​ลาก​เจ้านาย​ออกมา​จาก​กอง​ซากศพ​เหล่านั้น​

เป็นเหตุให้​ขา​ข้าง​หนึ่ง​ของ​เอ้อร​์​หนิว​ใช้การไม่ได้

เอ้อร​์​หนิว​ไม่เพียงแต่​ช่วยชีวิต​องค์​ชาย​เท่านั้น​ ​เพราะ​คนที​่​ถูก​เอ้อร​์​หนิ​วกัด​ตาย​คือ​ท่าน​อ๋อง​แห่งหนาน​หลาน​ ​สงคราม​ขยายวง​กว้าง​เข้ามา​ถึง​เมืองหลวง​ ​แม้​เอ้อร​์​หนิว​เป็น​เพียง​สุนัข​ตัว​หนึ่ง​ ​ทว่า​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ก็​มิได้​ทรง​สดับ​ฟัง​เสียง​ทัดทาน​ของ​เหล่า​ขุนนาง​ ​แต่​ทรง​มีพ​ระ​ราชโองการ​แต่งตั้ง​เอ้อร​์​หนิว​ขึ้น​เป็น​แม่ทัพ​เซี่ยว​เทียน​ชั้น​ห้า

ครั้น​หลง​ต้าน​ว่า​จบ​ ​ขันที​ผู้​นั้น​ก็​ชะงัก​ไป​ทันที​ ​ยังคง​สับสน​ว่า​เรื่อง​ที่​ได้ยิน​นั้น​เป็นเรื่อง​จริง​หรือ​เรื่อง​แต่ง

หลง​ต้าน​หัวเราะเยาะ​ ​“​เพิ่ง​ผ่าน​มาสาม​ปีก​ลับ​ไม่มี​ผู้ใด​จำ​เรื่อง​นี้​ได้​แล้ว​ ​หรือว่า​พวก​เจ้า​ต้องการ​จะ​ดู​เหรียญทองแดง​ที่​คอ​ของ​ท่าน​แม่ทัพ​เซี่ยว​เทียน​?​”

เมื่อ​เอ้อร​์​หนิว​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ปล่อย​ปาก​ที่​งับ​อยู่​ ​และ​เหยียด​ตัว​ขึ้น​พลาง​สะบัด​ให้​เหรียญทองแดง​ขยับ​ลงมา​อยู่​ที่​กลาง​ลำคอ

สุนัข​ตัว​ใหญ่​ท่าทาง​สง่างาม​และ​น่า​ครั่นคร้าม​หันไป​จ้องมอง​เหล่า​ขันที​ที่​ยืน​นิ่ง​เป็น​ท่อนไม้

“​เห็น​แล้ว​ใช่ไหม​ ​หากว่า​กันตาม​จริง​แล้ว​ ​ยาม​ที่​พวก​เจ้า​พบ​กับ​เอ้อร​์​หนิว​ควรจะ​ทำความเคารพ​เสียด​้วย​ซ้ำ​ไป​ ​และ​นี่​ยัง​จะ​ตี​มัน​อีก​หรือเปล่า​ ​รู้​หรือไม่​ว่า​โทษ​ของ​การ​หมิ่น​เบื้องสูง​เช่นนี้​จะ​ต้อง​เข้า​คุก​สถาน​เดียว​”​

เหล่า​ขันที​งงงัน​หนัก​กว่า​เก่า​ ​พลาง​เบน​สายตา​ลง​ไป​มอง​หัวหน้า​ขันที​ที่อยู่​ที่​พื้น​อย่าง​เสียมิ​ได้

หัวหน้า​ขันที​ลูบ​ก้น​ตัวเอง​พลาง​ยัน​ร่าง​ขึ้น​มาด​้วย​ความยากลำบาก​ ​จาก​ที่จะ​อ้าง​พระนาม​เสียน​เฟย​เพื่อ​ข่มขวัญ​ ​กลับ​ต้อง​มา​พบ​คม​เขี้ยว​ของ​เจ้า​สุนัข​ตัว​ใหญ่​เสีย​เอง

หัวหน้า​ขันที​กลัว​จน​ตัวสั่น​ ​เขา​รีบ​วิ่ง​กลับ​ไป​ด้วย​ความอับ​อาย

เหล่า​ขันที​ที่​เหลือ​ต่าง​ก็​กระจัดกระจาย​ไป​ตาม​ๆ​ ​กัน

ใน​ชั่วพริบตา​ความสงบ​ก็​กลับมา​เยือน​ ​มี​เพียง​ของกำนัล​ส่งแสง​พร่างพราว​ที่​ถูก​กอง​ทิ้ง​ไว้​ที่​พื้น

เอ้อร​์​หนิว​เหยียบ​ข้าม​สิ่งของ​พวก​นั้น​ ​และ​เดิน​เข้าไป​คลอเคลีย​มือ​อวี​้​จิ​่​นที​่​เดิน​มา​เงียบๆ​ ​อย่าง​ออดอ้อน

ใบหน้า​เย็นชา​ของ​อวี​้​จิ​่น​ปรากฏ​รอยยิ้ม​บาง​ๆ​ ​ชายหนุ่ม​เอื้อมมือ​ไป​ลูบ​หัว​เอ้อร​์​หนิว​พลาง​บอก​ ​“​ทำได้​ดีมาก​ ​เดี๋ยว​ให้​หลง​ต้าน​ไป​ซื้อ​เนื้อวัว​ตุ๋น​ซีอิ๊ว​มา​ให้​”

“​โฮ่ง​ๆ​”​ ​เอ้อร​์​หนิว​เห่า​อย่าง​พอใจ​ ​แล้ว​เดิน​เบียด​เจ้านาย​เข้าไป​แทะ​กระดูก​ของ​ตัวเอง​ต่อ

ใต้​ร่มเงา​ของ​ต้นไม้​ ​กลิ่นหอม​ของ​เนื้อ​ติด​กระดูก​ใน​กะละมัง​โชย​ไป​ทั่ว​ ​เอ้อร​์​หนิว​เลือก​กระดูก​ชิ้น​ที่​ต้องตา​ที่สุด​ขึ้น​มา​แทะ​ ​หาง​ใหญ่​ๆ​ ​ของ​มัน​ส่าย​ไปมา​ครั้งแล้วครั้งเล่า

อื​้ม​ ​ได้​กิน​กระดูก​เช่นนี้​ ​หาก​มีนาย​หญิง​อยู่​ด้วย​ ​ชีวิต​ของ​เจ้า​สุนัข​คงจะ​สมบูรณ์แบบ

หลง​ต้าน​หันไป​มอง​ของกำนัล​ที่​กอง​อยู่​ที่​พื้น​พลาง​หันไป​มอง​สีหน้า​เย็นชา​ของ​อวี​้​จิ​่น​ ​และ​ถาม​ลองเชิง​ไป​ว่า​ ​“​เจ้านาย​ ​ต้องการ​ให้​บ่าว​เอา​ของ​พวก​นี้​ไป​โยนทิ้ง​ข้าง​ถนน​หรือไม่​ขอรับ​”

อวี​้​จิ​่น​ยิ้มเยาะ​ ​“​เหตุใด​ถึง​ต้อง​โยนทิ้ง​ ​ของดี​ก็​เก็บ​ไว้​ใช้​!​”

เขา​ไม่เคย​ทำ​เรื่อง​โง่เขลา​โดย​การนำ​ความโกรธ​เกลียด​ที่​มีต​่อ​ตัว​บุคคล​ไป​ลง​กับ​สิ่งของ

จะ​ดี​จะ​ร้าย​ ​ล้วนแต่​เป็นเรื่อง​ของ​การกระทำ​ ​มิได้​เกี่ยวข้อง​กับ​วัตถุ​สิ่งของ

เอ้อร​์​หนิ​วก​่อ​เรื่อง​เช่นนี้​ ​ผู้คน​ที่​สนใจ​เป็น​ทุนเดิม​จึง​รับรู้​ความเคลื่อนไหว​ที่เกิด​ขึ้น

เดิมที​ไท่​จื่อ​วางแผน​จะ​หา​โอกาส​กำจัด​อวี​้​จิ​่น​เงียบๆ​ ​จะ​ได้​ไม่มีใคร​ร่วมมือ​กับ​องค์​ชาย​สี่​สร้างเรื่อง​ปวดหัว​ให้​กับ​ตน​ใน​ภายหลัง​ ​แต่​พอ​มา​วันนี้​ได้ยิน​ว่า​แม้แต่​คน​ของเสียน​เฟย​ยัง​มิ​อาจ​ผ่าน​ประตู​ตรอก​เช​วี่ย​จื่อ​เข้าไป​ได้​ก็​ปีติ​ยินดี​ยิ่งนัก

หึ​ ​ดูเหมือนว่า​เขา​จะ​ไม่ต้อง​รีบร้อน​เป็นตัว​ร้าย​ ​เพราะ​เจ้า​เจ็ด​แปลกแยก​จาก​พี่น้อง​คนอื่นๆ​ ​โดยสิ้นเชิง