ตอนที่ 256 พบลูกชายของพี่พ่านแล้ว

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 256 พบลูกชายของพี่พ่านแล้ว

ตอนที่ 256 พบลูกชายของพี่พ่านแล้ว

ปฏิกิริยาที่แสดงออกอย่างเจ็บปวดของหลิวพ่านพ่าน ทำให้หยางหยางที่กำลังเล่นกับไป๋จือหม่าตื่นตกใจ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นทันทีและรีบไปหาหลิวพ่านพ่าน

หลิวพ่านพ่าน ไม่ได้กอดเขาเหมือนเคย แต่เธอกลับไร้ความปรานีและปิดกั้นเขา ป้องกันไม่ให้เขากระโดดเข้าสู่อ้อมแขนของเธอ

ใบหน้าของหยางหยางสับสนอยู่ครู่หนึ่ง เขามองไปที่หลิวพ่านพ่านและถามทั้งน้ำตา

“แม่ แม่ ผมอยากกอดแม่”

หลิวพ่านพ่านน้ำตาไหล “หยางหยางเด็กดี ฉันคือคุณครูเสี่ยวพ่าน ไม่ใช่แม่ของหนู”

เถ้าแก่ซูพูดถูก เธอไม่สามารถเห็นแก่ตัวขนาดนี้ และปฏิบัติต่อเด็กคนอื่นแทนเยี่ยนเยี่ยนได้

เพราะแบบนี้มันเหมือนกับทำร้ายเด็กทั้งคู่

และ…เผื่อในกรณีที่เยี่ยนเยี่ยนยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ หากว่าเขากำลังรอเธออยู่จริง ๆ ล่ะ

หยางหยางเงยหน้าขึ้น เขาตอบสนองอย่างรวดเร็วด้วยความเข้าใจ

ถูกทิ้งอีกแล้ว!

เขายืนอยู่ตรงนั้นอย่างช่วยไม่ได้ จิตใจของเขาเต็มไปด้วยหวาดกลัว ริมฝีปากสั่นระริก และร่างกายก็แข็งเกร็ง

หลิวพ่านพ่านหันหน้าหนีด้วยความเสียขวัญ

ซูเถารีบอุ้มเขาเอาไว้ในอ้อมแขน “ไม่เป็นไรนะไม่เป็นไร แม่เสี่ยวพ่านไม่ค่อยสบาย ตอนนี้เธอไม่สามารถกอดหนูได้นะ ไม่ใช่ว่าเธอไม่ต้องการหนูนะ คนดี ให้พี่สาวกอดหนูก่อนได้ไหม…”

หยางหยางหายใจเข้าลึก ๆ และร้องไห้ออกมา

หลิวพ่านพ่าน กำลังร้องไห้อย่างควบคุมไม่ได้

และสุดท้ายเธอก็โทรไปขอให้อาจารย์ใหญ่เหมียวให้พาหยางหยางกลับไปก่อน

เมื่ออาจารย์ใหญ่เหมียวทราบเหตุผล เธอยิ่งไม่พอใจหลิวพ่านพ่านมากขึ้นไปอีก

เธอเป็นคนที่ต้องการเลี้ยงดูหยางหยาง และเธอก็เป็นคนที่ผลักหยางหยางออกไปในที่สุด

เด็กกำพร้ามีความอ่อนไหว นับประสาอะไรกับเด็กอย่างหยางหยาง ที่ถูกพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดทอดทิ้งตั้งแต่เขาจำความได้

นี่เป็นการบาดเจ็บครั้งที่สองของหยางหยางที่หลิวพ่านพ่านเป็นคนก่อขึ้น

แต่เนื่องจากเถ้าแก่ซูอยู่ตรงนั้น อาจารย์ใหญ่เหมียวจึงไม่สามารถพูดอะไรได้ ดังนั้นจึงอุ้มหยางหยางที่ร้องไห้จนเหนื่อยและหลับไปกลับไปในที่สุด

หลิวพ่านพ่านไม่รู้ตัวว่าความเจ็บปวดอันยิ่งใหญ่ถาโถมสู่ร่างกายและจิตใจของเธอ เธอตัวอ่อนปวกเปียกอยู่บนพื้น และชักเกร็งอย่างรุนแรง

เมื่อซูเถาเห็นเธอเป็นแบบนี้ เธอก็ทำอะไรไม่ถูก และรีบโทรหาหมอจงและเฉินซีทันที

จงเกาอี้ทำการตรวจและพูดด้วยเสียงทุ้ม

“เธอได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจ ตอนนี้อย่าเพิ่งคุยอะไรกับเธอ ส่งเธอไปที่ห้องตรวจก่อน”

หลิวพ่านพ่านเป็นลมหมดสติไป และไม่มีวี่แววว่าจะตื่นเลยจนกระทั่งมืด

ซูเถาอยู่ในอารมณ์ที่สับสน และอดไม่ได้ที่จะพูดคุยกับผู้อาวุโสเหม่ย

ผู้อาวุโสเหม่ยเพิ่งรู้เรื่องว่าหลิวพ่านพ่านหมดสติไป และตอนนี้เมื่อเขาเจอกับซูเถา เธอมาหาเขาด้วยความกังวลมากมาย เขาจึงถอนหายใจยาว

“บอกฉันที มันเกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวพ่านที่ทำให้เธอกังวลแบบนี้”

ซูเถาเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า “พบลูกชายของพี่พ่านแล้วค่ะ”

ผู้อาวุโสเหม่ยรู้สึกประหลาดใจ “พบแล้วเหรอ อยู่ที่ไหน ทำไมเธอไม่บอกเสี่ยวพ่านล่ะ ไม่สิ ถ้าเป็นเรื่องดี เธอคงไม่มาหาฉันด้วยใบหน้าเศร้าหมองแบบนี้ใช่ไหม”

ซูเถายิ้มอย่างขมขื่น “ไม่ใช่เรื่องดีจริง ๆ ค่ะ ลูกชายของพี่พ่านกลายเป็นโบนวิงส์ มันบุกมาทางใต้และเพิ่งโจมตีฐานเหอคังไป ตอนนี้ที่เหอคังนองไปด้วยเลือด และคาดว่าจะใช้เวลาไม่ถึงสัปดาห์พวกมันน่าจะมาถึงเถาหยาง และเป้าหมายคือพี่พ่าน…”

เมื่อผู้อาวุโสเหม่ยได้ยินสิ่งนี้ เขารู้สึกว่ามีสายฟ้าผ่าลงกลางศีรษะตนเอง ทำให้ดวงตาว่างเปล่า

ดวงตาของเขาเบิกกว้างเล็กน้อย “งั้นแปลว่าวันนี้เธอก็เลยพูดกับเสี่ยวพ่านใช่ไหม เธอเลยได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจ…?”

ซูเถาส่ายหัว “ตอนแรกฉันอยากจะพูด แต่ฉันกลัวว่าเธอจะรับไม่ได้ ดังนั้นฉันจึงทดสอบจิตใจเธอเรื่องหยางหยางก่อน แล้วก็เป็นอย่างที่คุณเห็น… ความจริงที่ฉันเก็บเอาไว้ก็เลยยังไม่ได้ถูกเอ่ยออกไป ฉันเลยอยากถามคุณว่าจะอธิบายเรื่องนี้กับเธอยังไงดีคะเพื่อไม่ให้เธอสะเทือนใจ”

เธอไม่รู้จักหลิวพ่านพ่านดีเท่าผู้อาวุโสเหม่ย ที่อยู่กับเธอทั้งกลางวันและกลางคืน

ผู้อาวุโสเหม่ยที่เพิ่งได้ยินข่าวที่น่าตกใจด้วยตัวเอง ก็หายใจออกช้า ๆ

“ฉันคิดว่าสิ่งที่เธอคิดน่ะถูกแล้ว บอกเธอไปตรง ๆ แน่นอนว่าเธอรับไม่ได้หรอก เธออาจจะเป็นลมหมดสติล้มลง หรือไม่ก็อาจจะเสียใจจนเสียสติ”

“พี่พ่านของเธอมีปมในใจอยู่แล้ว ทั้งเปราะบางและอ่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องของเยี่ยนเยี่ยน เราต้องช่วยกันประคองเธอ ปล่อยให้เธอค่อย ๆ ตระหนักและยอมรับมันด้วยตัวเอง แล้วเธอจะค่อย ๆ ยอมรับเรื่องนี้ได้เอง เอาแบบนี้แล้วกัน ให้เธอคอยอยู่ข้าง ๆ ฉันนี่แหละ ฉันจะช่วยแก้ไขเรื่องนี้ เธอไม่ต้องกังวลนะ แล้วก็ให้เจิ้งซิงไปประชุมสุดยอดพันธมิตรกับเธอแล้วกัน”

ซูเถารีบพูดว่า “มันจะเป็นการรบกวนคุณเกินไปหรือเปล่าคะ…”

เธออยากพาเขาไปเที่ยวเล่นที่ซินตูจริง ๆ

เพราะว่า…นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตที่เขาจะได้เดินทางไกล

ผู้อาวุโสเหม่ยโบกมือ “ถ้าฉันไปซินตูกับเธอ ฉันก็จะคอยกังวลเกี่ยวกับเสี่ยวพ่านอยู่ดี จริง ๆ ฉันรู้สึกโล่งใจที่ได้พบเธอในเถาหยาง เธอพาคนอื่นไปซินตูแทนเถอะ ไม่ต้องกังวลทางนี้”

ซูเถาไม่สามารถโน้มน้าวเขาได้ ดังนั้นเธอจึงต้องตอบว่า “งั้นรบกวนคุณด้วยนะคะ ช่วงนี้พยายามอย่าให้พี่พ่านออกไปข้างนอก นี่เป็นทางที่ดีที่สุดที่เธอจะไม่ต้องปะทะกับโบนวิงส์ ถ้ามันหาเธอไม่เจอ มันก็ไม่สามารถสร้างปัญหาได้”

สำหรับศูนย์รับเลี้ยงเด็กกำพร้า ฉันคิดว่าอาจารย์ใหญ่เหมียวก็คงไม่ให้เธอไปที่นั่นแล้วเหมือนกัน

ตอนนี้ให้เธออยู่ในเถาหยางเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ให้เธอคอยอยู่ข้าง ๆ ผู้อาวุโสเหม่ย

ตอนนี้ถ้าผู้อาวุโสเหม่ยกับหลิวพ่านพ่านไม่ไป ก็แปลว่าโควตาจะเหลืออีกสองที่

ซูเถาไม่อยากให้ทั้งสองสิทธิ์นี้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ในขณะที่เธอพยายามหาใครสักคนให้ไปกับเธอด้วย จู่ ๆ เธอก็ได้รับโควตาเพิ่มอีกสามที่

เป็นจดหมายเชิญที่ถูกส่งตรงมาจากเผยตง

ซูเถารู้สึกสับสนเล็กน้อย “ปีนี้ตงหยางของพวกคุณไม่อยากไปเหรอ?”

เผยตงอธิบายว่า “ไม่ใช่โควตาของตงหยาง ทางซินตูได้อนุมัติโควตาสามรายการให้เราเป็นการชั่วคราว โดยระบุว่าให้ตงหยางมอบมันให้คุณ”

ซูเถาเข้าใจ แต่ก็กังวลเล็กน้อย

“แต่ตอนนี้ฉันมี 12 สิทธิ์แล้วในมือ ฉันไม่รู้จะหาใครไปด้วยแล้ว ฉันจะคืนสามสิทธิ์นี้ให้ตงหยาง พี่จัดการได้เลยค่ะ”

เผยตงอดไม่ได้ที่จะจ้องมองเธอ

เธอรู้ว่าในทุก ๆ ปี สิทธิ์การประชุมสุดยอดพันธมิตรนั้นหายากเพียงใด แม้ว่าจะเป็นฐานที่มีความเป็นเลิศแค่ไหน แต่มีเพียง 6 แห่งเท่านั้นที่จะได้เข้าร่วม

ซูเถากังวลจริง ๆ ว่าการที่เธอมีโควตามากมายขนาดนี้ เธอจะไม่สามารถหาคนที่จะไปด้วยได้

อย่างไรก็ตามโควตาทั้งหมดในตงหยาง มันถูกส่งมาให้เธอแล้ว ถ้าเธอตีกลับไปอดีตผู้นำกองทัพก็คงไม่ยอมรับถึงแม้มันจะเป็นความสมัครใจของเธอก็ตาม

เผยตงส่ายหัว “เธอหาใครมาก็ได้ แล้วก็รีบเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่จะออกเดินทางไปกับตงหยางในอีกสองสัปดาห์ ระหว่างทางที่เดินทางไปจะมีคนไปด้วย เป็นคนของตงหยางที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี นั่นคือสิงซูอวี่”

ซูเถาตอบรับ “ตกลง งั้นฉันจะดูแลเรื่องอาหารของเธอระหว่างทาง”

ด้วยความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสเหม่ย ซูเถารู้สึกว่าภาระบนบ่าของเธอเบาลงมาก และเริ่มให้ความสำคัญกับการเตรียมตัวสำหรับการเดินทาง

อาคารที่พักเถาหยาง ถูกครอบครองเต็มแล้ว บวกกับค่าเช่าเดือนแรก ทำให้สินทรัพย์รวมของเธอกลับมาอยู่ที่ 8.32 ล้านเหลียนปัง

เธอวางแผนที่จะเอาเงิน 6 ล้านติดตัวไปด้วย ถ้าเธอเจอของที่มีประโยชน์ในงานแสดงสินค้าหรืองานประมูล เธอจะได้ไม่ใช้เงินไปจนหมด และใช้เงินแค่ในส่วนที่เธอเตรียมไปเพื่อซื้อสินค้าต่าง ๆ

จากนั้นเธอก็เตรียมอาหารและเครื่องดื่มที่ต้องบริโภคระหว่างการเดินทาง

หลังจากที่หลินฟางจือเสร็จสิ้นการทำงาน เขาก็ออกจากพื้นที่เพื่อจัดเก็บเสบียง

น้ำกล่อง เครื่องดื่ม และขนมสำเร็จรูปทุกชนิดเป็นสิ่งจำเป็นเขาเก็บไว้หมดแล้ว

พร้อมกับเชื้อเพลิงอย่างดี สำหรับสามหรือสี่เที่ยว ก็น่าจะเพียงพอแล้ว