EP 148
By loop
“คีม … ตัด … ล้าง … “
การผ่าตัดของ หลิงรันนั้นเต็มที่มาตลอดและอาจกล่าวได้ว่ามันเหมือนกับการแข่งขันกับเวลา
การผ่าตัดแบบนี้ทำให้คนที่กำลังมองอยู่รู้สึกประหม่ามาก
หลังจากการผ่าตัดในขั้นตอนแรกผ่านไปหมอลู่และคนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในการผ่าตัดได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่พวกเขาไม่ใช่คนเดียว แพทย์ที่ดูการผ่าตัดที่ดุเดือดนี้ก็โล่งอกเช่นกัน
โดยเฉพาะหมอโจวเขาผ่อนคลาย เขาเช็ดหน้าผากและคิดว่า ‘ครั้งต่อไปฉันไม่อยากดูการผ่าตัดของหลิงรันอีกต่อไป มันเหนื่อยยิ่งกว่าการหาเสียงของพรรคการเมืองเสียอีก ‘
เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้เขาแอบรู้สึกว่าเขากำลังถูกเอารัดเอาเปรียบอยู่จากพรรคการเมืองที่เขาเชียร์อยู่เพราะพวกนั้นทำงานไม่ได้ครึ่งของหลิงรันด้วยซ้ำ
มันไม่ง่ายเลยที่จะเดินออกจากจุดนี้ และเขาก็ไม่ได้ผ่อนคลายเท่าไร ทำไมเขาต้องมาที่นี่เพื่อทนทุกข์ทรมาณในห้องผ่าตัดด้วย?
มันเหมือนกับการวางเกวียนก่อนจะขี่ม้า
เมื่อเขาออกจากห้องผ่าตัดหมอโจวยืนอยู่ที่โถงทางเดินเพราะเขาต้องการพบหลิงรันเพื่อพูดคุยอะไรบางอย่างสั้นๆ แต่เขาเห็นหลิงรันวิ่งไปอีกทางหนึ่ง
“เขากำลังจะไปไหน?” หมอโจวถามด้วยความสงสัย
“ เขากำลังจะรีบไปผ่าตัดด้วยเทคนิคเอ็มถัง” นางพยาบาลกล่าวขณะที่เธอโผล่ออกมาจากด้านหลัง
หมอโจวตะลึงซึ่งเขารู้ว่าหลิงรันมีการทำศัลยกรรมจำนวนมากทุกวัน แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าแม้หลังจากการผ่าตัดปลูกถ่ายนิ้วที่ใช้พลังงานขนาดนั้นหลิงรันก็ยังสามรถรีบไปทำการผ่าตัดเทคนิคเอ็มถัง
“ เขาทำงานหนักมาก” หมอโจวกระดกลิ้นของเขาสองสามครั้งแล้วพูดอีกครั้ง“ ไม่แปลกใจเลยที่เขากินข้าวเยอะขนาดนั้น”
“หมอหลิงไม่ได้กินอะไรมากมาย” พยาบาลตัวน้อยไม่สามารถรับสิ่งที่หมอโจวพูดได้เมื่อเธอได้ยินสิ่งนี้ เธอวางมือบนสะโพกของเธอขณะที่พูดว่า “คุณรู้ไหมว่าหมอหลิงทำงานหนักแค่ไหน?”
“ ฉันรู้ฉันรู้ฉันเพิ่งพูดไป” หมอโจวขอความเมตตา
พยาบาลสาวยังคงขู่เขาต่อไป “คุณรู้อะไร?”
หลังจากที่หมอโจวคิดหนักเขาพูดว่า “ศัลยแพทย์จากแผนกศัลยกรรมมือนั้นเหนื่อยที่สุดนั้นคือความจริงที่ว่าหมอหลิงก็เต็มใจที่และอุทิศตนเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาทำงานหนักมากและน่าทึ่งจริงๆ”
นางพยาบาลสาวกลอกตาแล้วถามว่า “เคยเห็นหมอหลิงรันกินอาหารเยอะๆใช่ไหม?
… ..
ณ ห้องผ่าตัด
หลิงรันตรวจดูผลการแสกนเอ็มอาร์ไอ ตามปกติก่อนที่เขาจะเรียกมาหยางลินมาแล้วพูดว่า “ถ้าคุณต้องการผ่าตัดคุณจะเริ่มที่ไหนดี”
มาหยานลินตื่นเต้น “ผมได้รับอนุญาตให้ทำการผ่าตัดหรอ?”
“มาฟังคำแนะนำของคุณก่อน” หลิงรันมีท่าทางของหมออาวุโส
ในความเป็นจริงคนที่ได้รับชื่อของแพทย์อาวุโสส่วนหนึ่งเป็นเพราะตำแหน่งของเขาและส่วนหนึ่งเป็นเพราะทักษะของเขา
ผู้บังคับบัญชาที่ไม่มีทักษะไม่มีอะไรมากไปกว่าการเป็นแค่ผู้บังคับบัญชา มันยากสำหรับพวกเขาที่จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่พวกเขาควรมีในการดำเนินงานในห้องผ่าตัด
หลิงรันผู้ซึ่งทำการผ่าตัดด้วยเทคนิคเอ๊มถังมาหลายร้อยคนเป็นผู้เชี่ยวชาญในการผ่าตัดนี้ แต่เขาเพิ่งอยู่ในวงการแพทย์ได้เพียงไม่นานและชื่อเสียงของเขาก็ไม่ได้โดดเด่นเหมือนหมออาวุโสคนอื่น ๆ
มาหยานลินเขาเต็มไปเปี่ยมไปด้วยความพร้อม เขาตรวจดูที่ผลการแสกนเอ็มอาร์ไอด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก
มีข้อมูลไม่มากที่เขาจะได้รับจากการผลการแสกนแต่เมื่อหลิงรันอยู่ข้างๆเขา มาหยางลินก็มีความมั่นใจมากขึ้นซึ่งเขาชี้ไปที่จุดๆหนึ่งที่เป็นอวัยวะหลักที่ชัดเจน และกล่าวว่า “ผมจะเริ่มจากที่นี่ … “
นี่เป็นการผ่าตัดที่ผิดปรกติอาจกล่าวได้ว่าอาจจะต้องเคลื่อนไหวค่อนข้างเยอะ
หลิงรันฟังโดยไม่แสดงความคิดเห็นใดและเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะอธิบายใดๆด้วย แม้ว่ามาหยางหลิงมีเวลาที่จำกัด ในการเป็นผู้ช่วยคนแรกของหลิงรันแต่จำนวนการผ่าตัดที่เขาทำการผ่านั้นค่อนข้างมากโดยเขาผ่าตัดเกือบสองร้อยเคสอยู่ในการดูแลของเขา
นี่คือข้อดีของการทำตามความบ้าคลั่งของการผ่าตัด ซึ่งในโรงพยาบาลอื่น ๆ หัวหน้าแพทย์เท่านั้นที่จะมีประสบการณ์ในการผ่าตัดมากกว่าหนึ่งร้อยครั้ง ดังที่กล่าวไปแล้วว่า “การฝึกฝนทำให้สมบูรณ์แบบ” หลังจากมาหยานลินทำการผ่าตัดทั้งหมดเขาก็ได้รับความรู้เกี่ยวกับเทคนิคเอ็มถังอย่างเต็มที่
เมื่อมาถึงจุดนี้หลังจากที่เขาได้ยินว่าเขาสามารถทำการผ่าตัดได้ มาหยางลินรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย สิ่งแรกที่อยู่ในใจของเขาคือการผ่าตัดในตำแหน่งที่ผิดปกติโดยเรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจแต่เขายืนยันที่จะบอกจุดนั้นกับหลิงรันจากนั้นเขามองไปที่ หลิงรันอย่างใจจดใจจ่อ
“โอเคคุณสามารถทำการผ่าตัดได้” เช่นเดียวกันที่ หลิงรันยกตำแหน่งในฐานะหัวหน้าศัลยแพทย์ให้มาหยางลิน
“ผมสามารถทำการผ่าตัดได้จริงหรือ?” มาหยางลินถามอีกครั้งเพื่อยืนยัน
หลิงรันทำเสียงอนุญาต
มาหยางลินส่งเสียงหัวเราะเหมือนเสียงหมาเห่าสั้น ๆ แล้วหุบปากทันที จากนั้นเขาหยิบปากกาและวาดเส้นบนมือของผู้ป่วยขณะที่ตัวของเขาสั่น
เขามีประสบการณ์ในการทำศัลยกรรม แต่การผ่าตัดด้วยเทคนิคเอ็มถังเป็นการผ่าตัดที่ซับซ้อนซึ่งทำให้เขาคาดหวังกับมันว่าจะมีผลลัพธ์ออกอย่างยอดเยี่ยม
หลังจากที่มาหยางลินวาดเส้นเสร็จเขาก็จ้องไปที่หลิงรัน
หลิงรันยังคงเมินเฉยซึ่งมัยแสดงออกมาอย่างจริงจังมาหยานลินไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่อยู่ในหัวของเขาได้
“มีดผ่าตัด.” มาหยานลินกัดฟันของเขาและเขาขอมีดผ่าตัดจากพยาบาล
พยาบาลยื่นมีดผ่าตัดที่มีหัวผ่าตัดติดตั้งลงในฝ่ามือของเขา
หลิงรันยังไม่พูดอะไรออกมา มาหยางลินสงบสติอารมณ์ของเขา โดยการทำเช่นนั้นเขาได้รับความมั่นใจและเขาขยับมีดผ่าตัดเบา ๆ ทั่วผิวหนังที่ละชั้น
ผิวหนังกล้ามเนื้อเนื้อเยื่อไขมัน …
เนื้อเยื่อถูกกีดลงไปทีละชั้น
หลิงรันทำหน้าที่ผู้ช่วยของมาหยางลินเป็นเวลาสิบนาที จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของมาหยางลิน
เมื่อมาหยางลินหยุดหน้าที่ในตำแหน่งหัวหน้าศัลยแพทย์มันทำให้เขาก็เหงื่อออกด้วยความตื่นเต้น
“เข้มข้น” หลิงรันเตือนให้เขานึกถึง จากนั้นเขาก็เริ่มเย็บเอ็น
ความเชี่ยวชาญของเขาเกี่ยวกับเทคนิคเอ็มถัง นั้นค่อนข้างชำนาญอยู่แล้ว อาจกล่าวได้ว่าระดับความรู้ของเขาเกี่ยวกับเทคนิคนี้อยู่ใกล้ระดับสูงสุด หากเขาต้องการที่จะปรับปรุงมากขึ้นเขาจะต้องดำเนินการในกรณีที่ผิดปกติและดำเนินการผ่าตัดเทคนิคเอ็มถัง ด้วย
ตอนนี้เขามีทักษะการปลูกถ่ายนิ้ว หลิงรันก็เริ่มมีส่วนร่วมในการผ่าตัดกับผู้ช่วยของเขาอย่างมีสติ
นี่คือวิธีที่ศัลยแพทย์ส่งผ่านองค์ความรู้ของพวกเขาให้กับแพทย์คนต่อไปจากทฤษฎีสู่การปฏิบัติจากคนง่าย ๆ ไปสู่คนที่ยากที่สุดจากการเป็นผู้ช่วยจนถึงหัวหน้าศัลยแพทย์ หลังจากหัวหน้าศัลยแพทย์ฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งและประสบความสำเร็จพวกเขาก็จะลองทำศัลยกรรมที่ซับซ้อนมากขึ้นและหลังจากที่พวกเขาไปถึงจุดสูงสุดของทักษะ พวกเขาก็จะให้โอกาสแก่หมออายุน้อย
อย่างไรก็ตามหลิงรันสามารถให้โอกาสเพียงเปิดแผลและเย็บแผลเท่านั้น หากเขาทำตามขั้นตอนสองขั้นตอนนี้เองก็จะใช้เวลาประมาณยี่สิบนาที เขาสามารถประหยัดเวลาได้มากโดยให้ผู้ช่วยทำตามขั้นตอนเหล่านี้
หลังจากที่เขาทำเทคนิค เอ็มถังเสร็จแล้วหลิงรันปล่อยให้มาหยานลินทำการผ่าตัดจนเสร็จและเขาก็ไปที่ห้องผ่าตัดอีกแห่งหนึ่ง
หมอลู่รออยู่ข้างในแล้ว
นี่เป็นกิจวัตรประจำวันที่ทุกคนคุ้นเคยซึ่งเป็นการผ่าตัดต่อเนื่องหลังการผ่าตัด …
ในไม่กี่วันที่ผ่านมาหลิงรันได้ลดปริมาณการทำศัลยกรรมลง เขาไม่ได้เป็นคนเดียวที่ไม่คุ้นเคยกับมัน หมอลู่และมาหยางลินก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์นี้เช่นกน
ไม่มีใครพูดคุยกัน พวกเขาทำการผ่าตัดอย่างบ้าคลั่ง
ทั้ง หมอลู่ และมาหยางลิยมีโอกาสที่จะทำการผ่าและอาจถือได้ว่าพวกเขามีความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้นเกี่ยวกับเทคนิคเอ็มถังมันทำให้พวกเขากระตือรือร้นมากขึ้นเมื่อพวกเขาทำผ่าตัดอยู่
แม้เมื่อเวลาทำงานของพวกเขาสิ้นสุดลงทั้งคู่ก็ลังเลที่จะออกจากงานไป
หลิงรันดูที่นาฬิกาของเขาและพูดว่า “เราจะเริ่มทำงานวันพรุ่งนี้ตอนตีสามนะ”
พวกเขาทั้งคู่ยอมแพ้อย่างรวดเร็วต่อความต้องการที่จะทำการผ่าตัดต่อไป
หลิงรันขับโฟล์คสวาเกนเจตต้าคันเล็ก ๆ ของเขาแล้วกลับไปที่คลินิคตระกูลหลิง
มันก็ดึกมากแล้ว แต่มีผู้ป่วยหกคนในห้องรักษา สี่คนในพวกเขาเป็นผู้ป่วยเก่าที่กำลังจะเสร็จสิ้นการถ่ายเลือดและอีกสองคนที่ได้รับบาดเจ็บได้รับการเย็บแผลโดยหมอแม้วด้วยไหมเย็บที่ดูดซึมได้
กวางซีนั่งอยู่บนเก้าอี้แคมป์ขนาดเล็กที่ด้านข้างส่งมอบวัสดุให้หมอแม้วด้วยแขนที่อ้วนท่วมสมบูรณ์ของเธอแลเธอก็เรียกหาหลิงรัน “เจ้าหนูหลิงมีใครบางคนกำลังตามหาเธออยู่”
“คนแปลกหน้า?” หลิงรันถามในขณะที่เขากำลังล้างมือ
ในขณะที่เขาพูดเขาเห็นรีเลย์โผล่ออกมาจากด้านในของบ้านในขณะที่ตบหน้าผากเธอ “หมอลิงในที่สุดคุณก็กลับมาฉันรอคุณมาตั้งนาน … “