ตอนที่ 96: ทีมสองประจัญบาน 2

ทว่า เสี่ยวเฉิงพลันรู้สึกตกใจเล็กน้อย เดิมที เขาคิดว่าตัวเองจะถูกย้ายเข้ากรมสอบสวนคดีอาญาในฐานะมือใหม่เพื่อช่วยเหลือกัปตันหรือหัวหน้าทีมในการดําเนินคดี แต่ท้ายที่สุดแล้ว เสี่ยวเฉิงกลับได้กลายเป็นกัปตันแต่แรกเลย หลายสิ่งหลายอย่างเริ่มดูน่าสนใจและตื่นเต้นมากขึ้นกว่า แต่ก่อนหน่อยแล้ว ทั้งนี้ ดูเหมือนว่าเสี่ยวเฉิงไม่จําเป็นต้องรอเวลาที่จะเข้าไปโค่นล้มสามแก๊งจตุรเทพอีกต่อไปแล้ว

ทันทีที่คิดเช่นนั้น เสี่ยวเฉิงก็พลันหันไปถามหรานจิงด้วยความสงสัย “หน่วยไหนคอยเฝ้าระวังแก๊งเสือขาวอยู่งั้นเหรอ?”

หรานจึงตอบกลับ ”หน่วยของฉันนี่แหละมีหน้าที่ในการเฝ้าระวังแก๊งเสือขาวกับแก๊งมังกรฟ้า ทําไมล่ะ? นายต้องการอะไรกัน?”

“ถ้าเธอไม่มีเวลาจัดการกับทั้งคู่ ยังไงก็ช่วยยกแก๊งเสือขาวให้หน่วยฉันจัดการแทนได้ไหม?” เสี่ยวเฉิงถาม

“แล้วทําไมฉันต้องยกให้นายด้วยล่ะ?” หรานจิงสุดหายใจเข้า หากทั้งคู่นับกันเป็นเพื่อน หรานจิงก็คงจะยกคดีของแก๊งเสือขาวให้เสี่ยวเฉิงไปแล้ว แต่ทว่า ในตอนนี้ ทั้งสองกําลังอยู่ในการแข่งชิงดีชิงเด่น ทําไมเธอจะต้องให้โอกาสคู่แข่งของตัวเองด้วยล่ะ?

“ก็เพราะว่าฉันสามารถจัดการกับแก๊งเสือขาวได้เร็วกว่าเธอยังไงล่ะ!” เสี่ยวเฉิงพลันกล่าวอย่างมั่นใจ

“ฮ่าฮ่า แก๊งเสือขาวน่ะไม่เหมือนกับแก๊งเต่าดําหรอกนะ พวกมันควบคุมคาสิโนอย่างน้อยห้าแห่งได้ เฉลี่ยแล้วมากกว่าครึ่งหนึ่งของคาสิโนในเมืองอีก อีกอย่าง ในทุกปี พวกมันต่างก็ได้รับเงินเป็นจํานวนมหาศาล นายไม่สามารถโค่นล้มแก๊งเสือขาวเหมือนที่ทํากับแก๊งเต่าดําได้หรอกน่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฉันเองก็ได้ทําการตรวจสอบบัญชีของพวกแก๊งเสือขาวดูแล้วด้วย อันที่จริง ถ้าไม่นับรวมผลกําไรของคาสิโนที่ถูกกฎหมาย ฉันว่าพวกมันต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินอย่างผิดกฎหมายแน่ ทว่า นายเองก็ควรรู้เอาไว้หน่อยนะว่าการต่อกรกับองค์กรยักษ์ใหญ่ขนาดนี้ไม่ ใช่เรื่องง่ายเลย แค่หมายค้นกับหลักฐานมัดตัวไม่กี่ชิ้นทําอะไรพวกนั้นไม่ได้หรอก” หรานจิงพลันตอบกลับ

“ฉันรู้หรอกน่า อันที่จริง มันไม่น่าจะเกี่ยวกับแค่การฟอกเงินอย่างเดียวด้วย มันอาจเกี่ยวข้องกับประชาชนหรือไม่ก็กองกําลังอะไรสักอย่างแน่ เพราะแบบนั้นแหละ ฉันถึงบอกไงว่า บางทีเธออาจจะเอาพวกมันไม่ลง มันค่อนข้างอันตราย อีกอย่าง ตอนนี้เธอก็กําลังเล่นกับไฟอยู่ด้วย” เสี่ยวเฉิงกล่าว

หรานจิงพลันรู้สึกสับสนเล็กน้อย “ทําไมต้องเป็นแก๊งเสือขาวด้วยล่ะ?”

“เพราะมันจะทําให้ฉันมีความสุขมากเลยล่ะ” เสี่ยวเฉิงตอบกลับ

ทันใดนั้น เซินเหยาก็พลันพูดขึ้นมา “แก๊งเสือขาวอันตรายกว่าแก๊งเต่าดํามากเลยนะ อย่างมากสุด แก๊งเต่าดําก็เป็นได้แค่สุนัขรับใช้ของอีกสามแก๊งที่เหลือนั้นแหละ! เพราะฉะนั้น สิ่งที่นายเพิ่งทําไปคือการกําจัดสุนัขรับใช้ของอีกสามแก๊งเท่านั้นเอง อันที่จริง มันไม่ได้หมายความว่านายจะโค้นล้มอีกสามแก๊งได้สักหน่อย”

ทันทีที่เซินเหยาพูดจบ หรานจิงพลันพูดต่อ “ยังไงเสีย ฉันว่าสิ่งที่นายควรทํามากที่สุดในตอนนี้ก็คือเอาชนะใจลูกน้องในหน่วยสองให้ได้นะ ทันทีพวกเขารู้ว่านายถูกแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมทั้งที่มาจากตําแหน่งชนชั้นผู้น้อยประจําสถานีตํารวจท้องถิ่น ลูกน้องทั้งสิบคนของนายคงจะรู้สึกไม่อภิรมย์มากเท่าไหร่แน่ และถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะรีบไปรายงานตัวแล้วก็โน้มน้าวให้ลูกน้องของตัวเองเชื่อว่าพวกเขามีหัวหน้าทีมสุดเก่งกาจและปราดเปรื่องแทนที่จะมาเสียเวลาเปล่าประโยชน์อยู่แบบนี้เลยล่ะ”

เสี่ยวเฉิงพลันรู้สึกสับสนนิดหน่อย “แปลกจัง ทําไมทีมของเธอมีสมาชิกตั้งสิบห้าถึงสามสิบคน? แต่หน่วยฉันกลับมีแค่สิบคนเองล่ะ?”

หรานจิงเผยยิ้ม ” ทุกหน่วยมีความแตกต่างกัน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อดีตกัปตันหน่วยสอง ก่อนหน้านายเองก็เริ่มแก่ลงและทําอะไรไม่ได้มาก เพราะแบบนั้นแหละ หน่วยสองของนายจึงมีสมาชิกน้อยสุดในบรรดาทั้งหมดสิบทีมของกรมสอบสวนคดีอาญาเลย อีกอย่าง ฉันคิดว่าหน่วยสองของนายเป็นหน่วยที่ชิลล์ที่สุดเลยด้วยนะ แต่ถ้าจะให้พูดกันตรง ๆ ระหว่างที่หน่วยอื่นกําลังยุ่งกับภารกิจและต้องการความช่วยเหลือ หน่วยสองพร้อมกับกัปตันทีมก็มักจะได้รับมอบหมายให้ไปสนับสนุนหน่วยอื่นอีกทอดหนึ่ง พูดง่าย ๆ ก็คือหน่วยนายเป็นเหมือนทีมสํารองนั้นแหละ”

เสี่ยวเฉิงในตอนนี้ไม่รู้ว่าตนเองควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาดี “งั้นทําไมพวกเธอสองคนถึงต้องมาร่วมแสดงความยินดีให้กับฉันด้วยล่ะ? สรุปฉันได้รับการเลื่อนตําแหน่งจริง ๆ ใช่ไหมเนี่ย?”

“หัวหน้าหน่วยสองของกรมสอบสวนคดีอาญา ได้ยินไหมล่ะ? มันจะไม่ใช่การเลื่อนตําแหน่งได้ยังไงกันล่ะ?” หรานจิงพูดขึ้น

เสี่ยวเฉิงพลันพูดอะไรไม่ออก

“ยังไงก็เถอะ รีบไปรายงานตําแหน่งใหม่ของตัวเองภายในวันพรุ่งนี้ด้วย คนของนายไม่ได้ไร้ประโยชน์ไปเสียหมด อย่างน้อยนายกับลูกน้องก็มีบางอย่างคล้ายกันอยู่แหละ” หรานจิงพูดต่อ

เสี่ยวเฉิงพลันเลิกคิ้ว ”นั่นหมายความว่ายังไงกัน?”

หรานจิงเผยยิ้ม “พวกเขาเป็นเหมือนเจ้าหน้าที่ไร้การอบรมจอมป่าเถื่อนน่ะ เพราะฉะนั้น ถ้านายไม่ได้พิสูจน์คุณค่าของตัวเองให้พวกเขาเห็น ฉันคิดว่าพวกเขาคงไม่ยอมรับนายเป็นหัวหน้าทีมแน่ อีกอย่าง ทันทีที่เอาชนะใจลูกน้องในหน่วยของตัวเองได้แล้ว ก็รีบมาหาฉัน เราจะได้มานั่งหารือกันเรื่องการส่งไม้ต่อในการต่อกรกับพวกแก๊งเสือขาว” หรานจิงพลันหัวเราะออกมาราวกับเธอ กําลังดูถูกและเฝ้ารอวันที่เสี่ยวเฉิงทําผิดพลาด

ในทางกลับกัน เสี่ยวเฉิงก็พลันยกแก้วแชมเปญของตัวเองขึ้นดื่มพร้อมกับเผยยิ้มอย่างสดใส “อันที่จริง ฉันกังวลว่าพวกเขาจะเถื่อนไม่มากพอน่ะสิ เพราะถ้าไม่เถื่อนจริง เราก็คงคุยกันยากหน่อย แต่ยังไงก็เถอะ ฉันชอบมากเลยล่ะพวกป่าเถื่อนเนี่ย!”