ตอนที่ 276 ตาเฒ่า

คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง

ตอนที่ 276 ตาเฒ่า

พ่อบ้านใหญ่ หลิงกุ้ยเดินเข้ามาจากด้านนอก

เขากระซิบที่ข้างหูของหลิงฉางจื้อ “รายงานนายน้อย รอบด้านไม่มีองครักษ์จินอู่ขอรับ”

หลิงฉางจื้อโบกมือให้เขาถอยออกไป

ทันทีที่เยียนอวิ๋นเกอแสดงความสามารถในการวาดแผนที่ เขาก็มั่นใจแล้วว่าด้านนอกไม่มีการจับตาดูขององครักษ์จินอู่

หลังจากพ่อบ้านใหญ่ หลิงกุ้ยถอยออกไปแล้ว เขาจึงเอ่ยขึ้น “คุณหนูสี่เป็นคนมีสัจจะ ด้านนอกไม่มีองครักษ์จินอู่อยู่จริง”

เยียนอวิ๋นเกอเม้มปากยิ้ม “ข้าพูดความจริงเสมอ ไม่ชอบใช้กลอุบายในการหลอกลวง นอกจากนี้ข้าเคยบอกแล้วว่าข้ามาด้วยเจตนาดีและจริงใจ ไม่ได้มีเจตนาร้ายอันใด”

หลิงฉางจื้อเผยรอยยิ้ม “ข้าเห็นความจริงใจของเจ้าแล้ว เพื่อเป็นการตอบแทน ข้าบอกความจริงกับเจ้า ตระกูลหลิงของพวกเรากำลังไตร่ตรองที่จะปรองดองกับตระกุลเยียนต่อจริง พวกข้าจะหมันหมายคุณหนูในตระกูลให้พี่อวิ๋นฉวน แต่ว่าวันนี้ ข้าเปลี่ยนใจอย่างกะทันหัน หากคุณหนูสี่ไม่รังเกียจ บุรุษในตระกูลหลิงมีให้เจ้าเลือกได้ตามใจ เพียงแค่เข้าตาของเจ้า”

เอ๊ะ?

สถานการณ์เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินไปจนทำให้คนตั้งตัวไม่ทัน

เยียนอวิ๋นเกอกระแอมไอสองที “หากข้าเข้าใจไม่ผิด ใต้เท้าหลิงหมายความว่าอยากให้บุตรชายในตระกูลหลิงสู่ขอข้า”

“ใช่แล้ว! ไม่รู้คุณหนูสี่คิดเห็นอย่างไร”

ล้อเล่นหรือ

เยียนอวิ๋นเกอหัวเราะร่า นางกลอกตาระรัว

“ใต้เท้าหลิง ท่านช่างไม่พิถีพิถัน ตอนนั้นตระกูลหลิงปรองดองกับตระกูลเยียน หมั้นหมายพี่ใหญ่ของข้าเอาไว้ แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว พี่ใหญ่ของข้ากลายเป็นท่านป้าของท่าน เยียนอวิ๋นเพ่ยแต่งเข้าตระกูลหลิงของพวกท่าน เวลาผ่านไปเพียงกี่ปี พวกท่านก็คิดจะให้คุณหนูในตระกูลแต่งกับเยียนอวิ๋นฉวน

เรื่องของเยียนอวิ๋นฉวนยังไม่จบสิ้น สุดท้ายท่านก็เพ่งเล็งมาที่ข้า ตระกูลหลิงของพวกท่านชอบตระกูลเยียนของพวกข้ามากนักหรือ ตระกูลเยียนเป็นตระกูลขุนนางระดับสอง มีสิ่งใดให้พวกท่านต้องการกัน”

หลิงฉางจื้อหัวเราะ “คุณหนูสี่พูดผิดแล้ว ข้าไม่ได้ต้องการตระกูลเยียน หากแต่ต้องการตัวของคุณหนูสี่”

เยียนอวิ๋นเกอรีบตอบอย่างจริงจัง “ใต้เท้าหลิงระวังคำพูด! ท่านแต่งงานแล้ว บุตรก็ไม่เด็กแล้ว ถึงแม้ท่านจะโดดเด่นอย่างมาก เป็นบุตรเขยที่ดีที่สุดในใจของคนจำนวนมาก แต่ข้าไม่ชอบตาเฒ่า ยิ่งไม่ชอบชายแก่ที่แต่งงานรอบสอง”

พู่!

หลิงฉางจื้อเหมือนได้รับบาดเจ็บอย่างมากในชั่วพริบตา

มุมปากของเขากระตุก พูดอย่างไม่มั่นใจนัก “ข้าไม่แก่!”

เยียนอวิ๋นเกอหัวเราะ “ต่อหน้าข้า ท่านก็เป็นชายแก่”

สีหน้าขงอหลิงฉางจื้อแข็งทื่อ เขาเน้นย้ำอีกครั้ง “ข้าไม่แก่ แต่ข้าก็ไม่มีแผนการที่จะแต่งงานรอบสอง ความรักของข้ากับฮูหยินแน่นหนา…”

“เช่นนี้ย่อมดี!”

เยียนอวิ๋นเกอรีบพูดขัดเขา

เพียงแค่อีกฝ่ายไม่สนใจตัวเองก็พอ

หลิงฉางจื้อถอนหายใจ สนทนากับเยียนอวิ๋นเกอ หากหัวใจไม่แข็งแรง เกรงว่าคงต้องอกแตกตาย

เขาดื่มน้ำชาพลันพูด “บุรุษในตระกูลหลิงล้วนมีรูปลักษณ์ที่ดี เที่ยงธรรม มีความสามารถ…”

“ข้าไม่คิดเช่นนั้น น้องชายของท่านหลิงฉางเฟิงทั้งไม่สอดคล้องกับคำชมรูปลักษณ์ดี ยิ่งไม่สอดคล้องกับคำชมเที่ยงธรรม แน่นอน ข้าสามารถเข้าใจความรู้สึกชอบชื่นชมคนในตระกูลของใต้เท้าหลิงได้”

เยียนอวิ๋นเกอพูดขัดอีกฝ่ายอีกครั้ง

หลิงฉางจื้อถอนหายใจ น้องชายที่ไม่เอาไหน

หากหลิงฉางเฟิงยังอยู่เมืองหลวง เขาคงจะยกแส้ขึ้นมาโบยน้องชายสักครั้ง อย่างน้อยทำให้เขาลงจากเตียงไม่ได้หนึ่งเดือน

เขาข่มความกระอักกระอ่วนภายในใจ พูดต่อเยียนอวิ๋นเกอ “ฉางเฟิงเป็นข้อยกเว้น เขาไม่สามารถเป็นตัวแทนของบุรุษตระกูลหลิงได้”

เยียนอวิ๋นเกอยิ้มอย่างรู้ทัน “ข้ารู้สึกว่าหลิงฉางเฟิงมีคุณสมบัติในการเป็นตัวแทนอย่างมาก เขาแสดงออกถึงจุดเด่นของบุรุษในตระกูลหลิงทั้งหมด ขอบพระคุณใต้เท้าหลิงที่กังวลเรื่องคู่หมั้นของข้า เพียงแต่ข้าไม่คิดจะแต่งเข้าตระกูลหลิง ตระกูลหลิงและตระกูลเยียนไม่จำเป็นต้องปรองดองกันต่อ ในเมื่อพวกท่านเลือกเยียนอวิ๋นฉวนแล้ว อีกทั้งยังเจรจากับท่านพ่อข้านานเพียงนี้แล้ว สู้ทำต่อไปดีกว่า”

หลิงฉางจื้อเลิกคิ้ว “เจ้าไม่คัดค้านที่เยียนอวิ๋นฉวนจะแต่งงานกับคุณหนูตระกูลหลิง”

“เหตุใดจึงต้องคัดค้าน” เยียนอวิ๋นเกอถามกลับ

หลิงฉางจื้อผงะ “อย่างน้อยตระกูลหลิงก็เป็นตระกูลใหญ่ที่มีน้อยในยุคสมัยนี้ คุณหนูของตระกูลหลิงเป็นตัวเลือกแรกที่ตระกูลขุนนางคิดจะปรองดองด้วย หากเยียนอวิ๋นฉวนแต่งงานกับคุณหนูตระกูลหลิง เจ้าไม่กังวลว่าจะเป็นภัยคุกคามต่อพี่สองของเจ้า เยียนอวิ๋นถงหรือ”

เยียนอวิ๋นเกอหัวเราะร่า “ขอบพระคุณใต้เท้าหลิงที่เปิดเผย! แต่ข้าคิดว่าคนผู้หนึ่งหากต้องการแข่งขังกับผู้อื่นยังคงต้องใช้ความสามารถของตนเอง หากอาศัยพ่อตา ถึงแม้จะทำได้ แต่อาจไม่สามารถเชื่อถือได้ เหมือนดังที่ว่าตีเหล็กร่างกายย้อมต้องแข็งแรง

หากพี่สองของข้าพ่ายแพ้ให้เยียนอวิ๋นฉวนในท้ายที่สุด คงพูดได้เพียงเขาขาดความสามารถและโชคชะตา โทษผู้อื่นไม่ได้ นอกจากนี้ถึงแม้จะพ่ายแพ้ อย่างมากก็นำกำลังคนหาพื้นที่อื่นเริ่มต้นใหม่ ข้าไม่เชื่อว่าจะสร้างพื้นที่ของตนเองไม่ได้!”

“มีความมุ่งมั่น! พวกเจ้าสมกับเป็นพี่น้อง เจ้าสามารถสร้างกิจการใหญ่โตในเมืองหลวงขึ้นมาได้ เชื่อว่าพี่สองของเจ้า เยียนอวิ๋นถงก็คงไม่แย่ไปกว่าเจ้า”

หลิงฉางจื้อชื่นชมจากใจ

บนโลกนี้ ไม่ใช่ทุกคนล้วนมีความกล้าที่จะออกจากตระกูล ดิ้นรนต่อสู้คนเดียว

อีกทั้งไม่ใช่ทุกคนที่จะมีความสามารถและความกล้าหาญในการเริ่มใหม่

ยิ่งไม่ใช่ทุกคนที่สามารถอาศัยความสามารถของตนเองสร้างกิจการขึ้นมาได้

มีกิจการสำเร็จรูปให้สืบทอด ผู้ใดจะยอมดิ้นรนสร้างตัว

การสร้างตัวเหน็ดเหนื่อยอย่างมาก

คนมีนิสัยเกียจคร้านแต่กำเนิด

ไม่ใช่ทุกคนสามารถตัดสินใจไปสร้างตัว

แม้จะตัดสินใจแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถพูดได้ทำได้

คนส่วนมากพูดไว้อย่างดิบดี พรุ่งนี้ข้าจะเป็นอย่างไร อนาคตจะเป็นอย่างไร…

แต่เขามักจะอยู่ไว้แค่ที่คำพูด

พรุ่งนี้แล้วพรุ่งนี้อีก ทุกวันล้วนบอกว่าพรุ่งนี้ แต่ไม่เคยเห็นการกระทำ

คนประเภทนี้ไม่แบ่งแยกความร่ำรวยหรือยากจน ไม่แบ่งแยกชนชั้น สามารถพบเห็นได้ทั่วไป

คนเกิดมาเกียจคร้านเป็นนิสัย

เพียงแค่การเอาชนะความเกียจคร้านก็สูญเสียกำลังไปส่วนใหญ่แล้ว

กำลังส่วนที่เหลือนั้นยังสามารถสร้างกิจการ หรือประสบความสำเร็จในกิจการบางอย่าง ช่างเหนือคนเสียจริง!

“พี่สองมีความสามารถมากกว่าข้าอยู่แล้ว เพียงแต่คนภายนอกไม่รู้จักเขา คิดว่าเขาอาศัยรากฐานของบรรพบุรุษ จากท่าทีของท่านพ่อข้า พี่สองข้าจะมีรากฐานของบรรพบุรุษให้อาศัยได้อย่างไร”

เมื่อเยียนอวิ๋นเกอพูดถึงบิดาชั่วอย่างเยียนโส่วจ้าน นางก็อดหัวเราะเย้ยหยันไม่ได้

หากคิดจะหวังเพิ่งรากฐานของบรรพบุรุษ หญ้าบนสุสานของพี่สองเยียนอวิ๋นถงคงจะสูงเท่าตัวคนแล้ว

หลิงฉางจื้อเสียดายอย่างมาก อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

ชื่อเสียงของคนตระกูลหลิงล้วนถูกหลิงฉางเฟิงทำให้เสื่อมเสียแล้ว

ไม่โทษเยียนอวิ๋นเกอที่ดูถูกบุรุษตระกูลหลิง

หลิงฉางจื้อโกรธแค้นภายในใจ เขาคันมืออย่างมาก

เขาตัดสินใจส่งจดหมายกลับตระกูลวันนี้

ให้บิดาในตระกูลสั่งสอนหลิงฉางเฟิงอย่างเข้มงวด อย่างน้อยก็โบยจนน้องชายที่ไม่เอาไหนออกจากจวนไม่ได้ครึ่งปีจึงจะบรรเทาความแค้นของเขาได้

หลิงฉางเฟิงที่อยู่ไกลถึงพันลี้จามต่อเนื่องสามทีอย่างไร้สาเหตุ

เขาพึมพำ “ผู้ใดกำลังด่าข้า หาที่ตายหรือ!”

หารู้ไม่ว่า ‘วันตาย’ ของเขาใกล้เข้ามาแล้ว

มาจากคำสั่งของพี่ชายเขา การลงโทษกำลังรอเขาอยู่

หลิงฉางจื้อยืนยันความคิดของเยียนอวิ๋นเกออีกครั้ง “ไม่คำนึงบุรุษตระกูลหลิงจริงหรือ ปรองกองกับตระกูลหลิง ท่านพ่อเจ้าไม่มีทางคัดค้าน”

เยียนอวิ๋นเกอ “…”

เหอะๆ!

เพียงแค่มีผลประโยชน์ บิดาชั่วเยียนโส่วจ้านก็ไม่เคยคัดค้าน

นางพูดอย่างจริงจัง “ใต้เท้าหลิงอย่าได้ใส่ใจเรื่องคู่ครองของข้าเลย ข้าไม่มีทางแต่งเข้าไปในตระกูลหลิง คุณหนูตระกูลหลิงแต่งงานกับเยียนอวิ๋นฉวนก็เหมือนกัน ท่านพ่อข้าจะดีใจยิ่งกว่า”

หลิงฉางจื้อส่ายหน้าถอนหายใจ หากเยียนโส่วจ้านรู้ว่าตนเองพลาดบุตรสาวที่โดเด่นอย่างไรไป เขาจะเสียใจจนทุบหน้าอกหรือไม่

เขาทำหน้าเสียดาย “ช่างน่าเสียดาย บุรุษตระกูลหลิงของพวกเราไม่เอาไหนจึงไม่เข้าตาของคุณหนูสี่ แม้จะเป็นครอบครัวเดียวกันไม่ได้ แต่ยังหวังว่าในอนาคตจะสามารถร่วมมือในระยะยาว สินค้าทุกอย่างที่เจ้าต้องการ ตระกูลหลิงสามารถจัดหาให้ได้”

เยียนอวิ๋นเกอถามขึ้น “อาวุธตามมาตรฐาน อาวุธต้องห้ามก็จัดหาได้หรือ”

หลิงฉางจื้อพยักหน้า พูดอย่างจริงจัง “ได้! เพียงแค่สิ่งของที่มีอยู่บนโลกนี้ พวกเราตระกูลหลิงสามารถจัดหาให้ได้ทั้งหมด ราคาตามตลาดก็พอ”

เยียนอวิ๋นเกอ “…”

นางตกตะลึงในความร่ำรวยของตระกูลใหญ่แนวหน้าอีกครั้ง

มิน่าตระกูลเยียนจึงเป็นตระกูลระดับสอง ตระกูลหลิงเป็นตระกูลระดับหนึ่ง

เพียงแค่ความต่างบนทรัพยากร ตระกูลหลิงก็ทิ้งห่างตระกูลเยียนไปร้อยแปดตรอก

มิน่าเยียนโส่วจ้านจึงให้ความสำคัญต่อการหมั้นหมายกับตระกูลหลิง

อีกทั้งภายใต้สถานการณ์ที่ตระกูลหลิงมีความผิด ยังสามารถถ่วงเวลาเยียนโส่วจ้านปีสองปี ไม่ยอมรับปากเรื่องการหมั้นหมายของเยียนอวิ๋นฉวน นี่คือความมั่นใจ

ความแตกต่าง!

คนนับรุ่น ทัพยากรและเส้นสายที่สั่งสมมากว่าหลายร้อยปี ไม่ใช่การพัฒนาในสิบยี่สิบปีจะไล่ตามทัน

เยียนอวิ๋นเกอสัมผัสได้ถึงความแตกต่างและแรงกดดัน

นางต้องพยายามแล้ว!

เรือนพักร่ำรวยของนาง ไม่คุณค่าแก่การเอ่ยถึงเมื่ออยู่ต่อหน้าตระกูลหลิง เทียบไม่ได้แม้แต่ขนเส้นเดียวบนวัวเก้าตัว

โธ่เอ้ย ตระกูลใหญ่จากทางใต้!

ช่างน่าอิจฉา

เยียนอวิ๋นเกอที่ได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจหดหู่ไปชั่วขณะ ก่อนจะเต็มเปี่ยมไปด้วยกำลังใจอีกครั้ง

หลิงฉางจื้อถามนาง “เวลานี้เจ้ายังอยากพบเยียนอวิ๋นฉวนหรือไม่”

“แน่นอน!”

หลิงฉางจื้อยิ้ม รีบให้คนไปเชิญเยียนอวิ๋นฉวน

——————-