บทที่230 ไม่มีทางให้เธอเข้ามาได้
ส้งหวั่นหวั่นยิ่งคิดก็ยิ่งไม่พอใจ สุดท้ายเลยโทรไปหาคนคนหนึ่ง
หลังจากที่ปลายสายดังขึ้น จากนั้นก็มีเสียงผู้ชายดังขึ้นมา
ส้งหวั่นหวั่นกระแอม ท่าทีที่โกรธนั้นก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ก่อนจะพูดด้วยเสียงอ้อยอิ่ง: “พี่โม่ งั้นคุณมีเวลาไหม?ออกไปเจอฉันหน่อยได้ไหม?”
คนทางปลายสายตอบตกลงอย่างดีใจ
ส้งหวั่นหวั่นกับชายลึกลับคนนั้นนัดกับที่ร้านกาแฟที่บ้านนอกมาก
เมื่อชายคนหนึ่งเดินเข้ามา ส้งหวั่นหวั่นมีท่าทีออดอ้อนแล้วพูด: “พี่โม่”
ชายคนนั้นยิ้มด้วยความเอ็นดู ก่อนจะนั่งลงตรงหน้าส้งหวั่นหวั่น พลางพูดเสียงต่ำลง : “คืนนี้ มาหาพี่ทำไมเหรอ?”
ส้งหวั่นหวั่นดื่มกาแฟ หลังจากยืนขึ้น ก็เดินไปทางด้านหน้า: “พี่โม่ งั้นฉันจะไม่อ้อมค้อมแล้วนะ วันนี้ฉันมาหาคุณเพราะอยากให้ช่วยฉันตัดคนคนหนึ่งออกไปหน่อย”
ชายลึกลับคนนั้นเอาก็เข้ามาด้านหน้า พลางเลิกคิ้วขึ้น และพูดด้วยความสนอกสนใจ: “ห๊ะ?”
ส้งหวั่นหวั่นมองรอบๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจตัวเอง เลยกระซิบเบาๆ : “ตอนนี้เธออยู่ต่างประเทศ ฉันว่าแบบนี้ น่าจะจัดการได้ดีกว่าอยู่ในประเทศมาก”
เพราะว่าแค่ให้เจียงหยุนเอ๋ออยู่ต่างประเทศ ก็จะไม่มีใครหาตัวเองได้
เธอรู้ว่ามันร้อนรนมากกว่าเดิม แต่ว่าเรื่องในวันนี้ เธอทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
ลี่จุนถิงทำเพื่อเจียงหยุนเอ๋อเลยยอมทิ้งตระกูลลี่ไป เธอไม่กล้ามั่นใจว่าลี่จุนถิงจะปักหลักกับเจียงหยุนเอ๋อที่ต่างประเทศเลยหรือเปล่า ถ้าเป็นแบบนี้เธอก็ยิ่งไม่มีโอกาสมากกว่าเดิม ไม่มีเหตุผลที่จะเข้าใกล้ลี่จุนถิงแล้ว
“เธอทำอะไรคุณหรือเปล่า?” ชายลึกลับมองอารมณ์ของส้งหวั่นหวั่น ก็รู้เลยว่าคนคนนี้ต้องเป็นเหมือนกับเสี้ยนหนามในสายตาส้งหวั่นหวั่นแน่นอน
“ใช่” ส้งหวั่นหวั่นพยักหน้าอย่างไม่ลังเล “พี่โม่ คุณไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงคนนี้น่ารังเกียจขนาดไหน หาผู้ชายไปทั่ว แถมยังทำตัวเป็นใสซื่อด้วย แค่เห็นก็น่ารังเกียจแล้ว ฉันไม่อยากทำแบบนี้กับเธอ แต่ว่าการกระทำของเธอนั้นมันทำให้ฉันทนไม่ไหว ฉันเพียงแค่คิดว่าถ้าไม่ได้กำจัดเธอ ฉันคิดว่าใจฉันมันอึดอัดไปหมดเลย”
ส้งหวั่นหวั่นพูดพลางทำท่าทีขมขื่น และแกล้งทำท่าทีเช็ดน้ำตา
เจียงหยุนเอ๋อกลายเป็นหนามตำใจของเธอ ก่อนหน้านี้อยากจะยืมมือของเจียงหนิงเอ๋อกับลี่จีถอง เพื่อกำจัดเธอ แต่หลังจากนั้นก็อยากจะยืมมือของลี่หยูนห่วนเพื่อทำลายชื่อเสียงของเธออีก แต่มันไม่มีประโยชน์เลย
ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ต้องฆ่าเธอให้ได้ เพื่อกำจัดความในใจตลอดไป
ชายลึกลับยื่นมือมาจับมือของส้งหวั่นหวั่น ก่อนจะยิ้มให้: “คุณวางใจเถอะ คนที่มายั่วโมโหคุณ ฉันจะไม่มีทางปล่อยไปเลย คุณส่งข้อมูลของเธอมาให้ฉันเถอะ”
ส้งหวั่นหวั่นพยักหน้า มุมปากก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
แต่ทางฝั่งตระกูลลี่ ร้อนใจจนหยุดไม่อยู่แล้ว
ช่วงนี้ลี่จุนถิงไม่อยู่ ลี่หยูนห่วนกับลี่เจี้ยนหวาเลยต้องร่วมมือกันรับมือกับบริษัท
เพราะว่าติดต่อลี่จุนถิงไม่ได้ ดังนั้นมีเรื่องมากมายในบริษัทที่แก้ไขได้ไม่ดีเท่าไหร่
ซู่จี้งยี้เคาะประตูของห้องทำงาน
“เข้ามา” ลี่เจี้ยนหวามองเอกสารบนโต๊ะทำงาน ก็รู้สึกหนักหัวมากแล้ว
เขาไม่ได้สัมผัสงานในบริษัทมานานมากแล้ว ถ้าจะให้หยิบขึ้นมาอีก ก็ต้องทำความเข้าใจโดยละเอียดอีกมาก
ในสถานการณ์แบบนี้เขาไม่ใช่คนบริหารอะไร ถ้าไม่อย่างนั้นคงจะไม่ให้ลี่จุนถิงเข้ามาบริษัทบริษัทของตระกูลลี่หรอก
“ประธานลี่ มีแขกสำคัญมากมายที่เคยคุยกันในโปรเจคนี้ แต่ตอนที่ฉันเข้าไปคุยกับพวกเขา พวกเขาอยากจะให้คุณชายลี่มาคุยกับพวกเขา แถมยังถามฉันด้วยว่าคุณชายลี่อยู่ไหน” ซู่จี้งยี้เองปัญหาที่เกิดขึ้นในบริษัทมาอธิบายให้ลี่เจี้ยนหวาฟัง
ซู่จี้งยี้ไม่รู้ว่าลี่จุนถิงไปไหน แต่ว่าเขารู้ว่าลี่จุนถิงมีการตัดสินใจของตัวเอง เพียงแค่เขาเดินบริษัทต่อไปก่อนลี่จุนถิงจะกลับมาก็ได้ ถึงจะไม่ได้พัฒนาอะไร แต่อย่างน้อยก็ต้องรักษาระดับเอาไว้ได้
ลี่เจี้ยนหวาทั้งสองคนนวดขมับ ก่อนจะขมวดคิ้ว เขาคิดไม่ถึงเลยว่าลูกชายของตัวเองจะทำได้เก่งกาจขนาดนี้ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าใช้วิธีไหนในการดึงดูดลูกค้า ต้องไปคุยด้วยตัวเอง แต่ถ้าเกิดแก้ปัญหาเรื่องนี้ไม่ได้ บริษัทจะไม่มีทางเดินต่อไปได้
“แบบนี้ คุณคุยกับพวกเขาก่อนเถอะ ช่วงนี้สุขภาพของลี่จุนถิงไม่ค่อยดี อาจจะต้องเลื่อนการคุยโปรเจคไปหน่อย เดี๋ยวค่อยคุยกัน” ตอนนี้ลี่เจี้ยนหวาคิดออกเพียงวิธีนี้
คุยเรื่องการร่วมงานเลื่อนออกไปก่อนก็ได้ ถ้าเลื่อนไปอีกไม่ได้ค่อยๆ ดูไปทีละก้าวๆ
“ได้” ซู่จี้งยี้พยักหน้า ก่อนจะหันตัวเดินออกไป
“เดี๋ยวก่อน” ลี่เจี้ยนหวาเรียกซู่จี้งยี้
“ประธานลี่ยังมีเรื่องอะไรอีกไหม?” ซู่จี้งยี้หันกลับมา
ลี่เจี้ยนหวายังไม่ค่อยเชื่อว่าลี่จุนถิงจะยอมเสียการทำงานอันหนักหน่วงของตัวเองไป ไม่ถามไถ่อะไร: “คุณหาที่อยู่ของลี่จุนถิงมาให้ฉัน ต้องเอาเขากลับมาให้ได้”
ซู่จี้งยี้พยักหน้า
ลี่เจี้ยนหวาหรี่ตาพลางมองไปทางซู่จี้งยี้: “คุณว่า คุณรู้ใช่ไหมว่าลี่จุนถิงอยู่ที่ไหน? เขากำชับคุณว่าไม่ให้บอกพวกเราใช่ไหม?”
ซู่จี้งยี้รีบส่ายหัว ก่อนจะยักไหล่: “ประธานลี่ ฉันไม่รู้จริงๆ คุณชายลี่ไม่ติดต่อฉันเลยจริงๆ”
ลี่เจี้ยนหวามองซู่จี้งยี้อยู่นาน เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้โกหก เลยโบกมือ: “โอเค คุณไปเถอะ”
ซู่จี้งยี้ตบอกของตัวเอง ก่อนจะถอนหายใจ แล้วออกไปจากห้องทำงาน
ลี่เจี้ยนหวาเห็นว่าตัวเองอยู่ในห้องทำงานก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ เลยคิดว่าจะกลับบ้าน
ตอนกลับบ้านก็มีเพียงลี่จุนซินนั่งเหม่ออยู่ในห้องรับแขกไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
เมื่อได้ยินว่าประตูขยับ ลี่จุนซินก็มีสติกลับมา: “พ่อ กลับมาแล้วเหรอ?”
ลี่เจี้ยนหวาคิดว่าตัวเองถึงบ้านแล้ว เลยถอนหายใจออกมา: “อือ”
“ที่บริษัทเป็นอย่างไรบ้าง?” ลี่จุนซินเองก็รู้สึกหนักใจกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นในบ้าน
“ไม่ต้องพูดแล้ว” ลี่เจี้ยนหวาถอนหายใจ ก่อนจะนั่งลงบนโซฟา
ลี่จุนซินเบ้ปาก: “พ่อ ฉันว่าเรื่องหลักๆ ก็เพราะบังคับเขาเกินไป อีกอย่างเรื่องในวันนั้น ฉันเองก็สืบมาแล้ว เจียงหยุนเอ๋อไม่ได้ไปหาหยูนห่วนเอง เป็นเพราะหยูนห่วนกับหญิงวางแผนต่อเธอ”
ลี่เจี้ยนหวาขมวดคิ้ว เพราะรู้สึกว่าเรื่องนี้มันน่ารำคาญ: “คุณว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องจริงเหรอ?”
ลี่จุนซินพยักหน้า: “ฉันมั่นใจ พ่อ ไม่งั้นก็ให้ลี่จุนถิงกลับมา พวกเราพูดกับเขาดีๆ อีกอย่างพวกเรายังไม่รู้จักเจียงหยุนเอ๋อเท่าไหร่ ฉันคิดว่าพวกเราน่าจะลองเข้าใจเจียงหยุนเอ๋อหน่อย”
ลี่จุนซินคิดไปคิดมาอาจจะเป็นเพราะตอนแรกตัวเองมีอคติต่อเจียงหยุนเอ๋อ ไม่ว่าคนอื่นจะพูดว่าเจียงหยุนเอ๋ออย่างไร เธอก็เชื่อหมด
ยังไม่ทันรอให้ลี่เจี้ยนหวาเปิดปาก ก็มีเสียงหนึ่งมาหยุดไว้
“ไม่ว่าจะมีมูล หรือไม่ เจียงหยุนเอ๋อทำได้แค่หาเรื่องให้ลี่จุนถิง ฉันไม่มีทางให้เธอเข้ามาเหยียบที่นี่” โม่เสี่ยวฮุ่ยเพิ่งได้ยินลี่จุนซินกับลี่เจี้ยนหวาคุยกัน ก็เข้ามาห้าม