บทที่229 ไม่มีทางยอมแพ้
เจียงหยุนเอ๋อไปที่ห้องข้างๆ กับถวนจื่อ ด้วยการพาไปของพนักงาน
ห้องข้างนั้นเมื่อเทียบกับห้องเมื่อสักครู่ มันดูสบายกว่าหน่อย และเหมือนทำเพื่อให้คนมาพักผ่อนจริงๆ
เจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อนั่งลง พนักงานก็เอาของหวานที่ทำขึ้นมาสวยงามมาให้มากมาย
นอกจากนั้นยังมีเครื่องดื่มมากมาย วางเรียงรายอยู่ข้างๆ เจียงหยุนเอ๋อ
เจียงหยุนเอ๋อนั่งลงบนเก้าอี้ พลางมองคนที่ไปๆ มาๆ ด้านหน้าตัวเอง และตกใจที่มีพนักงานรายล้อมขนาดนี้
แถมยังมีคนเอาของเล่นมาให้ถวนจื่ออีกมากมาย
“คุณผู้หญิง ต้องการอะไรก็บอกพวกเราได้ คนนี้เป็นพนักงานที่มานวดโดยเฉพาะ” ท่ายืนของพนักงานดูดี ส่วนคำพูดนั้นก็ถูดฝึกมาเป็นอย่างดี
เมื่อพนักงานพูดจบ คนด้านหลังก็นวดให้เจียงหยุนเอ๋อ
เพียงไม่นานก็มีคนมากมายมายืนรอบๆ ตัวเอง เจียงหยุนเอ๋อตกใจหมด เมื่อเธอมีสติกลับมา พวกเธอก็นวดไหล่เจียงหยุนเอ๋อแล้ว
เจียงหยุนเอ๋อเพียงแค่คิดว่ามันไม่เป็นตัวของตัวเองเลย เลยพยายามจะปฏิเสธ: “ขอบคุณนะทุกคน ฉันว่าฉันไม่ต้องการการนวด ขอบคุณนะทุกคน”
พนักงานยิ้มเบาๆ : “ได้เลย ถ้าเกิดคุณต้องการอะไร ก็บอกได้เลย พวกเราจะพยายามทำทุกอย่างให้ตามใจคุณ”
“ขอบคุณ” เจียงหยุนเอ๋อถูกทำให้ตกใจโดยคนพวกนั้น
ถวนจื่อเล่นเกมที่เขาเอามาให้ตั้งนานแล้ว
เจียงหยุนเอ๋ออยู่ตรงเก้าอี้ เล่นโทรศัพท์ กินอาหาร และไม่รู้ว่าลี่จุนถิงคุยอะไรอยู่ห้องข้างๆ
หลังจากที่ผ่านไปประมาณชั่วโมงครึ่ง ลี่จุนถิงเลยเดินออกมาจากห้องข้างๆ
เปิดประตูห้องข้างๆ ออกมา: “เจียงหยุนเอ๋อ?”
เจียงหยุนเอ๋อลุกขึ้นมาจากบนเก้าอี้: “คุณคุยเสร็จแล้วเหรอ?”
“อือ” เมื่อเห็นท่าทีของเจียงหยุนเอ๋อที่เบื่อๆ จากนั้นมองตัวเองด้วยความตื่นเต้น ลี่จุนถิงเพียงแค่คิดว่ามันสนุก “ทำไมเหรอ?อยู่จนเบื่อแล้วเหรอ?”
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้าโดยทำปากจู๋ด้วย
ลี่จุนถิงเดินมาที่ข้างหน้าของเจียงหยุนเอ๋อ ก่อนจะลูบผมของเจียงหยุนเอ๋อ: “ไป พวกเรากลับบ้านกันเถอะ”
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า ก่อนจะเรียกถวนจื่อ
ตอนที่คนพวกนั้นเดินออกไป ตี้ลั่วเชินก็อยู่ตรงกำแพงข้างๆ ประตู กอดอกเอาไว้ พลางมองทั้งสามคนเดินออกมาจากห้องด้วยแววตายิ้มแย้ม
ลี่จุนถิงเลิกคิ้วขึ้นพลางมองไปทางเขา มีอารมณ์ยอมแพ้
ตี้ลั่วเชินพูดกับลี่จุนถิงด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง: “งั้นฉันจะกลับไปรอข่าวดีของคุณนะ ไม่ไปส่งล่ะ”
พูดจบก็ผละตัวขึ้น ก่อนจะดีดนิ้วใส่ลี่จุนถิง และผิวปากพลางเดินจากไป
ลี่จุนถิงกรอกตาใส่เงาหลังของตี้ลั่วเชิน
เจียงหยุนเอ๋อสงสัยมากว่าทั้งสองคนคุยอะไรกัน ก่อนหน้านี้ที่เจอกันยังทระนงอยู่ แต่ทั้งสองคนถึงได้คุยกันนานขนาดนั้น
แต่ว่าลี่จุนถิงไม่ได้พูดอะไร เจียงหยุนเอ๋อเลยไม่ได้ถามอะไรมาก
“ไปกันเถอะ พวกเราไปเอาเครื่องประดับกัน” ลี่จุนถิงจูงมือของเจียงหยุนเอ๋อพลางเดินไปจากงานประมูล
แต่เพิ่งเดินไปได้ไม่นาน ก็มีชายใส่สูทคนหนึ่งเดินเข้ามาหา ด้านหลังยังมีหญิงในพิธีการตามมาด้วย
“คุณลี่” ผู้ชายคนหนึ่งโค้งคำนับ
ลี่จุนถิงเลิกคิ้วขึ้น เพราะไม่รู้ว่าเขาจะมาเพื่ออะไร
“นี่คือเครื่องประดับที่เพิ่งจะประมูลไป” ชายคนนั้นผายมือ ผู้หญิงก็เดินเข้ามา จากนั้นผู้ชายก็หยิบกล่องมาจากมือของผู้หญิงคนนั้น
เจียงหยุนเอ๋อเงยหน้ามอง ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็ละสายตาไม่ได้จริงๆ
“เครื่องประดับชุดนี้ได้จ่ายเงินไปแล้ว ตี้ลั่วเชินอยากจะมอบให้คุณผู้หญิงเพื่อเป็นของขวัญที่ได้เจอกัน” ผู้ชายพูดพลางเอาเครื่องประดับมาให้
เจียงหยุนเอ๋ออ้าปากด้วยความกลัว
ให้ตายเถอะ ตี้ลั่วเชินนี่มือใหญ่เหลือเกิน นี่ไม่ใช่เครื่องประดับธรรมดา แต่จ่ายเงินร้อยห้าสิบล้าน มันไม่ใช่ราคาน้อยๆ เลย อยากจะให้ก็ให้ โลกของคนมีเงินนั้นเจียงหยุนเอ๋อไม่เข้าใจเลยจริงๆ
ลี่จุนถิงรับเครื่องประดับไป จากนั้นก็ให้เจียงหยุนเอ๋อรับเครื่องประดับเอาไว้ ก่อนจะพึมพำเสียงเย็นชา: “ถือว่าน่าสนดี”
เมื่อพูดจบก็พาเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อออกไป
ผ่านไปไม่กี่วัน ลี่จุนถิงก็พาเจียงหยุนเอ๋อไปเที่ยวเล่นที่ปารีส
จากนั้นลี่จุนถิงก็ร้อนรนขึ้นมา ก่อนหน้านี้เหมือนกับภายในประเทศ ออกแต่เช้าและกลับตอนเย็นมาก
ช่วงนี้มันไม่ง่ายเลยที่จะให้ลี่จุนถิงกลับบ้านเร็วเสียหน่อย เจียงหยุนเอ๋อเลยหาเวลาบอกลี่จุนถิงสักหน่อย
“ลี่จุนถิง ช่วยนี้บริษัทมีปัญหาเหรอ?ช่วงนี้คุณกลับช้ามาก ฉันไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่คุณจะกลับมา” เจียงหยุนเอ๋อนอนเร็ว แล้วก็หลับลึกมาก ลี่จุนถิงรีบกลับมาจากการทำงาน และท่าทางนั้นมันเบามือมาก เพราะเจียงหยุนเอ๋อไม่รู้ตัวเลย
ลี่จุนถิงจับแก้มของเจียงหยุนเอ๋อ มีความสงสัยอยู่ตรงหน้าผากของเธอ ก่อนจะค่อยๆ พูด: “อันที่จริงฉันไม่ได้อยู่ แค่มีจี้งยี้อยู่ บริษัทก็ไม่มีอะไรหรอก คุณวางใจเถอะ ช่วงนี้ฉันมีเรื่องยุ่งเรื่องอื่น คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”
ซู่จี้งยี้เป็นคนที่ลี่จุนถิงคัดเลือกมาเองกับมือ จะไปพังเพราะเรื่องเล็กๆ แบบนี้ได้อย่างไร?
แต่ว่านอกจากบริษัทของที่บ้านนั้น ลี่จุนถิงก็มีบริษัทส่วนตัวอยู่ในต่างประเทศ บริษัทพวกนั้นเป็นบริษัทที่แม้แต่ทางครอบครัวก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้อง
แต่ว่าลี่จุนถิงไม่บอกเจียงหยุนเอ๋อมากขนาดนั้นหรอก แต่กลัวว่าเธอคิดมากไป เป็นห่วงตัวเองมากเกินไป
“งั้นคุณต้องดูแลร่างกายดีๆ นะ” เจียงหยุนเอ๋อกลัวว่าลี่จุนถิงจะทำงานมากเกินไป
ลี่จุนถิงจับหน้าของเจียงหยุนเอ๋อ: “วางใจเถอะ ตอนที่ฉันไม่อยู่ที่บ้าน คุณก็เที่ยวเล่นให้สนุก ออกไปเล่นข้างนอกก็ได้ มีความสุขหน่อย ไม่ต้องไปคิดอะไรเยอะ”
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า ก่อนจะยื่นมือมาโอบเอวของลี่จุนถิง ก่อนจะซบไหล่เขา: “ฉันรู้แล้ว”
ในประเทศ
หลังจากที่ลี่จุนถิงออกจากประเทศไป ก็ไม่มีข่าวคราวอีก
คนของตระกูลลี่ไม่มีวิธีอื่นแล้ว
โม่เสี่ยวฮุ่ยเองก็เพราะว่าเรื่องนี้ เลยป่วยนอนอยู่โรงพยาบาล
ส้งหวั่นหวั่นไปๆ มาๆ ที่ตระกูลลี่ ถึงจแม้จะบอกว่าไปเยี่ยมโม่เสี่ยวฮุ่ยแต่อันนที่จริงอยากจะไปหาข่าวของลี่จุนถิง
ส้งหวั่นหวั่นแอบตามหาลี่จุนถิง แต่คนที่ส่งออกไปนั้นก็ตามข่าวอะไรไม่ได้เลย
ในคืนวันนี้ ส้งหวั่นหวั่นนั่งอยู่ในห้องรับแขก ก่อนจะรอให้คนมาบอกข่าวเธอ
แต่รอนานเท่าไหร่ก็ยังไม่ได้ข่าวอะไร ความโกรธนั้น เลยทำร้ายผู้ถือหุ้นใหม่: “ออกไปไกลๆ เลย ออกไป!”
คนอื่นๆ ได้ยินเสียงแก้วแตก จากนั้นจึงเก็บและออกไปจากห้องรับแขกด้วยความกลัว
ส้งหวั่นหวั่นรับหมอนบนโซฟา เพราะโกรธจนพูดไม่ออก
ทำไมเธอคิดไม่ถึงเลย ว่าลี่จุนถิงจะทำเพื่อเจียงหยุนเอ๋อขนาดนี้ โดยจะทิ้งบริษัทไปอย่างง่ายดายแบบนี้ เพียงแค่คืนเดียวก็ไม่มีข่าวราวอะไร
หรือว่าตัวเองจะไม่มีโอกาสนี้อีกแล้วจริงๆ เหรอ?
ไม่ เธอส้งหวั่นหวั่นไม่มีวันยอมแพ้