“ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยนะ”

ผมพูดขณะเดินไปที่สนามประลอง หลังจากที่ผมไปพบกับมาร์ลีน ผมก็กำลังมุ่งหน้าไปพบกับสการ์เล็ตซึ่งบอกว่าเธอมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย แต่ทันใดนั้นลูกแก้วสื่อสารของผมก็ดังขึ้นก่อนผมจะได้รับข่าวที่น่าสนใจมาก….เลโอนาร์โดท้าใครบางคนประลอง!

และไม่ใช่การท้าแบบครึ่งๆ กลางๆ แต่เป็นการท้าแบบ ‘เป็นตาย’ ซึ่งหมายความว่านักสู้สามารถต่อสู้ต่อไปได้จนกว่าหนึ่งในนั้นอยู่ในสภาพใกล้ตาย การต่อสู้แบบตายจริงนั้นถูกห้ามและการต่อสู้ประเภทนี้มีไว้สำหรับศัตรูที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงเท่านั้น การต่อสู้แบบนี้ได้เกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว

‘เป็นการพัฒนาที่ไม่คาดคิดเลยนะ’

ผมคิดในขณะที่ถูกห้อมล้อมด้วยผู้ติดตามของตัวเองก่อนจะเดินเข้าไปในห้องชมการต่อสู้ที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษสำหรับผม และในขณะที่ผมกำลังจะเข้าไปก็ได้รับข้อความอีกข้อความหนึ่งที่ทำให้ผมต้องหยุดนิ่งอยู่กับที่ 

ผมยิ้มในขณะที่เริ่มเดินไปทางอื่น นั่นคือห้องวีไอพีขนาดใหญ่และในไม่ช้าผมก็เข้าไปข้างในโดยพบกับผู้หญิงที่งดงามหลายคน

มีโอลิเวีย, คาร์เมล, มาร์ลีน, อิซาเบลล่า, แคทเธอรีนและซาบรีน่าที่น่าประหลาดใจ การรวมตัวกันของสาวสวยก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ใครบางคนหยุดหายใจ และมันก็พรากความคิดผมไปอย่างแน่นอน

“ออสตินทางนี้!”

แคทเธอรีนพูดพร้อมโบกมือด้วยรอยยิ้ม 

เมื่อเห็นแบบนั้นผมก็เดินเข้าไป โดยที่ผู้หญิงแต่ละคนมีสีหน้าต่างกันเช่น โอลิเวียขมวดคิ้ว แต่ข้างในผมเห็นความยินดีเล็กๆ ได้อยู่, คาร์เมลแปลกใจแต่เธอก็ยิ้มให้ผม, มาร์ลีนพยักหน้าของเธอ, อิซาเบลล่ามองมาที่ผมเช่นเดียวกับซาบรีน่า ทั้งคู่ดูเหมือนจะมีความสนใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

‘ขอบคุณพระเจ้า’

ตอนนี้ผมไม่ต้องการที่จะจัดการกับพวกเธอ พวกเขาอยู่ในลีกที่บ้าคลั่งของพวกเธอเอง แม้ว่าสายตาของผมจะจ้องไปที่ซาบรีน่านานไปหน่อยก็เถอะ ความงามของชาวอีเลฟเว่นเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลย เพียงแค่มีเธออยู่ ผมก็รู้สึกสงบและรักมากขึ้น?

‘นี่มันอันตรายจริงๆ’

ผมหรี่ตาลง 

แค่การปรากฏตัวของเธอก็มากเกินพอที่ผมจะรู้สึกถึงความปรารถนาดีที่มีต่อเธอแล้ว และนี่เป็นเพียงส่วนเล็กๆ จากพลังของเธอเท่านั้น

“ดูเหมือนเราจะเจอกันเร็วกว่าที่คิดนะ”

ผมพูดพร้อมหัวเราะ แคทเธอรีนเองยิ้มเช่นกัน

“นั่นสิ…ดูเหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกซะจริง”

“เห็นด้วยเลย”

ผมพูดขณะที่นั่งลงข้างๆ พวกเธอ แต่ละคนนั่งบนเก้าอี้ขนาดใหญ่เหมือนบัลลังก์ของตัวเองซึ่งหันหน้าไปที่สนามกีฬาที่มีทิวทัศน์สวยงาม ตอนนี้ไม่มีคนสำคัญของพวกเธออยู่ใกล้ๆ ทำให้ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอก ตอนนี้ผมไม่มีใจจะจัดการกับนอร่าแล้วจริงๆ นับวันเธอยิ่งรับมือยากขึ้น…

“มาร์ลีน นี่มันหมายความว่ายังไง?”

อิซาเบลล่าถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ขณะที่สายตาเย็นชาของเธอมองมาที่ผม 

ด้วยเหตุนี้ผมจึงยิ้มและโบกมือกลับไป เธอไม่ตอบในขณะที่หันกลับมามองมาร์ลีน

‘ขอบคุณพระเจ้า’

“เธอหมายความว่าอะไรงั้นเหรอ?”

มาร์ลีนถามด้วยน้ำเสียงเมินเฉย

“เธอก็รู้หนิว่าที่นี่ไม่ให้ผู้ชายเข้า”

อิซาเบลล่าพูดขึ้นมา และผมเห็นได้ว่าซาบริน่าเองก็เห็นด้วย 

มาร์ลีนหยักไหล่ของตัวเองขณะที่เธอตอบ

“ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยหนิ ถ้าคนส่วนใหญ่เห็นด้วยใช่ไหม?”

พูดจบเธอก็หันไปหาคนอื่นๆ ซึ่งโอลิเวียก็พยักหน้า

“ฉันไม่มีปัญหาอะไรนะ”

คาร์เมลสนับสนุนสิ่งนี้

“ฉันด้วย ฉันโอเค”

แคทเธอรีนแค่นยิ้ม คำพูดก่อนหน้านี้ของเธอที่พูดตอนพบผมบอกจุดยืนของเธอในเรื่องนี้ และมาร์ลีนคือคนที่เรียกหาผมเอง ดังนั้นผลจึงเป็น 4 ต่อ 2 โหวต

“ก็ได้”

เมื่อเห็นผลลัพธ์ อิซาเบลล่าที่มีเหตุผลก็ยอมรับ ในขณะที่ซาบรีน่าขมวดคิ้ว ดวงตาสีมรกตของเธอหันมาทางผมจนทำให้พวกเราสบตากัน ผมเพียงแค่พยักหน้าสั้นๆ ให้เธอก่อนที่สักพักจะเห็นความประหลาดใจแวบหนึ่งบนใบหน้าของเธอซึ่งหายไปอย่างรวดเร็ว เธอแค่พยักหน้าให้ผมก่อนจะหันกลับไปจดจ่ออยู่ที่สนามนั้น ในตอนนั้นเองที่ประตูถูกเปิดออก

“หวังว่าฉันจะไม่ได้บุกรุกนะคะ”

เสียงที่ไพเราะดังขึ้น และเมื่อหันไปรอบๆ ผมก็เห็นเอลด้าที่เดินเข้ามา 

เด็กผู้หญิงที่เหลือที่เห็นเธอแค่ยิ้ม มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ท้ายที่สุดแล้วพวกเธอแต่ละคนก็คุ้นเคยกับเอลด้าในฐานะผู้นำในอนาคต พวกเธอแต่ละคนพยายามใกล้ชิดกับเอลด้า คนที่ 2 ในโลกที่สามารถใช้เวทมนตร์แห่งชีวิตได้ การอยู่เคียงข้างเธอมีแต่ประโยชน์ไม่รู้จบ

“เธอมาสายนะ”

ผมพูดซึ่งเธอก็ทำหน้ามุ่ยและตอบด้วยน้ำเสียงน่ารักที่ละลายหัวใจ

“ฮึ่มมม…หนูแค่ไม่ว่างเองค่ะ”

เธอตอบโดยบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าผมละเลยเธอไปเล็กน้อย แม้ว่าสิ่งที่ใหญ่กว่านั้นคือความจริงที่ว่าตอนนี้สาวๆ คนอื่นๆ มีสีหน้าประหลาดใจ แม้แต่อิซาเบลล่าที่เย็นชาและช่างคิดเองก็ด้วย คิดทบทวนสักนิดผมก็เข้าใจอย่างรวดเร็วว่าทำไมทัศนคติของเอลด้าถึงเป็นเช่นนี้…

ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ใดก็ตาม เธอมีรอยยิ้มที่อารมณ์ดีบนใบหน้าเสมอ ทำให้คนใกล้ชิดรู้สึกอยู่ห่างไกลกัน ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีใครสามารถทำให้เอลด้าหลุดจากด้านที่สง่างามและใจดีของเธอได้ เธอมีความเป็นผู้ใหญ่และสุขุมอยู่เสมอ พร้อมกับความงามที่ทำให้หัวใจเต้นแรง บวกกับสายเลือดของเธอทั้งหมดนี้ ไม่ต้องคิดให้ลึกเกินไปก็รู้ว่า ‘ความรัก’ ของเอลด้านั้นมีค่าสูงขนาดไหน

ผมแน่ใจว่าแม้จะอยู่ในที่สาธารณะกับนอร่า เอลด้าก็อาจจะมีด้านที่เปิดกว้างมากขึ้น แต่ไม่ใช่ความขี้เล่นแบบนี้ 

เมื่อมองดูสาวๆ ผมก็เห็นว่าตอนนี้พวกเธอกำลังมองมาที่ผมด้วยเล่ห์เหลี่ยมมากขึ้น โดยเฉพาะอิซาเบลล่า ผมสามารถแกะรอยความคิดของเธอได้อย่างแท้จริง

‘เพิ่มตำแหน่ง : มีประโยชน์ –> มีประโยชน์มากขึ้นเล็กน้อย’

“ดูเหมือนใครบางคนจะใจกล้าขึ้นนะ”

ผมพูดขณะลูบหัวเธอ ถึงตอนนี้เธอก็ขยับมานั่งบนเก้าอี้ข้างๆ ผมแล้ว 

ชั่วครู่หนึ่งผมเห็นดวงตาของเอลดาหันมาที่ตักของผมด้วยความโหยหา เห็นได้ชัดว่าเธอต้องการนั่งบนนั้น ในสถานที่โปรดของเธอ แต่เธอรู้ชัดเจนว่าการทำสิ่งนั้นในที่สาธารณะเป็นไปไม่ได้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่โง่ในห้องนี้ ดังนั้นการปกปิดบางอย่างไว้คงจะดีกว่า

“พี่คิดว่าใครจะชนะงั้นเหรอคะ?”

เอลด้าถามผมด้วยดวงตาเป็นประกายอยากรู้อยากเห็น ในขณะที่น้ำเสียงของเธอเปล่งความรักออกมา 

ผมไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะตอบ

“เลโอนาร์โด”

“หืม?…..แน่ใจงั้นเหรอ? คุณรู้รึเปล่าว่าเขาต้องเผชิญหน้ากับใคร?”

มาร์ลีนถามผมด้วยความสงสัย 

ผมพยักหน้าและรู้ชัดเจนมาก แต่ผมก็รู้ว่าเลโอนาร์โดยังไม่ได้แสดงพลังที่แท้จริงของเขาออกมา และดูแรนดัลก็ยังไม่ได้แสดงพลังเลย เลโอนาร์โดยังไม่ได้ปลุกศักยภาพที่สมบูรณ์ของเขาออกมา บางทีการต่อสู้ครั้งนี้อาจนำไปสู่การ ‘เพิ่มพลัง’ ที่เห็นได้ทั่วไปก็ได้

“ผมได้ยินมาว่าผู้ชายคนนี้เป็นลูกชายของดยุคแห่งจักรวรรดิปีศาจ เจ้าชายลำดับที่ 4 ของราชามนุษย์หมาป่าใช่ไหม?”

“ใช่ เขาค่อนข้างน่าเกรงขามเลยแหละ”

มาร์ลีนพูดและผมก็พยักหน้า 

ผมได้ตรวจดูพันธมิตรและศัตรูที่เป็นไปได้แล้ว และผมต้องบอกเลยว่าเจ้าชายมนุษย์หมาป่าคนนี้ค่อนข้างยากเลยในการจัดการกับเขา พรสวรรค์ของเขาไม่ใช่เรื่องตลก เขาได้รับการสืบทอดการกลายพันธุ์ที่ยิ่งใหญ่ของสายเลือดราชวงศ์มา

“มันอาจจะสนุกกว่าที่คิดก็ได้”

ผมพูดในขณะที่มองไปยังเวทีการต่อสู้ด้านล่าง บางทีอาจจะมีบางอย่างที่น่าประหลาดใจเกิดขึ้นก็ได้

 

 

 

-Donate-

True Money Wallet ID : mraxzy 

ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต