บทที่ 245 ตระกูลหวงกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
บทที่ 245 ตระกูลหวงกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
อากาศหนาวในฤดูหนาว
บัดนี้ข่าวได้แพร่สะพัดไปทั่วแวดวงตระกูลระดับสูงของจีน ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือโลกธุรกิจ พวกเขาทั้งหมดล้วนรู้ว่ามียาชื่อ “ยาต้มอี้เฉิน” แม้ว่ามันจะมีราคาแพง แต่ก็มีผลที่ยอดเยี่ยม มันไม่ได้เป็นเพียงข่าวดีสำหรับผู้ชายเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้หญิงด้วย
มันคือยาวิเศษ!
นี่คือสิ่งที่นักธุรกิจและคนดังผู้ร่ำรวยที่กินยานี้เข้าไปแล้วเห็นด้วยอย่างเป็นเอกฉันท์
ด้วยความนิยมชมชอบชื่อเสียงขจรขจายไม่ขาดสาย ผู้คนนับไม่ถ้วนพากันโบกเช็คและเตรียมเงินจำนวนมากเพื่อซื้อยาต้มอี้เฉินนี้
ทว่าแม้ว่ายาจำนวนหมื่นขวดจะเป็นจำนวนที่เยอะ แต่กลับกลายเป็นว่ามันไม่เพียงพอต่อความต้องการของพวกนักธุรกิจผู้มีชื่อเสียงและบุคคลสำคัญในประเทศจีน นอกจากนี้ บางคนยังจงใจกักตุน ซึ่งทำให้ราคาของยาอี้เฉินพุ่งสูงขึ้นเป็นรายวันเลยทีเดียว
และไม่นานมานี้ มีข่าวจากมณฑลเฮย์หลงเจียงซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน
มีเศรษฐีในมณฑลเฮย์หลงเจียงยอมซื้อยาต้มนี้ในราคาขวดละหนึ่งล้านหยวน แถมยังรับซื้อแบบไม่จำกัดจำนวน
เฮฟเว่นคลับ
หวงไห่เทาส่งกงซวนจี้และคนอื่น ๆ ด้วยความเคารพ จากนั้นเขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย
เมื่อเขากลับมาที่ห้องโถง เขาก็รู้สึกตื่นเต้น
เขาไม่ได้ขายยาต้มอี้เฉินหนึ่งหมื่นขวดไปทั้งหมด แต่ยังเหลืออีกหนึ่งพันขวดไว้เป็นการส่วนตัว
สี่พันล้าน
จำนวนเงินมหาศาลเสียดฟ้าในสายตาของผู้คนนับไม่ถ้วนกำลังปรากฏอยู่ในบัญชีธนาคารของเขา
ตามข้อตกลงเดิมกับโจวอี้ เงินสำหรับการขายยาต้มอี้เฉินจะถูกแบ่งเท่า ๆ กัน แต่เขาต้องเป็นคนจ่ายค่าวัตถุดิบยาและค่าสั่งซื้อขวดหยก ดังนั้นเมื่อหักต้นทุนที่เขาต้องรับผิดชอบแล้ว เขาจะมีรายได้มากกว่า 1.8 พันล้านหยวน
ได้เงินมาเร็วอย่างกับว่า… โกงเงินชาวบ้านเลย!
หวงไห่เทาหายใจเข้าลึกก่อนจะโอนเงินสองพันล้านหยวนไปยังบัญชีของโจวอี้ จากนั้นก็โทรหาโจวอี้อีกครั้งเพื่อยืนยันว่าเงินถูกโอนไปแล้ว
“รวดเร็วจริง ๆ คุณคู่ควรที่จะเป็นผู้นำตระกูลหวงมาก!” โจวอี้หัวเราะ
“โจวอี้ ผมต้องการคุยเรื่องธุรกิจกับคุณอีก” หวงไห่เทาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังแทนที่จะหัวเราะไปกับโจวอี้
“ผมจะยังไม่ทำยาต้มอี้เฉินเพิ่มอีกในเร็ว ๆ นี้แน่” โจวอี้รีบปฏิเสธ
เขาอยากจะทำเงิน แต่การทำยาต้มอี้เฉินขายนั้นไม่ใช่แผนระยะยาว ถ้าเขาไม่ต้องการสร้างโรงเรียนและรับเด็กเร่ร่อนมาเลี้ยง เขาคงจะไม่ทำขายเลยด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ เขารู้ดีว่าถ้าอาจารย์ของเขารู้ว่าศิษย์ของตัวเองหาเงินโดยการขายยาปลุกกำหนัดผู้ชาย อาจารย์คงรู้สึกอับอายจนต้องวิ่งโร่มาทุบตีเขาแน่นอน!
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่ให้หวงไห่เทาบอกคนอื่นว่ายาต้มอี้เฉินเป็นผลงานของเขา!
ทว่าแม้อาจารย์ของเขาจะรู้เรื่องนี้ เขาก็อาจจะไม่กังวลเท่าไหร่ตราบใดที่ไม่ได้ขายมันอยู่ตลอด
และท้ายที่สุดแล้ว เงินที่เขาหามาได้ก็นำไปสร้างโรงเรียนเพื่อรับเลี้ยงเด็กเร่ร่อน ไม่ใช่เพื่อใช้จ่ายส่วนตัว
“โจวอี้ คุณเข้าใจผมผิด แม้ว่าจะยังมีสมุนไพรเหลืออยู่มากสำหรับทำยาต้มอี้เฉิน แต่ผมไม่ได้ต้องการให้คุณต้มมันเพิ่ม แต่ต้องการพูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจอื่น”
“ไหนลองว่ามา”
“ผมคิดว่าคุณควรขายยาที่เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มฝึกยุทธ์” หวงไห่เทากล่าวอย่างจริงจัง
“ทำไม?”
หวงไห่เทาสูดหายใจเข้าลึก และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังอีกครั้ง “คือแบบนี้นะ…ตระกูลหวงของเรามีผู้สนับสนุน ก็คือตำหนักเทียนจีแห่งโลกผู้ฝึกยุทธ์ เรื่องนี้เป็นความลับมาก และมีเพียงห้าหรือหกคนในตระกูลหวงของเราเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้”
“แต่เมื่อตำหนักเทียนจีสัญญาว่าจะปกป้องตระกูลหวง พวกเขาก็มีเงื่อนไขที่ว่าไม่ให้สมาชิกตระกูลหวงคนใดฝึกยุทธ์เลย”
“แล้ววันนี้ ผู้นำของตำหนักเทียนจี คนที่ต้องการเจอคุณ เธอมาที่เมืองจินหลิงด้วยตนเอง และบอกว่าจะยกเลิกข้อกำหนดนั้นเพื่อให้ตระกูลหวงของเราสามารถฝึกยุทธ์ และกลายเป็นตระกูลผู้ฝึกยุทธ์ได้ในอนาคต”
“ผมก็เลยต้องการซื้อยาจำนวนมากเพื่อช่วยให้ตระกูลของผมกลายเป็นตระกูลผู้ฝึกยุทธ์โดยเร็วที่สุด และแน่นอนว่าราคาไม่ใช่ปัญหา”
ในที่สุดโจวอี้ก็เข้าใจว่าทำไมไม่มีใครในตระกูลหวงที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์เลย ทั้งที่สถานะและทรัพยากรทางการเงินของตระกูลหวงในจินหลิงนั้นถือว่ามหาศาล
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบกลับไปว่า “ได้”
“โจวอี้ ขอบพระคุณมากนะ”
“ไปให้พ้นเลย ถ้าคุณยังสุภาพกับผมอีก ผมคงจะไม่สะดวกใจใช้คุณเป็นทาสได้อีก!” โจวอี้หัวเราะ
“ฮ่า ๆ นายนั่นแหละเป็นทาสฉัน”
“ไม่ใช่ คุณนั่นแหละ!”
“นายนั่นแหละ…”
หลังจากวางสายไป หวงไห่เทาก็ยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ
หัวใจของเขาอบอุ่นขึ้นมา
เขารู้ว่านิสัยของโจวอี้เป็นอย่างไร ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาที่สนิทสนมกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ย่อมทำให้โจวอี้ไม่ปฏิเสธ
ผลลัพธ์ที่เขาต้องการ และบรรยากาศที่ผ่อนคลายของการทะเลาะกับโจวอี้ทำให้เขาพึงพอใจมาก
เขาดีใจที่ความทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจให้กับโจวอี้ ทำให้โจวอี้เต็มใจที่จะปฏิบัติต่อเขาในฐานะพี่ชายที่ดี
“หัวเราะอะไรนักหนา”
หลี่หงอี้ เจ้าของเฮฟเว่นคลับ เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม ตามมาด้วยสาวสวยอีกสี่คน
“เหล่าหลี่ ตระกูลหวงกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เชียวล่ะ!”
“…”
โรงน้ำชาปาซาน
โจวอี้นั่งอยู่ในห้องทำงานของซีชิงอิ่ง เขาดื่มชาหอมกรุ่นระหว่างรอให้ตระกูลฮัวมารับ
ซีชิงอิ่งนั่งอยู่ข้างเขา บางครั้งก็ดื่มชา และบางครั้งก็รินชาให้โจวอี้ แต่ดวงตาคู่สวยของเธอกลับมีความสงสัยคลุมเครือ
“มีอะไร?” โจวอี้สังเกตเห็นความสงสัยของซีชิงอิ่งมานานแล้ว
“เมื่อครู่ที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือของคุณสว่างขึ้น ฉันเห็น SMS”
“ข้อมูลการโอนเงินผ่านธนาคาร?” โจวอี้ถามด้วยรอยยิ้ม
“ใช่!”
เธอเห็นว่ามีคนโอนเงินจำนวนมากเข้าบัญชีของโจวอี้ และเห็นยอดเงินคงเหลือในบัญชีธนาคารด้วย
มากกว่า 4.6 พันล้าน!
สิ่งสำคัญที่สุดคือ นี่ยังไม่รวมมูลค่าบริษัท ทรัพย์สินถาวร และความมั่งคั่งอื่น ๆ ของโจวอี้
เธอฉลาดและรู้ว่ามีเพียงไม่กี่คนในประเทศจีนที่สามารถมีเงินทุนหมุนเวียนได้ถึง 4.6 พันล้านหยวน
เธออยากรู้ว่าโจวอี้ได้รับเงินมากมายมาจากไหน?
“ผมต้มยาชื่อ ยาอี้เฉิน และขายมันร่วมกับหวงไห่เทา” โจวอี้ไม่คิดจะปกปิดเรื่องนี้จากซีชิงอิ่ง
ในสายตาของเขา ซีชิงอิ่งเป็นคนสนิทที่ดี
และบางครั้ง สิ่งที่ไม่เหมาะที่จะพูดกับถังหว่าน เขาก็สามารถพูดกับซีชิงอิ่งได้อย่างไม่มีปัญหา
ซีชิงอิ่งพลันนึกบางอย่างขึ้นมาได้
เธอเคยได้ยินเรื่องของยาอี้เฉิน เพราะเธอได้ยินพ่อพูดถึงเรื่องนี้หลายครั้ง และทุกครั้งที่พูดถึงมันพ่อของเธอก็คร่ำครวญอย่างหนักเพราะเสียดายที่เขาไม่อาจซื้อยานี้ได้ทัน และพลาดโอกาสในการทำเงินไปด้วย
ไม่คิดว่าโจวอี้จะเป็นคนทำยาต้มอี้เฉิน!
ไม่แปลกใจเลยที่เขาสามารถหาเงินได้มากมายขนาดนี้
ยาต้มอี้เฉินหนึ่งขวดที่หวงไห่เทาขาย ดูเหมือนจะมีราคาสี่แสนต่อขวด ซึ่งตอนนี้ราคาก็พุ่งขึ้นเป็นหลายล้านต่อขวดแล้ว และถึงแม้จะมีคนรับซื้อในราคาสูงเช่นนี้ แต่ในตลาดก็ยังไม่มีใครขายให้อยู่ดี
ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าทำไมโจวอี้ถึงกล้าที่จะซื้อที่ดิน สร้างโรงเรียน และรับเด็กเร่ร่อนมาอุปการะ
เขาต้องการเงินเพื่อทำความดี
เขาสามารถหาเงินได้ง่าย ๆ
ทันใดนั้น ซีชิงอิ่งก็ดูจะเคารพชื่นชมโจวอี้มากยิ่งขึ้น
ชายหนุ่มยอดเยี่ยมผู้มีจิตใจดีงาม
และในอนาคต… เขาจะกลายเป็นคนที่มีประโยชน์ต่อผู้คนนับไม่ถ้วน