บทที่ 287 ไม่ทราบควรหัวเราะหรือร้องไห้

ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก

บทที่ 287 ไม่ทราบควรหัวเราะหรือร้องไห้

บทที่ 287 ไม่ทราบควรหัวเราะหรือร้องไห้

ไม่มีใครในที่นี้ ยกเว้นเจ้าเซียวถิงและโหวเสี่ยวกวง ที่คิดว่าอู๋ฝานดีไปกว่าหม่าอิงเฟย กระทั่งเมิ่งเว่ยฟางยังรู้สึกว่าชายหนุ่มด้อยกว่าหม่าอิงเฟยจริง อย่างไรครอบครัวของหม่าอิงเฟยก็มีธุรกิจบริษัท ขณะที่อีกฝ่ายมาจากชนบทแห่งหนึ่ง ไม่ได้มีเส้นสายอะไร ไม่มีเบื้องลึกเบื้องหลัง เรียกได้ว่า ไม่มีอะไรที่เทียบหม่าอิงเฟยได้เลย

เจ้าเสวี่ยอี๋ก็ไม่ค่อยพอใจเช่นกัน ความเข้าใจที่เธอมีต่ออู๋ฝานยังคงเป็นเช่นอดีต ในใจของเธอนั้นยังมองว่าอีกฝ่ายไม่ได้คู่ควรกับตนเอง

การกระทำของเจ้าเซียวถิงในตอนนี้คืออะไร?

กับคนยากจนข้นแค้นมาจากชนบทเช่นอู๋ฝานจะมีดีอะไรได้?

สายตาที่เจ้าเสวี่ยอี๋มองอู๋ฝานในเวลานี้ไม่รังเกียจมากก็น้อย เป็นการแสดงออกว่าไม่ต้องการคบค้ากับอู๋ฝาน

เจ้าเซียวถิงคิดอยากโต้เถียง แต่อู๋ฝานห้ามเธอเอาไว้ จากนั้นจึงบอกกับกลุ่มคน “อย่างแรกเลย ขอพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด และวันนี้ ฉันมาที่นี่ก็เพื่อยืนยันอีกครั้งว่ามันเป็นความเข้าใจผิดอย่างไม่มีอะไรอื่นเจือปน ฉันไม่เคยมีความคิดอะไรแบบนั้นกับเจ้าเสวี่ยอี๋”

เจ้าเสวี่ยอี๋ไม่อยากคบค้าสมาคมกับอู๋ฝาน เขาเองก็ไม่คิดอยากเข้าไปข้องเกี่ยวกับอีกฝ่ายเช่นเดียวกัน

“อู๋ฝานยังถือว่ารู้ตัวเองดีว่าไม่ได้คู่ควรเป็นแม้กระทั่งเพื่อนร่วมรุ่นกับเจ้าเสวี่ยอี๋”

“ก็นะ มีแต่คนอย่างประธานหม่าถึงจะคู่ควรกับเจ้าเสวี่ยอี๋เพื่อนเรา”

“ประธานหม่ากับนายหญิงเสวี่ยอี๋ต่างหากที่เหมาะสมกัน เป็นคู่ที่ธรรมชาติคัดเลือกมาแล้ว ทำไมพวกเราไม่ใช้โอกาสดีตอนนี้ยืนยันความสัมพันธ์เลยล่ะ!”

“ใช่ คบกันเลย คบกันเลย!”

บรรดาเพื่อนร่วมรุ่นที่พร้อมโค้งศีรษะลงต่ำเลียขาหม่าอิงเฟย ตอนนี้ย่อมไม่ปล่อยโอกาสหลุดลอย ขณะได้กดหัวอู๋ฝาน พวกเขาก็ไม่ลืมที่จะจัดฉากให้กับหม่าอิงเฟยและเจ้าเสวี่ยอี๋

หม่าอิงเฟยยิ่งเผยยิ้มกว้างจนแก้มปริ ขณะที่เจ้าเสวี่ยอี๋สีหน้าแดงระเรื่อ

อู๋ฝานที่มองสีหน้าท่าทีของคนทั้งสอง เขาถึงกับต้องลอบถอนหายใจภายใน หลังได้ออกสู่สังคมกันแล้ว หลายสิ่งอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป ตอนที่ยังอยู่มหาวิทยาลัย เจ้าเสวี่ยอี๋ไม่เคยมองตนด้วยซ้ำ ขณะเดียวกันก็ไม่ได้มีความรู้สึกดีอันใดต่อหม่าอิงเฟยด้วยเช่นกัน ทว่าตอนนี้เหมือนจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว

ส่วนทางด้านเจ้าเซียวถิง ตอนนี้ดึงชายเสื้อเจ้าเสวี่ยอี๋พร้อมเอ่ยคำ “เสวี่ยอี๋ นี่เธอคงไม่ตกลงหรอกใช่ไหม? เธอต้องคิดให้ดีนะ”

ได้ยินคำถามของเจ้าเซียวถิง หม่าอิงเฟยถึงกับเผยสีหน้าอัปลักษณ์ออกมา “เจ้าเซียวถิง เธอกำลังหมายความว่าอะไร? ฉันตามจีบเสวี่ยอี๋มานานหลายปี จนถึงวันนี้ก็ไม่เคยเปลี่ยนใจแม้สักครั้ง สถานภาพของตัวฉันก็ดีกว่าคนอื่น แล้วทำไมเสวี่ยอี๋จะตอบรับคนอย่างฉันไม่ได้?”

หม่าอิงเฟยกำลังไม่พอใจเจ้าเซียวถิงอยู่ในใจ อีกฝ่ายคือคนละโมบยอมขายความสัมพันธ์ของเจ้าเสวี่ยอี๋ออกมาด้วยซ้ำ ก่อนหน้านี้ตักตวงเอาผลประโยชน์จากเขาไปก็มาก อย่างน้อยก็ในช่วงเวลาสำคัญอย่างตอนนี้ อีกฝ่ายกลับมีท่าทีแบบนี้ตอบกลับมา ตนจะรู้สึกเกลียดก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

“ถูกต้องแล้ว! ถ้าประธานหม่าไม่เหมาะสมกับเจ้าเสวี่ยอี๋ แล้วอย่างนั้นใครเหมาะสม? อู๋ฝาน?” เพื่อนร่วมรุ่นคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมาอย่างเหยียดหยัน

“ประธานหม่าเป็นทายาทรุ่นที่สองที่มั่งคั่ง เป็นที่รู้จักของบรรดาเถ้าแก่ทั้งหลายในเมืองแห่งนี้ มีทั้งเงินทองและเส้นสาย แต่อู๋ฝานคือใคร? ไม่มีอะไรเลยสักนิด ก็แค่เด็กน้อยจากบ้านนอกคนหนึ่ง ไม่รู้ว่าศีรษะของเจ้าเซียวถิงไปกระทบอะไรบ้างหรือเปล่า ถึงได้เสียสติไปแล้ว” เพื่อนร่วมชั้นอีกคนหนึ่งพูด

อู๋ฝานขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าท่าทีจริงจังขึ้นมา “ฉันบอกไปแล้ว! ฉันไม่เคยมีใจให้กับเจ้าเสวี่ยอี๋ อยากพูดถึงเธอก็ทำไป แต่อย่าลากฉันไปเกี่ยวข้อง!”

การถูกวิพากษ์ต่อหน้าคนอื่น แม้อู๋ฝานจะวางตัวดีแค่ไหนก็ตาม เรื่องในครั้งนี้ก็ยังเกินไปจนทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะมีโทสะ ชายหนุ่มกำลังนึกเสียดายที่มาเข้าร่วมงานเลี้ยงรุ่นวันนี้ เขาเจียดเวลาที่มีน้อยนิดมาเข้าร่วมงาน ครั้งนี้การตัดสินใจมาที่นี่ คล้ายจะไม่ดีต่อตัวตนเลยแม้แต่น้อย

และยังมีเรื่องหนึ่งที่อู๋ฝานนึกสงสัยอยู่ในใจ เพราะอะไรเพื่อนร่วมรุ่นเหล่านี้จึงพูดออกมาว่าหม่าอิงเฟยคุ้นเคยกับเถ้าแก่ของที่นี่เป็นอย่างดี เขาถือได้ว่าคุ้นเคยกับหม่าอิงเฟยก็จริงอยู่ แต่พวกเขากลับไม่ทราบว่าเขานี่แหละที่เป็นเถ้าแก่ของที่นี่!

เมื่อเผชิญหน้ากับคำพูดที่แฝงด้วยความไม่พอใจของอู๋ฝาน หลายคนก็คิดจะทักท้วงขึ้นมา แต่พวกเขาราวกับได้รับรู้ว่ารอบกายของอีกฝ่ายมีแรงกดดันบางอย่างแผ่พุ่งออกมา ทำให้ไม่สามารถอ้าปากเอ่ยคำทักท้วงที่คิดเอาไว้ได้ ในใจเวลานี้กำลังเกิดความหวาดกลัวอันไม่ทราบสาเหตุต่อชายหนุ่มบราวนี่ออนไลน์

พวกเขานึกประหลาดใจ ตอนนี้นึกสงสัยว่าเหตุใดในใจของตนเองนั้นอดไม่ได้ที่จะต้องรู้สึกหวาดกลัวอู๋ฝานขึ้นมา

“มา! มา! ไม่ต้องพูดแล้ว มาดื่มด้วยกันดีกว่า” เมิ่งเว่ยฟางพยายามเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ให้ “พวกเราเรียนจบมาก็หนึ่งปีแล้ว มารวมตัวกันพร้อมหน้าแบบนี้ได้ไม่ใช่โอกาสง่าย ๆ วันนี้เจ้าเสวี่ยอี๋เพื่อนเราเดินทางมาจากเซี่ยงไฮ้ ไม่ว่าจะเรื่องไหน ก็ควรค่าแก่การร่วมดื่มฉลองนะ”

ตอนนี้กลุ่มคนคล้อยตามคำพูดเมิ่งเว่ยฟาง หรือไม่ก็เพราะอาจจะหาทางออกให้ตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจึงยกแก้วขึ้นชน

อู๋ฝานเองก็ยืนขึ้น และร่วมดื่มไปกับกลุ่มเพื่อนร่วมรุ่นเหล่านี้

หลังนั่งลงกันอีกครั้ง กลุ่มคนเลือกที่จะไม่พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่อีก พูดคุยเพียงเรื่องสัพเพเหระ ขณะที่อู๋ฝานได้โอกาสพูดคุยกับโหวเสี่ยวกวงเช่นเดียวกัน

“ไม่ค่อยดีเท่าไหร่” โหวเสี่ยวกวงเผยสีหน้าลำบากใจออกมา “หัวหน้าห้องพยายามเต็มที่แล้ว แต่ก็แทบไม่ได้ผลอะไร ยังหาผู้รับซื้อที่เหมาะสมไม่ได้ ถ้าหากว่ายังไม่ได้อีก ฉันก็คง…”

กล่าวถึงตรงนี้ โหวเสี่ยวกวงก็มองไปทางหม่าอิงเฟยที่อยู่โต๊ะตรงข้ามด้วยสีหน้าลังเลบราวนี่ออนไลน์

“จะขอให้เขาช่วยงั้นเหรอ?” อู๋ฝานราวกับเห็นความในใจของโหวเสี่ยวกวง

โหวเสี่ยวกวงไม่ปฏิเสธ กระทั่งพยักหน้ารับ “อู๋ฝาน ฉันไม่ได้อยากทำ แต่ไม่ว่าด้วยอะไร มันก็เป็นเรื่องที่ฉันเป็นคนเริ่ม ทั้งหมู่บ้านกำลังรอข่าวดี ฉันจะกลับไปทำให้พวกเขาผิดหวังไม่ได้”

อู๋ฝานเข้าใจความยากลำบากของโหวเสี่ยวกวง แต่เขาไม่ได้รู้สึกว่าปัญหานี้จะถึงขนาดต้องให้อีกฝ่ายยอมวางศักดิ์ศรีตัวเองลง เพื่ออ้อนวอนร้องขอหม่าอิงเฟย “นายคิดว่าเขาจะช่วยนายจัดการเรื่องนี้ได้งั้นเหรอ?”

โหวเสี่ยวกวงเองก็ทราบว่าจำนวนเงินที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไม่ใช่เล็กน้อย หม่าอิงเฟยอาจไม่มีอำนาจตัดสินใจถึงขนาดนั้น “ก็ยังพอเห็นความหวังอยู่ มีแต่ต้องลองให้รู้ เขากับเถ้าแก่ของที่นี่รู้จักกัน เส้นสายในเจียงโจวคงไม่น้อยแน่ ๆ บางทีอาจจะมีทางช่วยก็ได้”

“นายรู้ได้ยังไงว่าเขารู้จักเถ้าแก่ของที่นี่?” อู๋ฝานอดไม่ได้ที่จะถาม

“ก็เขาบอกออกมาแบบนั้น เมื่อสักพักเถ้าแก่ของที่นี่ยังส่งทั้งอาหารและไวน์ราคาแพงมา เขาไม่น่าจะโกหกนะ” โหวเสี่ยวกวงตอบกลับ

อู๋ฝานหัวเราะไม่ออกร้องไห้ก็ไม่ได้ ไวน์และอาหารเหล่านั้นที่เขาเตรียมไว้ให้ทุกคนในงานเลี้ยงรุ่น กลับถูกแอบอ้างเอาไปโดยหม่าอิงเฟย “ถ้าจะพูดกันแบบนั้น นายสนิทกับเถ้าแก่ของที่นี่มากกว่าอีกนะ”

“ฉัน?” โหวเสี่ยวกวงชี้หน้าตัวเองด้วยอาการประหลาดใจ สุดท้ายจึงหัวเราะ “อย่ามาล้อกันเล่น ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเถ้าแก่ของที่นี่ชื่อหรือหน้าตาเป็นยังไง จะเอาอะไรไปคุ้นเคยกับเขาได้? อีกอย่างเถ้าแก่ของที่นี่มองยังไงก็ร่ำรวย ฉันจะไปรู้จักคนแบบนั้นได้ยังไง”

“ก็อาจไม่ใช่เสมอไป” อู๋ฝานยิ้มตอบ “ก็ได้ ไม่พูดถึงเรื่องนี้ก็แล้วกัน นายไม่ต้องขอให้หม่าอิงเฟยช่วยหรอก ฉันช่วยนายได้”

“นาย?” โหวเสี่ยวกวงต้องประหลาดใจอีกครั้ง “อู๋ฝาน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กนะ อย่าเอาเรื่องจริงจังมาล้อเล่น เพราะมันเกี่ยวข้องกับรายได้ของทั้งหมู่บ้านของฉันเลยนะ”

“ฉันดูเหมือนคนพูดเล่นหรือไง?” อู๋ฝานตอบกลับ “ไม่ต้องกังวล เรื่องของนาย ฉันรับประกันว่าจัดการให้ได้ และยังจะมีคำสั่งซื้อล็อตใหญ่รอนายอยู่อีกด้วย”

*******************