บทที่ 286 จุดไฟ

บทที่ 286 จุดไฟ

“อู๋ฝาน!”

“โหวจื่อ!”

คนทั้งสองกอดกันด้วยอาการตื่นเต้นยินดี ตอนนี้เองที่คนในห้องส่วนตัวนึกขึ้นมาได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

ทว่าเหตุใดจึงรู้สึกว่าอู๋ฝานที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ ดูแตกต่างไปจากคนเดิมสมัยยังเรียน?

โหวเสี่ยวกวงเองก็ตระหนักได้เช่นกัน เขาถึงขั้นทุบหน้าอกอู๋ฝานด้วยหมัดพลางถาม “ไอ้หนูอย่างนาย ไม่เจอหน้ากันแค่ปีเดียว ทำไมเหมือนหน้าตาดีขึ้นขนาดนี้? ความรู้สึกที่ได้เจอหน้าก็เปลี่ยนไป นี่ถ้าไม่รู้จักกันมาก่อน ฉันคงคิดว่าคุณชายที่ไหนซะอีก หรือนี่แอบไปทำหน้าที่ประเทศกิมจิมากันแน่”

“เทคโนโลยีของประเทศกิมจิจะทำให้ฉันหล่อขึ้นได้ขนาดนั้นเลย?” อู๋ฝานหัวเราะตอบ “ฉันก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว สมัยยังเรียนนายไม่รู้ตัวต่างหาก”

อู๋ฝานทราบดีว่ารูปลักษณ์ของตนเองในปัจจุบันแตกต่างไปจากสมัยยังเรียน และทั้งหมดก็เป็นเพราะการเดินทางข้ามโลก ความเปลี่ยนแปลงนี้เป็นเพียงแค่ส่วนของรายละเอียด มันจึงไม่ได้เกินเลยจนถึงกับทำคนอื่นจดจำไม่ได้

“อู๋ฝาน มาแล้วก็ดี มานั่งทางนี้ก่อนสิ ทำเอาเป็นห่วงแทบแย่” เจ้าเซียวถิงเอ่ยคำชวนออกมาอย่างน่าประหลาดใจ ทั้งยังแสดงท่าทีกระตือรือร้นที่ได้เจอกับอีกฝ่าย พอนึกว่าเจ้าเซียวถิงมีท่าทีอย่างไรก่อนเริ่มงานเลี้ยง ดูไปแล้วก็คล้ายจะพบว่าเจ้าเซียวถิงมีความนับถือชายหนุ่มอยู่ไม่น้อย

ก็แค่เด็กจากบ้านนอกคนหนึ่ง มีอะไรต้องให้ความสำคัญ?

กลุ่มคนต่างเกิดความสับสนและสงสัยอยู่ในใจ

อู๋ฝานพยักหน้าตอบให้เจ้าเซียวถิง ก่อนจะตามโหวจื่อไปที่โต๊ะ ก่อนเขาจะหันไปบอกกลุ่มเพื่อนร่วมรุ่น “ขอโทษด้วยที่มาช้า ไว้ฉันดื่มให้หนักเป็นการลงโทษตัวเองก็แล้วกัน”

แม้ว่าสมัยยังเรียนเขาจะไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์อะไรกับเพื่อนเหล่านี้มากนัก ทว่าอย่างไรก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเรียนด้วยกันมา ในเมื่อรับปากจะมางานเลี้ยงรุ่นครั้งนี้ แต่ก็ยังมาสาย อู๋ฝานมองว่าตนเองควรต้องขอโทษให้เป็นเรื่องเป็นราว

แต่คำขออภัยของเขากลับทำกลุ่มคนเข้าใจเป็นอื่นไปซะได้ “อู๋ฝาน คงไม่ใช่ว่านายเห็นไวน์วันนี้เป็นของดี เลยฉวยโอกาสพูดออกมาเพื่อดื่มให้สาแก่ใจหรอกใช่ไหม”

“พอพูดแบบนี้แล้ว ก็เหมือนจะเป็นแบบนั้นจริงด้วย ไวน์ที่ดีระดับนี้ มีเหรอคนอย่างนายจะมีโอกาสได้เห็นแม้กระทั่งขวด? คงไม่ใช่ว่าพอเห็นเลยพูดออกมาแบบนี้หรอกมั้ง”

“อู๋ฝาน ไม่เห็นต้องขอโทษอะไรไป แล้วก็ไม่ต้องดื่มไวน์พวกนี้ด้วย ยังไงพวกเราก็ไม่ได้รอนายมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”

กลุ่มเพื่อนร่วมรุ่นต่างเผยท่าทีไม่เป็นมิตรกันออกมา

กลุ่มคนเหล่านี้มองเหยียดอู๋ฝานที่เป็นคนมาจากชนบท นอกจากนี้ชายหนุ่มและหม่าเอิงเฟยก็เคยมีเรื่องกัน ตอนนี้พวกเขาต้องการเอาใจหม่าอิงเฟย ไม่แปลกหากจะไม่ยอมปล่อยโอกาสเล่นงานอีกฝ่ายให้หลุดลอยไป

อู๋ฝานผู้ที่เดิมเผยสีหน้ายิ้มแย้ม เมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อนร่วมรุ่นเหล่านี้ รอยยิ้มจึงเลือนหาย ทำเอาเขานึกสงสัยว่าตนเองทำอะไรในงานเลี้ยงรุ่นวันนี้ผิดพลาดไปหรือไม่

ทว่าในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว จะให้เขากลับออกไปก็คงไม่ใช่เรื่องดี

“ก็ได้ ฉันไม่ลงโทษตัวเองก็ได้อยู่แล้ว เพราะงั้นฉันไม่ดื่ม” อู๋ฝานตอบกลับอย่างเฉยชา ก่อนจะนั่งลงข้างโหวเสี่ยวกวง และไม่คิดหันไปสนใจคนกลุ่มนั้นอีก

อู๋ฝานเมินเฉย แต่เจ้าเซียวถิงที่พร้อมจะเกาะต้นขาของชายหนุ่ม ย่อมไม่ปล่อยผ่านคนเหล่านั้น เธอเผยสายตาดุร้ายมองพวกเขาพร้อมเอ่ยคำ “พูดจาบ้าอะไรกันเนี่ย? อู๋ฝานเหรอจะมองไวน์ราคาแค่นั้น? ไม่ใช่ว่ามีปากแล้วจะพูดอะไรก็พูด ไม่พูดก็ไม่มีใครหาว่าเป็นใบ้หรอกนะ!”

จากนั้นเจ้าเซียวถิงจึงหันมามองอู๋ฝานพร้อมเอ่ย “อู๋ฝาน ไม่ต้องไปสนใจคนพวกนี้หรอก”

“ก็ตามนั้น” อู๋ฝานตอบกลับ

หลังเจ้าเซียวถิงนั่งลง เจ้าเสวี่ยอี๋จึงดึงแขนเสื้อเธอเพื่อกระซิบถาม “เซียวถิง วันนี้เธอเป็นอะไรไปเนี่ย?”

จากท่าทีที่เจ้าเซียวถิงมีต่อชายหนุ่ม มันทำให้เจ้าเสวี่ยอี๋เกิดความสับสนและสงสัย เพราะอะไรวันนี้อีกฝ่ายจึงต้องปกป้องอู๋ฝาน?

“อะไรนะ?” เจ้าเซียวถิงในตอนนี้กำลังครุ่นคิดว่าวันนี้เป็นโอกาสอันดีที่จะแสดงความดีต่อหน้าอู๋ฝาน ดังนั้นจึงไม่ได้ยินคำถามของเจ้าเสวี่ยอี๋ไปชั่วขณะ

เจ้าเสวี่ยอี๋ส่งสายตามองไปทางอู๋ฝาน เจ้าเซียวถิงที่ได้เห็นจึงเข้าใจความหมาย “ยังไงพวกนั้นก็พูดเกินเลยไปอยู่แล้ว อู๋ฝานไม่ได้มีเจตนาอะไรแบบนั้น พวกเขาใส่ร้ายกันเกินไป”

เห็นเจ้าเซียวถิงยืนกรานปกป้องอู๋ฝานอย่างหนักแน่น เจ้าเสวี่ยอี๋จึงยิ่งสับสนมากขึ้น “คงไม่ใช่ว่าเธอ…”

“ฉันอะไร?” เจ้าเซียวถิงราวกับเข้าใจว่าเจ้าเสวี่ยอี๋กำลังจะพูดอะไรออกมา ขณะนี้จึงตอบ “ตอนสมัยยังเรียน เป็นฉันไม่รู้ผิดชอบชั่วดีต่างหาก ตอนนี้รู้แล้วว่าอะไรที่มันผิดก็คือผิด”

กล่าวถึงตรงนี้ เจ้าเซียวถิงจึงรินไวน์ใส่แก้วของตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นยืน พร้อมพูดกับอู๋ฝานด้วยสีหน้าท่าทีสำนึกผิด “อู๋ฝาน เรื่องสมัยมหาวิทยาลัย ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง ถือโอกาสที่นี่และวันนี้ เป็นการขอโทษนายจากใจจริง หวังว่านายจะยังพอให้อภัยได้”

สิ้นคำ และไม่รอให้อู๋ฝานตอบรับใดทั้งสิ้น เธอก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกระดกไวน์ทั้งแก้วรวดเดียวหมด ทำให้แก้มทั้งสองข้างมีสีเลือดฝาดขึ้นมา

คนอื่นที่เหลือภายในห้องต่างตกใจ พวกเขาไม่คิดว่าเจ้าเซียวถิงจะขอโทษอู๋ฝานต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ได้ อีกทั้งยังดื่มไวน์ขาวรวดเดียวหมดแก้วตามติด ตั้งแต่เริ่มงานเลี้ยงจนถึงตอนนี้ เจ้าเซียวถิงไม่ได้ดื่มไวน์แม้สักหยด หลายคนพยายามเกลี้ยกล่อมให้ร่วมดื่ม แต่เธอก็ปฏิเสธอยู่ตลอด ทว่าตอนนี้ต่อหน้าอู๋ฝาน เธอกลับดื่มไวน์ขาวรวดเดียวหมดแก้ว มันเป็นพฤติกรรมที่แตกต่างจากก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด

อู๋ฝานไม่คิดเช่นเดียวกันว่าเจ้าเซียวถิงจะมุทะลุแสดงความจริงใจแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงต้องโบกมือเป็นการตอบรับ “เรื่องมันผ่านไปนานมากแล้ว ฉันลืมไปนานแล้วละ”

เจ้าเซียวถิงมองอู๋ฝานด้วยความรู้สึกนึกขอบคุณพร้อมตอบคำ “ขอบคุณนะ”

“เจ้าเซียวถิง เธอขอโทษเขาทำไม? ที่หมอนี่เคยชอบเสวี่ยอี๋ ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับคางคกอยากกินเนื้อหงส์อยู่แล้ว เธอไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด” ตอนนี้เองที่หม่าอิงเฟยเอ่ยคำขึ้นมา

ย้อนกลับไปในตอนนั้น คนทั้งสองที่เยาะเย้ยเหยียดหยันอู๋ฝานรุนแรงหนักหนาที่สุด ก็เป็นเจ้าเซียวถิงและหม่าอิงเฟย ตอนนี้เจ้าเซียวถิงแสดงเจตนาด้วยการขอโทษอย่างจริงใจต่อหน้าเพื่อนร่วมรุ่นแล้ว ขณะที่หม่าอิงเฟยยังมีท่าทีเหมือนอดีตที่เคยเป็นมา

“สาวงามอย่างเสวี่ยอี๋ มีเหรอจะเหมาะกับคนยากจนอย่างหมอนี่ได้” หม่าอิงเฟยตอบกลับ “เสวี่ยอี๋ เธอเองก็คิดเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”

เจ้าเสวี่ยอี๋เผยยิ้มอันเงียบงัน ไม่ตอบรับคำใดทั้งสิ้น เห็นได้ชัดว่าเธอเองก็มีความคิดเช่นเดียวกับหม่าอิงเฟย

ตอนที่อู๋ฝานเข้ามา เขาย่อมได้เห็นเจ้าเสวี่ยอี๋ หากเทียบกับครั้งที่ยังเรียนอยู่ ก็เห็นได้ว่าเธอรู้จักแต่งตัวมากขึ้น สวยและงดงามกว่าแต่ก่อน ทว่าหญิงสาวในสายตาของอู๋ฝาน มันไม่ได้บริสุทธิ์งดงามเหมือนเช่นที่เคย เห็นได้ชัดว่าประสบการณ์หนึ่งปีในสังคมทำให้เธอเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย

สมัยอู๋ฝานยังเรียนอยู่ เขามีความรู้สึกดี ๆ ให้เจ้าเสวี่ยอี๋จริง แต่หลังได้พบเจ้าเสวี่ยอี๋ที่นี่ในเวลานี้อีกครั้ง เขากลับไม่ได้รู้สึกใจสลายหรือว่าอะไร แม้เดิมจะมีความรู้สึกดี ๆ ให้ แต่กาลเวลาก็ทำมันเลือนหายไปหมดสิ้นแล้ว

“หม่าอิงเฟย นายพูดบ้าอะไร! ถ้าอู๋ฝานไม่คู่ควรกับเสวี่ยอี๋ งั้นในที่นี้ก็ไม่มีใครคู่ควร!” เจ้าเซียวถิงในตอนนี้กลายเป็นโล่ปกป้องหน้าอู๋ฝาน เธอไม่คิดปล่อยให้ชายหนุ่มเป็นฝ่ายสวนกลับด้วยตัวเอง หญิงสาวพร้อมออกหน้าแทนให้ ตอนนี้จึงชี้หน้าหม่าอิงเฟยพร้อมเอ่ย “รวมถึงนายด้วย!”

“เจ้าเซียวถิง เธอเมาแล้วเหรอ? เอาประธานหม่ามาเทียบกับอู๋ฝานเนี่ยนะ? เธอล้อเล่นอะไร?”

“ใช่แล้ว ประธานหม่ากับเจ้าเสวี่ยอี๋ถึงเป็นคู่ที่เหมาะสม เจ้าเซียวถิง เธอเมาแล้วใช่ไหมเนี่ย?”

“เจ้าเซียวถิง ถ้ายังเป็นพี่น้องที่ดีกับเสวี่ยอี๋อยู่ก็ควรมีความละอายใจบ้าง ตอนนี้เธอกำลังทำให้เพื่อนสนิทขายหน้าอยู่รู้ตัวไหม!”

คนอื่นในที่นี้ต่างเริ่มแสดงความเห็นกันออกมา พวกเขากำลังทักท้วงเจ้าเซียวถิง