บทที่ 285 ฟรีทั้งอาหารและเครื่องดื่ม

ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก

บทที่ 285 ฟรีทั้งอาหารและเครื่องดื่ม

บทที่ 285 ฟรีทั้งอาหารและเครื่องดื่ม

พบเห็นอาหารอันวิจิตรเลิศหรูถูกนำมาเสิร์ฟจานแล้วจานเล่า สีหน้าของหม่าอิงเฟยก็เปลี่ยนไป กลายเป็นเริ่มอัปลักษณ์ขึ้นทีละน้อย

นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันบอกจะเลี้ยงพวกนายก็ใช่ แต่นี่กำลังถือโอกาสฆ่ากันหรือไง? จะไม่คิดมีมารยาทกันเลยหรือ?

ในใจของหม่าอิงเฟยที่มีต่อเพื่อนร่วมรุ่นของตนเองตอนนี้ มันทั้งเหยียดหยามและไม่พอใจ

ตอนที่สั่งอาหาร คนอื่นก็มีส่วนร่วมในการสั่ง หลังพวกเขาสั่งกันแล้ว หม่าอิงเฟยก็วางตัวทำเป็นใจกว้าง ไม่ได้มองว่าแต่ละคนสั่งอะไรกันบ้าง อย่างไรแล้ว เขาก็บอกทุกคนเองว่าให้สั่งกันตามสบาย คิดเสียว่ามากับที่บ้านอะไรทำนองนั้น

ดังนั้น เขาจึงไม่ทราบว่ากลุ่มคนได้สั่งอะไรไปบ้าง

ในความเห็นของหม่าอิงเฟย คนเหล่านี้อาจสั่งอาหารที่ดีอยู่บ้าง แต่ถ้ายังมีมายาทก็ต้องไม่ใช่เลยเถิดแบบนี้

ทว่าก็ไม่ได้คาดว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะเกินเลยถึงขนาดนี้ซะได้! เดิมเขาคิดว่าอาหารมื้อนี้สักหนึ่งหมื่นก็น่าจะพอจ่ายแล้ว อาหารที่ทานราคานับหมื่น ก็ถือว่าดีเยี่ยมมากแล้ว แต่เมื่อมองอาหารทั้งหลายในตอนนี้ รวมกับขวดไวน์ชั้นดีอีกจำนวนหนึ่ง เพียงแค่หนึ่งหมื่นนั้นไม่มีทางพอจ่าย

มันเกิดอะไรขึ้น? กำลังจะฆ่ากันโดยใช้โอกาสเอาเปรียบงั้นหรือ?

กลุ่มคนไม่ได้เรื่องเหล่านี้ ไม่น่าที่จะมีสมองวางแผนกันถึงขั้นนั้น!

ส่วนผู้คนรอบด้าน เมื่อได้พบเห็นสีหน้าหม่าอิงเฟยกลับกลายเป็นอัปลักษณ์ กระทั่งแตกตื่นตระหนกตกใจ

พวกเขากำลังกลัวว่าหม่าอิงเฟยจะโกรธจัด สุดท้ายเพื่อระบายโทสะ อีกฝ่ายอาจไม่เลี้ยงอาหารมื้อนี้แล้วก็เป็นได้ หากพวกเขาต้องหารเฉลี่ยกันจ่ายก็ออกจะเป็นปัญหาไม่ใช่น้อย

“นี่ นี่ คุณพนักงาน เสิร์ฟอาหารผิดอะไรหรือเปล่า? เมื่อกี้นี้พวกเราไม่ได้สั่งเมนูพวกนี้เลยนะ!” หนึ่งในเพื่อนร่วมรุ่นที่เป็นส่วนหนึ่งของการสั่งเร่งร้อนเรียกบริกร

“จริงด้วย พวกคุณจดอะไรผิดหรือเปล่า? หรือว่ามาส่งของห้องข้างเคียง?” เพื่อนร่วมรุ่นอีกคนหนึ่งเข้าร่วมบทสนทนา

แม้พวกเขาต้องการจะได้ลองทานอาหารราคาแพงสุดหรู แต่ก็ทราบดีว่าไม่ควรทำอะไรเกินเลย ดังนั้นจึงเอ่ยถามเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ตอนนี้จึงดีกว่า

ตอนนี้เองที่หม่าอิงเฟยก็ร่วมวงแสดงอาการสับสน หรือเป็นไปได้ว่าอาหารพวกนี้พวกเขาไม่ได้สั่งมาจริง

เจ้าเสวี่ยอี๋มองบริกรพร้อมกับเอ่ยคำขึ้น “เรื่องแบบนี้ก็ผิดพลาดงั้นเหรอ? ก็นะ ร้านที่เจียงโจวนี่ยังห่างชั้นกับเซี่ยงไฮ้หลายระดับ”

ตอนนั้นที่กระทั่งเมิ่งเว่ยฟางและโหวเสี่ยวกวงยังต้องมองมา พวกเขาสงสัยว่าร้านระดับนี้จะทำผิดพลาดเรื่องง่าย ๆ ได้เช่นไร

บริกรผู้เป็นหัวหน้างาน เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามหาความผิดเช่นนี้ ใบหน้าก็ยังคงเผยยิ้มหวานเป็นการตอบรับ “ไม่ผิดค่ะ อาหารเหล่านี้เป็นของห้องส่วนตัวแห่งนี้ถูกต้องแล้วค่ะ และอาหารทั้งหมดนี้เป็นเมนูขึ้นชื่อของร้านเรา เถ้าแก่ของพวกเราสั่งให้นำมาส่งที่ห้องนี้ค่ะ”

“เถ้าแก่ของพวกคุณ?” ทุกคนที่นี่ต่างต้องประหลาดใจ พร้อมกับอดไม่ได้ที่จะหันมองทางหม่าอิงเฟย

ก่อนหน้านี้หม่าอิงเฟยกล่าวเอาไว้ว่าตนเองสนิทกับเถ้าแก่ของที่นี่ หรือเป็นไปได้ว่าเถ้าแก่ของร้านแห่งนี้ จัดอาหารหรูเหล่านี้มาให้ก็เพราะเห็นแก่อีกฝ่าย

คิดได้ดังนั้น ก็พบว่าเป็นไปได้ค่อนข้างมาก อย่างไรแล้วนอกจากหม่าอิงเฟย ก็ไม่มีใครในที่นี้รู้จักกับเถ้าแก่ของที่นี่ พวกเขาไม่ได้มีหน้ามีตาถึงระดับนั้น

“ประธานหม่า นับเป็นเกียรติครั้งใหญ่เลยทีเดียว อาหารที่เถ้าแก่ของร้านมอบให้เหล่านี้ไม่ได้ถูกเลย เมื่อกี้เช็คราคาไวน์พวกนั้นแล้ว ขวดหนึ่งราคาไม่สี่ก็ห้าพัน มีรวมแล้วราวหกขวด เอิกเกริกดีจริง ๆ”

“จริงด้วย ต้องมองด้วยว่าท่านประธานหม่าของพวกเราเป็นใคร นอกจากเขาแล้วจะมีใครมีหน้ามีตาได้รับเกียรติระดับนี้อีก!”

“บอกพวกนายแล้ว ร้านหรูแบบนี้ มีเหรอจะเกิดความผิดพลาดเล็กน้อยแค่นี้ได้ ที่แท้ก็เป็นของกำนัลจากเถ้าแก่ร้าน สมกับเป็นท่านประธานหม่าจริง ๆ!”

กลุ่มเพื่อนร่วมรุ่นเหล่านี้ กำลังเยินยอหม่าอิงเฟยกันออกนอกหน้า สายตาที่เจ้าเสวี่ยอี๋มองหม่าอิงเฟย ก็สว่างไสวเสียยิ่งกว่าก่อนหน้านี้หลายระดับ

เห็นได้ชัดว่าคำพูดที่หม่าอิงเฟยเอ่ยบอกว่าคุ้นเคยกับเถ้าแก่ของที่นี่ และมีสัมพันธ์อันดีต่อกันเป็นเรื่องจริง ไม่เช่นนั้นแล้วมีหรือจะส่งอาหารและเครื่องดื่มมูลค่าหลายหมื่นเหล่านี้มาให้

เมิ่งเว่ยฟางมองไปทางหม่าอิงเฟยด้วยสายตาที่ว่างเปล่า ขณะที่โหวเสี่ยวกวงเผยสีหน้าลังเลอย่างรุนแรงมากขึ้น หม่าอิงเฟยที่ดูมีอำนาจล้นเหลือ ย่อมต้องพอจะมีทางช่วยเหลือเรื่องราวของเขาได้แน่

บรรดาเพื่อนร่วมรุ่นในห้องแห่งนี้ ต่างคิดว่าเถ้าแก่ของร้านเห็นแก่หน้าของหม่าอิงเฟย ทำให้ส่งอาหารและไวน์ราคาแพงเหล่านี้มาต้อนรับ มีเพียงหม่าอิงเฟยที่ทราบดี ว่าเรื่องนี้มันไม่ถูกต้อง

เขาและเถ้าแก่ของร้านนี้ไม่เคยรู้จักกันด้วยซ้ำ! นับประสาอะไรกับมีสัมพันธ์อันดีต่อกัน เมื่อครู่เขาก็เพียงแค่ต้องการคุยโวต่อหน้าเจ้าเสวี่ยอี๋ก็เท่านั้นเอง

ด้วยเหตุนั้น ต่อหน้าคำเยินยอของคนอื่น ใจเขากลับไม่ได้ยินดีแม้แต่น้อย

หม่าอิงเฟยคิดบอกความจริงออกไป เพียงแต่หลังเสือขึ้นแล้วยากจะลงได้ เมื่อเห็นสายตาชื่นชมของเพื่อนร่วมรุ่น โดยเฉพาะจากเจ้าเสวี่ยอี๋ ผู้ที่มองยังตัวเขาด้วยความนับถือยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ มันทำให้หม่าอิงเฟยต้องกลืนคำพูดอธิบายเหล่านั้นลงท้องไป

‘จะอะไรก็ช่าง อาหารพวกนี้เถ้าแก่ของร้านก็ส่งมาเอง จะส่งมาด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ในเมื่อไม่มีใครอื่นรู้ ของก็อยู่ตรงหน้าแล้ว ถือว่าเป็นของเราก็แล้วกัน’ หม่าอิงเฟยครุ่นคิดกับตัวเองในใจ

คิดได้ดังนั้น หม่าอิงเฟยจึงวางใจและรับชื่อเสียงนี้เป็นของตนเองทันที กระทั่งเอ่ยคำโอ้อวดต่อเนื่อง “ด้วยความสัมพันธ์ของฉันกับเถ้าแก่ร้านนี้ ส่งอาหารและไวน์พวกนี้มาต้อนรับยังถือว่าเล็กน้อย ทุกคนกินดื่มกันให้เต็มที่ ไม่อิ่มก็สั่งเพิ่มได้เลย”

กลุ่มเพื่อนร่วมรุ่น ย่อมไม่ปล่อยโอกาสพูดเยินยอหม่าอิงเฟยอีกครั้งหนึ่ง

หม่าอิงเฟยยิ่งเชิดหน้าชูตา วางตัวอหังการสูงส่ง สายตามองทางพนักงานพร้อมเอ่ยคำ “ฝากขอบคุณเถ้าแก่ให้ฉันด้วย”

หัวหน้าบริกรพยักหน้าตอบรับ “ได้ค่ะ เถ้าแก่ของพวกเราแจ้งเอาไว้ ว่าภายหลังเสร็จงานแล้วจะมาที่นี่ เพื่อร่วมงานกับทุกท่าน”

หลังกล่าวคำจบ หัวหน้าบริกรจึงนำบริกรคนอื่นเดินออกจากห้องส่วนตัวไป

สายตาของบรรดาเพื่อนร่วมรุ่นในที่นี้ จึงยิ่งมองหม่าอิงเฟยด้วยความนับถือมากยิ่งขึ้น

เถ้าแก่ของร้านไม่เพียงส่งอาหารและไวน์หรูมาให้ แต่ยังจะมาร่วมงานด้วยตัวเอง นับได้ว่าหม่าอิงเฟยมีหน้ามีตาขั้นสุด!

แน่นอนว่า หม่าอิงเฟยในปัจจุบันไม่ใช่คนระดับเดียวกับพวกเขาอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นโอกาสที่พบเห็นตรงหน้า ย่อมต้องคว้าต้นขาของอีกฝ่ายไว้ให้แน่น

ดังนั้น ผู้คนจึงเยินยอสารพัดให้หม่าอิงเฟยได้รับฟัง ส่วนทางด้านเจ้าเสวี่ยอี๋เองก็เผยยิ้มพร้อมเสนอตัวรินไวน์ให้

ทว่าหม่าอิงเฟยในเวลานี้ใจไม่อยู่กับตัวแล้ว เพราะเขาไม่ได้รู้จักกับเถ้าแก่ของร้านแห่งนี้ เมื่อถึงตอนที่เถ้าแก่คนนั้นมาที่นี่ ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะถูกเปิดโปงหรอกหรือ?

แต่หลังครุ่นคิดดูแล้ว เถ้าแก่คนนั้นก็เป็นฝ่ายเริ่มนำอาหารและไวน์มามอบให้ด้วยเจตนาอันดี บางทีอาจจะรู้จักกับพ่อของเขา เพราะเห็นแก่หน้าพ่อของเขาจึงส่งไวน์และอาหารเหล่านี้มา นอกจากนี้การที่สามารถเปิดร้านระดับนี้ได้ เถ้าแก่คนนั้นที่จะมาที่นี่ ย่อมต้องมีทั้งความเฉลียวและความฉลาด อย่างไรก็ไม่มีทางเปิดโปงเขาต่อหน้าคนอื่น

คิดได้ดังนั้น หม่าอิงเฟยจึงวางใจได้อีกครั้ง ปาร์ตี้วันนี้ถูกจัดขึ้นด้วยดี สถานที่ที่เลือกก็ดีเยี่ยม เขามีแต่ความดีความชอบไหลมาเทมา

หม่าอิงเฟยได้กลายเป็นศูนย์กลางความสนใจอย่างไม่น่าประหลาดใจทุกครั้งที่เขาเอ่ยอะไรขึ้นมา ก็จะได้รับการตอบรับและชื่นชมจากทุกคนในที่นี้ เรื่องนี้ยิ่งทำให้เขาอารมณ์ดี นอกจากนั้นแล้ว สาวงามที่เขาชื่นชมมานานก็อยู่เคียงข้าง สายตาที่มองมาก็เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นมาก จะไม่ให้เขาดีใจได้อย่างไรไหว

ทุกคนในที่นี้ราวกับลืมเลือนไปว่า จนถึงตอนนี้อู๋ฝานก็ยังมาไม่ถึง บางทีหลายคนอาจคิดไปว่าเขาคงไม่มาแล้ว มีเพียงโหวเสี่ยวกวง เมิ่งเว่ยฟาง และเจ้าเซียวถิงที่ยังจดจำได้ ว่าอีกฝ่ายยังไม่มา ขณะที่คนอื่นหากไม่ลืมเลือนก็เลิกสนใจกันไปแล้ว

ด้วยเหตุนี้ตอนที่อู๋ฝานผลักประตูเข้ามา หลายคนถึงกับชะงัก มีเพียงโหวเสี่ยวกวงที่ลุกขึ้นยืนอย่างยินดีจนออกนอกหน้า