“ออสติน…..”

สการ์เล็ตพูดด้วยดวงตาชวนฝันขณะโอบกอดผม ร่างของเธอกอดผมไว้ด้วยใบหน้าที่เปล่งประกายไม่เหมือนใคร ราวกับว่าเธอได้รับทุกสิ่งที่เธอต้องการในชีวิตแล้ว 

ผมเองก็กอดเธอกลับเพื่อรับรู้ถึงอุณหภูมิอันอบอุ่นของเธอเช่นกัน ในขณะที่ทั้งหมดนี้เกิดขึ้น ความสนใจเพียงเล็กน้อยของผมก็มุ่งไปที่เซเลสทีเนียซึ่งกำลังนั่งอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ

ในตอนที่ผมเล่นเกมนั้น การพิชิตเธอได้คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม และก็เป็นแรงผลักดันที่ส่งผลให้การทำงานหนักของผมพังทลายลงอย่างสิ้นเชิงด้วย 

มีสิ่งหนึ่งที่เกี่ยวกับเซเลสทีเนียที่แม้แต่เธอเองก็ยังไม่ได้รู้สึก นั่นคือเจตจำนงที่ไม่มีวันยอมแพ้ของเธอที่จะไม่ยอมเป็นสองรองใครหรือจะไม่มีวันพ่ายแพ้ เธอเองอาจไม่รู้ แต่เธอเกลียดการพ่ายแพ้

เหตุผลเดียวที่เธอไม่พบสิ่งนี้นั่นก็คือการที่ไม่เคยมีใครท้าทายเธอ คนเดียวที่เข้ามาใกล้เธอคือผมที่พูดคุยกับเธอที่ปลอมตัวอยู่ในห้องสมุด และนั่นคือเหตุผลเดียวที่ผมสามารถดึงดูดความสนใจของเธอได้ ไม่อย่างนั้นในวันถัดไปเธอจะไม่ปรากฏตัวในห้องสมุดด้วยซ้ำ

เพราะผมกระตุ้นความตั้งใจของเธอที่ต้องการชนะ เธอจึงมา แต่ความสนใจของเธอไม่ได้มีเพียงแค่นี้ นั่นคือเธอต้องการเป็นที่ 1 ในทุกๆ เรื่อง 

จนถึงตอนนี้เธอก็เป็นที่ 1 ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่ง, ความงามไปจนถึงความสนใจ 

ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน ตราบใดที่มันเป็นตัวตนของเธอ โลกจะหยุดหมุนเพื่อต้อนรับเธอ และเธอก็ชอบความรู้สึกนั้นโดยไม่รู้ตัวและไม่อยากปล่อยมือจากความรู้สึกนั้นไป

และตอนนี้เธอจะรู้สึกอย่างไรเมื่อถูกผู้ชายหลีกเลี่ยงหรือแม้แต่ไม่สนใจ? แม้ว่า ‘น้องสาว’ ของเธออาจจะสนใจผม แต่ความรู้สึกในใจที่ยังไม่ถูกค้นพบของเซเลสทีเนียนั้น เธอยังเชื่อว่าในตอนที่ผมเห็นเธอ ผมจะสนใจเธอมากกว่าสการ์เล็ต เธอเชื่อว่าผมจะถูกครอบงำด้วยการปรากฏตัวของเธอ

นี่เป็นความคิดโดยไม่รู้ตัวที่พัฒนาขึ้นในใจของเธอ จิตใจของเธอเองวางเธอไว้อยู่เหนือทุกสิ่ง ดังนั้นความเย่อหยิ่งที่ซ่อนอยู่และไม่ถูกเปิดเผยของเธอจึงคิดว่าผมจะไม่แม้แต่จะฝันที่จะหลีกเลี่ยงเธอ แต่ตอนนี้ผมพิสูจน์แล้วว่าเธอคิดผิด ตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่ในห้อง และนี่เป็นครั้งแรกเลยที่ไม่มีใครสนใจเธอเลยแม้ว่าเธอจะมาด้วยรูปร่างที่แท้จริงของเธอก็ตาม

ผมยืนอยู่ตรงหน้าเธอโดยกอดสการ์เล็ตผู้หญิงอีกคนไว้และไม่มีทีท่าว่าจะสนใจเธอเลย แน่นอนว่าสการ์เล็ตอาจจะเป็น ‘น้องสาว’ ของเธอ แต่ด้วยความคิดที่บิดเบี้ยวของเซเลสทีเนียทำให้เธอต้องการดีกว่าสการ์เล็ต ซึ่งเป็นความคิดที่บิดเบี้ยว ว่า ‘พี่สาว’ ควรจะดีกว่า และนี่คือจุดอ่อนที่สุดของเธอ

บางอย่างที่ผมเคยใช้ในอดีตเพื่อเข้าหาเธอ เพราะวิธีเดียวที่จะเข้าหาเธอได้คือการเข้าใกล้สการ์เล็ตและใช้เธอในการยั่วยุ 

ในเกมนั้นผมเป็นคนเดียวที่คิดออก ดังนั้นจึงประสบความสำเร็จในการพิชิตใจเธอ แต่ไม่เคยคิดฝันเลยว่าคนที่ผมตกได้จะเป็นผู้หญิงที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของผม

ตอนนั้นผมถูกลักพาตัวไป และสาวๆ ที่เหลือที่ผมพิชิตได้ก็ตายกันหมด แม้แต่สการ์เล็ตก็ไม่รอด เธอเองก็ถูกฆ่าอย่างเลือดเย็น 

ความเย่อหยิ่งของเซเลสทีเนียทำให้เธอไม่ยอมรับความจริงที่ว่าผมสามารถอยู่กับคนอื่นได้ และที่เลวร้ายที่สุดคือเธอมีพลังที่จะบรรลุสิ่งนี้ด้วย

“ฉันมีความสุขจัง”

สการ์เล็ตพูดด้วยรอยยิ้มสดใสที่ทำให้ห้องสว่างขึ้น 

ผมยิ้มขณะจับใบหน้าของเธอด้วยมือข้างหนึ่ง ในขณะที่อีกข้างหนึ่งจับเอวของเธอเอาไว้ 

ผมถูริมฝีปากที่จูบก่อนจะพูดขึ้น

“นั่นสิฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะเริ่มตกหลุมรัก ‘เด็กผู้ชาย’ ที่ตัวเองเคยช่วยชีวิตไว้ โชคชะตาช่างลึกลับจริงๆ”

“ก็จริงของนาย”

สการ์เล็ตหัวเราะคิกคักแต่ผมก็พูดแทรกขึ้นมาก่อนที่เธอจะพูดต่อ

“แต่ฉันอยากให้ความสัมพันธ์ของเราเป็นความลับในตอนนี้”

“ทำไมหล่ะ?”

จู่ๆ ดวงตาของสการ์เล็ตก็เปล่งประกายเฉียบคมเมื่อเธอถามคำถามนี้พร้อมกับมานาของเธอที่ดูผิดปกติเล็กน้อย 

ผมได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นให้กับการระเบิดของเธอก่อนจะจับเอวของเธอให้แน่นขึ้นในขณะมองเข้าไปในดวงตาของสการ์เล็ต

“เพราะฉันมีบางอย่างที่ต้องทำก่อนที่ฉันจะสามารถผูกมัดกับความสัมพันธ์ได้อย่างเต็มที่”

“นั่นหมายความว่ายังไงกัน?”

คราวนี้สการ์เล็ตถามด้วยเสียงของเธอที่ถูกควบคุมมากขึ้น

“เห้อออ…..สการ์เล็ต ฉันมีบางอย่างที่ต้องทำ และในช่วงเวลานี้ฉันอาจไม่มีเวลาให้เธอและผู้หญิงที่สุดยอดอย่างเธอต้องการสิ่งที่ดีที่สุด”

พูดดังนั้นแล้วผมจึงขยับไปข้างหน้าและจูบริมฝีปากของเธอเพื่อทำให้เธอสงบลงมากขึ้น 

ผมกอดเธอแน่นก่อนจะพูดต่อ

“เชื่อฉันเถอะ เธอไม่รู้หรอกว่าฉันอยากพาเธอไปหาแม่เพื่อแนะนำตัวลูกสะใภ้คนนี้มากแค่ไหน แต่ตอนนี้ฉันยังทำแบบนั้นไม่ได้ มีบางอย่างที่ฉันต้องทำ และจนกว่าจะถึงเวลานั้นฉันอยากให้เธออดทนไว้ก่อน”

เมื่อพูดจบผมก็มองสการ์เล็ตอย่างลึกซึ้งด้วยดวงตาของผมที่เปล่งประกายด้วย ‘ความจริง’ และ ‘ความบริสุทธิ์’ 

ชั่วครู่ที่ความเงียบครอบงำระหว่างเรา จากนั้นสการ์เล็ตก็พูดขึ้น

“นายยังไม่ได้บอกฉันเลยว่ามันคืออะไร?”

“ไม่ ฉันบอกไม่ได้”

“สัญญามรณะงั้นเหรอ?”

“ใช่”

สิ่งนี้ทำให้สการ์เล็ตเงียบอีกครั้ง แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเธอก็พูดอีกครั้ง

“นายจะตกอยู่ในอันตรายใช่ไหม?”

“ใช่”

“นี่คือการแก้แค้นใช่ไหม?”

“ใช่”

“จะมีผู้หญิงคนอื่นมาเกี่ยวข้องด้วยไหม?”

“มี”

คำตอบนี้ทำให้มานาในห้องปะทุขึ้น แต่โชคดีที่เซเลสทีเนียดูเหมือนจะก้าวเข้ามาเพื่อทำให้มันสงบลง 

ไม่อย่างนั้นผมแน่ใจเลยว่าทั้งตึกน่าจะพังลงมา แต่คราวนี้ผมก็ไม่ได้พูดอะไรอีกในขณะที่ขยับหน้าเข้าไปจูบสการ์เล็ตอีกครั้ง 

ลิ้นของผมเข้าไปในปากของเธอในขณะที่มือทั้ง 2 ข้างของผมลงไปที่เอวของเธอเพื่อโอบกอดก้นของเธอก่อนมันจะจมลงไป

ผมเห็นดวงตาของสการ์เล็ตเบิกกว้าง แต่นั่นก็ไม่นานเมื่อเธอหลับตาลงและลิ้นของเธอก็เริ่มต่อสู้กับผม 

มันนุ่มนวลและน่าพอใจ มือของผมเริ่มขยำแก้มก้นของเธออย่างดุดันขณะที่เกลี่ยมันตามความชอบของผม ปากของเราประกบเข้าหากันในขณะที่หัวของสการ์เล็ตขยับไปทางซ้ายและขวาดูเหมือนจะหาตำแหน่งที่ดีที่สุด

ในที่สุดหลังจากนั้นไม่กี่วินาทีผมก็ผละออกมา แต่สการ์เล็ตดูเหมือนจะตกอยู่ในภวังค์เนื่องจากหัวของเธอขยับเข้ามาหาผมทันทีพร้อมกับแลบลิ้นออกมา สะพานน้ำลายอยู่ระหว่างเรา และสการ์เล็ตก็ดูดมันอย่างเอร็ดอร่อยในรสชาติของผม

“ดูเหมือนเธอจะซนมากเลยนะ”

“!!”

ผมพูดและสการ์เลตก็ประหลาดใจเมื่อดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความชัดเจนอีกครั้ง

“อย่ากังวลไปเลย เป้าหมายของฉันต้องการให้ฉันได้พันธมิตรเยอะๆ และส่วนมากก็จะเป็นผู้หญิง บางทีฉันอาจจะเริ่มสนใจที่จะชอบพวกเธอ แต่สุดท้ายแล้วเธอคือคนเดียวเข้าใจไหม?”

ด้วยความงุนงงสการ์เล็ตผงกหัวของเธอ แต่ในไม่ช้าใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นขณะที่ผมยังคงขยำแก้มก้นของเธออย่างไม่สิ้นสุด 

ผมโน้มตัวไปข้างหน้าก่อนจะกระซิบ

“โอ้….สการ์เล็ตของฉันลามกทำไมขนาดนี้”

สิ่งนี้ได้ผลตามที่ผมตั้งใจไว้เมื่อสการ์เล็ตหน้าแดงและหายไป 

ปล่อยให้ผมยืนอยู่ในห้อง โดยมีเซเลสทีเนียที่ซึ่งใบหน้าเริ่มเย็นชาเล็กน้อย 

ผมหันไปหาเธอและยิ้มให้เธออย่างขอโทษ

“ขอโทษทีที่ผมเสียการควบคุมไปหน่อย”

“นายไม่ชอบฉันงั้นเหรอ?”

เซเลสทีเนียถามขึ้นมาทำให้ดวงตาของผม ‘เบิกกว้าง’ ก่อนที่จะยิ้ม

“ใช่แล้ว ผมไม่ชอบเธอ ต้องบอกว่าผมสามารถตอบได้อย่างรวดเร็วเลย”

“ทำไมหล่ะ? นายเชื่อจริงๆ เหรอว่าฉันจะไม่ฆ่านาย?”

เธอถามกลับด้วยท่าทางสงบแต่ดูโกรธ 

ผมแสยะยิ้มขณะที่เริ่มเดินเข้าไปหาเธอซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ แต่เมื่อผมเริ่มทำอย่างนั้น ความกลัวอันหนาวเหน็บก็เริ่มก่อตัวขึ้นทางผม

‘Dragon Fear (ความกลัวของมังกร)’

บางสิ่งบางอย่างที่สามารถปล่อยออกมาจากมังกรได้เท่านั้น แต่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผมนานนัก 

ผมยักไหล่และเดินไปหาเซเลสทีเนียที่เบิกตากว้างก่อนจะหยุดยืนอยู่ต่อหน้าเธอและพูดขึ้นมา

“ฆ่าผมงั้นเหรอ?….หือ….เธอจะลองก็ได้นะ”

พูดจบผมก็เดินออกไปโดยไม่สนใจเจ้าหญิงมังกรที่กำลังงุนงงอยู่

 

 

 

-Donate-

True Money Wallet ID : mraxzy 

ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต