บทที่ 238 เติมเต็มความรู้สึกกันบ่อยๆ

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่238 เติมเต็มความรู้สึกกันบ่อยๆ

เมื่อได้ฟังคำพูดของปู่ลี่ ลี่จุนซินก็พยักหน้า

ปู่ลี่เหมือนกับคิดอะไรได้ เลยเปิดปากพูด: “ฉันไม่อยากให้ผู้หญิงคนนั้นมาเป็นหินขวางเท้าของลี่จุนถิง”

ลี่จุนซินบอกว่าตัวเองเข้าใจดี: “ฉันเข้าใจแล้ว คุณปู่”

ในตอนนั้นเองส้งหวั่นหวั่นเดินเข้ามา

ตอนนี้ส้งหวั่นหวั่นมาที่ตระกูลลี่ ไม่ต้องรายงานใครก่อนแล้ว เพียงแค่เธอมาอยู่ที่หน้าบ้านของตระกูลลี่ ลูกน้องก็จะทักทาย เพราะส้งหวั่นหวั่นเองก็เหมือนเป็นนายคนหนึ่งในตระกูลลี่

และก็เพราะว่าเรื่องการแต่งงานตกลงแล้ว ดังนั้นเธอเลยมาที่ตระกูลลี่บ่อยมาก

“คุณปู่” ส้งหวั่นหวั่นมองปู่ลี่ที่นั่งอยู่บนโซฟา ก่อนจะเรียกอย่างปากหวาน

เมื่อส้งหวั่นหวั่นเดินเข้ามาก็ได้ยินลี่จุนซินกับปู่ลี่กำลังคุยกันเรื่องเจียงหยุนเอ๋อ เมื่อสังเกต เลยได้ยินสิ่งที่พวกเขาคุยกัน

อันที่จริงหลายวันมานี้ ส้งหวั่นหวั่นก็ยังคงหาที่อยู่ของเจียงหยุนเอ๋อ

ถึงแม้จะบอกว่าเจียงหยุนเอ๋อออกไปแล้ว ไม่เห็นแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอกำลังทำอะไร ลี่จุนซินไม่วางใจ และคิดว่าเจียงหยุนเอ๋ออาจจะกลับมาอีกครั้ง

ไม่อย่างนั้นก่อนหน้านี้ตัวเองคงไม่เสียเวลาขนาดนั้น และคงไม่กำจัดเธอออก

แต่ว่าเธอคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าจะมาได้ยินข่าวของเจียงหยุนเอ๋อ ว่าถูกคนของตระกูลลี่ซ่อนเอาไว้

แต่ส้งหวั่นหวั่นก็ยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น

ท่านปู่ลี่ได้ยินเสียงของส้งหวั่นหวั่น สีหน้าจริงจังเมื่อครู่ก็คลายลง แววตาก็เปลี่ยนไปเป็นความอ่อนโยน: “คุณมาแล้วเหรอ?”

ส้งหวั่นหวั่นเดินเข้าไปหาปู่ลี่อย่างเป็นธรรมชาติ ก่อนจะนั่งข้างๆ เขา: “ฉันมาเยี่ยมคุณปู่ ช่วงนี้คุณสุขภาพดีไหม”

ปู่ลี่ทำดีกับส้งหวั่นหวั่นเป็นอย่างมาก ส้งหวั่นหวั่นเองก็กตัญญู เป็นห่วงร่างกายของตัวเอง ในใจของปู่ลี่นั้นรู้สึกดี: “ดีขึ้นมากแล้ว คุณมาเยี่ยมผม ผมก็ต้องดีขึ้นอยู่แล้ว”

ส้งหวั่นหวั่นยิ้มขึ้น: “คุณปู่ชอบทำให้ฉันยิ้มอยู่เรื่อยเลย”

ทั้งสามคนต่างหัวเราะขึ้น

จากนั้นคนรับใช้ก็ยกผลไม้มา

ส้งหวั่นหวั่นกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก ก่อนจะรีบยื่นมือไปรับผลไม้ จากนั้นก็หยิบส้มมาลูกหนึ่ง พลางปอกให้ปู่ลี่ แล้วก็ปอกไปพูดไป: “คุณปู่ คุณต้องกินส้มเยอะๆ นะ จะได้มีวิตามิน ถึงจะอายุยืนเป็นร้อยๆ ดีเลย”

พูดไปพลางป้อนส้มให้ปู่ลี่

ในตอนนั้นเองโม่เสี่ยวฮุ่ยก็เข้ามา เมื่อเห็นส้งหวั่นหวั่นก็ยิ้มให้อย่างชอบพลอ

“คุณป้า” ส้งหวั่นหวั่นทักทาย

“เรียกป้าได้อย่างไร เดี๋ยวก็ต้องเรียกว่าแม่แล้ว” โม่เสี่ยวฮุ่ยหยอกล้อ ยิ่งมองภรรยาของลูกชายตัวเองก็ยิ่งชอบ

ส้งหวั่นหวั่นก้มหน้าทำเป็นเขินอาย

คนที่เหลือต่างหัวเราะขึ้น

ถือว่ายอมรับการมีตัวตนของเธอในบ้านนี้

ท่าทีของส้งหวั่นหวั่นนั้นดูใจกว้างเป็นอย่างมาก

ผู้หญิงสง่างาม มีท่าทีเหมือนกับผู้หญิงตระกูลสูง ส่งโม่เสี่ยวฮุ่ยกับลี่จุนซินชอบเป็นอย่างมาก

ท่านปู่ลี่ใช้มือตบหลังมือของส้งหวั่นหวั่น พลางกำชับ: “หวั่นหวั่น ถึงแม้ว่าคุณใกล้จะแต่งงานแล้ว แต่ถ้าไม่มีอะไรก็ไปโผล่อยู่ข้างหน้าลี่จุนถิงบ้าง เขามักจะทำงาน คุณเองก็ไปบอกเขาหน่อย”

“แต่ว่า คุณปู่ คุณเองก็รู้ว่าลี่จุนถิงทำกับคนนั้น……” ส้งหวั่นหวั่นพูดเหมือนน้อยใจ

เมื่อพูดถึงเจียงหยุนเอ๋อ สีหน้าของโม่เสี่ยวฮุ่ยก็ผลุบลง

“เห้อ” ปู่ลี่ถอนหายใจ อีกสักพักก็เปิดปาก “ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร คุณก็ยังต้องไป คุณเป็นผู้หญิงที่ดีมาก รู้จักกันมานาน ลี่จุนถิงเป็นคนฉลาด เขารู้ว่าอะไรดีอะไรไม่ดี”

ส้งหวั่นหวั่นพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ในใจกลับเชื่อมั่นในตัวเองเป็นอย่างมาก

โม่เสี่ยวฮุ่ยพูดขึ้น: “หวั่นหวั่น นี่ เดี๋ยวลี่จุนซินจะต้องไปบริษัท คุณไปกับลี่จุนซินเถอะ”

ส้งหวั่นหวั่นไม่ได้หาโอกาสนี้ได้ง่ายๆ เลยรีบพยักหน้า

“ได้ งั้นพวกเราไปกันตอนนี้เลย” ลี่จุนซินพูดพลางหยิบกระเป๋าของตัวเอง

ส้งหวั่นหวั่นมองปู่ลี่ก่อน เหมือนจะรอคำอนุญาต

ท่านปู่ลี่ยินดี: “ฮ่าๆ ไปเถอะๆ พัฒนาความสัมพันธ์ของพวกคุณทั้งสองคนให้ดีๆ”

ส้งหวั่นหวั่นพยักหน้า: “อือ ขอบคุณค่ะคุณปู่”

“โอเค ฉันไปส่งพวกคุณดีกว่า” โม่เสี่ยวฮุ่ยพูดพลางคล้องแขนของคนหนึ่งออกไปจากห้องรับแขก

โม่เสี่ยวฮุ่ยพูดพลางส่งลี่จุนซินกับส้งหวั่นหวั่นขึ้นรถไป

หลังจากถึงบริษัท ลี่จุนซินก็รีบทำเรื่องของตัวเอง แล้วถาม: “เดี๋ยวฉันจะมีเรื่องที่ต้องคุยกับลี่จุนถิง คุณอยากจะไปกับฉัน หรือจะรอที่นี่ รอฉันคุยเสร็จแล้วคุณค่อยไปหาลี่จุนถิง?”

“พี่สาว ฉันไปกับคุณดีกว่า ฉันจะนั่งอยู่ตรงนั้น ไม่พูดอะไร คุณวางใจเถอะ ฉันจะไม่รบกวนการคุยของพวกคุณ” ส้งหวั่นหวั่นพูดพลางคล้องแขนของลี่จุนซิน ด้วยความสนิทสนม

“ได้ คุณไปกับฉันเถอะ” ลี่จุนซินไม่ได้รู้สึกว่าไม่สบายใจ เพราะชอบคนที่สนิทสนมกับตัวเอง

ส้งหวั่นหวั่นตามลี่จุนซินไปด้วยความดีใจ ก่อนจะขึ้นไปข้างบน ถึงห้องทำงานของลี่จุนถิง

ตอนเดินเข้าไป ลี่จุนซินเคาะประตูก่อน

ลี่จุนถิงคิดว่าเป็นผู้ช่วย เลยไม่ได้เงยหน้าตอนพูด: “เข้ามาได้”

“ลี่จุนถิง” ลี่จุนซินเรียก ลี่จุนถิงถึงจะรู้ว่าเป็นพี่สาว เลยเงยหน้ายิ้มให้

ส้งหวั่นหวั่นเองก็หน้าแดงเล็กน้อย อยู่ข้างหลังลี่จุนซิน พลางพูดด้วยใบหน้าสีแดง: “ลี่จุนถิง”

เมื่อเห็นคนข้างหลังของลี่จุนซิน สีหน้าของลี่จุนถิงก็นิ่งลงทันที และทำเหมือนกับที่เคยทำกับส้งหวั่นหวั่น

สีหน้าของลี่จุนถิงเปลี่ยนไป ลี่จุนซินมองออก แล้วก็มองออกด้วยว่าลี่จุนถิงไม่ได้ชอบอะไรส้งหวั่นหวั่นขนาดนั้น

แต่ว่าลี่จุนซินเองก็ไม่ได้แสดงออกมา พลางกอดเอกสารเอาไว้แล้วพูด: “วันนี้ฉันจะมาคุยโปรเจคการทำงานกับคุณ”

ลี่จุนถิงพยักหน้า ก่อนจะเริ่มคุยเรื่องธุรกิจกับลี่จุนซิน

ส้งหวั่นหวั่นทำเหมือนที่พูดกับตัวเอง นั่งอยู่เงียบๆ บนโซฟาของห้องทำงาน

ดวงตาของเธอนั้นเอาแต่มองลี่จุนถิง โดยไม่ขยับไปไหน

ในตานั้นมีความรู้สึกอย่างเร่าร้อน ช่วงนี้ความรักที่สวยงาม เหมือนกับว่าอยากจะกอดลี่จุนถิงเอาไว้

ตอนที่ลี่จุนถิงคุยกับลี่จุนซิน แววตานั้นก็แอบมองอยู่ที่ส้งหวั่นหวั่น ในตานั้นมีแต่ความเกลียดชัง

เขาคิดว่าทำไมถึงมีแววตามองตัวเองอยู่ตลอดเวลา ที่แท้ก็คือส้งหวั่นหวั่น เหอะ เป็นผู้หญิงไม่มีราศีเลย

ลี่จุนซินเองก็เห็นแววตาของลี่จุนถิง ก่อนจะหันไปมองส้งหวั่นหวั่น

พบว่าส้งหวั่นหวั่นกำลังหลงใหลอยู่ โดยไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย ลี่จุนซินก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

เรื่องนี้เธอเองก็ช่วยอะไรไม่ได้ อยากจะได้หัวใจของลี่จุนถิง ก็ต้องยืมความพยายามของส้งหวั่นหวั่นเอง