บทที่ 239 ไม่เจอเด็กแล้ว

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่239 ไม่เจอเด็กแล้ว

“ลี่จุนถิง ครั้งนี้ฉันมีเรื่องที่อยากจะคุยกับคุณ” ลี่จุนซินเห็นท่าทีเย็นชาของลี่จุนถิง เลยไม่ได้รู้สึกแปลก แต่ในใจก็ไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่

ก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ของตัวเองกับน้องชายคนนี้สนิทกันมาก ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะเจียงหยุนเอ๋อ ความสัมพันธ์ของครอบครัวพวกเขาคงจะไม่เป็นแบบนั้น

“อือ คุณพูดเถอะ” ลี่จุนถิงก้มหน้าอ่านเอกสารที่อยู่ในมือ เลยไม่ได้สนใจคำพูดของลี่จุนซินสักเท่าไหร่

เมื่อเห็นท่าทีแบบนั้นของลี่จุนถิง ในใจของลี่จุนซินก็อดไม่ได้ที่จะโมโหขึ้นมา: “ลี่จุนถิง คุณจะทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเราเป็นแบบนี้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?”

ลี่จุนถิงขมวดคิ้วเป็นปมเบาๆ ตอนที่เงยหน้าขึ้นนั้นเต็มไปด้วยความหงุดหงิด: “ฉันคิดว่าฉันทำได้อย่างดีแล้ว การวางแผนของพวกคุณ ฉันเองก็ตอบรับแล้ว คุณไม่พอใจอะไรอีก?”

เมื่อได้ยินดังนั้น ลี่จุนซินพูดไม่ออก

ถึงอย่างไร คำที่ลี่จุนถิงพูดก็เป็นความจริง

ในตอนแรกอยากจะบอกว่าการที่เขาปล่อยเจียงหยุนเอ๋อไปก็ต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะตอบรับการแต่งงานกับส้งหวั่นหวั่นอย่างง่ายดาย และทำให้พวกเขาสลายไปบ้าง

“โอเค” ลี่จุนซินตอบอย่างไร้ทางเลือก “ฉันแค่หวังว่าความสัมพันธ์ของพวกเราจะไม่เปลี่ยนไปเป็นแข็งทื่อแบบนั้น”

ลี่จุนซินนั้นพูดออกมาอย่างจริงใจ แต่ลี่จุนถิงกลับไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย: “พี่สาว มีเรื่องอะไรก็พูดมาตรงๆ เลย ฉันยังต้องทำงานอีกเยอะ”

เมื่อลี่จุนซินถูกเขาพูดให้ฟังแบบนั้น ว่าพูดได้แค่เรื่องงาน

เมื่อพูดจบ ลี่จุนซินเองก็มีเรื่องที่ตัวเองต้องจัดการ เลยบอกลาก่อนจะจากลี่จุนถิงไป

“ลี่จุนถิง งั้นฉันไปก่อนนะ หวั่นหวั่น คุณอยู่เป็นเพื่อนเขาที่นี่หน่อยเถอะ” ลี่จุนซินตบไหล่ของส้งหวั่นหวั่น พลางพูด

ส้งหวั่นหวั่นตอบตกลงอย่างไม่ลังเล

ให้ตายเถอะ สามารถมาอยู่ด้วยกันกับลี่จุนถิงสองต่อสอง มันเป็นเรื่องที่เธอรอมานานแล้ว

เมื่อได้ยินลี่จุนซินพูดแบบนั้น คิ้วของลี่จุนถิงก็ขมวดขึ้นเป็นปม เขาขยับปากเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองท่าทีของทั้งสองคน สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร

เมื่อเห็นลี่จุนซินออกไป ส้งหวั่นหวั่นก็หันไปมองลี่จุนถิง ด้วยความเขินอาย

“ลี่จุนถิง ตอนนี้ใกล้เที่ยงแล้ว พวกเราไปกินข้าวกันเถอะ”

“ไม่เอา” ลี่จุนถิงก้มหน้าลง เพราะไม่อยากจะสนใจเธอ “เดี๋ยวฉันจะต้องไปประชุมอีก คุณไปกินข้าวเองเถอะ”

ส้งหวั่นหวั่นรู้ว่านี่เป็นแค่ข้ออ้างของลี่จุนถิง เขาแค่ไม่อยากกินข้าวกับตัวเองแน่นอน

แต่ว่า ส้งหวั่นหวั่นยังพยายามปลอบใจตัวเอง ตอนนี้ลี่จุนถิงไม่ยอมรับตัวเองก็ไม่แปลก แต่สักวันหนึ่ง เธอจะต้องทำให้ลี่จุนถิงรู้ถึงความดีของตัวเอง

ดังนั้น ส้งหวั่นหวั่นทำท่าทีเหมือนกับเป็นคนดีเข้าใจคน พลางพูด: “ลี่จุนถิง ฉันรู้ว่าคุณมีเรื่องต้องทำอีกมาก ไม่เป็นไร วันนี้ฉันไปกินข้าวเองก็ได้ ครั้งหน้าคุณไปกับฉันได้ไหม?”

ลี่จุนถิงก้มหน้าลงตลอดเวลา โดยไม่ได้สนใจเธอเลย

เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนี้ ส้งหวั่นหวั่นรู้สึกทำตัวไม่ถูก แต่ก็ยังพูดว่า: “งั้น……ฉันไปก่อนนะ ลี่จุนถิง คุณทำงานไปเถอะ”

พูดจบ ส้งหวั่นหวั่นก็เดินออกไปจากห้องทำงานของลี่จุนถิงก่อนที่อารมณ์นั้นจะพังทลายลง

เพิ่งจะเดินออกไปไม่นาน สีหน้าของเธอนั้นแย่จริงๆ เหมือนจะไร้เรี่ยวแรงเลยล่ะ

ทำไมเธอจะดูไม่ออก ว่าตอนนี้ลี่จุนถิงไม่ได้สนใจเธอเลย แน่นอนว่ายังคงไม่ลืมเจียงหยุนเอ๋อ

ส้งหวั่นหวั่นไม่เข้าใจเลยจริงๆ เจียงหยุนเอ๋อมีอะไรดีนักหนา ที่ทำให้ลี่จุนถิงดึงดันได้ขนาดนั้น

เมื่อเป็นแบบนี้ เธอก็……เอาเสี้ยนหนามในหัวใจของตัวเองออกไปดีกว่า

……

ที่ที่เจียงหยุนเอ๋ออยู่ในบ้านพักตากอากาศ ถวนจื่อมองออก ว่าตั้งแต่เข้ามาในที่ที่ไม่คุ้นเคยนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็ไม่สบายใจเลยแม้แต่น้อย

เพราะว่าเจียงหยุนเอ๋อขมขื่นขนาดนั้น อารมณ์ของถวนจื่อเลยรู้สึกไม่ดีขึ้นมา แถมยังไม่มีอารมณ์จะเล่นเกมอีกด้วย

เช้านี้ เจียงหยุนเอ๋อกินข้าวแล้วจึงนั่งเหม่อลอยอยู่บนโซฟา

ถวนจื่อนั่งอยู่ข้างๆ เธอ ในตอนแรกอยากจะพูดอะไรกับเธอสักหน่อย แต่ก็กลัวว่าจะทำให้อารมณ์ของเจียงหยุนเอ๋อนั้นแย่ไปกว่าเดิม เมื่อคิดไปคิดมา เลยทำได้แค่นั่งเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แต่ก็อยู่เป็นเพื่อนของเจียงหยุนเอ๋อ

เมื่อคนรับใช้เก็บของเสร็จ จากนั้นก็เตรียมจะออกไปซื้อของ

ถึงต้องรับผิดชอบการกินของเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อ แต่คนรับใช้เองก็ไม่กล้าเกี่ยงอะไร ดังนั้นถือได้ว่าทำอย่างเต็มที่เลยล่ะ

เมื่อเห็นคนรับใช้กำลังจะออกไป ถวนจื่อเลยเดินเข้าไป พลางพูด: “คุณป้า คุณพาฉันไปด้วยได้ไหม?อยู่บ้านทั้งวันมันน่าเบื่อจังเลย!”

คนรับใช้สงสัย ก่อนจะปฏิเสธ: “ขอโทษนะ ก่อนหน้านี้พวกเขาบอกเอาไว้แล้ว ว่าไม่ให้พวกคุณออกไป”

“แต่ว่า……มันน่าเบื่อจริงๆนะ ฉันไม่ได้ไปไหนตั้งนานแล้ว ขอร้องล่ะ ฉันจะเชื่อฟัง พาฉันออกไปเถอะ” ถวนจื่อทำท่าทีน่าสงสาร พลางขอร้องอย่างจริงจัง

เมื่อเห็นท่าทีของถวนจื่อ ในที่สุดคนรับใช้ก็ใจอ่อน เลยพยักหน้าด้วยความไม่มีทางเลือก

ถวนจื่อออกไปกับคนรับใช้ เจียงหยุนเอ๋อยังอยู่ในภวังค์ของตัวเอง โดยไม่ได้สังเกตเรื่องที่เกิดขึ้นเลย

เมื่อเธอดึงสติกลับมา ก็พบว่าถวนจื่อไม่อยู่ข้างๆ ตัวเองแล้ว เธอลุกขึ้นจากโซฟา เดินหารอบบ้านพักตากอากาศ แต่ก็ยังไม่เห็นเงาของถวนจื่อเลย

ถ้าไม่อยู่ในบ้านพักตากอากาศ ก็ต้องออกไปอย่างแน่นอน เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็อยากจะออกไปหาถวนจื่ออย่างร้อนรน แต่กลับถูกแม่บ้านขวางเอาไว้

“ขอโทษนะ ตอนนี้คุณออกไปไม่ได้” แม่บ้านพูดด้วยความไร้ทางเลือก

“แต่ว่า เมื่อไม่เห็นถวนจื่อ ฉันก็ต้องออกไปหาเขา” เจียงหยุนเอ๋อพูดด้วยความร้อนรน

แม่บ้านปรายตามองเธออย่างนิ่งๆ พลางพูด: “คุณวางใจเถอะ ฉันจะส่งคนออกไปหา แต่คุณออกไปไม่ได้”

เจียงหยุนเอ๋อกัดฟัน เพราะอยากจะพูดต่อ เมื่อสบตาแม่บ้านที่จ้องเขม็ง เลยทำได้เพียงนั่งลงบนโซฟา แล้วรออย่างร้อนใจ

ถวนจื่อเดินตามคนรับใช้ออกไป จากนั้นคนรับใช้ก็กำชับเขา ว่าไม่ให้วิ่งไปมา

ถวนจื่อพยักหน้าด้วยความเชื่อฟัง: “คุณป้าวางใจเถอะ ฉันไม่มีทางออกห่างจากคุณแม้แต่ก้าวเดียว”

ถึงแม้ว่าถวนจื่อจะตอบรับ และเชื่อฟังเป็นอย่างมาก แต่แววตากลับกลอกไปมา ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

จากนั้น ถวนจื่อก็แอบวิ่งไปตอนที่คนรับใช้เผลอ

เขาคิดว่าไม่อยากให้หม่ามี้ของตัวเองรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้ ดังนั้นเลยต้องไปถามแด๊ดดี้ให้รู้เรื่อง ว่าทำไมไม่เอาเขากับหม่ามี้แล้ว