ตอนที่ 64 หนูชอบที่นี่มาก

Game of the World Tree

สายลมเป็นผู้เล่นที่แปลกมาก

นี่คือสิ่งที่ลูกเมี้ยวเค็มคิด

ในตอนแรก เธอคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นผู้เล่นประเภทที่เพลิดเพลินไปกับการชมวิวทิวทัศน์ภายในเกม

แต่การกระทำของสายลมก็ทำให้ความคิดของลูกเมี้ยวเค็มเปลี่ยนไป

สายลมไม่ได้ตื่นเต้นไปกับการมองหามุมดี ๆ เพื่อถ่ายภาพ และไม่ได้ถามลูกเมี้ยวเค็มว่าจุดที่ทัศนียภาพงดงามที่สุดคือบริเวณใด

เกมเมอร์ลูกผสมระหว่างสายต่อสู้และสายใช้ชีวิตอย่างลูกเมี้ยวเค็ม รู้จักสถานที่ดี ๆ อยู่มากมาย แต่กลับไม่มีโอกาสได้งัดมันออกมาใช้เลยแม้แต่ที่เดียว

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนสายลมจะชื่นชอบอาหารในดินแดนแห่งนี้

ตลอดระยะเวลาที่เดินชมเมือง เมื่อสายลมเห็นอาหารที่ตัวเองสนใจ เธอจะแวะเข้าไปลองชิมเสมอ

การกระทำนี้คล้ายคลึงกับนักเดินทางที่ไม่มีอาหารดี ๆ ตกถึงท้องมาเป็นเวลานาน

นอกจากนี้ ลูกเมี้ยวเค็มยังรู้สึกว่าสายลมไม่ได้ดูแปลกแยกไปจากดินแดนแห่งนี้ ด้วยเหตุผลบางประการที่ตนไม่สามารถอธิบายออกมาได้

อาจจะเพราะท่าทางที่ดูอิสระและเรียบง่ายของสายลม ที่กำลังเพลิดเพลินไปกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว

เธอไม่ได้ดูตื่นเต้นไปกับโลกใบใหม่ ซ้ำยังเหมือนกับเดินอยู่ในสวนหลังบ้านของตัวเอง…

อ่า… คงคิดมากไปล่ะมั้ง

ลูกเมี้ยวเค็มส่ายศีรษะ

ทว่า เธอกลับรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของสายลมมากขึ้น

ผู้เล่นประหลาดคนนี้มีความอ่อนโยน มีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสายลมเห็นบรรดาผู้เล่นทำภารกิจอย่างสนุกสนาน รอยยิ้มของเธอก็เหมือนจะอ่อนโยนยิ่งขึ้นไปอีก

แถมเธอยังชื่นชอบการเดินเตร่ไปรอบเมืองเป็นอย่างมาก จนถึงบัดนี้สายลมก็ยังคงเดินอย่างไม่หยุดหย่อน …พร้อมไปกับลูกเมี้ยวเค็มที่ติดสอยห้อยตามมาตลอด

คุณพี่น่าจะชอบเดินเล่น…

“คุณชอบเดินเล่นแบบนี้เหรอคะ?”

ลูกเมี้ยวเค็มรู้สึกสงสัยจนอดทนไม่ไหว และตัดสินใจถามออกมาในที่สุด

เมื่อได้ยินคำถามของสาวน้อย สายลมหันกลับมาพร้อมดวงตาที่ทอแสงลุ่มลึก ปลายนิ้วหยิบผลเบอร์รีสีชาดเข้าปาก ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงอันลึกลับ

“เราชอบความรู้สึกของการเป็นอิสระน่ะค่ะ”

อิสระ?…

ลูกเมี้ยวเค็มรู้สึกสะดุด เธอรู้สึกถึงความเชื่อมโยงกับชีวิตของตัวเองด้วยบางสาเหตุ

ลูกเมี้ยวเค็มใจเต้น ณ วินาทีนั้น เธอรู้สึกถึงความเชื่อมโยงกับชีวิตของตัวเองด้วยบางสาเหตุ

เธอคิดว่าตนเข้าใจความรู้สึกของสายลมอยู่กึ่งหนึ่ง ทว่าตัวตนของสายลมกลับยิ่งดูลึกลับมากขึ้นไปอีกหลายส่วน

พี่สายลม… อย่างกับเจ้าหญิงที่แอบหนีออกมาจากปราสาทเลย…

ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในใจของลูกเมี้ยวเค็ม ต่อด้วยความรู้สึกที่ว่าตัวเองน่าจะอ่านนิทานปรัมปรามามากเกินไป…

แต่ลูกเมี้ยวเค็มกลับรู้สึกว่าอีกฝั่งช่างดูเหมาะสมกับการเป็นเจ้าหญิงเหลือเกิน…

แม้ว่าร่างกายจะเลือกใช้ค่าตั้งต้นตามเกณฑ์มาตรฐาน แต่ความลึกลับและสูงศักดิ์ของสายลมไม่อาจปิดบังไว้ด้วยภาพลักษณ์ภายนอกเหล่านี้…

แม้จะอยู่ใกล้เพียงใด แต่กลับรู้สึกเหมือนสายลมอาจหวนคืนสู่ภพที่เธอจากมาได้ในทุกขณะ…

ราวกับที่แห่งนี้ไม่ใช่ที่ของเธอ

ราวกับเธอไม่ได้มีความตั้งใจจะปรับเข้าหาสถานที่แห่งนี้

ราวกับโลกใบนี้ ไม่ใช่ทั้งปัจจุบันและอนาคตของเธอ

ราวกับนักพเนจรที่กำลังหยุดพักเพียงชั่วยาม

และในไม่ช้า ก็จะถึงเวลาออกเดินทางอีกครั้ง…

พี่เขาคงเหงาน่าดู…

เมื่อเกิดความคิดเช่นนี้ ลูกเมี้ยวเค็มตัดสินใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยปากขึ้น

“อ่า… คืนนี้เราจะมีปาร์ตี้รอบกองไฟในบริเวณจัตุรัสเพื่อเป็นการต้อนรับผู้เล่นใหม่ พี่สายลม… สนใจเข้าร่วมไหมคะ?”

สายลมนิ่งอยู่ครู่หนึ่งเมื่อได้รับการชักชวนจากลูกเมี้ยวเค็ม

ดวงตาของเธอเผยประกายแวววาว ก่อนจะพยักหน้าเป็นการตอบรับอย่างแผ่วเบา

“เอาสิคะ”

ในเวลาย่ำค่ำ

เหล่าผู้เล่นใหม่ต่างเริ่มคุ้นเคยกับเกมเพลย์ของ The Kingdom of Elves ด้วยการช่วยเหลือจากบรรดาผู้เล่นกลุ่มแรก

พวกเขาชื่นชมตัวเกมที่ยอดเยี่ยมสมคำร่ำลือ และตอบรับคำชวนเข้าร่วมงานเลี้ยงจากผู้เล่นเก่า

ไม่ทราบว่าตั้งแต่เมื่อไร ที่งานเลี้ยงรอบกองไฟได้กลายมาเป็นประเพณีเฉลิมฉลองในเกม The Kingdom of Elves กองฟืนสูงใหญ่ร่วม 4 เมตรถูกจัดไว้ในบริเวณกลางจัตุรัส มันถูกจุดขึ้นท่ามกลางเสียงเชียร์และเสียงผิวปากจากผู้เล่นโดยรอบ

เปลวเพลิงสีแดงลุกโชนเกือบสิบเมตร สาดส่องทั่วทั้งบริเวณให้สว่างขึ้นมาโดยพลัน

กลุ่มผู้ทดสอบรอบที่ 1 ได้จัดโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ไว้ในจัตุรัส เต็มไปด้วยถั่วปริศนารสชาติเยี่ยม ผลไม้นานาชนิด และเนื้อย่างแสนอร่อยที่ได้มาจากการล่าบรรดาสัตว์อสูรในป่าเอลฟ์

แน่นอนว่าอาหารจานหลังได้รับการหลบซ่อนให้พ้นจากสายตาของอลิซและเบอร์เซิกเกอร์ ผู้ซึ่งจะเทศนาเหล่าผู้เล่นอย่างแน่นอน…

นอกจากนี้ ยังมีผู้เล่นกลุ่มหนึ่งพบน้ำผึ้งจากในป่า และนำมาชงร่วมกับดอกไม้บางชนิดที่มีความคล้ายคลึงกับดอกเบญจมาศ จนออกมาเป็นชาแสนอร่อย

บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน บรรดาผู้เล่นต่างจับกลุ่มสังสรรค์ ยืนกระทบไหล่กันอย่างชื่นมื่น

ผู้เล่นบางส่วนจับกลุ่มกันเล่นบอร์ดเกมที่สร้างขึ้นมาเอง พลางส่งเสียงหัวเราะด้วยความเพลิดเพลิน

ผู้เล่นเก่าสองคนเปิดศึก PK ด้วยแต้มผลงานกลางจัตุรัส ทักษะดาบและเวทมนตร์แสนงดงามได้สร้างความตื่นเต้นแก่ฝูงชนโดยรอบ ความดุเดือดของผู้เล่นทั้งสองทำให้เหล่าผู้เล่นใหม่พากันจับจ้องตาเป็นมัน

ผู้เล่นอีกกลุ่มสร้างกีตาร์ขึ้นมาจากไม้และขนของสัตว์อสูร พวกเขาเล่นดนตรีประกอบการร้องเพลง เรียกเสียงปรบมือและเสียงผิวปากจากฝูงชนได้เป็นอย่างดี…

บรรยากาศทั่วทั้งจัตุรัสเต็มไปด้วยความชื่นมื่นราวกับงานเทศกาล

ลูกเมี้ยวเค็มและสายลมนั่งอยู่บนพรมหวายถัก ชิมอาหารเลิศรสจากของกินกองมหึมาในงานเลี้ยง พลางซึมซับบรรยากาศของการสังสรรค์

สีหน้าของสายลมดูอ่อนโยนเป็นอย่างยิ่ง

ดวงตาของเธอทอประกายด้วยแสงจากกองไฟ ราวกับพื้นผิวทะเลสาบที่เปล่งประกายใต้แสงอาทิตย์ยามเย็น

ลูกเมี้ยวเค็มคลี่ยิ้มเมื่อเห็นท่าทีจดจ่อของสายลม

“ระดับความอิสระของเกมนี้สูงมาก …ถ้าเราตั้งใจจะทำอะไรขึ้นมา เกมนี้ก็มักจะมีทางให้เราทำมันจนได้ค่ะ อย่างงานเลี้ยงนี่ก็ถูกจัดมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว…”

ลูกเมี้ยวเค็มยืดตัวเมื่อกล่าวจบ ก่อนจะจิบชาน้ำผึ้งหอมหวาน พลางหัวเราะออกมา

“จะว่าไป มีเรื่องที่น่าสนใจอยู่อย่างนึงค่ะ พวกเราส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบเข้าสังคม …แต่กลับหลงไหลในบรรยากาศงานปาร์ตี้รอบกองไฟในเกม”

สายลมไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เธอนั่งลงข้างลูกเมี้ยวเค็ม พลางกินผลไม้และรับฟังในความเงียบ

“สมาชิกกิลด์หนูหลายคนก็พูดอยู่เหมือนกัน ว่าตัวเองค่อนข้างจะเก็บตัวเมื่ออยู่นอกเกม…”

ลูกเมี้ยวเค็มกล่าว ท่าทีของเธอดูเหมือนอยู่ในภวังค์

“แต่…. ที่นี่ ทุกคนไม่ได้เป็นแบบนั้นค่ะ”

ลูกเมี้ยวเค็มดูมีท่าทีที่อ่อนลง เมื่อเห็นใบหน้าที่มีรอยยิ้มของสายลม

“ตอนแรกที่พวกเค้าบอกหนูนะ ประหลาดใจพอตัวเลยค่ะ เพราะในมุมมองของหนู ทุกคนดูเป็นมิตรและเป็นกันเองมาก หนูคิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะดูมืดมนหรือมีนิสัยเก็บตัวในชีวิตจริงได้ยังไง”

“เคยมีคนบอกหนูเมื่อนานมาแล้ว… ว่าที่คนจำนวนมากไม่อยากเข้าสังคม ไม่ใช่เพราะเป็นคนเก็บตัวค่ะ แต่เพราะพวกเขามองทะลุฉากหน้าของสังคม เห็นการเสแสร้ง และเห็นการแสดงละครที่ฉาบฉวย…”

“พวกเขาก็เลยเลือกจะอยู่ในโลกเล็ก ๆ ของตัวเอง ดีกว่ายอมไหลไปตามสังคมจอมปลอม”

“ไม่ใช่ว่าไม่อยากพูดคุยกับใคร แต่เพราะยังไม่เจอคนที่ถูกคอ”

“คนที่ไม่ใช่ คุยกันยังไงก็ไม่สนิทใจ…”

“แต่ถ้าได้รู้จักคนที่ใช่ ต่อให้อยู่ห่างกันขนาดไหน ก็คงจะหาทางมาเจอกัน และได้อยู่ด้วยกันในที่สุด แต่ถ้าเป็นคู่ที่ไม่เข้ากัน ต่อให้ใช้เวลาด้วยกันมากเพียงใด สุดท้ายก็เข้ากันไม่ได้ค่ะ”

“ก่อนหน้านี้ หนูไม่เข้าใจความหมายและไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องพวกนี้เลย”

“แต่พอได้เข้ามาในเกมนี้ หนูคิดว่า… คิดว่าตัวเองเข้าใจความหมายของมันแล้วค่ะ”

ลูกเมี้ยวเค็มดื่มชาจนหมดแก้ว ก่อนจะเผยรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุข

“ที่แห่งนี้เหมือนเป็นบ้านใหม่ของทุก ๆ คน …ไม่ต้องหลบซ่อน ไม่ต้องปิดบังอะไร เหมือนได้ชีวิตใหม่ที่ทำอะไรตามใจได้เต็มที่”

“หนูคิดว่า… มันคือเสน่ห์ของเกมนี้ค่ะ”

เด็กสาวนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมา

“เกมนี้… เป็นอะไรที่สุดยอดจริง ๆ บางทีหนูก็อยากให้สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่แค่เกม อยากให้เป็นโลกแห่งความเป็นจริงแทน… ”

“หนูอยากกล่าวคำขอบคุณแด่ผู้สร้างเกมมาก ๆ เลยค่ะ”

“ขอบคุณ… ที่ทำให้พวกเราได้มีโอกาสสัมผัสกับชีวิตที่สวยงาม”

ตูม—!

ตูม–—!

“…”

ลูกเมี้ยวเค็มถูกขัดจังหวะโดยเสียงกัมปนาท

ทั้งสองต่างเงยศีรษะขึ้นมองท้องฟ้าโดยอัตโนมัติ

บรรดาดอกไม้ไฟที่สร้างด้วยเวทมนตร์ ถูกยิงขึ้นฟ้าครั้งแล้วครั้งเล่า… พวกมันเต็มไปด้วยสีสัน และงดงามเป็นอย่างยิ่ง

เงาสะท้อนจากพลุเวทมนตร์ปรากฏขึ้นในแววตาของลูกเมี้ยวเค็ม เปล่งประกายระยิบระยับเช่นเดียวกับอารมณ์ของเธอในเวลานี้

สายลมหันศีรษะมาด้านข้าง สายตาของเธอจับจ้องที่ใบหน้าซีกหนึ่งของลูกเมี้ยวเค็ม รอยยิ้มพลันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาว

“เธอสนุกกับเกมนี้จริง ๆ”

ลูกเมี้ยวเค็มมองเหล่าดอกไม้ไฟพร้อมพยักหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย และกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสี่ยงที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นคง

“แน่นอนค่ะ!”

“หนูชอบมากจริง ๆ!”

สายลมยิ้ม พลางลุกขึ้นอย่างแผ่วเบา

ลูกเมี้ยวเค็มชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นสายลมลุกยืนขึ้น

“พี่สายลม… พี่จะไปไหนเหรอคะ?”

“เริ่มสายแล้ว เรา ต้องไปแล้วล่ะค่ะ”

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

T/N: ถั่วน้อยมีบทแล้วค่ะ :3

อ่านแปลไทยได้ที่ ค่ะ ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ

Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _