บทที่ 254 ความรู้สึก
บทที่ 254 ความรู้สึก
ทางโรงเรียนดำเนินการอย่างรวดเร็วด้วยการส่งคนมากมายไปที่ตลาดยาจินหลิงพร้อมกับรายการยาที่จะซื้อ ครูของแต่ละชั้นเรียนมีหน้าที่โทรหาผู้ปกครองทีละคน เพื่อแจ้งให้ทราบว่านักเรียนและผู้ปกครองที่ขอลาหยุดเพราะเป็นหวัดต้องมาที่โรงเรียนในวันพรุ่งนี้
ถึงขนาดที่ว่าในกลุ่ม WeChat ของแต่ละชั้นเรียน ครูผู้ดูแลชั้นเรียนได้โพสต์ข้อความ
ไว้ราวกับหินกระทบคลื่นนับพัน
ผู้ปกครองจำนวนมากสอบถามเกี่ยวกับข่าวนี้ และหลายคนเริ่มสอบถามเกี่ยวกับสถานะของโจวอี้ในโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจินหลิงผ่านคนรู้จักของพวกเขา ผลการสืบข่าวทำให้ผู้ปกครองทั้งหลายต้องตกตะลึง
คลินิกที่ปรึกษาโรครักษายาก
ให้คำปรึกษาด้านการรักษาตามแผนจีน
เฉพาะวันจันทร์และวันอังคารเท่านั้นที่อีกฝ่ายไปเข้างานในโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจินหลิงเพื่อวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วย ส่วนเวลาอื่น ๆ นั้นไม่จำเป็นต้องไป
ข่าวที่สำคัญที่สุดคือโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจินหลิงถึงขนาดส่งจดหมายแจ้งไปยังโรงพยาบาลใหญ่ ๆ ทั่วมณฑลว่า ถ้าโรงพยาบาลใดมีผู้ป่วยเคสยาก ๆ ที่ไม่สามารถรักษาหรือวินิจฉัยได้ก็สามารถส่งตัวคนไข้คนนั้นมาที่โรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจินหลิงเพื่อรับการรักษาจากโจวอี้
ข่าวนี้ดึงดูดความสนใจของผู้ปกครองนับไม่ถ้วน
พวกเขารู้ว่ามันหมายถึงอะไร
หมายความว่าโจวอี้เก่งกาจในด้านการแพทย์แผนจีนอย่างลึกซึ้ง เก่งกว่าแพทย์แผนจีนทั่วไปหลายเท่านัก
โรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจินหลิง
แผนกผู้ป่วยใน
ภายในห้องเดี่ยวที่กว้างขวางและสะอาดสะอ้าน เฉียนต้าจ้าวไอออกมาหลายครั้ง และมองลูกชายของเขาที่ถูกให้น้ำเกลืออยู่บนเตียง ลูกชายของเขามีไข้วิงเวียนศีรษะ แม้ว่าจะให้กินยาลดไข้แล้ว แต่อุณหภูมิก็ยังคงสูงอยู่
“คุณเฉียน ถึงเวลาแล้วที่เสี่ยวหูจะต้องรับการพ่นยา” พยาบาลเดินเข้ามาในห้องแล้วเอ่ยขึ้น
“แค่ก ๆ ๆ พ่นยากี่ครั้งแล้ว ทำไมผมรู้สึกว่ามันไม่ได้ผล แถมอาการไอของเขายังรุนแรงขึ้น” เฉียนต้าจ้าวขมวดคิ้ว
“การติดเชื้อในปอดไม่สามารถรักษาให้หายได้ในเวลาอันสั้น จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยการให้ยาหยดและพ่นยา” นางพยาบาลยิ้มอย่างขมขื่น
“มียาอะไรพิเศษไหม?” เฉียนต้าจ้าวถาม
“ใช้ไปแล้ว แต่ยังต้องใช้เวลา” พยาบาลกล่าว
“ก็ได้!” เฉียนต้าจ้าวถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ เขาก็คิดว่าเป็นภรรยาของเขาที่โทรเข้ามา
ทว่าเมื่อเขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากลับพบว่าเป็นสายจากครูประจำชั้นของลูกชาย
“สวัสดีคุณหวัง…ฮะ อะไรนะ? ให้ผมพาลูกชายกลับไปโรงเรียน?”
“คุณล้อเล่นหรือเปล่า เสี่ยวหูเป็นหวัด มีไข้ ปอดติดเชื้อ และตอนนี้อยู่โรงพยาบาล…”
“อะไรนะ? โรงเรียนของคุณจ้างหมอจีนมาต้มยาจีนให้เด็ก? หมอจีนคนไหนมาต้มยา?”
“ต้มยาให้แม้แต่พ่อแม่ของนักเรียนด้วย? ทำไม… ฮะ อะไรนะ? หมอโจว? หมอโจวไหน?”
“โจวอี้? หมอโจวอี้ของโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจินหลิง?”
“ได้เลย ได้เลย! ผมจะทำเรื่องให้ลูกชายของผมออกจากโรงพยาบาลภายในพรุ่งนี้เช้า และผมจะพาลูกชายไปที่นั่น!”
“ขอบคุณคุณหวัง โรงเรียนของคุณดีจริง ๆ ผมจะชื่นชมบุคลากรในโรงเรียนทุกคนให้หวงไห่เทาฟังนะครับ”
“อืม ๆ ลาก่อน”
เฉียนต้าจ้าววางโทรศัพท์มือถือลง และความหนักใจของเขาก็คลายลงเล็กน้อย
เขารู้จักโจวอี้ เขาเคยกินดื่มกับอีกฝ่ายที่เฮฟเว่นคลับเมื่อนานมาแล้ว นอกจากนี้ เขายังได้รู้จากหวงไห่เทาว่าโจวอี้ประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านการแพทย์แผนจีน แม้แต่อาจารย์ของโจวอี้ก็เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีนเช่นกัน
เขารู้สึกว่าโจวอี้น่าจะสามารถรักษาอาการหวัดของเขาและลูกชายได้
จินหลิง
ชุมชนสวนหยก
เมื่อเกาเซียงกลับมาบ้านด้วยอาการเมามาย ศีรษะเขาก็ถูกฟาดด้วยถาดผลไม้
เขามองไปที่ผู้ลงมือด้วยความงุนงง คนที่ฟาดเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากภรรยาหน้าดุของเขาเอง
ทันใดนั้น ไฟโทสะก็ปะทุขึ้นในใจ เขาตวาดด้วยความโกรธว่า “คุณบ้าไปแล้วเหรอ?! คุณฟาดหัวผมทำไมเนี่ย? คุณจำผิดคิดว่าผมเป็นโจรรึไง!”
“ไอ้สารเลว! ลูกชายเป็นไข้หนัก แต่คุณกลับมีอารมณ์ออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกอีกเหรอ โกรธที่ฉันตีคุณเหรอ ฉันคิดว่ามันเบาไปด้วยซ้ำ ฉันยังอยากจะฆ่าคุณทิ้งเลยด้วยซ้ำ!” ฉินซวงชี้หน้าด่าเกาเซียง
“ฆ่าผมเหรอ? ผมสิจะฆ่าคุณ!” เกาเซียงทำท่าว่าจะลงมือ แต่เพราะความเมาเขาจึงเซไปข้างหน้าสองสามก้าวจนเข่าของเขาชนโต๊ะกาแฟ เขากัดฟันด้วยความเจ็บปวด และรีบนั่งลงบนโซฟาเพื่อกุมเข่าตัวเอง
“คุณไม่สนใจลูกชายของคุณเลยเหรอ?”
“ผมเหนื่อยกับการหาเงินทุกวัน ผมจะมีเวลาสนใจเขาได้ยังไง คุณที่ไม่มีงานอะไรทำก็ควรมีหน้าที่ต้องดูแลเขาแทนผม ไม่งั้นคุณจะมีประโยชน์อะไร!” เกาเซียงตะโกนด้วยความโกรธ
“ก็ได้ ในเมื่อคุณบอกว่าฉันไม่มีประโยชน์ งั้นเราก็มาหย่ากันเถอะ!”
“ได้! อยากหย่าใช่ไหม ได้เลย! เดี๋ยวเราไปหย่ากัน พอถึงเวลาถ้าใครไม่ยอมหย่า คนนั้นเป็นหมาตกลงไหม!”
“ฉันหย่าแน่ หย่าแน่นอน!”
ฉินซวงกลับไปที่ห้องด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
แต่แล้วไม่กี่นาทีต่อมา เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากทางโรงเรียน เธอระงับความโกรธของเธอเพื่อพูดกับครูสองสามคำหลังจากรับโทรศัพท์ และตัดสินใจพาลูกชายไปโรงเรียนในวันพรุ่งนี้
เพราะเธอไม่สามารถพึ่งพาอะไรสามีได้
หลานซิน หยาหยวน คอนโด
เหลียนซินเฟิงและอวี่เหวินฮุ่ยยืนอยู่ชั้นล่างของตึก พวกเขามองไปที่คู่แม่ลูกหูหลานจากระยะไกลและรีบเดินปรี่ไปพบ
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปใกล้ หูหลานกลับดึงลูกสาวของเธอก้าวถอยหลังไปสองก้าวด้วยสายตาระแวดระวัง
การกระทำของสองแม่ลูกทำให้สีหน้าของเหลียนซินเฟิงและอวี่เหวินฮุ่ยเปลี่ยนไปทันที
“คุณแม่เถาเทา ฉันเพิ่งเห็นสิ่งที่ผู้ปกครองในชั้นเรียนพูดกัน มันเป็นความจริงงั้นเหรอ? โจวอี้เก่งขนาดนั้นเลยเหรอ?” อวี่เหวินฮุ่ยดูไม่เชื่อแต่ก็ยังถาม
“หมอโจวเก่งมาก เถาเทาดื่มยาจีนต้มไปสองครั้งแล้ว ตอนนี้อาการหวัดของเธอเกือบหายแล้ว” หูหลานกล่าว
“จริงเหรอ?”
เหลียนซินเฟิงและอวี่เหวินฮุ่ยมองหน้ากันและรู้สึกเสียใจอย่างมาก
วันนี้ลูกชายของพวกเขาเป็นหวัด มีอุณหภูมิขึ้นสูงถึง 38 เกือบ 39 องศา
ถ้าเขาไม่เห็น WeChat ของชั้นเรียนที่ผู้ปกครองทั้งหลายต่างพากันชื่นชมโจวอี้ พวกเขาคงพาลูกชายไปโรงพยาบาลแล้ว
“เราขอตัวขึ้นไปที่ห้องก่อน เถาเทาหิวแล้ว ฉันต้องทำอาหารให้เธอ” หูหลานไม่ต้องการคุยกับทั้งคู่อีก ดังนั้นเธอจึงหาข้ออ้างที่จะกลับไปที่ห้อง
“ได้เลย ว่าแต่คืนนี้ไปกินข้าวเย็นที่ห้องฉันได้ไหม?” อวี่เหวินฮุ่ยถามอย่างเร่งรีบ
“อย่าดีกว่า เถาเทาเกือบหายจากหวัดแล้ว ฉันเกรงว่า…” หูหลานยังพูดไม่จบ แต่ความหมายนั้นชัดเจนมาก
เหลียนซินเฟิงและอวี่เหวินฮุ่ยแสดงสีหน้าลำบากใจ
ทั้งคู่คุยกันในตอนเช้าและตัดสินใจที่จะไม่ให้ลูกชายติดต่อกับเถาเทาในช่วงนี้ แต่ใครจะคิดว่าเพียงไม่ถึงครึ่งวัน อาการหวัดของเถาเทาก็เกือบจะหายดี แต่อาการหวัดของลูกชายพวกเขากลับแย่ลงเรื่อย ๆ
การพลิกผันนี้น่าขายหน้าเกินไป
“คุณแม่เถาเทา พรุ่งนี้ถ้าเราจะพาลูกไปโรงเรียน มันโอเคไหม?” เหลียนซินเฟิงกระแอมไอสองสามครั้งแล้วถามด้วยรอยยิ้มแห้ง
“น่าจะโอเค เพราะนักเรียนในชั้นเรียนของเถาเทากินยาจีนไปแล้วสองครั้ง ซึ่งอาการก็ดีขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด ถ้าพรุ่งนี้พวกเขากินยานี้อีกครั้ง พวกเขาน่าจะหายจากอาการหวัด…” หูหลาน พูดและหยุดลง
เหลียนซินเฟิงกล่าวว่า “ไม่เป็นไร ตราบใดที่มันน่าจะได้ผล เราจะลอง”
“เสี่ยวอวี่เป็นหวัดรุนแรง ตอนนี้โรงเรียนได้แจ้งว่านักเรียน ครู รวมถึงผู้ปกครองของนักเรียนทุกคน น่าจะไปโรงเรียนในวันพรุ่งนี้เพื่อรับประทานยาจีนที่มีสรรพคุณทั้งป้องกันและรักษาได้ดี คุณควรจะพาลูกชายไปนะ” หูหลานกล่าว
“หมอโจวเป็นคนดีจริง ๆ” เหลียนซินเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เพิ่งมาชมหมอโจวเอาตอนนี้เนี่ยนะ?
เมื่อเช้านี้คุณยังไม่ไว้ใจอยู่เลย!
หูหลานรู้สึกดูถูกทั้งคู่ แต่เธอไม่ได้แสดงออก